เป็นตำนานมีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันความคลั่งตลอดเวลา สำหรับ Diego Maradona ศูนย์หน้าคลาสสิคขึ้นหิ้งชุดแชมป์โลกปี 1986 ทีมชาติ Argentina แม้จะแขวนสตั๊ดไว้หลังบ้านนานหลายปีหลังตระเวณผ่านสโมสรระดับโลกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Boca Juniors, Barcelona หรือ Napoli แต่เราก็ได้เห็นข่าวคราวดีบ้าง ร้ายบ้างมาโดยตลอด ทั้งเรื่องหนีภาษี เรื่องสุขภาพ มาโผล่อีกทีใน Box นั่งเชียร์ Argentina ใน World Cup 2018 แม้จะมีเตะเพียงไม่กี่นัด แต่ดูเหมือนโฉมหน้าและท่าทางกวน ๆ ของ Maradona จะปรากฏในข่าวทั่วทั้งโลกไม่แพ้ตัวนักเตะอย่าง Messi หรือ Ronaldo เลยด้วยซ้ำ นอกจากการนั่งสูบซิการ์ตรงป้ายห้ามสูบ หรือการชูดับเบิ้ลนิ้วกลางใส่นักเตะทีมตรงข้ามด้วยความมันส์ อีกสิ่งนึงที่หลายคนสังเกตเห็นคือ Maradona ใส่นาฬิการุ่นเดียวกันบน 2 ข้อมือพร้อมกัน ซึ่งใครเป็นแฟนบอลหรือติดตาม Maradona อยู่แล้ว อาจจะเห็นอาการนี้มานานตั้งแต่ปี 2004 แล้ว แต่อาจจะไม่รู้ว่า “ทำไม?” นี่คือสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร หรือนี่คือการอวยรวยตามประสา Superstar ระดับโลกที่ชอบทำอะไรพิลึก ๆ
เป็นความบังเอิญที่สวยงาม เมื่อป้าย GT-R และสำนักออกแบบ Italdesign มีอายุครบ 50 ปี พร้อมกันพอดิบพอดี เพื่อเป็นการสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน ทั้งสองบริษัทจึงคิดว่าน่าจะสร้างผลงาน Masterpiece ขึ้นมาสักชิ้นนึง และรถโมเดลที่เหมาะจะนำมาปั้นเฉลิมฉลองครั้งนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก NISMO GT-R กลายเป็นผลงาน Collaboration ที่โหดสุดในชื่อรหัส Nissan GT-R50 by Italdesign Nissan GT-R50 by Italdesign ถูกสร้างขึ้นมาแบบ One-off เพียงคันเดียวในโลก Italdesign ได้ทำการออกแบบ GT-R ขึ้นมาใหม่ โดยใช้พื้นฐานจากความเป็น Iconic ของ GT-R ดั้งเดิมเอาไว้จะเหมาะสมกว่า รถคันนี้ถูกนำเสนอในโทนสีเทาใหม่ “Liquid Kinetic Gray” ที่ดูดุดันน่าเกรงขาม ตัดลวดลายด้วยโทนสีทอง “Energetic Sigma Gold” สร้างคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจ นำเสนออารมณ์ได้ทั้งความเก๋า ความดุ และความหรูหราที่ลงตัว ลวดลายสีทองถูกเติมเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะเจาะมาก เริ่มจากกระจังด้านหน้าบริเวณช่องดักอากาศ ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงมีการเจาะรูที่ชัดเจนขึ้นในโทนสีทองเช่นกัน
เราเชื่อว่าโดยพื้นฐานของมนุษย์ ในวันเริ่มแรก ทุกคนน่าจะมีศักยภาพเท่ากัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันไปก็คือประสบการณ์ ความรู้ ต่างคนต่างมีลักษณะนิสัยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว คนที่รู้เยอะ จินตนาการเยอะ ก็อาจจะได้เปรียบคนที่ไม่ค่อยได้เสพความรู้รอบตัวมากนัก บางคนได้ท่องโลกบ่อย เข้าถึงความรู้ได้มากกว่า ก็ได้เปรียบไป แต่ในยุคของโลก INTERNET ทำให้ข้อจำกัดตรงนั้นถูกทำลายไป ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้เท่ากัน อยู่ที่แต่ละคนจะใช้มันเสพความรู้เรื่องอะไร แต่เคล็ดลับที่ BILL GATES และ ELON MUSK บอกไว้เสมอ ก็คือแหล่งความรู้ของพวกเค้านั้นมาจาก ‘การอ่าน’ แต่การอ่านเองก็มีทั้งอ่านแล้วได้ประโยชน์ กับอ่านแล้วได้บันเทิง เวลาเราเห็นสถิติที่บอกว่า คนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด อาจจะคิดว่าไม่จริง เราก็อ่านอยู่ตลอดเวลา อ่านทั้งวัน อ่านทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องดราม่าและข่าวบันเทิง ความต่างจากการอ่านที่ GATES และ MUSK บอกก็คือ เราจะได้ประโยชน์จากมัน ต่อเมื่อมันเป็นบทความหรือหนังสือที่มีประโยชน์ มีสาระ ช่วยพัฒนาความรู้และจินตนาการทางใดทางหนึ่ง BILL GATES บอกว่า “การอ่านเนื้อหาที่มีประโยชน์ สอนให้เราได้ความรู้ที่เราไม่รู้ มุมมองที่เราคิดไม่ถึง เหมือนเป็นการให้อาหารสมองตลาดเวลา จะบอกว่าการอ่านทำให้ผมประสบความสำเร็จ ก็ไม่ผิดเลย”
ในชีวิตผู้ชาย มีไม่กี่โอกาสที่ทำให้เรามีความสุขที่สุด เช่น เรียนจบ ได้งาน มีลูก และที่สำคัญคือ โอกาสตอนกำลังเลือกรถคู่ใจคันใหม่ ช่วงนั้นเราจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เลือดสูบฉีดตลอดเวลาที่ได้หาข้อมูล เปรียบเทียบสเปคกับรถยนต์ราคาใกล้เคียงกัน แต่ละวันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ในโอกาสแห่งความสุข ก็มักจะแฝงไว้ด้วยความน่าปวดหัวเมื่อใกล้เวลาต้องตัดสินใจว่าเอาคันไหนดี เราต้องเจอห้วงเวลาที่หนักใจว่า คันนั้นก็ดี คันนี้ก็เหมาะ ปัญหาโลกแตกคือ เรามักจะอยากได้รถที่ให้อารมณ์สปอร์ต เท่ หรูหรา สง่างาม เพื่อความภูมิใจทุกครั้งที่ได้เห็นรถตัวเองจอดอยู่ เรียกว่าแค่เห็นรถตัวเองจากเงาสะท้อนกระจก ที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็ถึงกับหายได้เป็นปลิดทิ้ง ในขณะเดียวกัน เราก็อยากได้รถที่มีระบบความปลอดภัยสูง เพราะชีวิตของทุกคนในรถของเราล้วนมีค่า เพราะเราคงไม่อยากเสียเวลาไปกับอุบัติเหตุกวนใจในการจราจรร้อนแรงของเมืองหลวงแน่นอน และสุดท้าย เรามักจะมีต่อมกังวล ว่ารถที่ซื้อมาทั้งที มันมีพื้นที่ให้ใช้งานได้เพียงพอในทุกสถานการณ์หรือไม่ ถ้าต้องรับคุณพ่อ คุณแม่ และแฟนสาวไปทานข้าวพร้อมกัน จะนั่งกันพอมั้ย ถ้าต้องขนของไปด้วยอีกล่ะ จะทำยังไง ถ้าให้กำหนดงบประมาณสำหรับรถคันใหม่อยู่ราว ๆ 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่คนทำงานผ่อนได้สบายไม่เหนื่อย แต่ขอให้ตอบโจทย์ทุกข้อที่ว่ามา ทั้งมีความสปอร์ตสุดเท่ หรูหรา ระบบความปลอดภัยสูง และมีความเอนกประสงค์พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ เรียกว่าจ่ายเงินแล้วจบได้ในคันเดียว เราทำการบ้านคัดสรรมาให้เรียบร้อยแล้ว และคันแรกที่เราจะแนะนำซึ่งชนะผ่านเข้ารอบ Requirement ของเราครั้งนี้คือ New
อัลตร้าบูสท์ พาร์ลี่ย์ สี Deep Ocean Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากมาเรียน่า เทรนช์ (The Mariana Trench) พื้นที่ใต้ทะเลที่ลึกที่สุดในโลกและยังเป็นที่ๆ ถูกค้นพบขยะที่เป็นถุงพลาสติกที่ลึกที่สุดในโลกอีกด้วย รองเท้าอัลตร้าบูสท์ พาร์ลี่ย์ทุกคู่ ใช้ขวดพลาสติกจากท้องทะเลจำนวนประมาณ 11 ขวดเป็นวัสดุในการผลิตรองเท้า โดยใช้นวัตกรรม Parley Ocean Plastic® นวัตกรรมอีโคที่ปฏิวัติวงการการผลิตรองเท้าซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากขยะพลาสติกที่เก็บมาจากชายหาด และนำมาแปลงเป็นเส้นใยเพื่อถักทอเป็นไพร์มนิตส่วนบนของรองเท้า และยังมีนวัตกรรม “บูสท์” (BOOST) สุดยอดเทคโนโลยีรองเท้าวิ่งของอาดิดาสที่ช่วยฟื้นคืนพลังให้แก่ผู้ใส่ พื้นรองเท้ายางคอนติเนนทัลยึดเกาะในทุกสภาวะพื้นผิว นอกจากนี้ยังมีชิพ NFC ในรองเท้าข้างขวาเพื่อให้ผู้ใส่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการลดปริมาณพลาสติกในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา อาดิดาสสนับสนุนองค์กรพาร์ลี่ย์ทั้งในด้านการศึกษาและการสื่อสาร โดยมีการคิดค้นนวัตกรรม อีโค Parley Ocean Plastic® ที่ช่วยรณรงค์ลดมลพิษจากขยะพลาสติกในท้องทะเล มาในปีนี้อาดิดาสเดินหน้าสนับสนุนองค์กรพาร์ลี่ย์อย่างต่อเนื่องโดยจัดแคมเปญ Run for The Oceans โดยนักวิ่งทั่วโลกสามารถวิ่งเก็บสะสมกิโลเมตรโดยใช้แอพลิเคชั่น Runtastic ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน – 8 กรกฎาคม
หากคุณเป็นสาวกเพลงแนวฮิปฮอปตัวจริงคุณคงคุ้นเคยกับแร็ปเปอร์ชื่อดัง “วิซ คาลิฟา” (Wiz Khalifa) เป็นอย่างดี เพราะเขาคือเจ้าพ่อเพลงแร็ป ที่แซบที่สุดคนหนึ่งของโลก ด้วยพรสวรรค์บวกกับฝีไม้ลายมือในการสร้างสรรค์เพลงอัน จัดจ้าน ทำให้ผลงานเพลงของเค้าได้รับความนิยมจากสาวกเพลงแนวฮิปฮอปเรื่อยมา ผลงานที่ทำให้คนรู้จัก วิซ คาลิฟา อย่างกว้างขวางคือเพลง “See you again” เพลงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง Paul Walker (พอล วอล์คเกอร์) นักแสดงชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Fast and The Furious 7 (เดอะ ฟาสต์ แอนด์ เดอะ ฟิวเรียส 7) ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งเพลงนี้ถูกพูดถึงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยได้ Charlie Puth (ชาลี พุท) มาร่วมร้องเพลงนี้ด้วย นอกจากความคิดและแรงบันดาลใจต่างๆ ที่ดูจัดจ้านจะถูกปล่อยของมาทางผลงานเพลงแล้ว ความแหวกแนวของเค้ายังสะท้อนผ่านการแต่งตัวสุดจี๊ดระดับแฟชั่นนิสต้าตัวจริงอีกด้วย และไลฟ์สไตล์สุดขั้ว ที่คุณคาดไม่ถึง รู้อย่างนี้แล้วเราจะไม่มาทำความรู้จักกับเขาหน่อยเหรอ มีเริ่มด้วยน้ำจิ้มเบาๆ กับ 6 เรื่องมันส์ๆ ที่ยืนยันดีเอ็นเอของ
ในชีวิตเราย่อมต้องเจอกับวันหนัก ๆ ที่ทำให้เราคิดว่ามันเป็นวันแย่ ๆ จะมีทั้งคนที่คิดว่าปัญหามันช่างหนักเหลือเกิน กับคนที่ไม่แม้แต่มองว่ามันเป็นปัญหาด้วยซ้ำ สิ่งที่เราต้องการก็แค่เรื่องดี ๆ แค่เล็กน้อยโผล่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นอากาศดี ๆ หันไปเจอต้นไม้สวย ๆ หรือเจอคนรู้ใจที่ทำให้เรายิ้มได้ ก็เพียงพอจะทำให้ความคิดด้านลบอันแสนหนักหน่วง ที่เคยคิดว่ามันคืออุปสรรคก้อนโตอันน่าหม่นหมอง แหลกสลายหายกลายเป็นผุยผงหายไปในชั่วพริบตา ดั่งคำโบราณบอกไว้ว่า “stopping to smell the roses” แค่เรารู้จักหยุด เพื่อชื่นชมความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัวบ้าง ก็ดีเพียงพอที่จะช่วยสร้างความสุขให้ชีวิตเราได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่าความสุขในชีวิตได้มาอย่างยากลำบาก ต้องมีรถหรูคันงานราคาหลายล้านบาท ต้องมีบ้านหลังใหญ่โตหลายไร่ ต้องประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นเจ้าของกิจการขนาดใหญ่หลายพันล้าน แต่ในปรัชญาของชาวญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางระเบียบหนาแน่นของสังคมนั้น กลับเต็มไปด้วยความสุขสบายใจในการใช้ชีวิตซึ่งผ่านการบาลานซ์มาอย่างดี ซึ่งเป็นปรัชญาที่โด่งดัง และได้รับการพิสูจน์ว่าดีจนถูกนำไปปรับใช้ทั่วโลก เรียกว่า “Ikigai (อิ-คิ-ไก)” เป็นแนวคิดที่บอกว่า เราไม่ต้องการโลกทั้งใบ เพื่อจะหาความสุขในชีวิต แต่เราแค่รู้จักชื่นชมสิ่งที่ยิ่งใหญ่จากเรื่องเล็กน้อยรอบตัว ก็ช่วยสร้างความสุขได้มากและยั่งยืนกว่านั่นเอง Ikigai ปรัชญาของคนญี่ปุ่นที่โด่งดังในย่านโอกินาว่า ย่านที่ผู้คนมีความสุขและอายุยืนกว่ามาตรฐานชาวโลก โดยความหมายของคำว่า Iki หมายถึง ชีวิต และ Kai
Leica เป็นกล้องที่ผ่านการทำ Limited Edition กับแบรนด์หรือบุคคลที่น่าสนใจมาไม่น้อย แต่สำหรับ M10 โมเดลล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เปรียบเสมือนผ้าขายที่ยังไม่เคยผ่านการ X กับใครมาก่อน จนกระทั่งโอกาสสุดพิเศษที่ Leica ได้เปิด Leitz Park โรงงานกึ่งท่องเที่ยวในเยอรมัน จึงร่วมมือกับ Dr. Andrea Zagato ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่ไม่ใช่แค่สวยงามดูดี แต่ต้องมีการใช้งานที่ดีขึ้นด้วย ได้ออกมาเป็นโปรเจค Leica M10 Edition Zagato สำหรับสาวก Leica ตัวจริง น่าจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงใน Leica M10 Edition Zagato กล้องพิเศษสุดสวยเวอร์ชั่นนี้ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนวัสดุจากหนังในโมเดลปกติ เป็น Aluminum สี Chrome เช่นเดียวกับ Top และ Bottom plate พร้อม Texture ทำหน้าที่เหมือน Grip ช่วยให้ถือใช้งานได้สะดวกขึ้นไปในตัว ซึ่งคนที่ใช้ M10 อยู่จะรู้ดีว่าของเดิมมันถือจับค่อนข้างยาก ถ้าไม่เพิ่ม
เป็นการกลับมาอีกครั้งของรหัสแรงแห่งบ้านใบพัดฟ้าขาว BMW 8-Seires หลังจากหายหน้าหายตาไปนานเกือบ 20 ปี ทิ้งไว้เพียงมาตรฐานความเป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดของ BMW มาถึงวันนี้ รหัสที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้เพื่อรถที่ดีที่สุด ได้ถูกนำกลับมาใช้งานอีกครั้งใน 2019 BMW 8-Seires ซึ่งเปิดตัวพร้อมกันอย่างยิ่งใหญ่ในการแข่งขัน 24 Hrs Le Mans ซึ่งเรารายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งรหัสตัวแรง BMW M8 GTE และ BMW M850i xDrive รุ่น Production ที่หน้าตาแทบจะไม่เปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่น Concept Car แม้ 8-Series ในวันนี้จะไม่มีไฟ Pop-up ทรงเสน่ห์แบบในอดีต แต่ BMW ก็ได้ทำการดึงเอาสัดส่วนจาก E31 ในช่วง 1989 – 1999 นำมาใส่แรงบันดาลใจในการออกแบบของ BMW ยุคปัจจุบันเข้าไป โดยเฉพาะช่วงจมูกที่ยาว หลังคาลาดลง ช่วง Clearence จากพื้นที่เตี้ยลง เสา
จะเปิดตัวรถเทพให้ยิ่งใหญ่สมฐานะ แค่ตัดริบบิ้น กระชากผ้าคลุมรถ มันก็คงจะบ้าน ๆ เกินไป เพราะนี่คือระดับ BMW 8 Series Coupe ที่ถือเป็น New Luxury Sports Car ของค่ายใบพัดฟ้าขาวทั้งที มันต้องเปิดตัวด้วยการลงแข่งรายการหฤโหดสุดมันส์ เป็นการหวนกลับคืนรายการ Le Mans 24-Hour Race อีกครั้งของ BMW ด้วยรถ BMW M8 GTE ซึ่งเป็นการการันตีความดีงามของรถรุ่นนี้ในทุกด้านได้ดีที่สุด รายการแข่งขัน Le Mans ของฝรั่งเศส เป็นรายการที่เก่าแก่ ขึ้นชื่อด้านความโหดและมันส์ เพราะทุกอย่างต้องถูกเตรียมการเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะรถที่สูง ระบบรถยนต์ที่สามารถซัดต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน รวมถึงตัวนักแข่งที่ต้องรับมือกับความกดดันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายที่สวยงาม ซึ่ง BMW ก็มั่นใจในรถเรือธงคันใหม่ของตัวเอง เป็นการดึงดูดสายตาแฟนรถยนต์และตากล้องทั่วโลกให้จับจ้องมาที่ M8 และยิ่งถ้า BMW สามารถคว้าชัยชนะในรายการ Le Mans ได้อีกด้วยล่ะก็ คงไม่มีจังหวะไหนจะหล่อมากไปกว่านี้อีกแล้วพ่อคุณ