ดีเซลเผยคอลเลคชันแคปซูลใหม่ล่าสุดที่ประกอบไปด้วยไอเทมลิมิเตดทั้งหมด 12 รุ่นตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการทำงานร่วมกันครั้งพิเศษกับ Fedez แร็พเปอร์ชาวอิตาลี โดยคอลเลคชันนี้มีทั้งแจ็คเก็ตเดนิม สเวตเชิ้ต เสื้อยืด ถุงเท้า หมวก และแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้ย่อมต้องเป็นงานเดนิมสุดพิถีพิถันชิ้นเอกลักษณ์ของดีเซล คอลเลคชัน Diesel x Fedez จะมีวางจำหน่ายทั่วโลกผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซของดีเซล และที่บูติคสำคัญของดีเซลในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก คอลเลคชันแคปซูล Diesel x Fedez ได้แรงบันดาลใจมาจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่มีจำหน่ายหลังเวทีคอนเสิร์ตวงร็อคในอดีต เรื่อยไปจนถึงการแต่งกายของนักร้องแร็พและฮิปฮอปในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงงานศิลปะสุดโดดเด่นที่ก่อรูปขึ้นด้วยแสงของหลอดฟลูออเรสเซนต์ของ Dan Flavin สเวตเตอร์และเสื้อทีเชิ้ตที่มีรายละเอียดของการฟอกและย้อมสี ดูสะดุดตาและให้ความรู้สึกที่เบาสบายน่าสวมใส่ ด้วยเอกลักษณ์แบบวินเทจของการที่สีดำค่อย ๆ ซีดจางลงจนกลายเป็นสีเทา โดยมีการใช้โลโก้ในรูปแบบของการวางโลโก้ของสปอนเซอร์ในอีเวนต์ต่าง ๆ บนเสื้อผ้า แจ็คเก็ตเดนิมมีรายละเอียดของงานกราฟิติมือด้วยสีนีออน ส่วนกางเกงยีนส์มีการใช้เทคนิคการฟอกและการทำให้รุ่ยตลอดช่วงขา เผยให้เห็นรายละเอียดของการใช้สีนีออนและงานผ้าปะติดไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เสื้อผ้าที่เหมาะกับนักร้องนักดนตรีรุ่นใหม่ในปี 2019 ที่ออกทัวร์ไปพร้อมกับคิดคำนึงถึงเหล่าศิลปินในอดีตที่ส่งอิทธิพลต่อตัวตนของพวกเขาภายใต้บริบทร่วมสมัยของยุคปัจจุบัน ด้วยแรงบันดาลใจจากสไตล์การแต่งตัวและเพลงของ Fedez เสื้อผ้าในคอลเลคชันนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะสวมใส่ไปสนุกกับคอนเสิร์ตดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปชมคอนเสิร์ตกลางสเตเดียมสุดยิ่งใหญ่ในช่วงค่ำ หรือจะย่ำเท้าไปในเทศกาลดนตรีกลางแจ้งตลอดช่วงกลางวัน เพราะรายละเอียดของการย้อมสีผ้าของเสื้อผ้าในคอลเลคชันนี้สามารถทำให้คุณดูโดดเด่นได้เสมอเมื่ออยู่ในอีเวนต์เหล่านี้ มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่
ถึงเวลาซื้อรถทีไร ต้องมีหลายเสียงรอบตัวคอยทักท้วงว่าจะซื้อแพง ๆ ไปทำไม เพราะเมื่อเวลาผ่านไปรถ รถยนต์ที่เคยซื้อไว้จะยิ่งมีแต่ลดราคา ลดมูลค่าลงเรื่อย ๆ จนเกือบไม่เหลืออะไรนอกจากกุญแจและรายจ่าย แต่ถ้าถามกูรูนักสะสมรถตัวจริง คำตอบที่ได้จะแตกต่างอย่างแน่นอน เพราะการซื้อรถบางรุ่นที่คาดการณ์ว่าจะเป็นที่ต้องการในอนาคตนั้น นอกจากราคาจะไม่ลดลงแล้ว กลับยิ่งเพิ่มมูลค่ากลายเป็นกำไรได้ไม่ยาก ซึ่งทุกวันนี้นักสะสมเก็งกำไรจากรถหายากเริ่มมีจำนวนมากขึ้น และการลงทุนในรถหายากเองก็ได้รับการยอมรับว่าทำกำไรได้ดีไม่แพ้การลงทุนประเภทอื่น แม้จะต้องใช้เงินต้นที่สูงมากหน่อย และความรู้ด้านประวัติของรถยนต์แต่ละรุ่นอีกนิด ก่อนงาน Geneva Motor Show ที่ผ่านมา บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน JBR Capital ได้ทำการเปรียบเทียบมูลค่ารถยนต์หลายรุ่นที่เปิดตัวในงาน Geneva Motor Show จากหลากหลายปีที่ผ่านมา และราคาปัจจุบันแพงขึ้นมามูลค่าวันที่ซื้อไป โดยมีทั้งรุ่นที่สองสามปีก็เห็นผลแล้ว หรือบางคันอาจจะใช้เวลามากหน่อย แต่ก็บวกไปเกิน 100% อยู่หลายรุ่นเหมือนกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ผลิตจำนวนน้อย ใช้เวลารอคิวนาน มีเงื่อนไขในการซื้อที่ยุ่งยาก หรือถูกจองหมดไปแล้วตั้งแต่เปิดตัว 10. PORSCHE 911 GT3 (991) Geneva debut: 2013 Price at launch: £110,000 Value now: £110,000
การจักจี้นำมาซึ่งเสียงหัวเราะ การหยอกล้อ และความเฮฮา คือสิ่งที่หลายคนเชื่อว่าเป็นหน้าที่เพียงอย่างเดียวของการจักจี้ แต่ใครเคยโดนการจักจี้แบบเกินขีดจำกัด คงพอจะนึกภาพออกว่าภายใต้เสียงหัวเราะที่เปล่งออกมา มันคือความเจ็บปวดทรมานปริ่มจะขาดใจ ซึ่งในอดีตมีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการลงโทษทรมานด้วยการจักจี้อยู่ไม่น้อย ดังนั้นมันเป็นเรื่องซีเรียสที่หลายคนมองข้าม และนั่นทำให้มันเป็นประเด็นที่น่าสนใจ “ใครจะไปตายเพราะโดนจักจี้วะ?” ภาพหนุ่มสาวกำลังหยอกล้อจักจี้เอวกัน มันช่างเป็นภาพที่น่ารักและอยู่ห่างไกลจากคำว่า “ทรมาน” แต่ถ้าลองคิดให้ดี เราจะเห็นถึงมุมที่โคตรอันตรายจากการจักจี้ เพราะผู้ที่โดนกระทำจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถสื่อสารหรือตอบโต้ได้ แค่จะส่งเสียงบอกว่า “พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว” ยังทำไม่ได้ ดังนั้นในกรณีที่ผู้ถูกกระทำโดนจองจำทั้งมือและเท้าเหมือนในการลงโทษสมัยก่อน ความเจ็บปวดทรมานจากการจักจี้จึงอยู่เหนือจินตนาการที่เราจะสามารถรู้สึกได้ ในอดีต การจักจี้ ถือเป็นหนึ่งในวิธีการทรมานที่เจ้าหน้าที่ใช้เพื่อสอบถามข้อมูลหรือคำสารภาพจากผู้ต้องหา เพราะทำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือสถานที่อะไรเลย เมื่อจักจี้ในระดับที่รุนแรงเกินปกติ ร่างกายจะเริ้มสำลัก ขาดอากาศหายใจ เกิดความรู้สึกทรมาน เครียด มีผลกระทบกับสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก และข้อดีคือแม้จะรุนแรงจนหัวใจวายตาย ก็ไม่มีร่องรอยหรือหลักฐานใด ๆ เหลือทิ้งไว้บนตัวเหยื่อเหมือนกับวิธีทรมานแบบอื่น ๆ Irene Thompson นักวิจัยผู้เขียนหนังสือ “A to Z of Punishment and Torture” พูดถึงการทรมารด้วยการจักจี้ที่มีหลักฐานอยู่บ้างคือ “Chinese tickling torture,” ถูกใช้ในการลงโทษนักโทษในช่วงราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty, 206-220
แม้ดาบปลายปืน (Bayonet) จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นของเก่าล้าสมัยสำหรับสงครามในยุคโบราณ ที่ใช้วิ่งเข้าโจมตีระยะใกล้หรือเมื่อกระสุนปืนหมด แต่ที่จริงในปัจจุบันก็มีการใช้กันอยู่บ้างโดยเฉพาะนักแต่งปืนที่มักจะนำ Rifle ไปเติมทุกอย่างให้ดุเดือดสะใจ แน่นอนว่าเราคงไม่หยิบดาบปลายปืนธรรมดามาแนะนำอยู่แล้ว เพราะสำหรับดาบปลายปืนจาก G.R.A.D. (Global Research And Development) ชิ้นนี้ มันไม่ใช่แค่อาวุธสำหรับแทงที่ติดบน Rifle ธรรมดา แต่ข้างในยังถูกสร้างเป็นปืนลูกโม่บรรจุกระสุนขนาเ .22 LR (Long Rifle) ได้อีก 6 นัด ใช้ยิงเป็นก๊อกสองได้สบาย ๆ โดยที่ฝ่ายศัตรูคาดไม่ถึง G.R.A.D. MB16F bayonet-revolver คือของสะสมหายากที่ผลิตใน Las Vegas ย้อนไปยุคปี 2000 ซึ่งปัจจุบันได้หยุดการผลิตไปแล้ว แต่มันยังคงน่าสนใจอยู่มาก ดูภายนอกมันก็เหมือนดาบปลายปืนทั่วไป แต่ชื่อก็บอกตรงตัวว่ามันคือดาบปลายปืนที่สามารถเป็นปืนลูกโม่ได้ในตัว สำหรับติดตั้งบนปืน M16/AR15 ขนาดมาตรฐานได้ แม้ในความเป็นจริงแล้วศัตรูอาจจะกลับบ้านเก่าไปตั้งแต่ก่อนกระสุน M16/AR15 จะหมด (Standard magazine capacity อยู่ที่ 30 นัด) แต่ในกรณีที่เกิดยิงปะทะจนหมดขึ้นมาจริง ๆ หรือบังเอิญเดินไปเจอกันในระยะไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป การเลือกใช้ bayonet-revolver
เพราะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตถือเป็นสิ่งที่พวกเราชาวมิลเลนเนียลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกิน ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นสิ่งสะท้อนอัตลักษณ์และสามารถบอกเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี “เกษรวิลเลจ” นอกจากจะเป็นห้างหรูที่มีไลฟ์สไตล์ดี ๆ รวมไว้มากที่สุดในย่านราชประสงค์แล้ว วันนี้ยังชูจุดเด่นในอีกไลฟ์สไตล์สำคัญ กับการเป็นผู้นำด้านฟู้ดคิวเรเตอร์ชั้นนำที่ใส่ใจทั้งด้านคุณภาพและบริบททางวัฒนธรรมของอาหาร ได้จัดแคมเปญ #EatAtGaysorn (อีทแอทเกษร) โดยจับมือกับ 23 ร้านดัง นำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิด อาทิ BOYY & SON CAFE (บอย แอนด์ ซัน คาเฟ่), GINZA TENHARU (กินซ่า เทนฮารุ), NONAME STEAK SEAFOOD TAPAS (โนเนม สเต็ก ซีฟู้ด ทาปาส), WELLNESS BAR@PANPURI WELLNESS (เวลเนส บาร์ แอท ปัญญ์ปุริ เวลเนส), KOI THE (โคอิเตะ) BOYY & SON CAFE คาเฟ่เอาใจสายแฟชั่น ที่เน้นการตกแต่งร้านด้วยกำแพงสีฟ้าน้ำทะเล ตู้ปลาทรงกลมฝังอยู่ในผนัง
เป็นข่าวใหญ่สะท้านวงการ MMA ทันที เมื่อนักสู้ที่มีสีสันที่สุดในวงการอย่าง Conor McGregor ได้ประกาศวางมือถอนตัวจากการต่อสู้ Mixed Martial Art ผ่าน twitter ของเค้า ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจใครหลายคน ทั้งเส้นทางอาชีพที่กำลังอยู่ในจุดสูงสุด ชกแต่ละครั้งสามารถหาเงินค่าตัวได้อย่างมหาศาล แต่ดูเหมือนว่า McGregor จะหันไปลุยธุรกิจ whiskey ยี่ห้อ “Proper No. Twelve” ใหม่ที่เค้าทำอย่างเต็มตัวมากขึ้น Conor McGregor ประกาศแขวนหมัดหลังออกรายการ The Tonight Show Starring Jimmy Fallon ซึ่งตัวเค้าให้สัมภาษณ์ไว้ส่วนนึงว่า “ชีวิตตอนนี้ถือว่าสบายแล้ว ครอบครัวก็สบายแล้ว” ซึ่งดูจากค่าตัวขึ้นชกแต่ละนัดก็ถือว่าไม่ได้พูดเกินจริงแน่นอน เอาเฉพาะที่ได้จากการลงแข่งในศึก UFC ก็รับไปรวม ๆ มากกว่า $115 ล้านเหรียญ และศึกเขย่าโลกที่ข้ามเวทีไปชกกับ Floyd Mayweather ในปี 2017 ก็รับไปเหนาะ ๆ อีก $100 ล้านเหรียญ
เริ่มงาน Baselworld 2019 อย่างร้อนระอุกันไปแล้ว ท่ามกลางข่าวลืมไม่ค่อยดีเกี่ยวกับนาฬิกาแบรนด์หรูที่ว่าไปได้ไม่ดี แต่ในความเป็นจริงดูเหมือนตลาดจะยังคึกคัก ไม่มีท่าทีจะซึมเศร้ายาวนานเหมือนที่หลายคนหวาดกลัว เอาแค่ Rolex แบรนด์เดียวก็มีการเปิดตัวนาฬิกาในงานนี้มากมายหลายรุ่น แต่บางรุ่นอย่างเช่นตระกูล Oyster Perpetual Datejust 36 หรือ Day-Date 36 ที่อาจจะไม่โดนใจเรามากนัก เราจึงขอเลือกนำเสนอ Rolex 3 รุ่นที่ทั้งโดนใจ เท่ และน่าสะสมกันดีกว่า Rolex Monochromatic Yacht-Master 42 เริ่มจากเรือนแรก ขอยกให้เป็นเรือนที่เราชอบมากที่สุดใน 3 เรือน นั่นคือ Monochromatic Yacht-Master 42 ที่มาในขนาดใหญ่เหมาะกับข้อมือผู้ชาย ใครมี Submariner หรือ GMT แล้วอยากได้เรือนที่ใหญ่กว่าน่าจะถูกใจ ตัวเรือน White Gold ขนาด 42mm จากเดิมที่หลายคนคุ้นกับขนาด 40mm ขับเคลื่อนด้วยกลไกรุ่นใหม่ Calibre 3235 สำรองพลังงานได้ถึง 70 ชั่วโมง ต้านสนามแม่เหล็กและมีความแม่นยำมากกว่าแฮร์สปริงแบบดั้งเดิมถึง
เปิดตัวไปแล้วเรียบร้อยหลังปล่อย teaser ออกมาให้แฟนคลับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Telsa ซึ่งดีไซน์หน้าตาคงไม่ใช่อะไรที่หลายคนประหลาดใจมากนัก เพราะน่าจะเดาทางได้ตั้งแต่แรกแล้ว กับการเอา Model 3 มาขยายให้ดูดีพร้อมพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นแบบ SUV ซึ่งเป็นทรงรถทำเงินที่ตลาดอเมริกาให้ความนิยมแซงหน้ารถ Sedan มาแล้วหลายปี เปิดตัวแบบลับ ๆ ณ โรงงานออกแบบของ Tesla ในเมือง Hawthorne, California ต่อหน้าเจ้าของรถและพนักงานของ Tesla ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เห็นหน้าตาและทราบข้อมูลของ Tesla Model Y ซึ่งเป็นรถ Electric Compact Crossover ขนาดเล็ก แต่รองรับผู้โดยสารได้ 5 ถึง 7 คน ขึ้นอยู่กับรุ่นและรูปแบบการตกแต่งซึ่งสามารถเติมเบาะแถวหลังสุดได้ แต่ต้องแลกกับพื้นที่สัมภาระที่หายไปบางส่วน ภายนอกทั้งรูปทรงและลายเส้นด้านหน้าดูคล้ายกับ Model 3 ผสมกับรูปทรงด้านท้ายของ Model X กระจังหน้าแบบ Grille-less ดูสมกับเป็นรถพลังงานไฟฟ้า แม้จะไม่มีประตู Falcon-wing อันสุดเท่แบบใน Model X เพื่อลดต้นทุน แต่จะได้หลังคา
หนึ่งในนาฬิกาที่นักสะสมต้องมีติดข้อมือไว้แน่นอนหนึ่งเรือนก็คือ Omega Seamaster ด้วยประวัติศาสตร์ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1993 นอกจากความเที่ยงตรงและความสามารถในการดำน้ำ ผู้ชายทุกคนยังรู้จัก Omega Seamaster ดีในฐานะนาฬิกาที่ James Bond เลือกใส่มาตั้งแต่ปี 1995 ในภาค Golden Eye วันนี้ Seamaster ได้ก้าวมาถึงการพัฒนาคอลเลคชั่นระดับไอคอนนิคครั้งใหม่อย่าง “โอเมก้า ซีมาสเตอร์ ไดเวอร์ 300M” (OMEGA Seamaster Diver 300M) เรือนเวลาเลื่องชื่อที่ครองใจเหล่านักสำรวจโลกใต้น้ำตลอดกาลครั้งล่าสุดของ OMEGA นั้น ได้หยิบนำเอาวัสดุและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่หลากหลายมาผสานรวมไว้ในเรือนเวลาสำหรับปี 2019 นี้ การพัฒนาก็ยังคงก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งด้วยเรือนเวลาอันโดดเด่นรุ่นใหม่ซึ่งผลิตจากวัสดุอย่าง เซรามิกสีดำ และ ไทเทเนียม ถือเป็นส่วนผสมที่มอบทั้งความงดงามและความแข็งแกร่งไว้ในคราวเดียวกัน จึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเรือนเวลานี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ในคอลเลคชั่นซีมาสเตอร์ ไดเวอร์ 300M ขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 43.5 มม. เรือนเวลาโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยตัวเรือนเซรามิกขัดเงาสีดำกับฝาหลังที่ผลิตจากไทเทเนียมเกรด 5 ขอบตัวเรือนประกอบขึ้นจากโลหะผสมที่มีไทเทเนียมเกรด 5 เป็นหลัก และวงแหวนเซรามิกสีดำที่มาพร้อมกับสเกลดำน้ำอีนาเมลสีขาว OMEGA สลักพื้นหน้าปัดเซรามิกขัดเงาสีดำด้วยเลเซอร์เป็นลวดลายคลื่นอันโ ด่งดังของนาฬิกาในตระกูล Diver
ทุกครั้งที่เราเห็นรถยนต์คลาสสิกสุดสวยในวันนี้ ทำให้เราจินตนากรถึงภาพที่หรูหราราวกับถนนที่โรยด้วยกุหลาบในอดีต แต่ในความเป็นจริงแล้วรถยนต์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง World War II หลายคันกลับมีประวัติที่ไม่ได้สบายอย่างที่เราคิด เนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นฟูขาดความเสถียร ประชาชนต้องคิดหนักในการใช้จ่าย รวมถึงวัตถุดิบที่ทีขีดจำกัดเป็นอย่างมาก เรียกว่าจะสร้างอะไรขึ้นมาเหมือนต้องเทเงินทุนกันหมดหน้าตัก เดินหมากผิดนิดเดียวอาจะสะเทือนถึงขั้นล้มละลายได้ เช่นเดียวกับ BMW 507 สุดคลาสสิกคันงามคันนี้ ในอดีตมันคือรถยนต์ที่ทำให้ BMW ต้องสั่นสะเทือนเกือบถึงขั้นล้มละลาย แต่ในวันนี้มันคือหนึ่งใน Iconic Car ประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของ BMW พร้อมมูลค่าซื้อขายที่ไปไกลถึงราว 70 ล้านบาท BMW 507 เป็นรถ Roadster ที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 1956 – 1959 ราว 10 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ Germany แม้หลายบริษัทจะเริ่มฟื้นตัวจากร่องรอยแผลจากสงครามมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมี resource ที่จำกัดมาก ส่งผลถึงค่ายรถยนต์แบรนด์ต่าง ๆ ที่มุ่งผลิตรถยนต์เรียบง่าย ราคาไม่แพง เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น Isetta รถทรงไข่ที่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้คนหันไปเลือกใช้ Scooter ในการเดินทาง