เชื่อว่าผู้ขับขี่ชาวไทยส่วนใหญ่จะรู้จัก MG ในฐานะของแบรนด์รถยนต์น้องใหม่ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของช่วงล่างแน่นหนึบ มีออพชั่นความปลอดภัย และความสะดวกสบายจัดเต็ม ในงบประมาณที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก ซึ่งภายใต้ความคุ้มค่า คือเรื่องราวของแบรนด์ MG ที่มีมายาวนานเกินกว่าที่จะเรียกว่าแบรนด์น้องใหม่ เพราะจริง ๆ แล้ว MG นั้นก่อตั้งขึ้นมาแล้วเป็นเวลากว่า 90 ปี นับตั้งแต่ปี 1924 และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากรถยนต์ 2 ที่นั่ง รุ่น MGB Roadster ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1962 ซึ่งสิ่งที่ถือเป็นจุดแข็งของรถยนต์ MG คือการใช้เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมมาตรฐานยุโรป มีศูนย์กลางทางด้านการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน และการออกแบบด้านเทคนิคที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ จนเมื่อราว ๆ ปี 2013 ยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษอย่าง MG ก็ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล มาเปิดประสบการณ์ทางเลือกใหม่ของการขับขี่ให้กับผู้ใช้รถชาวไทย ด้วยรถยนต์หลากรุ่น รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานตั้งแต่รถเล็ก ไล่เรียงไปจนถึงสปอร์ตเอสยูวี ทั้ง MG3, MG5, MG6 และ MG GS ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีการตอบรับที่ดีไม่ใช่เล่น หากจัดอันดับรถยนต์ DNA
ท่ามกลางความทันสมัย สะดวกสบาย ของมหานครใหญ่อย่างกรุงเทพฯ พื้นที่ซึ่งมีความเจริญแทรกซึมอยู่แทบทุกตารางนิ้ว แต่เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่ามีอยู่สิ่งหนึ่งที่กำลังเลือนหายไป สวนทางกับการพัฒนาที่กำลังรุดหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ และสิ่งนั้นคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความสงบ ความเป็นส่วนตัว ที่แทบจะหาไม่ได้ในเมืองหลวงที่แสนวุ่นวายแห่งนี้ ยิ่งใครที่มีความต้องการอยากหาที่อยู่อาศัยในเมือง ที่เพียบพร้อมทั้งความสงบ ความเป็นส่วนตัว เพื่อตอบสนองการพักผ่อน เติมเต็มคำว่าที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริงในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ เรียกได้ว่านี่คือโจทย์หินที่หลายคนต้องพลิกแผ่นดินหากันจนท้อ แต่ความสงบในเมืองใหญ่แม้จะหายาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีจริง เพราะล่าสุด UNLOCKMEN ได้มีโอกาสไปสัมผัสวิถีชีวิตการอยู่อาศัยระดับพรีเมียม ในโครงการ ASHTON RESIDENCE 41 เรสสิเดนซ์สุดหรูที่เร้นตัวอยู่ใจกลางกรุงซึ่งมีความสงบร่มรื่น ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ที่เรายกให้เหนือกว่าความเป็นที่อยู่อาศัย ถือเป็น Rare Item สุดหายากที่ไม่คิดว่าจะมีพื้นที่แบบนี้อยู่ในกรุงเทพมหานคร ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทำให้ ASHTON RESIDENCE 41 เป็นเหมือนสิ่งล้ำค่าหายาก ตามคอนเซ็ปต์ “The Collectible” ของโครงการ นั่นก็คือทำเลที่ตั้งซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในสุขุมวิท 41 ซอยที่สงบร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ตลอดสองข้างทาง แถมยังเป็นซอยตันตัดปัญหาเสียงรบกวนจากรถที่วิ่งผ่าน เพราะโครงการตั้งอยู่บริเวณท้ายซอยพอดิบพอดี เรียกได้ว่าสามารถปลีกวิเวกจากความพลุกพล่านของถนนสุขุมวิท แต่ก็ไม่ได้ตัดขาดจากชีวิตเมืองด้วยทำเลทองในย่าน The EM District ที่ซอยข้าง ๆ คือห้าง The
คนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง “คอนโด” คงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการอยู่อาศัย สำหรับการต้องตื่นแต่เช้าไป ทำงาน ตกเย็นมีนัดสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนสนิท ที่ร้านเก๋ๆ ย่านทองหล่อ วันหยุดพักผ่อนพลาดไม่ได้ต้องไปเดินห้าง ช้อปปิ้ง ดูหนัง ไปฟิตเนตออกกำลังกาย ที่สยาม หากคุณก็เป็นคนรุ่นใหม่ แต่ไลฟ์สไตล์ที่พูดมาข้างต้น ไม่ตรงกับการใช้ชีวิตของคุณ แล้วคอนโด มันจะตอบโจทย์ได้อย่างนั้นเหรอ? ในเมื่อมีเวลาว่างแล้ว คุณอยากกลับบ้านไป เปิด YouTube ดู Master Chef แล้วมีไอเดีย คิดค้นสูตรอาหารของตัวเอง ชอบอออกกำลังกาย ในพื้นที่โล่งๆ สีเขียว ไม่ชอบแย่งที่จอดรถกับใคร แสนสิริ ได้พัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัย จากปัญหา และการใช้ชีวิตจริงของผู้อยู่อาศัย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว ด้วยงานดีไซน์ที่โดดเด่น แต่มีครบฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถใช้ได้จริง เพื่อให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ใช้ชีวิตแต่กับสิ่งดีๆ “Fill Your Life With Good” เพื่อให้การอยู่อาศัย ในคอนโดก็สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็น คนแบบ Party goer หรือคนที่ชอบอยู่บ้าน
หากเอ่ยชื่อของ ‘เล็ก-อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร’ เชื่อว่าหลายคนอาจต้องใช้เวลาหยุดคิดว่าเขาคือใคร แต่เมื่อเอ่ยชื่อ ‘เล็ก Greasy Café’ เราเชื่อว่าภาพของชายผมยาว รอยสักรูปปลา กีต้าร์คู่ใจ บุคลิกของพี่ชายที่อบอุ่น แต่ลึกลับ พร้อมน้ำเสียงแหบหม่น ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวความรัก รวมถึงแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตแบบตรงไปตรงมาผ่านคำร้องและภาษาดนตรีที่สวยงาม ต้องปรากฎชัดเจนขึ้นมาในทันที ด้วยเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของน้ำเสียง เนื้อหา และดนตรีที่ถ่ายทอดออกมา ทำให้ในสายตาของเรา ‘เล็ก Greasy Café’ ไม่ได้เป็นแค่นักดนตรี นักร้อง นักแต่งเพลง แต่เขายังเป็นนักเล่าเรื่อง ที่ทุกการเดินทางผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต เขามักจะเก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์จากช่วงเวลาเหล่านั้น มาร้อยเรียง และ ส่งต่อมุมมองผ่านบทเพลงที่มีเนื้อหาลุ่มลึก อาจดูเหมือนฟังยาก แต่มันช่าง ‘จริง’ เสียจนเข้าไปสัมผัสตรงกลางใจคนฟังอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งการออกเดินทางถ่ายทอดเรื่องราวบนถนนสายดนตรีของ ‘เล็ก Greasy Café’ นั้นได้ผ่านเวลามาแล้วไม่ใช่น้อย นับตั้งแต่ร่วมทำเพลงในอัลบั้มรวมพิเศษ Smallroom 001 – 002 (2001) มาจนถึงการได้มีผลงานเดี่ยวของตัวเองในนาม Greasy Café
แม้ชีวิตในเมืองจะเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิถีชีวิตในเมืองใหญ่มักถูกจํากัดไว้ด้วยความเร่งรีบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง หน้าที่การงานอันบีบคั้นซึ่งต้องแข่งขันกับเวลา บ่อยครั้งที่ Urban Men อย่างเรา ๆ ต้องจัดสรรชีวิตเผื่อให้กับภาระกิจรอบด้าน จนไม่เหลือพื้นที่สําหรับความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนตัว แค่จะหาความสุขจากการเริ่มต้นเติมพลังชีวิตในเช้าวันใหม่ ด้วยการดื่มกาแฟดี ๆ สักแก้ว ก่อนออกไปผจญความวุ่นวายในเมือง ยังดูเป็นสิ่งที่ทําได้ลําบาก เพราะคงไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงนัก หากจะต้องตื่นเช้าขึ้นอีกชั่วโมง สองชั่วโมง บากบั่นดั้นด้นเดินทางในช่วงเวลาเร่งรีบเพียงเพื่อจะแวะจิบกาแฟแก้วโปรดที่ร้านประจําระหว่างทาง ก่อนที่จะตาลีตาเหลือกไปเข้างานให้ทัน โดยที่ยังไม่ได้ละเลียดรสชาติกาแฟให้เต็มที่เสียด้วยซํ้า จะดีกว่าไหมหากเราสามารถสร้างพื้นที่ความสุข ดื่มด่ำรสชาติของกาแฟด้วยการชงกาแฟสดจากเมล็ดคั่วบดดื่มเองจากที่บ้าน ฉีกข้อจํากัดของเวลาที่เร่งรีบ ด้วยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ Nespresso Essenza Mini ผู้ช่วยสําคัญที่จะมาสร้างช่วงเวลาสุนทรีจากการดื่มกาแฟ ซึ่งผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีเพื่อตอบสนอง Lifestyle คนเมืองได้ถูกจุด ตรงใจ กับชีวิตที่ไม่เพียงแค่ถูกจํากัดอยู่ในกรอบเวลาอันเร่งรีบ เพราะในเรื่องของพื้นที่อยู่อาศัยภายในเมืองคืออีกหนึ่งข้อจํากัดที่ต้องใช้สอยแทบทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ดูจากชื่อก็รู้ได้ทันทีว่าที่พื้นที่ไม่ใช่ปัญหาของ Nespresso Essenza Mini ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็กกะทัดรัด ดีไซน์เรียบเท่ร่วมสมัย สามารถแทรกตัวอยู่ในครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทํางาน หรือมุมกาแฟเล็ก ๆ ในออฟฟิศได้อย่างกลมกลืน ดูเผิน ๆ
แม้แทบทุกคนจะเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าอย่าดูคนแค่ภายนอก แต่ใช่ว่าเราจะมีเวลา มีโอกาสในการเรียนรู้นิสัยใจคอใครต่อใครได้ทุกคน ยิ่งในกรณีที่พบเจอกันเป็นครั้งแรกยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมีการวิจัยออกมาว่า ก่อนที่จะได้พูดคุยทำความรู้จักกันดีพอ มนุษย์ก็ใช้ประสบการณ์จากบุคลิก รูปลักษณ์ภายนอก มาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบเจอกันไปแล้วเรียบร้อย โดยระยะเวลาในการประเมินก็จะแตกต่างออกไป แบบฉับไวก็เริ่มตั้งแต่แว้บแรกทันทีที่เห็นหน้า ไปจนถึงราว ๆ ครึ่งนาที แต่โดยเฉลี่ยมนุษย์จะใช้เวลาแค่ไม่เกิน 7 วินาทีเท่านั้น ในการตัดสิน ให้คะแนนความน่าไว้ใจ ความน่าพูดคุย น่าคบหา ต่อบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ที่เราอยากให้ชาว UNLOCKMEN นำช่วงเวลา 7 วินาทีอันแสนมีค่า ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะถ้ารู้กลยุทธ์การสร้างความประทับใจให้ตรงจุดตั้งแต่ 7 วินาทีแรก ก็เปรียบเสมือนเรามีกุญแจดอกสำคัญที่จะนำไปปลดล็อคกำแพงในจิตใจ เพิ่มแต้มต่อด้วยการสร้าง First Impression ให้ประทับใจผู้คนทั้งหลายที่เราต้องพบเจอกันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการพบปะลูกค้า, เจรจาธุรกิจ, สัมภาษณ์งาน, สร้างมิตรใหม่, หรือเข้าหาผู้ใหญ่ในเหตุการณ์สำคัญ ใครจะไปรู้ว่า เวลาแค่ 7 วินาที อาจจะนำพาไปสู่โอกาสอันยิ่งใหญ่ในอนาคตได้ง่ายขึ้น เคล็ดวิธีในการสร้าง First Impression นั้นทำได้ไม่ยาก Amy Cuddy ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาสังคมจากมหาวิทยาลัย Harvard
หลังจากจัดปาร์ตี้อุ่นเครื่องที่เมืองไทย วอร์มอัพความมันส์ให้คุกรุ่น จนเราแทบอดใจรอไม่ไหว ที่จะได้บินลัดฟ้าไปไกลถึงกรุงอัมสเตอดัมส์ ประเทศเนเธอแลนด์ดินแดนต้นกำเนิดไฮเนเก้น กับแคมเปญ Heineken® Live Access ซึ่งตั้งใจจะยกระดับประสบการณ์ Open Your World ฉีกทุกข้อจำกัดทางดนตรีแบบไร้พรมแดน ด้วยการไปสุดเหวี่ยงกับ Mysteryland เทศกาลดนตรีระดับโลก ตำนานที่เหล่านักปาร์ตี้ทั้งหลาย ตั้งอกตั้งใจว่าต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยศักดิ์ศรีของต้นกำเนิดแห่งเทศกาลดนตรี EDM ที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก และเมื่อถึงเวลาที่รอคอย กับโอกาสในการเปิดประสบการณ์ทางดนตรี จาก Music Festival ระดับโลก ที่ Heineken® Live Access ภูมิใจเสนอ แน่นอนว่าเราย่อมไม่พลาดที่จะเสพบรรยากาศ บันทึกเรื่องราวทุกช่วงเวลาแห่งความมันส์ ในงาน Mysteryland ที่เพิ่งจัดขึ้นไปเมื่อวันที่ 26 – 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา เอามาถ่ายทอดเป็นประสบการณ์ให้ชาว UNLOCKMEN ได้ซึมซับความสนุกไปกับเราด้วย ซึ่งในครั้งนี้เราไม่ได้ไปแบบเหงา ๆ ให้เสียคอนเซ็ปต์ความครื้นเครงของสุดยอดเทศกาลดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ระดับโลก เพราะทริปนี้ถูกเติมเต็มความสนุกด้วยผู้ร่วมทางที่หลงใหลในมิวสิคเฟสติวัล ไม่ว่าจะเป็น ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์, ติช่า-กันติชา ชุมมะ และ
ทุกวันนี้เทรนด์การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เสริมสร้างหุ่นให้ ฟิต เฟิร์มดูดี เป็นอะไรที่กำลังมาแรงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เทรนด์รักสุขภาพกำลังเป็น World Mega Trend ที่ทั่วโลกต่างหันมาสนใจ ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะหันไปทางไหนใคร ๆ ต่างก็ออกกำลังกายกันทั้งนั้น เปิดมือถือขึ้นมาเล่นก็เจอแต่ภาพเพื่อนฝูง คนรู้จัก อัพรูปตอนไปวิ่ง ไปปั่นจักรยาน เข้ายิม อวดกล้าม อวดซิกแพ็ค กันเต็มหน้านิวส์ฟีด ด้วยภาพคนออกกำลังกายที่มีให้เห็นอยู่ทุกวี่ทุกวัน รวมถึงเรื่องราวชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากออกกำลังกาย ทั้งในแง่ของสุขภาพที่แข็งแรง ร่างกายที่ดูดี หล่อ เท่ ขึ้นแบบเป็นคนละคน ที่มีให้ได้อ่านกันอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนหันมาออกกำลังกันมากขึ้น และสำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นออกกำลัง เพื่อสร้างสุขภาพให้แข็งแกร่ง รวมถึงต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง เสริมบุคลิกภาพให้ดูดี สิ่งที่สำคัญไม่แพ้โปรแกรมการออกกำลังที่เหมาะสม หรือความมุ่งมั่นในการสร้างวินัยให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอเพื่อบรรลุผลตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ คือเรื่องของอาหารการกิน ดังคำกล่าวที่ว่า “Abs Are Made In The Kitchen Not The Gym” ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของอาหารที่กินเข้าไป เพราะไม่ว่าจะเข้ายิมเล่นหนักหน่วงแค่ไหน ถ้าไม่รู้จักเลือกกินอาหารก็อย่าหวังว่ากล้ามสวย ๆ รูปร่างดี
“So you can keep me Inside the pocket of your ripped jeans…” ท่อนคุ้นหูจากเพลง Photograph หนึ่งในเพลงฮิตของพ่อหนุ่มผมแดง Ed Sheeran ที่สื่อความหมายสุดลึกซึ้งว่าภาพถ่ายคืออีกหนึ่งรูปแบบของความทรงจำ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาด ๆ เพื่อนำมาระลึกถึงกันได้เสมอ แต่นอกเหนือจากภาพถ่าย อีกสิ่งหนึ่งที่เรายอมรับว่า Ed Sheeran สามารถเก็บรักษาเอาไว้ในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เขาใช้ความสามารถหามาได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ในฐานะของศิลปินเจ้าของรางวัลแกรมมี่ เจ้าของเพลงฮิตมากมายจากสตูดิโออัลบั้มทั้ง 3 ชุด และทัวร์คอนเสิร์ตอีกเพียบ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเขาในปีที่แล้วนับเป็นเงินเหนาะ ๆ 33.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คนวงนอกอย่างพวกเราคงคิดว่า Ed Sheeran ต้องมีชีวิตที่อู้ฟู้ ใช้จ่ายเงินกระจุยกระจาย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาดสักเท่าไหร่ กับการที่ Ed เคยให้รางวัลตัวเองด้วยการใช้เงินไปกับการสร้าง Bar ส่วนตัวในบ้านราคาหลายล้านของเขา รวมถึงควักเงิน 2 ล้านเหรียญซื้อฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนจากงานเพลงด้วยวิถีชีวิตหนุ่มชาวไร่ แต่ใช่ว่าคนดังอย่าง Ed
เมื่อพูดถึงสาเหตุที่คร่าชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี หลายคนคงนึกถึงการเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงโรคมะเร็ง ซึ่งก็ไม่ผิดคาด เพราะโรคมะเร็งคือสาเหตุหลักอันดับหนึ่งในการเสียชีวิตของประชาชนคนไทย ตามมาด้วยอันดับสองคือการเสียชีวิตเนื่องด้วยอุบัติเหตุ แต่ใครจะรู้บ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยที่สูงเป็นอันดับสาม ซึ่งอันตรายไม่แพ้กัน นั่นก็คือการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยสิ่งที่น่ากังวลคือ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เมื่อหัวใจหยุดเต้น จะไม่มีเลือดเดินทางไปเลี้ยงอวัยวะใด ๆ ในร่างกาย ทำให้สมองหยุดทำงานทันที และจะหมดสติภายในเวลา 10 วินาที โดยไม่ทันได้รู้ตัว ไม่ทันได้ขอความเชื่อเหลือใคร ๆ อย่างที่เคยได้เห็นในคลิปภาพข่าว ที่แม้แต่ผู้ซึ่งออกกำลังกายดูแลสุขภาพอยู่สม่ำเสมอ วิ่งลู่ในฟิตเนสอยู่ดี ๆ ก็ยังเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ล้มตึงหมดสติจนเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา สรุปออกมาเป็นสถิติที่น่าตกใจว่า แต่ละปีมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 54,000 คน เฉลี่ยแล้วมีผู้เสียชีวิตมากถึงชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งจริง ๆ แล้ว เมื่อผู้ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเกิดอาการหมดสติ หากได้รับการทำ CPR (การช่วยฟื้นคืนชีพ หรือการปั๊มหัวใจด้วยมือ) ภายใน 4 นาที จะมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ที่ 27% และถ้าบริเวณนั้นมีเครื่อง AED (เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ) สำหรับใช้ในการทำ CPR สลับกับการใช้เครื่อง