แฟน ๆ ดาบพิฆาตอสูร ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ เตรียม Hype ไปกับ Demon Slayer x Crocs collection งาน Collab ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของ 4 คาแรคเตอร์หลักอย่าง Tanjiro / Nezuko / Inosuke / Zenitsu ลงบนรองเท้า Crocs Classic Clog และ Echo Clog โดย Echo Clog จะมาพร้อมธีมของ Tanjiro โดดเด่นด้วยสีสันดำ / เขียว ที่คุ้นตา ส่วนอีก 3 ตัวละครอย่าง Nezuko, Inosuke และ Zenitsu นั้นถูกส่งต่อตัวตนลงบนโมเดล Classic Clog ที่มาพร้อมสีชมพู น้ำเงิน และสีเหลือง พร้อม
“ผมว่า Lambretta มันเป็นรถที่เท่ และมีสีสันความสนุกอยู่ในตัวเอง ย้อนไปตั้งแต่แลมตัววินเทจที่มีเสน่ห์ในเรื่องของการใช้โทนสีจัดจ้านสนุกสนาน ทำให้สีของรถที่เด่น ๆ ในแต่ละรุ่นแต่ละปี มันถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำของคนขี่แลม เป็นเหมือน Colors of Time เป็นสีสันที่ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน” นี่คือมุมมองที่มีต่อ Lambretta ของ ‘จเด็จ คาลายานนท์’ หรือที่หลายคนรู้จักเขาในชื่อ ‘JDED FEDFE’ ผู้ที่หลงใหลในรถแลมวินเทจ ด้วยเสน่ห์ของสีสันและงานดีไซน์ที่เท่จับใจ จนต้องหามาครอบครองเป็นของตัวเองสักคัน “รักแรกที่มีให้กับ Lambretta เป็นเรื่องของรูปลักษณ์และสีสันที่คลาสสิกโดนใจผมมาก พอได้มาเจอแลมสีม่วงคันนี้จอดอยู่หลังร้านของเพื่อน ก็คุยกันว่าอยากได้ เพื่อนเองก็จอดอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ใช้ เลยส่งต่อให้ในราคามิตรภาพ จากนั้นผมก็เอาไปทำต่อจนกลายเป็นรถที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน” “อย่างที่รู้กันสำหรับคนเล่นรถวินเทจว่าได้รถมาแล้วก็ต้องให้เวลา ใช้เวลาเรียนรู้กับมัน เพราะว่ารถพวกนี้มันจุกจิก ถ้าเจอปัญหาก็ต้องรีบคอยซ่อมรีบแก้ไขถ้าแบบปล่อยทิ้งไว้มันก็จะบานปลาย ต้องแบบค่อย ๆ เรียนรู้ไปกับมันครับ ใช้งานไปเรื่อย ๆ แล้วเราจะรู้จักมันเองมากขึ้นว่าเวลาเกิดปัญหาต่าง ๆ จะต้องรับมือยังไง และที่สำคัญคือต้องอินกับการดูแลรักษามันด้วยครับถึงจะมีความสุข เหมือนอย่าง Lambretta คันที่ผมใช้อยู่ก็ต้องใช้เวลาปรับแต่งกับมันพอสมควร กว่าจะกลายเป็นรถคู่ใจตั้งแต่ช่วงโควิดใหม่ ๆ ผมไปไหนไปกันกับคันม่วงนี้ตลอด ขี่เดินสายตัดผม
บอกเลยว่าใครถูกใจในงานดีไซน์ และ UI สไตล์ Minimal จากแบรนด์ Nothing น่าจะหลงรัก Smart Watch เรือนนี้ได้ไม่ยาก โดย Watch Pro เป็นผลงานล่าสุดจาก CMF แบรนด์ย่อยของ Nothing มาพร้อมเฟรมตัวเรือน aluminum-alloy ทรงสี่เหลี่ยมขอบมน ใช้จอสัมผัสแบบ AMOLED ขนาด 1.96 นิ้ว ติดตั้งลำโพง และไมโครโฟนมาให้ในตัวเรียบร้อย รองรับการคุยโทรศัพท์แบบคล่อง ๆ นอกจากนี้ยังจัดเต็มฟังก์ชันสุขภาพ ติดตามการออกกำลังได้ 110 ชนิดกีฬา ทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 มี GPS มาให้ครบ พร้อมเซ็นเซอร์วัด Heart Rate แบบออโต้ 24 ชั่วโมง, เซ็นเซอร์วัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด, ระบบตรวจสอบความเครียด, เช็คคุณภาพการนอนหลับ, รวมถึงวิดเจ็ตและความสามารถด้านการแจ้งเตือนอื่น ๆ อีกมากมาย ตามมาตรฐานที่ Smart Watch ยุคนี้พึงมี
แสนสิริเปิดตัว BuGaan Pattanakarn (บูก้าน พัฒนาการ) ความภาคภูมิใจล่าสุดใน Sansiri Luxury Collection เจ้าของตำแหน่งแฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่บ้านเดี่ยวโครงการแรก บนทำเลที่ดีที่สุดของพัฒนาการ รองรับการเดินทางสู่ย่านไลฟ์สไตล์ชั้นนำและย่านธุรกิจได้สะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่กลุ่ม Young Successor ซึ่งมีรสนิยมและไลฟ์สไตล์ชัดเจน ด้วยบ้านที่มีเอกลักษณ์และสเปซที่มอบความส่วนตัวสูงสุด รวมถึงฟังก์ชั่นที่ตอบสนองรูปแบบชีวิตที่แตกต่างได้อย่างลงตัว โดย BuGaan Pattanakarn เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ 3 ชั้น ที่ถูกรังสรรค์ผ่านแนวคิด “My Home Speaks for Myself – ให้บ้านบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณ” มากกว่าความเป็นบ้าน แต่คือ พื้นที่สะท้อนรสนิยมและความหลงใหลของผู้อยู่อาศัย ผ่านดีไซน์ที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก อย่าง Limited Edition & Rare Item: ดีไซน์พิเศษเพียงหนึ่งเดียว เฉพาะ 17 ครอบครัวเท่านั้น The Best Location:ในย่านพัฒนาการ เป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ใกล้เมืองมากที่สุด รายล้อมด้วยสังคมคุณภาพระดับลักซ์ชัวรี่
สําหรับชาว UNLOCKMEN ทั้งหลายที่กําลังมองหารถยนต์คันใหม่ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย บอกเลยว่า New Honda City e:HEV ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานคันนี้ นี่แหละคือคําตอบที่หลายคนมองหา ด้วยดีไซน์ใหม่สปอร์ตโดดเด่นรอบคัน หล่อสะกดใจตั้งแต่ภายนอกยันภายใน กับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV แรงจัด ประหยัดสุด จัดเต็มกับเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำอย่าง Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย และอุปกรณ์อํานวยความสะดวกครบครัน งานนี้ New Honda City e:HEV จะเป็น City Car ที่ “แรง ล้ำ ประหยัด ครบ” ทำให้ชีวิตชาว UNLOCKMEN สมบูรณ์แบบขึ้นได้ชัดเจนแค่ไหน เราจะพาทุกคนไปสัมผัสพร้อมกัน ความแรง และความประหยัด คือสิ่งแรกที่เราได้สัมผัสจากการทดลองขับ New Honda City e:HEV คันนี้ ด้วยขุมพลังของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ประสิทธิภาพสูง
เมื่อพูดถึงสกู้ตเตอร์ที่ขึ้นชั้นตำนานระดับโลก ชื่อของสกู้ตเตอร์สัญชาติอิตาเลียนอย่าง LAMBRETTA เป็นต้องโผล่มาในห้วงความคิดของใครหลายคนอย่างไม่ต้องสงสัย และภายใต้ความเท่คลาสสิกที่มีประวัติยาวนานกว่า 76 ปี นับตั้งแต่ได้ถือกำเนิดมาในปี 1947 ยังมีข้อมูลน่าสนใจอีกหลายสิ่งที่เราเชื่อว่าชาวแลมทั้งรุ่นเก่า และรุ่นใหม่อาจยังไม่รู้ วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากชวนทุกท่านไปสัมผัสเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในหน้าประวัติศาสตร์ของ LAMBRETTA เพื่อดื่มด่ำกับความเก๋าที่ยังคงสานต่อเรื่องราวมาถึงปัจจุบัน เริ่มต้นด้วยการย้อนเวลาไปสู่จุดเริ่มต้นของ LAMBRETTA กับบริษัท Innocenti ที่ก่อตั้งโดย Ferdinando Innocenti เมื่อปี 1922 ซึ่งทำธุรกิจท่อเหล็กอย่างเป็นล่ำเป็นสัน รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนท่อเหล็กให้กับเครื่องบินรบของกองทัพอิตาลีในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้โรงงานผลิตตกเป็นเป้าหมายที่ฝ่ายตรงข้ามทิ้งระเบิดโจมตีอย่างหนัก หลังสงครามจบลง โรงงาน Innocenti จึงเหลือแต่เศษซากความเสียหาย แต่แทนที่จะท้อใจหมดหวัง Ferdinando Innocenti กลับมองเห็นโอกาสที่จะทำธุรกิจพร้อมไอเดียที่จะช่วยให้ชาว Italian สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกมากขึ้นแม้ในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่และถนนที่พังเสียหาย เหลือเพียงทางเล็ก ๆ ให้วิ่ง เป็นที่มาของการสร้างยานพาหนะสองล้อที่ราคาไม่แพง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย สวยงาม และต้องขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสภาวะถนนและอากาศ ซึ่งเจ้าตัวได้แรงบันดาลใจจาก Cushman Scooters ซึ่งเป็น Military motor bikes
ณ เวลานี้ เมื่อพูดถึงแหล่งรวมตัวของแบรนด์ Street Fashion และดินแดนที่เป็นสวรรค์ของเหล่า Sneakerhead อาจไม่ต้องดั้นด้นเสาะหาไอเทมเด็ด ๆ ไกลถึงต่างประเทศอีกต่อไป เพราะต้องบอกว่าพิกัดใจกลางกรุงฯ ที่พวกเราคุ้นเคยอย่าง SIAM CENTER นอกจากจะเป็นศูนย์รวมแห่งไอเดียสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นพื้นที่สำหรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่หลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องของ Street Fashion ที่แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย พร้อมใจมารวมตัวกันในพื้นที่ของ SIAM CENTER ไม่ว่าจะเป็น PUMA, NIKE, ADIDAS, VANS, UNDER ARMOUR, NEW ERA, DR. MARTENS, JD SPORTS, SAUCONY, DICKIES, XLARGE ฯลฯ เรียกได้ว่ามาครบตอบโจทย์ทั้งสาย Performance กับไอเทมเฉพาะสำหรับการเล่นกีฬา รวมถึง Fashion Sportwear เท่ ๆ เติมเต็มสไตล์ที่โดดเด่นในชีวิตประจำวัน ยิ่งในฟากฝั่งของ Sneakers บอกเลยว่า SIAM CENTER นั้นยืนหนึ่ง
ใหม่ล่ามาแรง กับออโตเมติกสกู้ตเตอร์เซกเม้นต์ใหม่ล่าสุดของ Honda โดย ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด New Honda Giorno+ เป็นครั้งแรกในโลกเมื่อวันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่ง New Honda Giorno+ ได้ถูกสร้างสรรค์พัฒนาต่อยอดแรงบันดาลใจจากตัวแทนความเท่ของวัยรุ่นยุค 90s อย่าง Giorno 50cc ปี 1992 สู่ภาษางานออกแบบใหม่ผสานอดีตและอนาคตเอาไว้ในแนวทางโมเดิร์นคลาสสิก ลงตัวกับงานดีไซน์ที่แมทช์กันได้กับทุกลุค ปลุกเร้าจิตวิญญาณ High Fashion Scooter ด้วยชุดไฟหน้า – ไฟท้าย LED ที่โดดเด่น การออกแบบของ New Honda Giorno+ได้เลือกใช้เส้นสาย Horizontal Line สื่อถึงความล้ำสมัย ผสานกับเส้นโค้งมนที่สื่อถึงความเรียบง่าย คลาสสิก พร้อมพื้นผิว รวมถึงสีสันที่ดูพรีเมียมสวยงาม พร้อมให้พวกเราได้บ่งบอกสไตล์ที่แตกต่างผ่านสีสันทั้ง 6 สี ไม่ว่าจะเป็น ขาว / เทา
ว่ากันว่าเครื่องแต่งกายเป็นสิ่งสะท้อนสไตล์ของผู้สวมใส่ ในขณะเดียวกันกลิ่นน้ำหอมที่เลือกใช้ก็เปรียบเสมือนสิ่งสะท้อนตัวตน, รสนิยม รวมถึงทัศนคติของแต่ละบุคคลออกมาได้อย่างชัดเจน ด้วยศาสตร์และศิลป์แห่งกลิ่นที่มีผลส่งตรงสู่อารมณ์ความรู้สึกส่วนลึก โดยแทบไม่ต้องอาศัยถ้อยคำใดมาอธิบาย และตำนานความหอมของ MONTBLANC LEGEND คือหนึ่งในสุนทรียศาสตร์แห่งกลิ่นอันทรงพลัง และน่าหลงใหล ที่ถูกรังสรรค์เป็นน้ำหอม 3 ประเภทใน LEGEND Series ซึ่งวันนี้เราจะพาชาว UNLOCKMEN ร่วมเดินทางไปกับความหอมระดับตำนานทั้ง 3 รูปแบบ ที่พร้อมให้ทุกคนได้เลือกสะท้อนตัวตน และถ่ายทอดเสน่ห์ความมั่นใจในแบบที่เป็นคุณ MONTBLANC LEGEND EDT : นี่คือจุดเริ่มต้นความหอมระดับตำนาน ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2011 ด้วยความมุ่งมั่นในการรังสรรค์ MONTBLANC LEGEND EDT ให้เป็นตัวแทนแห่งกลิ่นที่สะท้อนตัวตนของสุภาพบุรุษที่เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์ของความเด็ดเดี่ยว มั่นใจ ผสานความอบอุ่น และสุขุม ด้วย Top Notes โทนสว่าง สดชื่น กับกลิ่นของ Lavender, Bergamot, Pineapple leaf และ Exotic verbena ตามมาด้วย Middle Notes ที่หอมหวานดึงดูดใจจากกลิ่นของ
“ครั้งแรกที่ Lambretta ติดต่อมาโอ้รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเราเองเป็นคนที่ชอบสกู้ตเตอร์ สะสมแลมอยู่แล้ว การที่วันนึงมีโอกาสได้มาเป็นตัวแทนของ Lambretta มันเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายมากจริง ๆ” นี่คือความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับ Lambretta ของ ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ หนุ่มอารมณ์ดี เจ้าของดีกรีพระเอกพันล้าน ที่มีอีกด้านของชีวิตเป็นสาวกแลมตัวยง ชนิดที่ว่าเจาะเลือดออกมาตรวจดูก็จะเจอความเป็น #เลือดกรุ๊ปแลม ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกันเลยทีเดียว และวันนี้เราจะชวนชาว UNLOCKMEN ไปดูความเข้มข้นใน #เลือดกรุ๊ปแลม ของ ‘มาริโอ้’ ไปพร้อมกัน นับย้อนไปตั้งแต่วันที่ผู้ชายคนนี้เริ่มมีใจให้กับ Lambretta “จุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้มาเจอกับ Lambretta ต้องขอย้อนไปตั้งแต่วัยเด็กก่อน เพราะโอ้ถูกปลูกฝังความเป็นนักสะสมมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่ออยากให้ลูกมีงานอดิเรก ก็เลยแนะนำให้ลองหาของสะสมดู เราก็เริ่มจากสะสมเหรียญเก่า ธนบัตรเก่าทั้งของไทย ของนอก ทำให้มีความเป็นคนชอบของวินเทจ พอโตมาหน่อยก็เริ่มสนใจในเสื้อผ้าวินเทจ ฟิกเกอร์ ของเล่นต่าง ๆ รวมถึงสกู้ตเตอร์เก่า แล้วพอมาเจอรุ่นพี่ขี่แลม 2 ก็เป็นเรื่องเลย รู้สึกว่าสวยจัง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากสะสม Lambretta ตั้งใจไว้ว่าถ้าหาเงินได้เมื่อไหร่จะต้องมีแลมเป็นของตัวเองให้ได้ จนสุดท้ายก็ได้แลม 2 มาเป็นคันแรกในครอบครอง โอ้ชอบความ