สำหรับใครที่อยู่ในแวดวงอสังหาฯ น่าจะพอรับรู้ได้ถึงสัญญาณของตลาดที่กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยความเคลื่อนไหวของ Developer ทั้งค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ที่ต่างก็เดินหน้าเปิดกลยุทธ์พร้อมลุยศึกแย่งชิงตลาดกันอย่างดุเดือด ซึ่งผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อย่าง RAIMON LAND (ไรมอน แลนด์) ก็เป็นอีกรายที่พร้อมลุยศึกใหญ่ครั้งนี้ โดยความเคลื่อนไหวของไรมอน แลนด์ ครั้งล่าสุดนั้นไม่ใช่แค่การเปิดเกมรุกเพื่อยึดพื้นที่ตลาดลักซ์ชัวรี่ในไทยเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเป้าหมายในการเป็น Developer เจ้าแรกในไทย ที่พร้อมมอบความพิเศษเฉพาะตัวให้กับลูกค้าในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Luxury Reimagined” โดย คุณ ‘กรณ์ ณรงค์เดช’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า “สำหรับการดำเนินธุรกิจ บริษัทเดินหน้าตามแผนการรีแบรนด์ ยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าถึงง่าย ทันสมัยมีสไตล์มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการปรับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ใหม่ของไรมอน แลนด์ ภายใต้คอนเซ็ปท์ Luxury Reimagined เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายให้เข้าถึงคนเจเนอเรชั่นใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ ด้วยการออกแบบระดับเวิลด์คลาสที่ผสมผสานเทคโนโลยีรวมถึงนวัตกรรมที่ทันสมัยในทุกโครงการ” “นอกจากนี้ทางไรมอน แลนด์ จะยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งงานออกแบบตกแต่งภายใน ภายนอก งานภูมิสถาปนิก
เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์เรือนเวลาเจ้าของโลโก้นาฬิกาทรายติดปีกอย่าง Longines เชื่อว่าสิ่งแรกที่ผู้หลงใหลในเสน่ห์ของเครื่องบอกเวลานึกถึง คงหนีไม่พ้นเรื่องราวเล่าขานถึงการเป็นอุปกรณ์บอกเวลาสุดแม่นยำที่เหล่านักบุกเบิกในตำนานระดับโลกต่างเลือกสวมใส่ระหว่างทำภารกิจ และหนึ่งในทริปสุดระห่ำของนักบุกเบิกที่ถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ไฟแห่งความกล้าในการท้าทายอะไรใหม่ ๆ นั้นลุกโชนขึ้นในใจใครหลายคน ต้องย้อนไปในวันที่ 5 ตุลาคม 1931 กับภารกิจของ Clyde Pangborn และ Hugh Herndon, Jr. สองนักบินชาวอเมริกันผู้กล้าหาญ ซึ่งได้พิชิตภารกิจการบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกจากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยระยะทาง 5,500 ไมล์ โดยไม่หยุดพักได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยเบื้องหลังความสำเร็จของการผจญภัยครั้งนั้น นอกจากความบ้า และความมุ่งมั่นของ Clyde Pangborn และ Hugh Herndon, Jr. ยังมีอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญอย่างนาฬิกา Longines ที่ช่วยบอกเวลาให้กับสองนักบินในไฟลท์ประวัติศาสต์ได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ ทำให้เมื่อจบภารกิจนี้ทาง Hugh Herndon, Jr. ถึงกับเขียนจดหมายแสดงความขอบคุณไปยัง Wittnauer ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา Longines ในขณะนั้น ว่านาฬิกาของ Longines นั้นทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมระหว่างที่พวกเขากำลังบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ในช่วงสุดท้ายของการบินที่ทั้งคู่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันหนาวจัดจนน้ำดื่มในกระติกของพวกเขากลายเป็นน้ำแข็ง แต่ถึงกระนั้นนาฬิกา Longines ก็ยังคงทำหน้าที่บอกเวลาอย่างแม่นยำได้ไร้ที่ติ พร้อมทิ้งท้ายใจความในจดหมายว่า “คุณคงรู้ดีว่าเวลาที่ถูกต้องแม่นยำคือหัวใจสำคัญของการบินที่ดี” ตอกย้ำให้เห็นบทพิสูจน์ถึงความปลอดภัยและแม่นยำที่เหล่านักบุกเบิกยุคก่อนต่างให้ความไว้วางใจ จวบจนถึงปัจจุบันเรื่องราวของวีรกรรมจากเหล่าคนกล้ามากมาย ได้กลายเป็นมรดกตกทอดอันยาวนานและแสนล้ำค่าของแบรนด์
เรียกได้ว่าเรื่องความล้ำนำเทรนด์ต้องยกให้เค้าจริง ๆ กับ Chang Cold Brew Cool Club คลับของคนคูล ที่ล่าสุดได้ผุดโปรเจกต์ใหม่ พร้อมทะยานสู่โลก Metaverse ด้วยชิ้นงาน Music NFT สุดสมูท ซึ่งใครที่ได้ครอบครองเป็นต้องภูมิใจกับอัตลักษณ์เฉพาะซึ่งสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของงาน Original ที่แท้ทรู สำหรับงาน Music NFT โปรเจกต์แรกของ Chang Cold Brew Cool Club ถือเป็นอีกหนึ่งผลงาน NFT ที่เตรียมเข้าทำเนียบของแรร์ เพราะได้ถูก Mint ขึ้นมาเพียงแค่ 3 ชิ้นในโลกเท่านั้น โดยตัวชิ้นงานจะเป็นบทเพลง ‘สมูทให้คูล (Smooth to be Cool)’ จาก Chang Cold Brew Cool Club X 1Flow Ft.CNAN ซึ่งบทเพลงนี้เป็นเพลงฟังสบายในสไตล์ HipHop /
ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบันเป็นยุคที่เทคโนโลยี และ จินตนาการ นั้นแทบจะกลายเป็นเรื่องเดียวกัน ด้วยนวัตกรรมที่รุดหน้าจนไล่ตามทันภาพความฝันถึงชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นด้วยอุปกรณ์ล้ำยุคต่าง ๆ ซึ่งสมาร์ทโฟนคืออีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ยืนยันคำกล่าวข้างต้นได้เป็นอย่างดี เพราะทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวก็สามารถเชื่อมโลกได้ทั้งใบ ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกด้านทั้งเรื่องธุรกิจและความบันเทิง ไม่เว้นแม้แต่เทคโนโลยีการถ่ายภาพบนกล้องมือถือที่ถูกพัฒนาไปไกลทั้งเรื่องของความคมชัดและลูกเล่นต่าง ๆ มากมาย ทำให้บ่อยครั้งผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเรา ๆ แทบไม่ได้หยิบกล้องใหญ่ออกมาถ่ายภาพเลยด้วยซ้ำ เพราะความคล่องตัว และคุณภาพของภาพจากกล้องสมาร์ทโฟนในมือก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าเทคโนโลยีกล้องมือถือทุกวันนี้มันถูกพัฒนามาจนสุดทาง เราต้องบอกว่าความสามารถในการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเคยรู้จักนั้นได้ถูกยกระดับไปอีกขั้นของความพรีเมียม และพร้อมให้สัมผัสใน OPPO Find X5 Pro 5G สมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นล่าสุดจาก OPPO รวมไปถึง OPPO Enco X2 หูฟังไร้สายอัจฉริยะที่พร้อมเติมเต็มให้ประสบการณ์ด้านเสียงของคุณนั้นสมบูรณ์แบบกว่าที่เคย ซึ่งเราก็พร้อมแล้วที่จะพาชาว UNLOCKMEN ทุกคนไปเปิดรับอีกขั้นของการถ่ายภาพและเสียงระดับโปรไปพร้อม ๆ กัน ก่อนอื่นเราต้องขอเริ่มต้นที่ OPPO Find X5 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่พร้อมยกระดับการถ่ายภาพจากกล้องมือถือไปอีกขั้นด้วย MariSilcon X ชิป NPU ที่ OPPO พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยในการประมวลผลภาพ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญกับการแก้ไขจุดอ่อนของมือถือในการถ่ายภาพวิดีโอตอนกลางคืนในสภาวะแสงน้อย ให้ยังคงความสว่างใสเต็มไปด้วยรายละเอียดและสีสันที่น่าพอใจเหมือนตาเห็น ซึ่งชิปประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง
หลังจากที่ Rolls-Royce Cullinan เปิดตัวและทำยอดขายถล่มทลายให้กับบริษัทมาตั้งแต่ปี 2018 พร้อมเป็นอีกหนึ่งหัวเรี่ยวหัวแรงในการผลักดันตลาด luxe SUV ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักแต่งรถออฟโรดมือดีแห่งแคว้นบาวาเรีย อย่าง Delta4x4 ได้จับเอา Cullinan มาปรับโฉมจนเรียกได้ว่าพร้อมลงศึก Dakar Rally หรือสามารถยืนหนึ่งเป็นพาหนะคู่ใจของมหาเศรษฐีจากดินแดนที่มีภูมิประเทศสุดหฤโหดได้อย่างสมฐานะ เพราะ Rolls-Royce Cullinan ในเวอร์ชั่นของสำนักแต่ง Delta4x4 คันนี้ได้ถูกปรับโฉมใหม่ให้กำยำล่ำสัน หล่อ หรู ดุดันกว่าที่เคย เริ่มจากยกสูงขึ้นมาเพื่อรองรับล้อ Delta Force Beadlock ขอบ 20” รัดด้วยยาง Mickey Thompson ขนาด 33 นิ้ว พร้อมยึดเกาะทุกพื้นผิวไม่ว่าจะทางถนน ทางฝุ่น หรือหิมะ สิริรวมพื้นที่ ground clearance เพิ่มขึ้นมาอีก 150 มิลลิเมตร พร้อมเปลี่ยนชุดบังโคลนใหม่ให้ต่อกรกับล้อขนาดใหญ่ได้อย่างอยู่มือ ในส่วนของด้านหน้าตัวรถได้มีการเพิ่มเติมท่อ Snorkel และปรับระบบท่อไอเสียใหม่ พร้อมแผงไฟหน้า PIAA จากญี่ปุ่น
แม้ทุกวันนี้ภาพความสำเร็จของคนรุ่นใหม่นั้นกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวที่มีให้พบเห็นและร่วมยินดีกันอยู่บ่อย ๆ แต่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกคนล้วนต้องผ่านความทุ่มเทพยายามบนเส้นทางของตัวเองมาแล้วอย่างเข้มข้น และต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทำให้คน Gen นี้ ก้าวเข้าสู่ความสำเร็จได้ตั้งแต่อายุยังน้อย นอกเหนือจากความสามารถ โอกาส และความมุ่งมั่นตั้งใจ คงเป็นสิ่งอื่นใดไปไม่ได้นอกจากเรื่องของวิธีคิดและการใช้ชีวิตแบบ Hybrid ซึ่งเปรียบเสมือน DNA ของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางเทคโนโลยีที่พร้อมตอบสนองต่อรูปแบบชีวิตที่หลากหลาย ทำให้คนยุคนี้สามารถบาลานซ์น้ำหนักระหว่างการทำงานซึ่งเต็มไปด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบที่มากมาย ไปพร้อม ๆ กับการแบ่งเวลาให้กับตัวเองได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้มุมมองการใช้ชีวิตที่ไม่ยึดติดกับสิ่งใด คือข้อได้เปรียบที่ทำให้คนรุ่นใหม่มีอิสระในการเลือกตัวช่วยที่ใช่ ที่จะเข้ามาเติมเต็มรายละเอียดชีวิตให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และในวันนี้เราอยู่กับ YAMAHA GRAND FILANO HYBRID อีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถขับเคลื่อน Hybrid Lifestyle ให้ ‘LIVE HIGH’ ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือการใช้ชีวิต ซึ่งพร้อมให้สัมผัสความเจ๋งผ่านเรื่องราวในหนึ่งวันของตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่รับมือกับชีวิตหลายบทบาทได้อย่างลงตัว อย่างที่บอกไปว่าหนึ่งในหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ คือการคอนโทรลหน้าที่ความรับผิดชอบที่มีมากมายได้ลงตัว เพราะในหนึ่งวันของคนยุคนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้กับการใช้ชีวิตแบบ Hybrid กับบทบาทที่หลากหลาย มีชีวิตไม่หยุดนิ่งต้องเดินทางไปในหลายสถานที่ภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ยานพาหนะคู่ใจจะต้องพร้อมตอบโจทย์การเดินทางที่ควบคุมเวลาได้ ด้วยเครื่องยนต์ที่มอบความมั่นใจทั้งในเรื่องของสมรรถนะ และความประหยัดที่น่าพอใจ และไม่ใช่เพียงมิติของการทำงาน เรื่องของการดูแลตัวเองคือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีบุคลิกที่ดีนั้นสามารถสร้างความน่าเชื่อถือรวมถึงสร้างโอกาสดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้มากมาย และบุคลิกที่ดีเหล่านั้นมันไม่ใช่แค่เสื้อผ้า หน้า
There is no excerpt because this is a protected post.
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การให้คุณค่าในความเป็นปัจเจกคือสิ่งที่ถูกสื่อสารออกมาผ่านแคมเปญระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเด็นของเชื้อชาติ, รูปลักษณ์, ความเชื่อ, ลงลึกไปจนถึงเรื่องของไลฟ์สไตล์ และรสนิยมที่หลากหลายของแต่ละบุคคล ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยที่หลากหลายแบรนด์ใหญ่ต่างลุกขึ้นมาให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ โดยสะท้อนออกมาผ่านการสื่อสาร รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับตัวตนที่แตกต่างของทุกคน ซึ่งถ้าพูดถึงแบรนด์ที่เข้าใจและให้ความสำคัญในตัวตน รวมไปถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง แน่นอนว่าชื่อของ SANSIRI (แสนสิริ) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ในไทยนั้นต้องติดโผอยู่ในอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะต้องยอมรับว่าตลอดระยะเวลากว่า 38 ปีที่ผ่านมา แสนสิริ ได้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างเรา ๆ ได้ลึกซึ้งถึงแก่น กับแนวคิดที่ต้องการสนับสนุนให้ทุกคนสามารถยืนหยัดในความเป็นตัวเองให้ได้อย่างเต็มที่ และบ้านถือเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเป็นตัวเองและภูมิใจในตัวตนได้มากที่สุด ซึ่งทางแสนสิริได้ต่อยอดแนวคิด Made For Life ที่มีพื้นฐานจากความเข้าใจและใส่ใจในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิตของทุกคน ให้สอดคล้องกับทุกมิติชีวิตของ ‘คุณ’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแคมเปญ ‘YOU Are Made For Life’ แคมเปญดี ๆ ที่สะท้อนมุมมองของแสนสิริ ซึ่งเข้าใจถึงความต้องการการใช้ชีวิตที่แตกต่างของคุณแต่ละคน ไม่ว่า ‘คุณ’ จะเป็นแบบไหน แต่สำหรับแสนสิริ ‘คุณ’ คือองค์ประกอบที่สำคัญสุดของบ้าน ‘คุณ’ คือหัวใจสำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ และครอบครัวให้ได้มากที่สุด ‘YOU Are Made For Life’ ที่มาของแคมเปญ ‘YOU
ในช่วงเวลา 2 – 3 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าสถานการณ์โรคระบาดคงทำให้ใครหลายคนรู้สึกเหี่ยวเฉากันไม่ใช่น้อย ซึ่งต้องบอกไม่ใช่เพียงแค่ผู้คนที่เหี่ยวเฉา แต่สถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงกิจการร้านอาหารผับบาร์ทั้งหลายต่างก็ซึมเซาไม่แพ้กัน และด้วยความหวังที่จะปลุกพลังความสุขหลังจากห่างหายไปเนิ่นนาน เมื่อช่วงคลายล็อกดาวน์ที่ผ่านมาทางแบรนด์สิงห์จึงได้เปิดตัวแคมเปญ ‘สุขไปกับสิงห์’ แคมเปญดี ๆ ที่ชักชวนเหล่า Influencer ชื่อดังทั้งหมด 7 ราย มาร่วมแชร์โลเคชั่นแบ่งปันความสุขแก่เพื่อน ๆ พี่น้องชาวไทย ด้วยการชี้เป้าปักหมุดสถานที่น่าเช็คอิน ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยว แถมยังเป็นการสนับสนุน Local Business แบ่งปันสุขให้กับธุรกิจต่าง ๆ ในชุมชนไปด้วยกัน ที่สำคัญทางสิงห์ยังมีกิจกรรม “สิงห์ปักหมุด สุขไปกับสิงห์” ชวนทุกคนมาชิงรางวัลเจ๋ง ๆ อีกเพียบ แค่ไปเที่ยว แวะเช็คอิน และโพสต์ภาพ พร้อมบอกเล่ารีวิวโมเมนต์ที่สุขไปกับสิงห์ตามสถานที่ที่สิงห์แนะนำเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม บาร์ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ พร้อมติดแฮชแท็ก #สุขไปกับสิงห์ #ความสุขมีได้ทุกวัน #LiftItUp ใครที่รีวิวได้สร้างสรรค์โดนใจสิงห์ รับไปเลยของรางวัลสุดพิเศษมากมาย ใครสนใจรีบไปดูรายละเอียดของรางวัลและศึกษากติกาเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Singha Life *สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 18
หากจะให้พูดถึงมือถ่ายรูปสวยในราคาเบา ๆ เชื่อว่า ณ ตอนนี้คงไม่มีใครที่จะเด่นเกินหน้า realme 9 Pro+ สมาร์ทโฟนราคาดี เพียง 12,999 แต่จัดเต็ม RAM 8 / ROM 256 GB พร้อมดีไซน์สวยในรูปแบบ Light Shift Design ฝาหลังเปลี่ยนสีเมื่ออยู่ภายใต้เเสงแดด ขาดไม่ได้กับส่วนสำคัญคือจุดแข็งด้านการถ่ายภาพในคอนเซ็ปต์ ‘Capture The Light’ เพราะ realme 9 Pro+ นั้นมาพร้อมกล้องที่สามารถเก็บภาพในที่มืดได้คมชัด ถ่ายทอดรายละเอียดได้มากกว่า พกพาไปถ่ายในที่แสงน้อยได้ชัดเจนสวยงามยิ่งขึ้นด้วย Prolight imaging technology และกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ขนาดใหญ่ รูรับแสงกว้าง เก็บแสงได้มากขึ้น เสริมด้วยระบบกันสั่น OIS+EIS ให้ภาพคมชัดไม่ต้องกลัวสั่นไหว แถมยังมี AI noise reduction 3.0 high pixel ช่วยจัดการ Noise