ความโป๊เปลือยอาจเป็นเรื่องอุจาดตาสำหรับใครหลายคน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยมองว่าเรือนร่างของมนุษย์คือความงดงามที่ธรรมชาติสรรสร้าง และพยายามถ่ายทอดความงามผ่านรูปถ่ายในมุมมองใหม่ที่จับทิวทัศน์และความเปลือยมาอยู่เฟรมเดียวกัน *คอนเทนต์นี้อาจมีภาพที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน การจับวิวมาเจอกับความโป๊เปลือยเกิดขึ้นโดย อแมนด้า เณอเชียน (Amanda Charchian) ช่างภาพสาวชาวจากเมืองลอสแองเจลิสที่ชื่นชอบการตระเวนถ่ายภาพทั่วโลก เธอเคยลุยเข้าไปในป่าลึกของไอซ์แลนด์ เดินทางไปคิวบา อิสราเอล โมร็อกโก คอสตาริก้า และประเทศอื่น ๆ เพื่อถ่ายทิวทัศน์ไกลสุดลูกหูลูกตา หรือเก็บภาพทะเลสาบเงียบสงบ โดยภาพวิวทุกภาพของเธอโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะจะมีสตรีเปลือยกายอยู่ในภาพถ่ายด้วยเสมอ อแมนด้าพยายามส่งสารเรื่องความรู้สึกของหญิงสาวไปในรูปถ่ายทุกใบ เผยมุมมองที่เต็มไปด้วยความเป็นอิสระ ไม่มีความอ่อนแอให้เห็น แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ความสวยงาม และอำนาจต่อเรือนร่างของตัวเอง สื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าไม่ใช่แค่ผู้ชายเสมอไปที่ถ่ายภาพสวย เหตุผลที่เธอพยายามบอกทุกคนว่าไม่ได้มีแค่ผู้ชายที่ถ่ายภาพนู้ดสวย เกิดจากค่านิยมดั้งเดิมของวงการช่างภาพ อาชีพช่างภาพสมัยก่อนมักเป็นผู้ชาย เพราะผู้หญิงต้องเป็นแม่และภรรยาที่ต้องทำงานบ้าน ไม่ถูกยอมรับในฐานะช่างภาพหรืออย่างอื่น เธอจึงอยากบอกว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ผู้หญิงมีโอกาสเข้าถึงอาชีพมากขึ้น ได้ทำงานที่ตัวเองอยากทำ แถมนางแบบที่เธอร่วมงานด้วยก็แสดงความสบายใจและไว้วางใจมากขึ้นเมื่อทราบว่าตากล้องผู้ถ่ายรูปเปลือยเป็นผู้หญิงเหมือนกัน นางแบบในภาพถ่ายมาจากหลากหลายอาชีพแต่พวกเธอล้วนอยู่ในแวดวงศิลปะ บางคนเป็นนักแสดง จิตรกร ช่างภาพแฟชั่น นักเขียน นักออกแบบแฟชั่น ทุกคนล้วนเข้าใจศิลปะและสิ่งที่อแมนด้าพยายามเล่าผ่านรูปถ่าย และอาจเป็นเพราะความเข้าใจร่วมกันระหว่างนางแบบกับช่างภาพที่ทำให้องค์ประกอบโดยรวมของภาพสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยความนุ่มละมุนของหญิงสาว ความเป็นธรรมชาติของนางแบบที่อยู่ในภาพ การจัดองค์ประกอบภาพทั้งมุม แสง สี รวมกับการเปลือยการของคนในรูปที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติจากหลากหลายพื้นที่ ถือเป็นความงามที่ชวนให้เพลินตาและตระหนักถึงเรื่องราวที่ผู้หญิงพยายามจะสื่อให้ทุกคนได้เข้าใจ เพราะการแสดงความคิดเห็นผ่านสิ่งที่ตัวเองถนัดคือการเล่าเรื่องในแบบที่ไม่เหมือนใคร
“รู้เท่าไม่ถึงการณ์” คือการ์ดยอดฮิตติดอันดับของมนุษย์ผู้ทำผิดพลาด แล้วไม่รู้จะรับมือกับความผิดพลาดนั้นอย่างไร แม้จะมีคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วทำผิดพลาดอยู่จริง (ซึ่งถ้าพลาดครั้งแรก สังคมก็พร้อมรับฟังและให้โอกาส) แต่ก็มีมนุษย์บางจำพวกที่พูดคำว่า “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” เป็นรอบที่สิบ ไม่ว่าผิดกี่ครั้ง ไม่ว่าพลาดกี่หนก็พูดพล่อย ๆ เพื่อเอาตัวรอดให้พ้น ๆ ไป แล้วก็ปล่อยความผิดพลาดยุ่งเหยิงนั้นให้ยังอยู่ต่อไป ผู้ชายอย่างเรา ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่ทุกวัน ก็ย่อมต้องผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดา หรือบางครั้งเราไม่ใช่คนพลาด แต่คนในปกครองหรือคนในความรับผิดชอบทำพลาด เราเองก็ต้องเป็นคนออกหน้า ในฐานะที่เราก็เบื่อคนพูดว่า “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” เต็มทน เพราะเหมือนพูดแบบขอไปที UNLOCKMEN ขอเสนอคำพูดที่ผู้ชายอย่างเราใช้รับมือเมื่อเจอภาวะวิกฤต หรือทำผิดพลาด โดยเป็นคำพูดหรือวิธีการที่ดูเป็นรุ่นใหญ่ใจนิ่ง แถมดูเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่แค่ปัดความรับผิดชอบให้พ้น ๆ ตัว โลกยุค 5G ทุกอย่างต้องแสดงออกเร็วนะ! หากเกิดทันยุคที่ข้อมูลข่าวสารทุกอย่างมาจากหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์เท่านั้น เราจะเข้าใจได้ทันทีว่าข้อมูลในยุคนี้ไหลเร็วขนาดไหน ไม่ใช่ระดับเวลาเช้า-เย็น เหมือนข่าวภาคเช้าและภาคค่ำอีกต่อไป แต่ข่าวนั้นเชี่ยวกรากกันเป็นระดับนาที! ดังนั้นเมื่อเราทำพลาดและมีคนพบข้อผิดพลาดนั้นแล้ว ให้รีบ Take Action ให้เร็วที่สุด แต่ละนาทีที่เราปล่อยเวลาให้ผ่านไป หมายถึงคอมเมนต์คาดเดาไปสารพัด หมายถึงการบอกกันปากต่อปาก
หนุ่ม ๆ ที่เป็นแฟนของค่ายซูเปอร์คาร์จากประเทศอังกฤษอย่าง McLaren ปลายปีนี้เตรียมเฮกันได้เลย เพราะ McLaren เพิ่งประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่น้ำหนักเบาและทรงพลังที่สุดในตระกูล Longtail โดยขนานนามให้กับมันว่า 765LT 765LT เป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดของ McLaren Super Series ต่อจากโมเดล 720S ที่มีขนาดตัวรถยาวกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย รวมถึงน้ำหนักเบากว่าถึง 80 กิโลกรัม โดยได้แรงบันดาลใจและใช้อุปกรณ์บางชิ้นเหมือนจาก McLaren Senna และวางแผนจะผลิตเพียง 765 คันเท่านั้น McLaren 765LT ยังคงดีไซน์ภายนอกเหมือนกับในรุ่น 720s ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้ารวมถึงช่องอากาศด้านล่างตัวรถ แต่มีการเพิ่มช่องอากาศขนาดเล็ก 2 ช่องไว้บนซุ้มล้อหน้า รวมถึงใช้กระจกมองข้างสีทู-โทนที่เข้ากันอย่างลงตัว ดีไซน์ด้านหลังของ 765LT ใช้เป็นตระแกรงผสมกับคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงชุดท่อไอเสียแบบ 4 ช่องที่หุ้มด้วยไทเทเนียมพร้อมกระจกแบบบางพิเศษสไตล์มอเตอร์สปอร์ต สำหรับหนุ่ม ๆ ที่กลัวว่าจะมีสีรถให้เลือกไม่จุใจสายซิ่งที่ชอบสีสัน ทาง McLaren เขาบอกมาว่าหายห่วง เพราะ 765LT นั้นมาพร้อมสีสันให้เลือกหลากหลายแน่ ๆ แต่อาจต้องรอยืนยันสีสันทั้งหมดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง นอกจากนี้ยังให้ชุดยาง
เราอาจรับรู้เรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กันบ่อย บางครั้งฟังจากปากของทหารนาซี บางทีดูหนังที่เล่าจากฝั่งของสัมพันธมิตร และสัมผัสความเศร้าผ่านหนังสือของชาวยิวที่อยู่ในค่ายกักกัน UNLOCKMEN ได้พบเจอเรื่องราวอีกบทหนึ่งที่น่าสนใจ เรื่องราวของคนที่ถูกนาซีจับขังคุกด้วยข้อหาแปลก ๆ อย่างการเป็นเกย์ ที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล อัลเบรทช์ เบกเกอร์ (Albrecht Becker) คือชายสูงวัยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเอาชีวิตรอดจากความตายเพื่อมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 1935 เขามีอาชีพเป็นช่างภาพที่ถูกนาซีสั่งจำคุกด้วยข้อหาเป็นเกย์ เพราะยุคที่เต็มไปด้วยสงคราม ความขัดแย้ง การเหยียดหยาม คนรักเพศกำเนิดเดียวกันไม่ว่าหญิงหรือชายจะถูกเรียกว่า “เกย์” ถ้าคุณเป็นเกย์ช่วงปี 1935 และอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี คุณจะกลายเป็นอาชญากรที่อาจถูกลงโทษถึงตาย แต่เดิมการเป็นเกย์ไม่ได้เป็นปัญหาชีวิตของเขา จนประเทศถูกปกครองด้วยระบอบนาซีและเข้าสู่สงครามก็เริ่มมีข้อบังคับแปลก ๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น ‘วรรคที่ 175 ระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันถือเป็นสิ่งต้องห้าม’ แต่ตราบใดที่เขาไม่ได้ออกไปป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นเกย์ก็จะไม่มีใครล่วงรู้รสนิยมของเขา มีความสุขอยู่กับคนรักในเมือง Wurzburg ที่ห่างไกล “นาซีไม่สนใจผม และการเมืองของพวกเขาก็ไม่แลผมเช่นกัน” – Albrecht Becker อย่างไรก็ตาม ชีวิตแสนสงบสุขของอัลเบรทช์กับคนรักต้องสิ้นสุดลงด้วยเวลาอันสั้น ภัยร้ายเริ่มคืบคลานเข้ามาเป็นผลจากเหตุการณ์ในเดือนกรกฎาคมปี 1934 เออร์เนส กึนเทอร์ เริห์ม (Ernst Gunther Roam)
ใครที่กำลังมองหากล้องฟูลเฟรมที่มีประสิทธิภาพในงานทั้งการถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นสาวกของแบรนด์ Leica บอกเลยว่าเตรียมตัวกำเงินเอาไว้ให้ดี เพราะค่ายกล้องหรูเตรียมเปิดตัว Leica S3 กล้อง DSLR ตัวล่าสุดในตระกูล Leica S-System หลังจากเคยปล่อยรุ่น S2 ออกมาเมื่อปี 2008 หรือ 12 ปีที่แล้ว งานนี้ใจไม่แข็งพออาจมีเสียทรัพย์เป็นแน่แท้ S3 เป็นกล้อง Medium Format DSLR รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมเซนเซอร์ Leica ProFormat CMOS แบบฟลูเฟรมขนาด 30 x 40 มิลลิเมตรความละเอียด 64 เมกะพิกเซล เพิ่มขึ้นจาก Leica S Typ 007 ที่มีความละเอียด 37.5 เมกะพิกเซล โดยเซนเซอร์ตัวล่าสุดสามารถดัน ISO ได้ตั้งแต่ 100 สูงสุดที่ 50,000 พร้อมกันยังมีค่า Dynamic Range สูงถึง 15-stops
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ความสำเร็จ’ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายการทำงานของผู้ชายหลายคน แล้วถ้าคุณหรือใครอยากประสบความสำเร็จบ้าง วิธีที่ง่ายที่สุดคือเลียนแบบชีวิตการทำงานของคนที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จ แต่หากลองทำตามคำแนะนำของ Warren Buffett, Oprah Winfrey หรือแม้แต่ Bill Gates แล้วยังไม่เวิร์ก วันนี้ UNLOCKMEN มีกิจวัตรง่าย ๆ มานำเสนอ รับประกันว่าถ้าทำได้ ชีวิตการทำงานของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี หรืออาจเข้าใกล้ความสำเร็จในหน้าที่การงานมากขึ้นอีกก้าว อธิบายประเด็นหลักก่อนประชุม การประชุมแต่ละครั้งอาจไม่ใช่แค่ประชุมตามกำหนดการหรือถกเถียงประเด็นกันแบบไม่รู้จักจบสิ้น Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter จึงแนะนำให้ส่งประเด็นผ่าน Google-Docs กับผู้เข้าร่วมประชุมก่อนเริ่มประชุมจริง ประมาณ 10 นาที วิธีนี้จะช่วยให้คนในห้องประชุมเห็นภาพเดียวกันและเข้าใจเนื้อหาการประชุมเบื้องต้น แม้จะยังไม่ได้เข้าประชุม ทั้งยังทำให้พวกเขาได้คิดและวิเคราะห์เนื้อหาโดยใช้วิจารณญาณ อาจคอมเมนต์กันผ่าน Google-Docs ได้ทันที เอื้อประโยชน์ให้การประชุมราบรื่น ไม่ยืดเยื้อ และมีประสิทธิภาพสูง เรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ไม่” อีกเรื่องที่เราอยากให้หนุ่ม ๆ ทำกันจนเป็นกิจวัตร คือการเรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ไม่” ในสถานการณ์จำเป็น เพราะบางครั้งคำว่า “ไม่” ไม่ได้แปลว่าคุณเกี่ยงงานหรือไร้ความสามารถเสมอไปหรอกนะครับ งานวิจัยของ
เมืองไทยเมืองร้อน อุณหภูมิเดือดปุด ๆ เดือน 3 แบบนี้ทำให้เหงื่อออกทั้งหน้าและตามข้อพับ แต่ไอ้ที่เจ็บสุดคงไม่พ้นซอกแร้ที่ดับความมั่นใจเวลาพรีเซนต์และออกไปข้างนอกของเราทุกที บางคนหาทางแก้ด้วยการนั่งในห้องแอร์ อยู่ในที่อุณหภูมิต่ำ ๆ เน้นออกจากบ้านเฉพาะช่วงฤดูหนาว ซึ่งมันก็พอช่วยได้ แต่ไอ้ช่วยได้นี่มันไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน และถ้าคุณคือคนนึงที่สังเกตว่าต่อให้อยู่ที่เย็นพอจะเลี้ยงเพนกวินได้ ตัวจะแข็งตาย ไอ้รักแร้เจ้ากรรมมันก็ผลิตเหงื่อออกมาเรื่อย ๆ เป็นดวง ๆ บนเสื้อผ้า ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร UNLOCKMEN มีคำตอบ ดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่ร่างกายร้อนผ่าวเพราะแอลกอฮอล์วิ่งผ่านลำคอสิงห์คอทองแดงอย่างเรา ๆ รักแร้เราก็ดันเปียกต่อหน้าสาว ๆ เสียได้ ทั้งหมดเพราะผลกระทบจากแอลกอฮอล์ทำให้หัวใจเราสูบฉีดและเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดขยายและคลาย ร่างกายก็พยายามจะลดอุณหภูมิในร่างกายจึงผลิตเหงื่อออกมา ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าต่อให้ในบาร์จะเย็นแค่ไหน เหงื่อก็ออกได้เช่นกัน เครียด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ความเครียดที่อยู่ในสมองเรามันไม่แค่ทำให้เรามือเท้าเย็นเท่านั้น แต่มันยังทำให้รักแร้เปียกได้ด้วย เหตุผลมาจากความเครียดมันสัมพันธ์กับต่อมเหงื่อ Apocrine sweat glands ที่เป็นต่อมเหงื่อสร้างกลิ่นเป็นหลัก (ต่อมนี้จะอยู่บริเวณรักแร้ อวัยวะเพศภายนอก และบริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก) ออกกำลังกายบ่อย รู้ไหมว่าการออกกำลังกายบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายเราให้ผลิตเหงื่อระบายความร้อนออกจากกร่างกายได้มากขึ้น ดังนั้น คนที่ออกกำลังกายบ่อย ๆ เป็นกิจวัตร มักจะเหงื่อออกมาระหว่างออกกำลังและขยับแขนขาได้ง่ายไม่เกี่ยวสภาพอากาศ
911 รถรุ่นเรือธงของค่าย Porsche นั้นพัฒนาให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปล่อยรถรุ่น Turbo S ของปี 2021 ออกมาแล้ว ว่ากันว่านี่คือรุ่นที่ทรงพลังที่สุดที่เคยผลิตมาของรหัสตัวถัง 992 ปี 2021 Porsche เตรียมเปิดตัวโมเดล 911 “Turbo S” ซึ่งผลิตออก 2 สไตล์ คือ Coupe (2 ประตู) และ Cabriolet (เปิดประทุน) ถือเป็นการขยายไลน์ของ 911 ในรหัส 992 ให้เพิ่มขึ้น หลังการเปิดตัวรุ่น Carrera S และ Carrera S4 ก่อนหน้านี้ 911 “Turbo S” ทั้ง 2 คันยังคงรูปแบบดีไซน์ตัวถังของรหัส 992 เอาไว้ แต่ขยายขนาดความกว้างของตัวรถให้มากขึ้นรวมถึงพัฒนาระบบอากาศพลวัตด้วยให้ดีขึ้นด้วย ทั้ง 2 คันมาพร้อมระบบโครงสร้างรถที่เรียกว่า Porsche Dynamic
ถ้าใครตามข่าวสังคมการเมืองอยู่ตลอดคงไม่พลาดข่าวเรื่อง 1MDB กันอย่างแน่นอน และทันทีที่เรื่องราวของกองทุนนี้ถูกจับจ้องจากทั่วโลก เราก็มีข่าวเกี่ยวกับ 1MDB ให้ตามอ่านไม่รู้จบ จนบางคนอาจสับสน ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจ เราจึงอยากแนะนำภาพยนตร์สารคดีเรื่องหนึ่งที่อาจทำให้เรารู้จักกับกองทุนฉาวโลกของประเทศมาเลเซียกันมากขึ้น แถมยังเป็นแบบย่อยง่ายกว่าการอ่านข่าวจากสำนักข่าว “โจราธิปไตย” การโกงชาติครั้งใหญ่ของชนชั้นปกครอง ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องกองทุน 1MDB หรือ 1Malaysia Development Berhad มีชื่อว่า The Kleptocrats (2018) แปลเป็นภาษาไทยอย่างตรงตัวว่า “โจราธิปไตย” การฉ้อราษฎร์บังหลวงของนักการเมือง ผู้มีอำนาจ และเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเพิ่มทรัพย์สินและอำนาจให้ตัวเอง โดยแสร้งว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นคือความสุจริตเพื่อประชาชน ซึ่งโจราธิปไตยนี้มักปรากฏขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาที่ถูกปกครองโดยระบบอำนาจนิยม เรื่องราวสุดอื้อฉาวของกองทุนความมั่นคงแห่งชาติของประเทศมาเลเซียที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 โดยรัฐบาลของนาจิบ ราซัก และกระทรวงการคลังคอยกำกับดูแล วัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนนี้คือเพื่อนำเงินมาพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศระยะยาว ทุ่มเงินไปกับอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน การท่องเที่ยวเพื่อสร้างกำไรกลับสู่ประเทศชาติ เดิมทีกองทุน 1MDB มีเงินตั้งต้นเพียง 7.5 ล้านบาท จากการกู้ยืมเงินของต่างประเทศโดยต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับประเทศเจ้าหนี้ แต่ตั้งมาเพียง 5 ปี กองทุนกลับมีเงินติดลบกว่า 5 พันล้านบาท โดยเหตุผลที่ทางรัฐบาลบอกกับประชาชนคือเพราะภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับต่างประเทศ ความไม่ชอบมาพากลนี้ทำให้หนังสือพิมพ์ชื่อดังของโลกอย่าง The
ถ้าพูดถึง ‘เซินเจิ้น (Shenzhen)’ ใครหลายคนคงลำดับภาพสินค้าก๊อบปี้จากหลากแบรนด์ดังทั่วโลกขึ้นมาในหัว แต่คนส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่าในช่วงสิบปีให้หลัง ภาพลักษณ์เก่า ๆ ของเมืองเซินเจิ้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมืองริมฝั่งตรงข้ามเกาะฮ่องกงเมืองนี้ไม่ได้เป็นเมืองแห่งการลอกเลียนเหมือนก่อน หากกลายเป็นเมืองนวัตกรรมและศูนย์กลางการออกแบบของจีนแผ่นดินใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากผลงานดีไซน์เจ๋ง ๆ จาก Shenzhen Design Week สองปีซ้อนที่ทำเอาคนทั่วโลกตกตะลึง เมืองเซินเจิ้นยังมีผลงานสถาปัตยกรรมเท่ ๆ ซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมือง และร้านอาหาร ‘Voisin Organique’ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานสถาปัตยกรรมภายในที่โดดเด่นไม่น้อยในเมืองนี้ Voisin Organique เป็นร้านอาหารจีนในเขตฟูเทียน (Futian) ที่เน้นเสิร์ฟอาหารจีนดั้งเดิมและจีนร่วมสมัยแบบ farm-to-table โดยมีวัตถุดิบหลักเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่ใช้สารเร่งโต รวมทั้งผักออร์แกนิกที่ไม่ได้ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรมหรือใช้ปุ๋ยเคมี ร้านนี้คือหนึ่งในผลงานการออกแบบของ Various Associates สตูดิโอออกแบบในเซินเจิ้นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์หลงทางในหุบเขาอันมืดมิด ทีมนักออกแบบจึงฉาบเพดานขึ้นสลับลงเพื่อเล่นกับความสูงชันต่างระดับ ตั้งใจดีไซน์สเปซออกมาให้คล้ายกับช่องว่างระหว่างหุบเขา โดยหวังว่าความต่างของความสูงจะดึงดูดผู้คนให้แหงนมองขึ้นไป สมทบด้วยแสงไฟสลัวที่สาดยาวลงมาจากด้านบน ราวกับแขกในร้านกำลังรับประทานอาหารจากก้นบึ้งของหุบเขา พื้นผิวภายในร้านตั้งแต่ผนังไปจนถึงฝ้าเพดานถูกเคลือบด้วยกระดาษฟอยล์สีเงินด้าน สร้างบรรยากาศสลัวรางที่ทำให้แขกรู้สึกเหมือนตนกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางสายหมอกที่คลุมเครือ จะชัดก็ไม่ใช่ จะเลือนรางก็ไม่เชิง ภายในร้านแบ่งเป็นโซนเลานจ์ ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวสุดกว้างขวางที่มีขนาดมากกว่า 100 ตารางเมตร โซนเลานจ์ดีไซน์เป็นบาร์เครื่องดื่มหรูมาคู่กับเก้าอี้สีแดงทรงสูง มีโต๊ะกลมคู่โซฟาสำหรับแขกที่มาเป็นกลุ่ม รวมทั้งโต๊ะไม้กลมติดกับหน้าต่างช่องเล็ก