Spoil Alert สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู Avengers: Infinity War หลายคนที่ไม่ได้เป็นแฟนบอย Marvel อาจจะเกิดความสงสัยว่าในฉาก End Credit ของ Avengers: Infinity War ก่อนที่ Nick Fury จะสลายไปเขาส่งข้อความหาใคร สัญลักษณ์ในเครื่องส่งข้อความนั้นหมายถึงอะไร วันนี้เราจะมา ไขข้อข้องใจกัน ไม่ต้องเกริ่นนำให้ยืดยาว เฉลยเลยละกันว่าสัญลักษณ์ในเครื่องส่งข้อความของ Nick Fury คือสัญลักษณ์ของ Captain Marvel ว่าแต่ Captain Marvel คือใครกันล่ะ? Who is Captain Marvel? ยอมรับว่าตัวละคร Captain Marvel เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายนัก ดังนั้นหลายๆคนถ้าไม่ได้เป็นแฟนคอมมิค Marvel จริงๆอาจจะงงและสงสัยว่าตัวละครนี้คือใคร โดดเด่น สำคัญยังไง ทาง Marvel Studio ถึงได้เลือกมาทำภาพยนตร์ เกี่ยวอะไรกับ Captain America หรือเปล่า วันนี้
การแชร์เพลงบนหน้า Newsfeed มันก็เหมือนเป็นการโชว์ไลฟ์สไตล์ของเราในรูปแบบนึง ไม่ว่าจะแชร์เพื่อแลกเพลงกันฟังกับเพื่อน เพื่ออัพเดตเพลงใหม่ ๆ หรือจะเป็นเหตุผลยอดฮิตอย่างแชร์เพลงในมู้ดตอนนั้นของเรา เหมือนอย่างตอนสมัย MSN ที่เรามักจะลิงก์กับโปรแกรม WindowMedia Player ให้โชว์ว่าเรากำลังฟังเพลงอะไรอยู่ นั่นก็ไม่ต่างกับการแชร์เพลงในตอนนี้เหมือนกัน ถ้าจะมัวมาแชร์บน Facebook มันก็น่าเบื่อไปแล้ว UNLOCKMEN จะพามาอัพเดตฟังก์ชั่นแจ่ม ๆ จาก Spotify ร่วมกับ Instagram จะเป็นอะไรนั้น มาดูกัน ใครที่ใช้ Spotify อาจยังไม่ทันสังเกตว่ามันมีฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในเมนู Share ของเรา เพราะปกติแล้วหากวันไหนเกิดครึ้มอกครึ้มใจอยากจะแชร์เพลงจาก Spotify ขึ้นมา เรามักจะ Copy URL หรือแชร์ลง Facebook กันแบบดื้อ ๆ ตามสไตล์ใครสไตล์มัน และอีกอย่างที่เห็นกันบ่อย ๆ คือ การ Capture หน้าจอตอนฟังเพลงใน Spotify แล้วเอาลง IG Story เพื่อเป็นการแชร์เพลงในมู้ดตอนนั้นของเราแบบชั่วคราว (ตามสไตล์ของ IG
ใครเป็นคอการ์ตูนญี่ปุ่น (มังงะ) คงคุ้นหูกับคำว่า Shonen Jump เป็นอย่างดี วันนี้ UNLOCKMEN ขออาสาพามารู้จัก Shonen Jump ให้มากขึ้น สำหรับใครที่ยังงง ๆ Sh0nen Jump คือนิตยสารการ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่น อยู่ในเครือสำนักพิมพ์ Shueisha เป็นนิตยสารที่รวบรวมการ์ตูนจากนักเขียนหลายคนมาอยู่ในเล่มเดียว โดยใน Shonen Jump นั้นก็แบ่งนิตยสารเป็นหลายหัวด้วยกัน มีทั้งตีพิมพ์รายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน โดย Shonen Jump ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1968 เป็นนิตยสารรายสัปดาห์ภายใต้ชื่อ Weekly Shonen Jump อย่างที่รู้กันว่า Shonen Jump เป็นต้นกำเนิดของการ์ตูนชื่อดังระดับตำนานมากมาย วันนี้จึงขอแนะนำ 10 การ์ตูนที่คิดว่าชาว UNLOCKMEN จะชื่นชอบให้ได้รู้จักกัน ส่วนชาว UNLOCKMEN คนไหนเป็นคอการ์ตูนเหล่านี้อยู่แล้วก็ถือว่าเป็นการย้อนความทรงจำไปในตัว Dragon ball ปีที่ตีพิมพ์ 1984-1995 จำนวนเล่ม 42 เล่มจบ
‘Atari’ พูดชื่อนี้ขึ้นมาวัยรุ่นยุคนี้อาจจะขมวดคิ้วไปตาม ๆ กันว่ามันคืออะไร แต่สำหรับคนที่เกิดในยุค 70 ต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะ Atari คือเครื่องคอนโซลเกมในยุคบุกเบิกเมื่อเกือบ ๆ 40 ปีก่อน ซึ่งถือว่าได้สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเกมในยุคนั้นอย่างมาก เนื่องจากในยุคนั้นเกมส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปแบบของตู้เกมอาเขตเสียส่วนใหญ่ Atari ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในช่วงแรก แต่ก็เหมือนบริษัทเกมส่วนใหญ่ เมื่อตามยุคสมัยไม่ทัน เครื่องคอนโซลรุ่นถัด ๆ มาจึงไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด จนในที่สุดชื่อของ Atari ก็หายไปจากสารบบวงการเกม แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เกิดข่าวสะเทือนวงการเกมครั้งใหญ่ เมื่อ Atari ประกาศกลับมาทำเครื่องคอนโซลเกมอีกครั้ง ในชื่อรุ่น ‘ATARI VCS Entertainment System’ การกลับมาในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อจะเอาใจคอเกมสาย Old School เท่านั้น แต่ ATARI VCS Entertainment System คือเครื่องคอนโซลเกมยุคใหม่ที่อาจจะเป็นก้าวมาเป็นคู่แข่งสำคัญของ 2 เครื่องคอนโซลของ 2 ค่ายอย่าง PS4 จาก Sony และ XBOX One จาก
ของฟรียังมีอยู่ในโลก แม้จะไม่ใช่ของอุปโภคบริโภคที่เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ แต่เป็น SOURCE รูปสวย ๆ ระดับ HD ให้เอาไปใช้กันแบบฟรี ๆ สำหรับชาวกราฟิกทั้งหลายที่ไม่อยากจะเปลืองโควตา Shutterstock มากนัก UNLOCKMEN ขอแนะนำ 15 เว็บไซต์ FREE SOURCE สำหรับรูปให้ได้ใช้กันยันชาติหน้า ใช้แต่ UNSPLASH กับ PEXELS จนเบื่อแล้วลองเปลี่ยนไปเว็บนี้ไปเว็บโน้น มันต้องได้จากสักเว็บนั่นแหละน่า Isorepublic เว็บนี้รูปอาจไม่เยอะมากนัก แต่ทุกรูปคุณภาพเน้น ๆ แบบแต่งมาแล้วเอาใช้ต่อได้แบบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย แถมยังสะดวกสบายด้วย Tag ที่ติดมากับรูป ช่วยแยกหมวดหมู่ของรูปให้ใช้ง่ายสบายบรื๋อ Burst (by Shopify) เว็บนี้ความเจ๋งคือแยกเป็นหมวดหมู่เหมือนกัน แถมยังมี Screenshot ให้ดูอีกด้วยภาพส่วนมากจะเป็นภาพ Close-Up หรือภาพระยะใกล้ซะมากกว่า แต่ก็เป็นภาพที่สวยแบบพร้อมใช้งานเหมือนกัน Gratisography ภาพฟรีสุดแนวแบบนี้ไม่ได้หาได้บ่อย ๆ รีบพุ่งตัวเข้าไปสูบแล้วกด BOOKMARK กันให้ไว เพราะยังมีภาพแนวนี้อีกมากที่รอให้เราไปค้นพบอยู่ ข้อดีของภาพแบบนี้คือมันมีสตอรี่ในตัวมันเอง สามารถเล่าเรื่องด้วยภาพได้แบบที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบภาพแนวนี้พอสมควร
ในวันที่โลกบังคับให้อายุของเราเดินหน้าขึ้นไปทุกวินาที จนบางครั้งเราทิ้งความสดใส ความเป็นวัยรุ่นเอาไว้ข้างหลัง เพียงเพราะคิดว่ามันใช้ไม่ได้กับเราในอายุตอนนี้แล้ว แต่อย่าได้ทิ้งมันไปทั้งหมด อย่าลืมเก็บความทรงจำวัยรุ่น ความแสบซ่า ที่มันเคยสร้างสีสันให้ชีวิตของเราแบบสุดขีดในตอนนั้น หากวันนี้รู้สึกว่าชีวิตมันแห้งเหี่ยวไม่มีไฟ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังที่จะมาปลุกไฟวัยหนุ่มในตัวคุณให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง ขอเสริมหน่อยว่า นี่ไม่ใช่การจัดอันดับหนังดี ซีรีส์ในดวงใจ ไม่ต้องน้อยใจไปถ้าซีรีส์หรือหนังในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ เพราะทั้งหมดนี้คือการแนะนำเหมือนเพื่อนชวนกันดูแค่นั้นเอง Almost Famous เรื่มต้นกันด้วยเรื่องราวของ วิลเลี่ยม เด็กหนุ่มผู้ไร้เล่ห์เหลี่ยมแต่เปี่ยมไปด้วย Passion ที่ต้องการเป็นนักข่าวสายดนตรีแบบเต็มตัว แม้จะอยู่ในวัยกระเตาะอยู่ก็ตาม เลยขอทำตามเสียงหัวใจตัวเองด้วยการติดตามวงดนตรีไปทัวร์คอนเสิร์ต ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขา จนเห็นชีวิตจริงของนักดนตรี ความเน่าเฟะที่เป็นเหมือนขยะใต้พรม ที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์สุดเท่ของวงดนตรี มันเจ๋งตรงที่เราจะได้เห็นเด็กหนุ่มที่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นคนอื่นที่เขาควรจะมี เหมือนเขาโดน Skip ช่วงนั้นไปเห็นภาพของชีวิตผู้ใหญ่เลย แต่เป็นภาพจริงที่อยู่ต่อหน้าเขา เหล้า ยา เซ็กส์ สารพัดสิ่งที่เขาไม่ควรได้เห็นเมื่ออยู่ที่บ้าน ใครที่มีชีวิตวัยรุ่นแบบไม่สมวัยสักเท่าไหร่ คงจะถูกใจเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย เพราะการประคับประคองตัวเองไม่ให้สติแตกเป็นเรื่องยากสำหรับเขาพอสมควรสำหรับวัยไร้เดียงสาอย่างวิลเลี่ยมและเราในตอนนั้น The Breakfast Club เรื่องราวของวัยรุ่นสุดวายป่วง 5 คนที่จำเป็นต้องมารวมตัวกันแบบงง ๆ เพราะโดนกักบริเวณด้วยกันในวันเสาร์ เรื่องราวของแต่ละคนก็เป็นเหมือนหนังวัยทีนทั่วไป เรื่องราวการใช้ชีวิตสุดแสนวุ่นวาย ทำอะไรไร้สาระบ้าบอ เพียงเพราะต้องการเป็นที่ยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้เห็นว่าสำหรับวัยรุ่นแล้ว
เป็นภาพชินตามาก ๆ ที่ชาวหัวร้อนมักจะแสดงออกด้วยท่าทีก้าวร้าวอย่างการตะโกน ตะคอก ทำลายข้าวของ แม้อยากจะเข้าใจพวกเขาแค่ไหน แต่เหตุผลหลัก ๆ ของพฤติกรรมก้าวร้าวพวกนี้ก็ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นนักหรอก นั่นเพราะเมื่อเผชิญกับปัญหาพวกเขาไม่ได้มีทางออกอื่นให้ทำนอกจากความก้าวร้าว ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย UNLOCKMEN จะพาไปทำความเข้าใจกับการรับมือคนพวกนี้แบบมือโปรดีกว่าไปขุดคุ้ยหาเหตุผล ซึ่งน่าจะไม่เป็นประโยชน์มากนัก 1. รุ่นใหญ่ใจนิ่งและไม่หัวร้อนไปกับเขาด้วย จำไว้ว่าเมื่อต้องเผชิญกับพฤติกรรมก้าวร้าว นั่นไม่ใช่ปัญหาของคุณเลย ความเดือดแม่งเป็นปัญหาของเขาเองที่จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไม่รู้จะแสดงออกยังไงจนต้องออกมาเป็นพฤติกรรมชวนยี้แบบนี้แหละ ถ้าเราไม่นิ่งพอหัวร้อนไปตามเขา เหมือนสาดน้ำมันลงกองไฟ ดีไม่ดีไม่ทันจะโดนไฟจากอีกคนหรอก เราเนี่ยจะโดนไฟบนหัวตัวเองคลอกเอาได้ ปล่อยให้เขาแหกปากไป เชื่อเหอะว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างแรกต้องมีสติก่อน หากใจนิ่งมากพอลองคุยกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ ไม่แซะกระแนะกระแหน ให้ใจเย็นทั้งคู่ก่อนแล้วค่อยเคลียร์ก็ยังทัน 2. อ่านสถานการณ์ให้ขาด ก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ลองพิจารณาถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น สถานที่ บุคคลที่เราทะเลาะด้วย ถ้าเราโดนตะคอกจากคนแปลกหน้าที่เรา Don’t Give A F*ck เราก็แค่เดินหนีไม่ต้องไปสนใจอะไรกับคนที่ไม่มีผลต่อชีวิตของเรา แต่ถ้าโดนหัวหน้าตะคอก การเดินหนีคงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก มันยิ่งทำให้หัวหน้าหัวเสียและอาจจะส่งผลถึงหน้าที่การงานของคุณได้ ต้องมองให้ออกว่าคนแบบไหนควรรับมือยังไง เราไม่สามารถเอาไม้บรรทัดเดียวมาตัดสินทุกสถานการณ์ได้ 3. อย่าไปเข้าข้างให้เขาได้ใจ ถ้าเราใช้วิธีเข้าข้างอีกฝ่ายเมื่อเขาโมโหเพื่อให้เขาใจเย็นลง
ลองนึกถึงครั้งสุดท้ายที่คุณซื้อของที่อยากได้มาก ๆ สักชิ้นดูสิ แล้วหลังจากซื้อมาได้นั้นรู้สึกยังไง ? แน่ล่ะ มันก็ต้องรู้สึกดีใช่มั้ยล่ะ แล้วถ้าตอนนี้มีของที่อยากได้อีกล่ะ ? ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ เสื้อผ้า หรือ PS4 เอาไว้ผ่อนคลายในวันหยุด เอาสิ อยากได้อะไรก็ซื้อเลย จะอะไรก็ช่าง ถ้ามันนำความสุขมาให้คุณและคุณก็มีเงินเหลือมากพอสำหรับมันด้วย แม้ผู้ชายอย่างเราจะได้ยินมาจนหูแทบชาว่า “เงินซื้อความสุขไม่ได้” แต่เราดันรู้สึกมีความสุขเมื่อได้ซื้อของที่อยากได้น่ะสิ ตกลงความสุขนี่มันซื้อได้มั้ยวะ ? UNLOCKMEN จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน ล้วงลึกเหตุผลที่ทำให้เรามีความสุขแม้แต่ตอนเสียเงิน มนุษย์เรามักจะไขว่คว้าหาความพึงพอใจแบบสำเร็จรูปที่ได้มาง่ายและเร็วกันอยู่แล้ว คุณอาจจะเคยได้ยินพวกคำคมเกี่ยวกับความสุข เงิน สิ่งของ นู่นนี่สลับกันไปมาเยอะแล้ว การที่เราจะได้อะไรมา เราจะจดจำความรู้สึกของวินาทีนั้นไว้ ในวันที่ความสุขแบบสำเร็จรูปกลายเป็นความต้องการส่วนหนึ่งตามธรรมชาติของมนุษย์ เรากลับอาศัยอยู่ในสังคมที่ไม่ได้หาความสุขจากการจับจ่ายซื้อของมาได้ง่ายนัก เราต้องรอวันเงินเดือนออก เพื่ออาหารจานโปรด เพื่อกาแฟไฮเอนด์สักแก้ว หรือพรีออเดอร์ของเล่นสักชิ้น พอเราได้มันมา จึงเหมือนเราได้เติมความพึงพอใจให้ตัวเอง ความตื่นเต้นเมื่อเราได้สิ่งของที่อยากได้มา ยิ่งสร้างความพึงพอใจให้เราและมันทำให้ร่างกายของเราหลั่ง Dopamine ออกมามาก เราเลยรู้สึกวูบวาบ ใจเต้นแรง จริง ๆ แล้วนั่นหมายความว่าเรารู้สึกตื่นเต้นไปกับ Dopamine ก่อนที่จะตอบสนองกับสิ่งกระตุ้นอย่าง Fancy Things
ช่วงนี้ฝนกระหน่ำจนแยกไม่ออกว่านี่คือพายุหรือมันเข้าหน้าฝนแล้วกันแน่ แต่ยังไงก็เหอะ พอพ้นเดือนแห่งความร้อนระอุอย่างเมษายนไป เข้าเดือนพฤษภาคมที่อยู่ในช่วงฤดูฝนแล้ว หลายคนอาจจะยังปรับตัวไม่ทันกับสภาพอากาศ หรือไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนทั้งเดือนทั้งฤดูแล้ว UNLOCKMEN ชวนมาฟัง 10 เพลงที่คัดมาให้ เอาไว้ฟังช่วงที่กำลังเปลี่ยนฤดูแบบนี้ เหมือนกับชีวิตของเราที่มักจะเปลี่ยนไปมาอยู่เสมอ ก็แน่ล่ะ ใครมันจะมีชีวิตแบบเดียวไปตลอด เตรียมพร้อมฟังและเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน สำหรับใครที่สะดวกฟังผ่านทาง Spotify สามาถ Follow Playlist นี้ได้ ที่นี่ แต่บางเพลงใน Spotify อาจจะมีไม่ครบต้องขออภัยด้วย ยังไงสามารถหาฟังให้ครบได้ใน Youtube Two Door Cinema Club – Changing of the Seasons PARADOX – ฤดูฝน Flure – ฤดูที่ฉันเหงา POLYCAT – เป็นเพราะฝน Bruno Mars – It Will Rain FRIDAY – เปลี่ยนไปทุกอย่าง Lonely Lego
ชีวิตที่ราบเรียบไร้อุปสรรคคงเป็นชีวิตในอุดมคติที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมี แต่เพราะชีวิตจริงเราไม่สามารถมีชีวิตแบบนั้นได้ เรามีทั้งอุปสรรค ทั้งความกล้า ความกลัว สารพัดความรู้สึกที่เราต้องงัดออกมาสู้เมื่อต้องเผชิญกับความกลัวที่มีต่ออุปสรรคของชีวิตหรือความกลัวอะไรก็ตามที่เข้ามากระทบกับความรู้สึกของเรา UNLOCKMEN จะพามาชำแหละความกลัวและแนะแนวทางว่าจะสู้หรือจะหนีตามสไตล์ของแต่ละคน เมื่อคุณรู้สึกกลัวขึ้นมา ต่อมทอนซิลของคุณจะตอบสนองกับอาการกลัว และการตัดสินใจว่าจะสู้หรือจะหนี มันจะส่งสัญญาณไปที่ต่อม hypothalamus ที่ตอบสนองกับข้อมูลที่เรารับมาจากสมอง มันทำงานร่วมกับระบบประสาท มันเลยทำให้เรารู้สึกกลัวเวลาเราตกอยู่ในอันตราย เรามักจะตอบสนองสัญญาณของความกลัวในสองรูปแบบคือ “สู้หรือถอย” เมื่อคุณถือไพ่เหนือกว่า คุณตัดสินใจได้แบบทันที แทบไม่ต้องหยุดคิดด้วยซ้ำ สมองจะบอกให้คุณอยู่ต่อและสู้กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า หลุมพลางของการหลีกหนี เมื่อร่างกายตกอยู่ในอันตราย สมองจะสั่งให้คุณหนีโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ การหนีไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เพราะมันคือการรักษาชีวิตของเราโดยสัญชาตญาณ คนที่เลือกหนีเขามักจะยอมแพ้ได้ง่ายตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของปัญหา และข้ามไปแก้ปัญหาอื่น ๆ แทน (เพราะรู้ว่าอันนี้ตัวเองแก้ไม่ได้) เหมือนคนที่วิ่งหนีปัญหายาก ๆ เพราะคิดว่าตัวเองจะจัดการกับมันไม่ได้ เราอาจจะกลัวจนอยากจะหนีกับสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ หรือบอกตัวเองว่าไม่สามารถข้ามผ่านเรื่องราวยาก ๆ เหล่านั้นได้ เมื่อคิดแบบนี้ความเฟลนอนรอเราอยู่ข้างหน้าแน่นอน เพราะเมื่อคุณไม่เชื่อว่าตัวเองสามารถทำได้ คุณก็ไม่อยากสู้ ไม่รู้จะเอาพลังที่ไหนมาผลักดันศักยภาพตัวเองให้ออกมาเต็มที่ อย่าให้การเผชิญหน้าเป็นแค่ทางเลือก คุณอาจมีแรงกระตุ้นให้วิ่งหนีบางสิ่งเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างที่บอกไปข้างต้น แต่เราสามารถเปลี่ยนความคิดตัวเองได้ ถ้าหากต้องเผชิญกับเรื่องยาก ๆ อีกในครั้งต่อไป ลองบอกตัวเองให้สู้ ปลุกตัวเองด้วยพลังบวกแทนที่ความคิดลบ ๆจากข้างในว่าตัวเองทำไม่ได้