เทรนด์ดีไซน์ก็ไม่ต่างอะไรกับเพลงและแฟชั่นที่ทุกอย่างมันจะวนกลับมาฮิตใหม่อยู่เสมอ ของสุดเชยในวันนั้นคือของโคตรเจ๋งในวันนี้ ผู้ชายอย่างเราเลยไม่อาจตัดสไตล์ไหนทิ้งได้เลยและยังจำเป็นต้องอัปเดตเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้งานของเราออกมาเกาะกระแสและขายได้นั่นเอง UNLOCKMEN จะพามาเกาะกระแสเทรนด์ดีไซน์ปี 2018 มาดูกันว่าผ่านมาหนึ่งไตรมาสของปีแล้วมีเทรนด์อะไรเข้ามาบ้างและอะไรที่จะยังคงอยู่ยาว ๆ ไปทั้งปี Gradient จริง ๆ เคยพูดถึงเทรนด์นี้ไปแล้วใน ทำความรู้จักกับ “Gradients” เทรนด์ดีไซน์มาแรงแห่งปี ละเลงสีแบบไม่ซ้ำใคร แต่จะมาอัปเดตภาพรวมให้ฟังเพราะเทรนด์นี้มันช่างมาแรงแบบหยุดไม่อยู่จริง ๆ แบรนด์ใหญ่หลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มเอาเทคนิคนี้มาใช้กับ Artwork ของตัวเอง อย่าง iPhone X ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจนที่หันมาจับเทคนิคนี้มาใช้และออกมาสวยสะดุดตาไม่ใช่น้อย จุดเด่นของมันก็คงจะเป็นการจับคู่สีได้ตามใจชอบ ไม่จำเป็นต้องเลือกสีใดสีหนึ่ง หรือสีที่ใกล้เคียงกัน ก็สามารถทำให้งานออกมาสวยสะดุดตาได้ไม่แพ้กัน และก็สามารถแทรกมันเป็นสีของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น พื้นหลัง ส่วนประกอบ หรือแม้แต่ตัวหนังสือก็ทำได้ การพัฒนาของ LOGO โลโก้มักจะเป็นที่จดจำของผู้บริโภคเสมอ ความเป็นเอกลักษณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญของแบรนด์ที่ต้องให้โลโก้ติดตาผู้บริโภคให้ได้ และนึกถึงแบรนด์นี้ทุกครั้งที่ต้องการสินค้า แต่เมื่อกระแสของงานดีไซน์เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โลโก้ที่แม้จะเคยเป็นที่ติดตาของคนรุ่นเก่ามานานก็ต้องเปลี่ยนไปเพื่อปรับตัวไปตามเทรนด์เพื่อกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น แม้ว่าโลโก้จะถูกลดทอนลง แต่สิ่งสำคัญคือมันเป็นที่จดจำง่ายขึ้น Flat ภาพจาก Page 1001 nights editions เมื่อความเรียบง่ายคือนิยามของ “น้อยแต่มาก” ภาพ Flat
เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาคอซีรีส์ได้ฮือฮากับซีรีย์เนื้อเรื่องเข้มข้น บีบหัวใจ กันไปแล้ว กับเรื่อง MINDHUNTER ที่ได้ผู้กำกับฝีมือเฉียบคมอย่าง David Fincher มาร่วมกำกับ ที่ใครเป็นแฟนฟินเชอร์รับรองว่าจะได้กลิ่นอาย Signature ของฟินเชอร์แบบเต็ม ๆ ไม่ว่าจะจับทางจอแก้วหรือจอเงินก็ยังคงความเฉียบคมของเขาไว้ได้แบบน่าทึ่งเสมอ เราอาจจะตื่นเต้นกับความเข้มข้นของเนื้อเรื่องมามากแล้ว และกำลังนั่งรอซีซั่นใหม่กันอยู่ ระหว่างนี้ UNLOCKMEN ขอพาไปดื่มด่ำกับบทเพลงเจ๋ง ๆ ที่แทรกอยู่ในทุก EP ของเรื่องนี้กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเพลงตอน Intro ตอน End Scene หรือแม้แต่เพลงที่แทรกอยู่ในเรื่อง มัน Flow ไปกับตัวเนื้อเรื่องได้แบบแนบเนียนเหมือนทำมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ หากใครสะดวกฟังใน Spotify เพลงทำ Playlist ไว้ให้แล้ว ที่นี่ ทำความรู้จักกับ MINDHUNTER เรื่องราวของเจ้าหน้าที่ FBI ที่ต้องตั้งกลุ่มพิเศษขึ้นมาเพื่อศึกษาพฤติกรรมและความคิดของฆาตกร คดีที่โหดเหี้ยมและคดีต่อเนื่อง เพื่อหาหลักเกณฑ์ออกมาเพื่อเป็นแนวทางในการทำคดีต่อ ๆ ไป ซึ่งทำให้เขาต้องคลุกคลีและใช้เวลาอยู่กับฆาตกรเหล่านั้น เพื่อให้ตัวเองได้ไปสัมผัสถึงจิตใจของฆาตกรเพื่อล้วงเอาเหตุผลที่ก่ออาชญากรรม แค่เนื้อเรื่องก็เข้มข้นชวนติดตามขนาดนี้แล้ว และยังได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง David Fincher ที่เคยฝากผลงานแนวทริลเลอร์สืบสวนนี้ไว้ในเรื่อง Zodiac
ออกไปตะลุยวันสงกรานต์กันแบบยาว ๆ มาทั้งวันแล้ว ตอนได้ปะแป้งส่องสาว แหกปากเมาโวยวายกับเพื่อนมันก็สนุกอยู่หรอก แต่พอกลับบ้านมาเหมือนร่างกายจะแหลก แทบจะล้มตัวนอนตั้งแต่เห็นรั้วบ้าน แต่อย่าได้ทำอย่างนั้นเป็นอันขาด UNLOCKMEN ขอแนะนำทริกดี ๆ ให้หนุ่ม ๆ ได้ดูแลตัวเองแบบง่าย ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าม้วนเดียวจบ ถอดเสื้อผ้าเปียกให้ไวที่สุด อย่ามัวยืนแช่ให้ตัวเปื่อยไปมากกว่านี้ อยู่ในชุดเปียกนี่มาทั้งวันแล้ว ขืนยังลีลาโอ้เอ้ไม่ยอมถอดออกคุณจะป่วยเอาได้ อีกอย่างคือน้ำที่โดนสาดมานั้นสารพัดแหล่งที่มา ไม่รู้เลยว่าไปตักกันมาจากไหนบ้าง คุณอาจจะกำลังสวมเสื้อเปียกน้ำคลองสักที่อยู่ก็ได้ อย่ามัวยืนหมักหมมเชื้อโรคไว้ในตัว อย่าคิดจะโยนผ้าเปียกลงตะกร้าเลยเชียว รีบถอดแล้วแขวนให้มันแห้งเสียก่อนที่จะเอาไปซัก อาบน้ำแบบความไวแสง ถ้าจะให้ดีควรเป็นน้ำอุ่น (ย้ำอีกทีว่าอุ่น ไม่ร้อนจนควันขึ้น) คราบแป้ง คราบสกปรกต่าง ๆ ที่แห้งติดอยู่บนตัวและเส้นผมของเราจะหลุดออกได้ง่ายขึ้น ช่วยปรับอุณภูมิร่างกายให้กลับมาใกล้เคียงกับปกติ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่แสนจะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน (ก็ตอนเดินจับแก้มสาวก็ลืมเหนื่อย ทำไงได้) อย่าลืมใช้ Conditioner หลังสระผม จริง ๆ จะสระผมเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากตัวเปียกอีกแล้วเอาไว้ค่อยสระตอนอาบน้ำครั้งต่อไปก็ยังทัน และจะได้มีเวลาใช้ครีมนวดผมให้ผมกลับมาพริ้วไหวเหมือนขนโกลเด้นอีกครั้ง เพราะพวกคราบแป้ง กับการที่เราผมเปียก แล้วปล่อยเซอร์แห้งเอง แล้วกลับมาเปียกซ้ำไปมาแบบนี้ ทำให้ผมแห้งเหมือนลงไปเล่นน้ำในสระมายังไงอย่างงั้น แม้ว่าปกติจะไม่เคยใช้ครีมนวดเลยก็ตาม แต่สงสารสุขภาพเส้นผมที่ออกไปเผชิญโลกกว้างกับคุณสักนิด เพราะแชมพูช่วยแค่ทำความสะอาดเท่านั้น ส่วนการบำรุงต้องยกให้ครีมนวดนั่นแหละ
เห็นสี่สาวสุดแนวบนปกมาแบบนี้ พวกเธอไม่ใช่เกิร์ลกรุ๊ปแต่อย่างใด แต่พวกเธอเป็นวง Art Rock ที่เราอยากแนะนำให้ชาว UNLOCKMEN ได้รู้จัก แม้ว่าคอเพลงอินดี้หลายคนอาจคุ้นหูคุ้นตากับพวกเธอกันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เราจะให้ทุกคนได้มาสัมผัสและเข้าใจความเป็น Art Rock ของพวกเธอ และมาตกหลุมรักพวกเธอไปพร้อมกัน ใครที่เป็นแฟนเพลงของพวกเธออยู่แล้ว ข่าวดีคือเตรียมพบกับพวกเธอในบ้านเราได้เร็ว ๆ นี้ เพราะเธอจะบินมาเล่นเปิดให้กับ Harry Style ในคอนเสิร์ต “Harry Styles Live On Tour” ที่จัดโดย BEC-TERO พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ WARPAINT วันจันทร์ ที่ 7 พฤษภาคม 2561 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี About Art Rock ก่อนจะไปเจาะลึกเรื่องราวของสาว ๆ ทั้งสี่คน ขอแนะนำเกี่ยวกับแนวเพลง “Art Rock” ของพวกเธอสักเล็กน้อย เอาแบบเข้าใจง่ายในพารากราฟเดียว คือดูชื่อก็พอเดาออกแล้วว่ามันเป็นแขนงหนึ่งของแนวเพลง Rock แม้ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่แต่มันมีมาตั้งแต่ยุค 70’s แล้ว ความพิเศษอยู่ตรงที่เสียงดนตรีแนวนี้ ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อการฟังแบบดีพ
วันหยุดยาวแบบนี้คนเหงาหลายคนคงได้กลับไปบ้านเกิดหรือบ้านที่รวมญาติ ๆ แบบพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากทักทายหน้าชื่นตาบานกันเรียบร้อยแล้ว พอถึงโหมดพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบ มีหรือที่จะพลาด ยังไงก็ต้องโดนยิงคำถามชีวิตส่วนตัวอย่างแน่นอน วินาทีที่โดนคำถามแม่งโคตรเคว้งคว้าง หันไปขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้ เหมือนสปอตไลต์ส่องลงมาที่เราคนเดียว วันนี้ UNLOCKMEN ชวนมาหลบหลีกและตอบคำถามจากญาติผู้ใหญ่แบบมือโปร แม้ว่าคำถามเหล่านั้นจะแทงใจแค่ไหนก็ตาม มีอะไรบ้าง ไปดูกัน มีแฟนหรือยัง ? หากมีคนรู้ใจแล้ว ก็คงไม่เป็นปัญหาที่จะบอกอย่างภาคภูมิใจแบบเต็มเสียงว่า “มีแล้วครับ” พร้อมเปิดรูปโชว์ความน่ารักของสาวแบบยืด ๆ แต่ถ้าไม่มีล่ะ อันนี้สิปัญหา เพราะมันจะตามมาด้วยคำถามที่ว่า แล้วเมื่อไหร่จะมี ? ถ้าจะให้ตอบจริง ๆ ก็คงจะเป็น “ไม่รู้ครับ น่าจะไม่มีใครเอา” แต่ตามมารยาทเราตอบแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้วล่ะ เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ เฉไฉไปว่าตอนนี้กำลังโฟกัสเรื่องงาน เพราะการงานมันช่างราบรื่นซะเหลือเกิน จนไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น ช่างเป็นคำตอบที่ดูหล่อขึ้นมา 5 คะแนนซะจริง ๆ เพราะดูเหมือนว่าแม้ความรักจะยังว่างแต่ส่วนของการงานนั้นเราไปได้สวย (ถึงความเป็นจริงจะเกลียดวันจันทร์ขนาดไหนก็ตาม) เมื่อไหร่จะแต่งงาน ? หากข้อแรกนั้น คุณตอบไปว่ามีคนในใจแล้ว คำถามคอมโบที่ยังไงต้องตามมาจากคำถามแรกแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คงจะเป็นคำถามนี้นี่แหละ เช่นเคย ถ้าคุณมีแพลนในใจแล้วมันคงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้าหากคุณยังไม่มีแพลนจะแต่งงานคงกระอักกระอ่วนพิกล ที่จะบอกว่าแฟนคนนี้ยังไม่ใช่ หรือไม่คิดจะแต่งงานกับคนนี้ รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง
คุณคิดว่าคนเราขาดเสียงเพลงได้ไหม ไม่ต้องรีบร้อนตอบ แต่อยากให้คุณนึกดีว่าวันๆ หนึ่งที่คุณใช้ชีวิต มีไหมที่คุณไม่ได้ฟังเพลง
วันสงกรานต์ก็จะมีคนอยู่สองประเภท คือ ออกไปเล่นน้ำ กับ นอนเปื่อยอยู่ที่ไหนสักที่ หากคุณคือประเภทหลัง มากองรวมกันตรงนี้ เขยิบเข้ามาชิด ๆ กันหน่อย เพราะวันนี้มันก็ใกล้จะฮัลโลวีนเข้ามาทุกที UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังสยองขวัญต้อนรับคืนเฮี้ยน ปิดไฟให้มืด เตรียมผ้าห่มให้พร้อม เตรียมสติของคุณให้ดี แล้วเริ่มดูไปพร้อมกัน Bram Stoker’s Dracula (1992) หนังสยองขวัญสุดคลาสสิกที่ยังคงความสยองขวัญข้ามกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้ หยิบมาดูกี่ทีก็ยังคงขนลุกในบรรยากาศที่ชวนให้มองซ้ายมองขวาอยู่ตลอด เนื้อเรื่องนั้นก็ยังเบสออนเรื่องราวของเคาต์แดร็กคิวล่าเหมือนเช่นเรื่องอื่น แต่ความพิเศษคือ เรื่องราวโรแมนติกที่สอดแทรกเข้าไปในเส้นเรื่องได้อย่างแนบเนียน และเป็นปมที่คอยขับเคลื่อนให้ตัวละครเรื่องนี้เดินหน้าต่อ ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เป็นหนังรักแต่อย่างใด เมื่อดูเรื่องนี้จบ แล้วอาจจะเปลี่ยนมุมมองต่อตัวละครแดร็กคิวล่านี้ไปเลยก็ได้ The Shining (1980) หากใครยังไม่มีโอกาสได้ดูเรื่องนี้ เราขอแนะนำเรื่องนี้แบบติดดาว เนื้อเรื่องคร่าว ๆ ก็คือเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง พ่อ แม่ ลูกชายตัวน้อย ย้ายไปเฝ้าโรงแรมห่างไกลแห่งหนึ่ง โดยตัวเอกผู้เป็นพ่อถือโอกาสพาครอบครัวมาพักร้อน และให้ตัวเองได้ทำงานเขียนของตัวเอง แต่โรงแรมเจ้าปัญหานี้กลับมีเรื่องลึกลับโผล่มาให้พวกเขาต้องหวั่นใจเรื่อย ๆ จนนาทีสุดท้ายเรื่องราวก็เหมือนแย่ลงไปทุกที มาดูกันว่าครอบครัวที่ตั้งใจจะมาพักร้อนนี้จะได้พักร้อนอย่างที่เขาตั้งใจจริงหรือไม่ บอกกันตรง ๆ ก็คือมันไม่ใช่ผีตุ้งแช่ ผีเละเทะ อะไรทำนองนั้นเลย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในเรื่องคือบรรยากาศ
“คนชอบเก็บแผ่นหนังมือสองเยอะมาก แต่มีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่จะสะสมโปสเตอร์ด้วย” คำพูดจากเจ้าของร้านโปสเตอร์ย่านสยามที่คอหนังหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีเมื่อเดินผ่านไปมาแถว ๆ ลิโด้ สะกิดใจให้นึกถึงความเป็นจริงในตอนนี้ หลายคนแม้ว่าจะชอบดูหนัง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสะสมโปสเตอร์ไปด้วย ของสะสมเกี่ยวกับภาพยนตร์ในทุกวันนี้มีออกมาหลายรูปแบบมากกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็น แผ่น BOXSET เสื้อ ฟิกเกอร์ หรือจะเป็นของสะสมจากโรงภาพยนตร์ จนโปสเตอร์กลายเป็นเพียงใบปิดโฆษณาหน้าโรงหนังเท่านั้น วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาพูดคุยกับคุณ “สันติ ตันติภัณฑรักษ์” เจ้าของร้านโปสเตอร์หนังที่ชื่อ “หนังคลาสสิค” ถึงความเป็นมาเป็นไปของร้านและความยากที่จะต้องทำให้ของสะสมชนิดนี้ยังยืนหยัดอยู่ได้แม้โลกจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแค่ไหนก็ตาม ร้านนี้เปิดในปีเดียวกับที่ภาพยนตร์เรื่อง “Titanic” ได้รางวัล “Best Picture” คือปี 1997 หรือพ.ศ. 2540 และยังคงดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบันนี้ ถือว่าเป็นเวลานานมากสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจแรกในชีวิตของใครสักคน ใช่แล้ว นี่เป็นการหันมาจับธุรกิจครั้งแรกของพี่ติ เจ้าของร้าน ก่อนจะมาเป็นร้านโปสเตอร์ “ชีวิตก่อนจะมาเปิดร้านนี้เนี่ยค่อนข้างหนักหนามาก ตอนทำงานประจำตอนนั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายศิลป์บริษัทนึงแล้วโดนซื้อตัวไปอีกที่นึง เลยซื้อบ้านใหม่ ลงทุนไปกับบ้านแปดแสน แต่เป็นแปดแสนในสมัยนั้นนะ ลองคิดดู พอเดือนเมษายนผมโดนออกจากงาน เลยต้องทิ้งบ้านหลังนั้นไป เพราะมันเป็นภาระ ได้เงินเดือนสี่เดือนที่เขาจ้างออกมาเป็นทุนทำร้านนี้นี่แหละ” จุดเริ่มต้นที่ทำให้หันมาเปิดร้านโปสเตอร์ “ปี 40 เป็นปีที่เกิดวิกฤติในประเทศไทย บริษัทล้มละลาย ธุรกิจเจ๊ง คนต้องออกจากงาน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เราก็เรียนมาแค่ปวช. แต่เรารู้ว่าเราชอบดูหนัง ชอบเก็บโปสเตอร์หนัง
ถึงเวลาได้พักยาวแบบนี้การได้ไปเที่ยวไกล ๆ กับคนรู้ใจ แก๊งเพื่อน หรือครอบครัวก็เป็นตัวเลือกยอดฮิตที่หนุ่ม ๆ หลายคนวางแพลนกันได้ตั้งแต่ก่อนวันหยุดจะมาถึงเสียอีก ขับรถไกล ๆ นอกจากจะต้องระวังเรื่องเมาไม่ขับแล้ว ง่วงก็อย่าเพิ่งขับ ผลัดเปลี่ยนกับเพื่อนขับบ้างก็ได้ แต่ใครมีดนตรีในหัวใจก็ลองเอาเพลย์ลิสต์นี้ไปฟังแก้ง่วงกันแบบยาว ๆ 20 เพลงที่ UNLOCKMEN คัดมาให้แบบเน้น ๆ รับรองว่าตื่นตลอดการเดินทางแน่นอน ถ้าหากใครใช้ Spotify เราจัดเพลย์ลิสต์ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เรียงตามนี้เป๊ะ ตามไปฟังกันเพลิน ๆ ได้ ที่นี่ Simple Plan – Summer Paradise ft. Sean Paul The Neighbourhood – Flowers The Neighbourhood – Scary Love Arctic Monkeys – Why’d You Only Call Me When You’re High?
หากรู้สึกว่าช่วงนี้กำลังหมดไฟ หรือโหมงานหนักจนคนรอบข้างทักว่าเราเปลี่ยนไป นั่นอาจเป็นเพราะเรามีบางอย่างเปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัด ถึงขนาดคนอื่นยังรู้สึกได้หรือเปล่า ? ถ้ามันหนักหนาขนาดนั้น แล้วทำไมเราไม่ลองสังเกตตัวเองดูบ้างล่ะ UNLOCKMEN จะพามาสำรวจตัวเองกับ 5 สัญญาณเตือนว่าเราควรหาเวลาพักให้ตัวเอง ลองดูกันว่าถึงเวลาที่จะให้ตัวเองพักผ่อนแบบจริงจังได้หรือยัง สิ่งที่ทำให้มีความสุข มันใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป คุณต้องลองเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้ว ถ้าหากสิ่งที่คุณเคยแฮปปี้กับมันมาก ๆ และไม่คิดว่าจะเบื่อมันง่าย ๆ หรืออะไรที่เคยทำให้คุณกลับมาอยู่ในมู้ดดี ๆ มันไม่ช่วยคุณแบบที่เคยเป็นมาอีกต่อไป มันหมายรวมถึงทุกอย่างในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นงานอิดเรกที่คุณชอบ สัตว์เลี้ยงตัวโปรด ร้านเบียร์สุดชิล มุมหลบพักไว้เลียแผลใจในร้านประจำของคุณ กับข้าวโปรดร้านดัง ถ้าคุณเคยทำสิ่งเหล่านั้นแล้วมีความสุข ช่วยให้แต่ละวันของคุณมีความหมาย ช่วยให้คุณอยากตื่นขึ้นมาทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่มันกลับกลายเป็นอะไรที่น่าเบื่อ กลายเป็นวันเนือย ๆ อีกวันนึง ลองทดข้อนี้ไว้ในใจ ว่าคุณเจอแล้วหนึ่งสัญญาณ นอนไม่หลับ / หลับไม่สนิท บางครั้งความกังวลใจ ความเครียด มันมาแบบเราเองก็ไม่รู้ตัว บางคนก็เครียดเป็นปกติจนไม่รู้ว่าตัวเองเครียด หรือบางคนเป็นคนมองโลกในแง่ดี อาจจะคิดว่าตัวเองไม่ได้เครียดหรอก แค่อารมณ์ไม่ดีไปบ้างแค่นั้น แต่สิ่งที่เรารู้ตัวแน่นอนคือการนอนของเรา ความเครียดนั้นส่งผลต่อการนอนหลับของเราโดยตรง ไม่ว่าจะมีเรื่องกังวลใจก่อนนอน หรือสะสมมาทั้งวันก็ตาม อาจทำให้เรานอนไม่หลับ มาหลับในตอนเช้า นอนได้น้อย