หลังจากที่ GoPro HERO 7 BLACK ครองคะแนนความนิยมในตลาดกล้องแอ็กชันอย่างถล่มทลาย ฝั่ง GoPro ก็รีบส่งทายาทตัวล่าสุด ‘GoPro HERO 8 BLACK’ ออกมาให้หนุ่ม ๆ สาย gadget ต้องหนักใจอีกครั้ง แม้รูปลักษณ์จะแทบไม่ต่างจากรุ่นก่อนมากนัก แต่ถูกเคลมมาว่ามีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในบรรดากล้องแอ็กชันทั่วโลก นอกจากกล้องแอ็กชันตัวใหม่นี้จะมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 14% ยังมีงานดีไซน์ที่เพิ่มขาล็อกอุปกรณ์เสริม (Built-In Mounting) และยกความระดับความทนทานของเลนส์กล้องให้มากกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า แถมยังใช้เลนส์ดิจิทัลที่สามารถปรับเป็นเลนส์ Narrow, Linear, Wide และ SuperView ได้อีกด้วย GoPro HERO 8 BLACK รุ่นนี้ยังคงความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และถ่าย 1080 ได้ที่ 240 เฟรมต่อวินาที ทั้งยังอัปเดตฟีเจอร์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะ HyperSmooth 2.0 ระบบกันสั่นอัจฉริยะที่ช่วยให้จับภาพได้นิ่งและแม่นยำ ผู้ใช้สามารถกด
“ไก่” ถ้าทอดมาร้อน ๆ หนังกรอบ ๆ กลิ่นหอม ๆ เคี้ยวนุ่ม ๆ ไม่แห้ง รสไม่ชืดเป็นกระดาษ ยังไงก็ต้องยกให้เป็นหนึ่งในเมนูประจำโต๊ะของผู้ชายทุกคน เพราะเมนูนี้มันกินแกล้มกับเบียร์ง่าย หรือถ้าอยากกินจริงจัง ซื้อข้าวเปล่าสักถุงมากินด้วยกันก็รู้สึกว่าอิ่มท้องพอดี ทันทีที่รู้ว่า Lido Connect มีไก่ทอดไต้หวันร้านใหม่ชื่อ “Oh sh_t not you again” มาเปิด แถมเป็นสูตรของเชฟหลิน กั๋ว เหวิน (Lin Kuo Wen) เชฟระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาวจากไต้หวันเป็นคนคิดค้น UNLOCKMEN จึงไม่พลาดมาพิสูจน์รสชาติถึงที่ และแน่นอนว่างานนี้ต้องได้คุยกับเชฟเจ้าของสูตรแบบ Exclusive ก่อนใครด้วย ใช่ นี่คือเชฟ Lin Kuo Wen เชฟมิชลินตัวเป็น ๆ เจ้าของสูตรตัวจริง ไม่ใช่สแตนดี้หน้าร้าน ที่มาหมัก ทอด หั่น โรยสูตรความอร่อยจากไต้หวันให้เรากินก่อนและเผยความพิเศษของสูตรให้เรารู้ “ผมใช้เวลา 18 ปีฝึกฝนตัวเอง
หากคุณเป็นคอเพลงสาย Industrial rock เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Nine Inch Nails หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า NIN วงดนตรีแถวหน้าจากอเมริกัน ที่มาพร้อมเพลงซาวด์หนัก ๆ ระดับดุเดือดเลือดพล่าน โดยมี ‘เทรนท์ เรซเนอร์’ (Trent Reznor) เป็นมันสมองและสมาชิกหลักคนเดียวของวง เขาคือชายผู้เคยถูกนิตยสาร Time ยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลกจากความอัจฉริยะรอบด้าน ในระดับหาตัวจับยาก ดนตรี Industrial rock แท้จริงถือกำเนิดตั้งแต่ช่วงกลางยุค 70 แต่เป็นเพียงแนวดนตรีที่มีผู้ฟังเฉพาะกลุ่ม ต่อมา หลังจาก The Downward Spiral ผลงานอัลบั้มที่สอง ของ NIN ประสบความสำเร็จในปี 1994 ดนตรีแนวนี้จึงเริ่มเฟื่องฟูขึ้นมา และส่งผลให้ Industrial rock ผงาดขึ้นมาเป็นกระแสหลักในอเมริกาในที่สุด ตีตื้นมากับดนตรีแนว Grunge Rock ที่กำลังจะแผ่วหลังความตายของ Kurt Cobain พอดิบพอดี ต่อมาในปี 2005
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติอย่าง Olympic Games การแข่งกีฬาระหว่าง 200 กว่าประเทศ ส่งตัวแทนนักกีฬาหลายพันคนต่างตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อชิงชัยในงานนี้ การเลือกเจ้าภาพจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุก ๆ สี่ปี และ Olympics ครั้งนี้เจ้าภาพที่จะได้จัดมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ก็คือเมืองเกาะกลางทะเลอย่างประเทศญี่ปุ่น เมื่อกีฬาสุดยิ่งใหญ่ Tokyo 2020 กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ ทำให้ Omega แบรนด์นาฬิกาที่อยู่คู่กับการแข่งขัน Oympics มาอย่างยาวนานในฐานะ Olympic Official Timekeeper หรือผู้จับเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจึงไม่พลาดเปิดตัวนาฬิกาที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจาก Tokyo 2020 นาฬิกาที่บอกเล่าเรื่องราวของ Tokyo 2020 จาก Omega มีชื่อว่า Seamaster Planet Ocean Tokyo 2020 Limited Edition (Ref.522.33.40.20.04.001) ด้วยชื่อที่ยาวเกินไปกว่าจะเรียกจบนาฬิกาเรือนนี้ก็คงขายหมดไปแล้ว ทำให้เหล่านักสะสมเรียกมันว่า Omega Tokyo 2020 แทน และจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีขาวล้วนก็ทำให้ใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจกับนาฬิกาเรือนนี้ Omega Tokyo 2020 สีขาวล้วนตัวเรือนทำมาจากสเตนเลสสตีล ขนาด
Porsche กำลังกลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Tesla ในวงการรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะรถยนต์ประเภทซีดานที่ Tesla Mode S และ Porsche Taycan Turbo กำลังขับเคี่ยวกันอย่างสนุก ขณะเดียวกัน Taycan Turbo S ในรุ่นปี 2020 รถอีกคันของค่ายที่ว่ากันว่าเป็นมิติใหม่ของรถซีดานไฟฟ้าที่มีดีเอ็นเอสปอร์ตก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ถ้าพูดถึงงานดีไซน์ของรถไฟฟ้า เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนต้องเทใจให้ซีดานไฟฟ้าคันนี้แน่นอน เพราะ Porsche Taycan Turbo S สวยงามในสไตล์เฉพาะของ Porsche เต็มเปี่ยม รถยนต์ 4 ประตูที่มีความจุ 4-5 ที่นั่ง ความยาว 195.4 นิ้ว กว้าง 77.4 นิ้วเป็นขนาดเท่ากันกับ Tesla Model S ความสูงของตัวรถที่ 54.3 นิ้วที่ลาดเอียงลงได้แรงบันดาลใจจากรถรุ่นไอคอนิกของค่ายอย่าง 911 ที่สูงพอสำหรับหนุ่มที่สูง 182 เซนติเมตรและล้อแม็กขนาด 21 นิ้วที่ให้มาเป็นมาตรฐาน ตัวรถแบกน้ำหนักของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด
เหงาว่ะ ไม่บ่อยนักที่คำวิเศษณ์อันกลั่นจากความอ่อนแอคำนี้จะหลุดออกมาจากปากผู้ชายเรา แต่ทันทีที่พลั้งเผลอพูดคำว่า “เหงา” ออกมา ความรู้สึกเหงาจริง ๆ ก็รันโรมโจมตีจิตใจเข้าอย่างจัง ราวพลัดตกเหวแห่งความเปล่าเปลี่ยว เดียวดาย และอ้างว้างอย่างไรอย่างนั้น คุณอาจจะคุ้นชินกับความเหงาที่ปราศจากคนรัก ความเหงาที่ไม่รู้จะทำอะไร ความเหงาที่ต้องอยู่โดดเดี่ยว หรือไม่สนิทกับความเหงามากพอจะจำได้ว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นล่าสุดตอนไหน แต่ไม่ว่าคุณจะเหงามาก เหงาน้อย หรือเหงาจับใจ ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเหงายังวนเวียนอยู่ในชีวิตของผู้ชายเราเสมอ UNLOCKMEN เลยอยากชวนหนุ่ม ๆ กระโดดลงไปด่ำดิ่งกับห้วงความเหงา ผ่าน 3 แอนิเมชันของมาโกโตะ ชินไค ที่อาจทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้นหรือต้องหลั่งน้ำตาเพราะความรู้สึกเหงาที่เพิ่มมากกว่าเดิม ‘มาโกโตะ ชินไค’ ชายผู้กำกับความเหงาให้งดงาม หากพูดถึงแอนิเมชันดี ๆ สักเรื่อง คงจะลืมชื่อของ มาโกโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) ผู้นี้ไปไม่ได้เลย เขาคือชายที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “Wong Kar-Wai แห่งญี่ปุ่น” ผู้ซึ่งกำกับอนิเมะด้วยลายเส้น เพลงประกอบ ฉากหลัง และเนื้อเรื่องโรแมนติกดราม่าที่เป็นเอกลักษณ์ ชินไคบอกเล่าความสัมพันธ์กินใจจากเส้นแบ่งของความจริงและจินตนาการ เขาซุกซ่อนความอบอุ่น ความเศร้า ความรัก และความเหงาในรายละเอียดยิบย่อยของเส้นเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมทุกคนได้ไต่ตาม ค้นหา
ถ้าพูดถึงโมเดลรองเท้าตัวแทนจาก Adidas Original ชื่อของ Stan Smith คงเป็นโมเดลที่หลายคนนึกถึง เพราะนี่คือรองเท้าที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันค่ายสามขีดให้ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน และทุกวันนี้ผู้คนยังนิยมอยู่เสมอจากความสวยงามที่แสนคลาสสิกของมัน แม้จะวางขายมานานกว่า 50 ปีแล้วก็ตาม ขณะเดียวกันเมื่อยุคสมัยและทิศทางของตลาดรองเท้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไป Adidas ก็เริ่มปรับเปลี่ยนและพัฒนา Stan Smith ให้เข้ากับกระแสความนิยม รวมถึงทำเทคโนโลยีให้ล้ำสมัยมากขึ้น โดยพวกเขาหวนกลับไปทำงานกับแบรนด์เสื้อผ้าที่เน้นฟังก์ชันของวัสดุและเทคโนโลยีอย่าง GORE-TEX หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จร่วมกันเมื่อครั้งทำ Stan Smith GORE-TEX ในปี 2017 ด้วยการนำโมเดลเดียวกันนี้ มาเคลือบนวัตกรรมกันน้ำในรองเท้า จนขายหมดทุกสต็อก วันนี้ทั้งสองค่ายกลับมาร่วมงานอีกครั้งกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าเดิม แถมยังเลือก Back to Basic ด้วยการใช้ Stan Smith สี OG อย่างขาว-เขียวมา ส่วนงานออกแบบปรับดีไซน์เล็กน้อย โดยตรงส่วนลิ้นจะไม่มีรูปคุณปู่แสตนในรุ่นนี้ รวมถึง Heel Tap สีเขียวซึ่งจะไม่มีโลโก้ Adidas Original แต่ด้านข้างก็มีตราพิมพ์แบบยุบลงไปของ GORE-TEX และป้ายที่เขียนถึง GORE-TEX Infimium เย็บติดเอาไว้
‘ญี่ปุ่น’ ประเทศเมืองเกาะที่เป็นดินแดนในฝันของผู้ชายหลายคน ห้อมล้อมอยู่ในอ้อมกอดธรรมชาติตั้งแต่ภูเขายันท้องทะเล มีอาหารเลิศรสและจารีตประเพณีงดงามทรงเสน่ห์ ทั้งยังผู้คนที่มีระเบียบ ใส่ใจรายละเอียด และขยันขันแข็งกับแทบทุกเรื่องในชีวิต หากคุณเคยไปเยือนประเทศญี่ปุ่นมาบ้าง คงจะพอคุ้นชินกับเหตุการณ์หยุดรถไฟกะทันหัน เนื่องจากมีคนกระโดดลงรางรถไฟความเร็วสูงเพื่อปลิดชีพ และมันเป็นอีกวิธีฆ่าตัวตายยอดนิยมของคนที่นี่ จริง ๆ แล้วการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นมีมาตั้งแต่สมัยหลังสงคราม เนื่องด้วยชาวญี่ปุ่นต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและไม่อาจทนทุกข์ทรมานอยู่บนโลกนี้ได้ จึงตัดสินใจยุติลมหายใจเฮือกสุดท้ายด้วยวิธีการฆ่าตัวตายในรูปแบบต่าง ๆ การผูกคอตายครองแชมป์มาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยการกระโดดลงรางรถไฟ และการปล่อยให้ร่างกายซึมซับแก๊สพิษตามลำดับ สาเหตุการฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่นก็หนีไม่พ้นเรื่องการทำงานที่เคร่งเครียด ปัญหาทางเศรษฐกิจ อาการเจ็บป่วยที่ไม่อยากเป็นภาระให้ลูกหลาน หรือแม้แต่ปัญหาชีวิตวุ่น ๆ ของเหล่าวัยรุ่น Kenji Chiga ช่างภาพหนุ่มชาวญี่ปุ่นจึงถ่ายทอดเรื่องราวการฆ่าตัวตายของคนในประเทศตนด้วยคอลเลกชันภาพถ่ายที่แฝงความโศกเศร้าไร้ทางออก และมีเพียง ‘การฆ่าตัวตาย’ เท่านั้นที่อาจทำให้ใคร (บางคน) พ้นจากความทุกข์ได้จริง ๆ การฆ่าตัวตาย อาจเปรียบดั่งโรคติดต่อของคนในประเทศนี้ แพร่กระจายอย่างรวดเร็วราวไวรัสจากสมองของคนหนึ่งไปสู่สมองอีกคน บางครั้งผู้ตายอาจไม่ได้มองหาความตายเสมอไป หากมองหาการปลดปล่อยตัวเองจากความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจที่ถูกพันธนาการ ความตายจึงเป็นวิธีปลดปล่อยอย่างง่ายและชัดเจนที่สุด ยิ่งในช่วงที่สื่อและเทคโนโลยีผลัดกันนำเสนอเรื่องราวของคนตาย ไวรัสที่ชื่อ ‘Werther Effect’ ก็ค่อย ๆ รุนแรงและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ถึงอย่างนั้นก็ยังมียาต้านไวรัสที่จะสร้างขึ้นเมื่อคุณ เขา เธอ หรือใครก็ตามเห็นคุณค่าของชีวิตและคนรอบตัวมากพอ นำความรักและการเห็นคุณค่านั้นหล่อเลี้ยงความคิดเพื่อการใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข แม้การฆ่าตัวตายจะเป็นคำตอบสำหรับบางคน
ผู้ชายอินดี้สุดเท่ ใจกล้าขาลุย หรือผู้ชาย classy แบบสุขุมนุ่มลึก ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายสไตล์ไหนก็คงต้องเคยเจอกับปัญหาผมขาดหลุดร่วงกันมาบ้าง แม้มันจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่คงต้องบอกว่าปัญหาผมร่วงและผมบางนั้นสร้างความรำคาญใจให้ผู้ชายเราได้เสมอ แถมยังทำให้วิตกกังวลและเสียความมั่นใจแทบทุกครั้งเวลาต้องอยู่ต่อหน้าสาว ๆ ความเครียด พันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น ความไม่สมดุลของฮอร์โมน หรือแม้แต่สารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ปัญหาผมขาดหลุดร่วงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จะให้เราไปเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมหรือปรับฮอร์โมนให้สมดุลก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะปล่อยปัญหาผมขาดร่วงไปก็คงจะทำไม่ได้เหมือนกัน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญปัญหาเช่นเดียวกันนี้ ไม่ต้องกังวลไป! เพราะวันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำเซรั่มบำรุงเส้นผมจากธรรมชาติ ที่นำความพิเศษของน้ำมันโอเมก้าจากไขมันจระเข้ มาเป็นตัวช่วยทำให้หนังศีรษะและผมของคุณกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง จากความมหัศจรรย์ของจระเข้ สู่เซรั่มบำรุงเส้นผมทรงประสิทธิภาพ จระเข้ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความโดดเด่นทางสรีรวิทยา แถมยังอาศัยอยู่บนโลกมายาวนานมากกว่า 230 ล้านปี ในอดีตการใช้น้ำมันสกัดจากเนื้อเยื่อไขมันจระเข้เพื่อป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บมีมาตั้งแต่ในสมัยอียิปต์และจีนโบราณ นอกจากนั้นในกล้ามเนื้อของจระเข้ก็มีฮีโมโกลบิน-อะมิโน แอซิด ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้สัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้หายใจใต้น้ำได้นานกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ หลายเท่า นักวิทยาศาสตร์ยังพบอีกว่าจระเข้นั้นเป็นสัตว์ที่มีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงที่สุดในโลก เนื่องด้วยผิวหนังของพวกมันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว ไม่แปลกถ้าเรื่องราวของ ‘จระเข้’ จะได้รับความสนใจจากวงการแพทย์ผิวหนัง จนนำมาสู่การต่อยอดและสร้างเซรั่มบำรุงเส้นผมที่ทรงประสิทธิภาพได้ ‘4MEGA’ นวัตกรรมป้องกันผมหลุดร่วง ด้วยน้ำมันโอเมก้าจากไขมันจระเข้ 4MEGA เป็นเซรั่มที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยลดผมขาดหลุดร่วงและแก้ไขปัญหาผมบางที่หนุ่ม ๆ หลายคนเป็นกังวล
หากใครที่เป็นสาวกท่านศาสดา Thom Yorke หรือวง Radiohead น่าจะทราบกันดีว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีก่อน พี่แกได้ปล่อยเพลงชื่อ Hands off the Antarctic ซึ่งเป็นเพลงสำหรับแคมเปญรณรงค์การปกป้องมหาสมุทรแอนตาร์กติกออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟัง โดยเรียกได้ว่าเป็นบทเพลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ (คุณสามารถอ่านบทความเต็มเรื่องเพลง Hands off the Antarctic ได้ที่นี่ คลิก) นอกจากนั้น Thom Yorke ก็ยังเดินหน้ารณรงค์อย่างเอาจริงเอาจังเรื่อง Climate Change หรือวิกฤตการณ์ภูมิอากาศมาโดยตลอด แต่ไม่รู้เหตุผลกลใดทำให้ใจท่านเปลี่ยนแปลง เพราะล่าสุดพี่แกดันออกมาพูดผ่านสื่อว่าตัวเองเป็นพวกดีแต่ปากเรื่องรักษ์โลก! โดยงานนี้ Thom Yorke ได้เผยความในใจ (ที่น่าตกใจ) นี้ ผ่านรายการพอดแคสต์ Desert Island Discs ของช่อง BBC Radio 4 ในฐานะแขกรับเชิญเอาไว้ว่า “สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างติดอยู่ในใจผมก็คือ ผมกำลังรณรงค์เรื่องวิกฤติการณ์ภูมิอากาศอยู่นะ แต่ผมก็คือคนที่ยังนั่งเครื่องบินโดยสารไปทำงานเป็นประจำ อืม… ผมมันดีแต่ปากนั่นแหละ” หากใครติดตามข่าวสารช่วงนี้ เชื่อว่าคงจะเห็นข่าวของสาวน้อยนักรณรงค์วัย 16