สำหรับผู้ชาย ถ้าพูดถึงการจัดสรรเวลาแต่ละสัปดาห์ของการใช้ชีวิต เราใช้ 5 วันจากจันทร์ไปถึงศุกร์กับการใช้พลังสมองและสองมือลงมือไล่บี้งานตรงหน้า กว่าจะรู้สึกว่าตัวเองได้พักเต็มที่จริง ๆ ก็คือวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์เราจะสงวนมันไว้สำหรับการนอนสิ้นสติเพื่อเตรียมใจรับชะตากรรมวงจรวันจันทร์ใหม่อีกครั้ง แต่เคยสงสัยไหมว่าบรรดา SUCCESS GUY แนวหน้าทั้งหลายเขาทำอะไรกันอยู่วันนี้ ? นอนเหมือนเราบ้างหรือเปล่า หรือเป็นยอดมนุษย์ที่เอาเวลาไปทำอะไรแปลก ๆ เพื่อบูสต์พลังก่อนวันจันทร์โดยที่เราไม่รู้ ถึงเวลาไขความจริงให้กระจ่างได้ Get cultured คนเก่งสายครีเอทีฟเขาเลิกนอน แต่ลุกขึ้นแต่งตัวออกไปหากิจกรรมสไตล์ Local เพื่อรีเฟรชความคิดสร้างสรรค์ให้ไหลลื่น การสะสมแต้มด้วยการเดินเข้าออกแหล่งวัฒนธรรมทั้งหลายไม่ว่าจะตามมิวเซียม หรือนิทรรศการ บางครั้งมันก็ให้แง่มุมใหม่ที่เราไม่คาดคิดเข้าไปเสริมในงานที่ทำได้ เช่นเดียวกับที่ Tim Gunn mentor ชายด้านแฟชั่นจากรายการเกี่ยวกับดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง “Project Runway” เขาเลือกทำมันเป็นประจำ End Sunday on a high note ทบทวนแล้วแชร์ประสบการณ์ด้านบวก ๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นทางออกของการเริ่มต้นวันจันทร์ที่สดใส เจ้าของความคิดนี้คือ Micheal Woodward ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและผู้แต่งหนังสือเรื่อง The YOU Plan ที่คิดขึ้น
ใครเป็นคอการ์ตูนญี่ปุ่น (มังงะ) คงคุ้นหูกับคำว่า Shonen Jump เป็นอย่างดี วันนี้ UNLOCKMEN ขออาสาพามารู้จัก Shonen Jump ให้มากขึ้น สำหรับใครที่ยังงง ๆ Sh0nen Jump คือนิตยสารการ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่น อยู่ในเครือสำนักพิมพ์ Shueisha เป็นนิตยสารที่รวบรวมการ์ตูนจากนักเขียนหลายคนมาอยู่ในเล่มเดียว โดยใน Shonen Jump นั้นก็แบ่งนิตยสารเป็นหลายหัวด้วยกัน มีทั้งตีพิมพ์รายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน โดย Shonen Jump ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1968 เป็นนิตยสารรายสัปดาห์ภายใต้ชื่อ Weekly Shonen Jump อย่างที่รู้กันว่า Shonen Jump เป็นต้นกำเนิดของการ์ตูนชื่อดังระดับตำนานมากมาย วันนี้จึงขอแนะนำ 10 การ์ตูนที่คิดว่าชาว UNLOCKMEN จะชื่นชอบให้ได้รู้จักกัน ส่วนชาว UNLOCKMEN คนไหนเป็นคอการ์ตูนเหล่านี้อยู่แล้วก็ถือว่าเป็นการย้อนความทรงจำไปในตัว Dragon ball ปีที่ตีพิมพ์ 1984-1995 จำนวนเล่ม 42 เล่มจบ
‘Atari’ พูดชื่อนี้ขึ้นมาวัยรุ่นยุคนี้อาจจะขมวดคิ้วไปตาม ๆ กันว่ามันคืออะไร แต่สำหรับคนที่เกิดในยุค 70 ต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะ Atari คือเครื่องคอนโซลเกมในยุคบุกเบิกเมื่อเกือบ ๆ 40 ปีก่อน ซึ่งถือว่าได้สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเกมในยุคนั้นอย่างมาก เนื่องจากในยุคนั้นเกมส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปแบบของตู้เกมอาเขตเสียส่วนใหญ่ Atari ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในช่วงแรก แต่ก็เหมือนบริษัทเกมส่วนใหญ่ เมื่อตามยุคสมัยไม่ทัน เครื่องคอนโซลรุ่นถัด ๆ มาจึงไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด จนในที่สุดชื่อของ Atari ก็หายไปจากสารบบวงการเกม แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เกิดข่าวสะเทือนวงการเกมครั้งใหญ่ เมื่อ Atari ประกาศกลับมาทำเครื่องคอนโซลเกมอีกครั้ง ในชื่อรุ่น ‘ATARI VCS Entertainment System’ การกลับมาในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อจะเอาใจคอเกมสาย Old School เท่านั้น แต่ ATARI VCS Entertainment System คือเครื่องคอนโซลเกมยุคใหม่ที่อาจจะเป็นก้าวมาเป็นคู่แข่งสำคัญของ 2 เครื่องคอนโซลของ 2 ค่ายอย่าง PS4 จาก Sony และ XBOX One จาก
ของฟรียังมีอยู่ในโลก แม้จะไม่ใช่ของอุปโภคบริโภคที่เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ แต่เป็น SOURCE รูปสวย ๆ ระดับ HD ให้เอาไปใช้กันแบบฟรี ๆ สำหรับชาวกราฟิกทั้งหลายที่ไม่อยากจะเปลืองโควตา Shutterstock มากนัก UNLOCKMEN ขอแนะนำ 15 เว็บไซต์ FREE SOURCE สำหรับรูปให้ได้ใช้กันยันชาติหน้า ใช้แต่ UNSPLASH กับ PEXELS จนเบื่อแล้วลองเปลี่ยนไปเว็บนี้ไปเว็บโน้น มันต้องได้จากสักเว็บนั่นแหละน่า Isorepublic เว็บนี้รูปอาจไม่เยอะมากนัก แต่ทุกรูปคุณภาพเน้น ๆ แบบแต่งมาแล้วเอาใช้ต่อได้แบบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย แถมยังสะดวกสบายด้วย Tag ที่ติดมากับรูป ช่วยแยกหมวดหมู่ของรูปให้ใช้ง่ายสบายบรื๋อ Burst (by Shopify) เว็บนี้ความเจ๋งคือแยกเป็นหมวดหมู่เหมือนกัน แถมยังมี Screenshot ให้ดูอีกด้วยภาพส่วนมากจะเป็นภาพ Close-Up หรือภาพระยะใกล้ซะมากกว่า แต่ก็เป็นภาพที่สวยแบบพร้อมใช้งานเหมือนกัน Gratisography ภาพฟรีสุดแนวแบบนี้ไม่ได้หาได้บ่อย ๆ รีบพุ่งตัวเข้าไปสูบแล้วกด BOOKMARK กันให้ไว เพราะยังมีภาพแนวนี้อีกมากที่รอให้เราไปค้นพบอยู่ ข้อดีของภาพแบบนี้คือมันมีสตอรี่ในตัวมันเอง สามารถเล่าเรื่องด้วยภาพได้แบบที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบภาพแนวนี้พอสมควร
ว่ากันด้วยท่วงท่าลีลา Sex หลายคนคงจะนึกถึงความสุขสันต์ในการขึ้นสวรรค์เป็นหลัก แต่นอกจากการถึงจุดสุดยอดของมนุษยชาติหญิงชายแล้ว ประโยชน์อื่น ๆ ที่เราได้จากการร่วมรักนั้นยังมีอีกมาก หนึ่งในนั้นก็คือการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ซึ่งเราต่างรู้กันอยู่แล้วว่ามันต้องใช้แรงไม่เบา และมันคงจะดีไม่น้อยถ้าเรารู้ว่าลีลาแต่ละท่านั้นสามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากแค่ไหน ในเมื่อเรารู้แล้วว่าวิ่งแค่ไหนเผาผลาญได้เท่าไหร่ เทรนหนักเลเวลใดถึงจะรีดไขมันออกไปได้หมด ต้องเสียเหงื่อกี่หยดเพื่อความเฟิร์ม บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหาคำตอบว่าท่าจากกามสูตรทั้งหลายมันเบิร์นพลังงานเราได้ขนาดไหนเชียว (ทีมงาน UNLOCKMEN ขอเน้นย้ำว่า “BURN” ในที่นี่คือ “การเผาผลาญ” ไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่นที่เรารู้กันแต่อย่างใด) โดยตัวเลขที่จะมาเปิดเผยให้รู้กันนั้นได้มาจากการทดลองจริง ๆ โดยคู่รักหลายคู่ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม บอกได้แค่ว่าทุกคู่ใช้เวลาร่วมรักกันจนเสร็จกิจราว 20-30 นาที แบ่งการทดลองคู่ละท่า ฝ่ายหญิงหนัก 55-60 กิโลกรัม ส่วนฝ่ายชายหนัก 70-75 กิโลกรัม นับว่าเป็นมวยถูกคู่ กระดูกไม่ห่างชั้นกันมาก ส่วนผลการทดลองนั้น ตามนี้เลยครับ Missionary ท่ามาตรฐานของการร่วมรักที่ฝ่ายชายอยูด้านบน ฝ่ายหญิงอยู่ด้านล่าง ค่อนข้างจะโรแมนติกเมื่อคุณกับเธอได้มองตากันขณะร่วมรักกัน ฝ่ายหญิง : 40 แคลอรี่ ฝ่ายชาย : 120 แคลอรี่ Doggy Style ท่าร่วมรักยอดฮิตที่กระตุ้นอารมณ์ได้สุด ๆ ฝ่ายหญิงคลานเข่า
ในโลกยุคที่ผู้ชายอย่างเราต้องทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต แต่ก็ยังกระหายการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ติดตรงที่ไม่มีเวลาจะไปเรียนนี่สิ จะให้ทิ้งการทิ้งงานไปก็เกรงใจความมั่นคงทางรายได้ของชีวิต แต่โชคยังดีที่โลกใบนี้ช่างสรรหาวิธีการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มาให้เราไม่จบไม่สิ้นและหนึ่งในนั้นก็คือการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากแอปพลิเคชันคู่ใจในสมาร์ตโฟนนั่นเอง ถ้ายังมึน ๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ลองจาก 5 แอปฯ นี้ก่อนได้เลย Google Arts & Culture ใครที่อยากเรียนรู้เรื่องศิลปะและอยากเสพงานศิลปะเจ๋ง ๆ เทพ ๆ แต่ไม่มีเวลา (และอาจไม่มีเงินในกระเป๋าด้วย) ก็ไม่ต้องห่วงไป Google Arts & Culture จะพาคุณท่องไปตามสถานที่สุดน่าทึ่งหลาย ๆ ที่ แถมยังมีฟังก์ชัน Art Camera ที่จะพาเราไปซูมดูงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซจากทั่วโลกด้วยความละเอียดสุดประณีตที่บางทีถ่อไปดูเองตามพิพิธภัณฑ์ต่างประเทศยังไม่ได้ใกล้ชิดขนาดนี้ ดังนั้นใครที่วางแผนว่าจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และศิลปะเป็นอีกหนึ่งแขนงแห่งศาสตร์ที่เล็งไว้ก็ลองโหลด Google Arts & Culture มาติดเครื่องไว้ เรียนรู้ได้ไวแน่นอน SkyView ขุดสกิลนักดาราศาสตร์สมัยไปทัศนศึกษาที่ท้องฟ้าจำลองในตัวคุณกลับมา เพราะ SkyView คือแอปฯ ที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้ศาสตร์เรื่องการดูดาวแบบที่คุณไม่ต้องลำบากไปหาตำรามากางเองให้เสียเวลา
“นอก-กรอบ” ไม่ใช่แค่วลีเท่ ๆ เพื่อบอกให้ผู้ชายอย่างเราคิดอะไรนอกกรอบเท่านั้น แต่อาจหมายถึงให้ออกไปนอกกรอบห้องสี่เหลี่ยมซะบ้างแล้วชีวิตจะดีขึ้นอีกเยอะ! เพราะงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นบอกเราว่า การพาตัวเองออกไปรับแสงจากภายนอก รับบรรยากาศจากภายนอก จะทำให้ผู้ชายอย่างเราทั้งครีเอทีฟขึ้น สุขภาพดีขึ้น และมีความสุขขึ้นได้แน่นอน ธรรมชาติลดความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าได้ ด้วยการกระจุกตัวของความเจริญด้านเศรษฐกิจทำให้คนหลั่งไหลเข้ามาในเมืองมากขึ้น แน่นอนว่าภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้าของผู้คนก็เพิ่มขึ้นตาม นักวิจัยจาก Stanford ได้ทำการทดลองที่แบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งให้เดินผ่านพื้นที่ในเมือง ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งให้เดินผ่านพื้นที่ที่มีธรรมชาติ ผลออกมาว่าคนที่เดินผ่านพื้นที่สีเขียว สมองส่วนที่เชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลทำงานลดลง ยิ่งไปกว่านั้นการออกกำลังกายในพื้นที่ธรรมชาติยังเกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มขึ้นของการยอมรับนับถือตนเองและมีอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็อย่ามัวยัดตัวเองไว้ในตึกสี่เหลี่ยมอย่างเดียว ได้เวลาพาตัวเองไปซึมซับธรรมชาติบ้างแล้ว ธรรมชาติช่วยพัฒนาความจำระยะสั้น งานวิจัยที่ชื่อว่า The Cognitive Benefits of Interacting With Nature ได้ชี้ให้เห็นว่าการที่เราได้ออกไปเดินท่ามกลางธรรมชาตินั้นช่วยพัฒนาความจำระยะสั้นของเราเพิ่มขึ้นถึง 20% ใครที่คิดว่าตะบี้ตะบันทำงานในห้องสี่เหลี่ยมอย่างเดียวแล้วทุกอย่างจะเวิร์ค อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ทำงานเป็นช่วง ๆ แล้วแบ่งเวลาพักออกไปเดินชมนกชมไม้บ้างก็ได้ รับรองว่าดีแน่นอน แสงอาทิตย์จะเยียวยาเราเอง ไม่ใช่แค่ธรรมชาติอย่างต้นไม้ใบหญ้าและสิ่งแวดล้อมเท่านั้นที่จะโอบกอดเรา แต่แสงอาทิตย์นี่แหละที่จะช่วยเยียวยาเราได้ดีไม่แพ้กัน เรื่องบ้าน ๆ ที่เรารู้อยู่แล้วก็คือแสงอาทิตย์มีวิตามินดีที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกของเรา แถมยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราดีขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นแสงอาทิตย์ยังช่วยเราสู้กับการเป็นหวัด การเป็นไข้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่เราพาตัวเองออกไปรับแสงอาทิตย์เสียบ้างจะช่วยให้เราหลับได้ดีขึ้น
ในวันที่โลกบังคับให้อายุของเราเดินหน้าขึ้นไปทุกวินาที จนบางครั้งเราทิ้งความสดใส ความเป็นวัยรุ่นเอาไว้ข้างหลัง เพียงเพราะคิดว่ามันใช้ไม่ได้กับเราในอายุตอนนี้แล้ว แต่อย่าได้ทิ้งมันไปทั้งหมด อย่าลืมเก็บความทรงจำวัยรุ่น ความแสบซ่า ที่มันเคยสร้างสีสันให้ชีวิตของเราแบบสุดขีดในตอนนั้น หากวันนี้รู้สึกว่าชีวิตมันแห้งเหี่ยวไม่มีไฟ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังที่จะมาปลุกไฟวัยหนุ่มในตัวคุณให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง ขอเสริมหน่อยว่า นี่ไม่ใช่การจัดอันดับหนังดี ซีรีส์ในดวงใจ ไม่ต้องน้อยใจไปถ้าซีรีส์หรือหนังในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ เพราะทั้งหมดนี้คือการแนะนำเหมือนเพื่อนชวนกันดูแค่นั้นเอง Almost Famous เรื่มต้นกันด้วยเรื่องราวของ วิลเลี่ยม เด็กหนุ่มผู้ไร้เล่ห์เหลี่ยมแต่เปี่ยมไปด้วย Passion ที่ต้องการเป็นนักข่าวสายดนตรีแบบเต็มตัว แม้จะอยู่ในวัยกระเตาะอยู่ก็ตาม เลยขอทำตามเสียงหัวใจตัวเองด้วยการติดตามวงดนตรีไปทัวร์คอนเสิร์ต ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขา จนเห็นชีวิตจริงของนักดนตรี ความเน่าเฟะที่เป็นเหมือนขยะใต้พรม ที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์สุดเท่ของวงดนตรี มันเจ๋งตรงที่เราจะได้เห็นเด็กหนุ่มที่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นคนอื่นที่เขาควรจะมี เหมือนเขาโดน Skip ช่วงนั้นไปเห็นภาพของชีวิตผู้ใหญ่เลย แต่เป็นภาพจริงที่อยู่ต่อหน้าเขา เหล้า ยา เซ็กส์ สารพัดสิ่งที่เขาไม่ควรได้เห็นเมื่ออยู่ที่บ้าน ใครที่มีชีวิตวัยรุ่นแบบไม่สมวัยสักเท่าไหร่ คงจะถูกใจเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย เพราะการประคับประคองตัวเองไม่ให้สติแตกเป็นเรื่องยากสำหรับเขาพอสมควรสำหรับวัยไร้เดียงสาอย่างวิลเลี่ยมและเราในตอนนั้น The Breakfast Club เรื่องราวของวัยรุ่นสุดวายป่วง 5 คนที่จำเป็นต้องมารวมตัวกันแบบงง ๆ เพราะโดนกักบริเวณด้วยกันในวันเสาร์ เรื่องราวของแต่ละคนก็เป็นเหมือนหนังวัยทีนทั่วไป เรื่องราวการใช้ชีวิตสุดแสนวุ่นวาย ทำอะไรไร้สาระบ้าบอ เพียงเพราะต้องการเป็นที่ยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้เห็นว่าสำหรับวัยรุ่นแล้ว
เคยรู้สึกมั้ยว่าทำไมโลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรม เป็นคนดีก็ไม่มีที่อยู่ ทำคุณก็บูชาโทษ ตั้งใจทำงานก็โดนเอาเปรียบ มีน้ำใจก็โดนสังคมรอบข้างรังแก รักจริงก็โดนทิ้งตลอด อยากจะหนีมันไปให้ไกลพร้อมกับประโยค “เธอมันดีเกินไป” ถ้ารู้สึกว่าทุกคำที่ผ่านมามันโดนใจ แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องปฏิวัติตัวเองแล้ว No more nice guy ! วันนี้ตูจะกลายเป็นผู้ชายสายเข้มเต็ม ๆ ข้อ แล้วพวกคุณจะต้องร้อง ว่อววว นี่มัน Bad Boy ชัด ๆ แต่เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม ดึงสติกลับมากันหน่อย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าประชดสังคมประชดรักด้วยการดึงความโฉดในตัวเองออกมาเริงร่า เอาเป็นว่าการเป็น Bad Boy ในที่นี้คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองในการใช้ชีวิตโดยไม่สร้างทำความเดือดร้อนให้ใคร จะได้มันส์กับชีวิตได้เต็มที่และปลดล็อกศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างมั่นใจสไตล์ใครสไตล์มัน หากใครรู้สึกว่ามันใช่สิ่งที่ต้องการ ทีมงาน UNLOCKMEN มีแนวทางของชายสาย (Good) Bad Boy มาแนะนำให้ลองนำไปปรับใช้กันดูให้มันรู้ไปเลยว่าเวิร์กจริงหรือไม่ทั้งกับเรื่องงานและความรัก ทำตามสิ่งที่ใจเรียกร้อง ในฐานะ “คนดี” เรามักจะเกรงใจผู้อื่นมากเกินไป กังวลว่าการตัดสินใจและการกระทำของเราจะไปกระทบกระทั่งคนอื่น ซึ่งมันทำให้เราขาดจุดยืน เช่น ยินดีที่จะทำงานแทนผู้อื่น รับความผิดที่ไม่ใช่ของตัวเองไว้กับตัวเพื่อปกป้องคนรอบข้าง และพร้อมที่จะยกเลิกแผนส่วนตัวเพื่อเอาเวลามาตอบสนองความต้องการของสาวที่เดทอยู่ มันก็ไม่ผิดหรอกที่คุณมีน้ำใจ แต่มันจะทำให้คนอื่นเคยตัว คิดว่าคุณนั้น
“แพสชัน” “ความฝัน” สำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ คำสองคำนี้แม่งโคตรมีความหมาย และพวกเราใช้ทั้งชีวิตเพื่อตามหามัน แต่ก็ใช่ว่าคนทุกคนจะสามารถค้นเจอมันได้ง่าย ๆ บางคนตั้งแต่เรียนจบ จนมาทำงานทุกวันนี้อาจจะยังบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าความฝันที่แท้จริงของตัวเองคืออะไร สำหรับชาว UNLOCKMEN คนไหนคิดว่ากูอาจจะไม่เจอความฝันและแพสชันอีกแล้วในชีวิตนี้ ลองมารู้จักกับเขาคนนี้ก่อน เพราะเขาจะเปลี่ยนความคิดของคุณด้วยความกล้า มุมมองและความคิดที่เขามีจากทุกสิ่งที่เขาเลือกทุ่มให้กับมัน นั่นคือการเป็น “Videographer” หากคุณเป็นคนที่อยู่ในสาย Travel Video ชื่อของ “ขุน” – โชติพงษ์ เอกเสน น่าจะเป็นหนึ่งใน Videographer ที่คุณเคยได้ยินหรือผ่านตาจากผลงานสุดเฉียบมากมายของเขา แต่สิ่งที่เจ๋งและเราอยากให้คุณได้ทำความรู้จักมากกว่ามันอยู่ที่ความกล้าเลือกตัดสินใจสวนทางกับคนอื่น เดินออกจาก Comfort Zone โดย drop เรียนมหาวิทยาลัยมาทุ่มเทตามฝันอย่างสุดตัวจนเกิดโปรเจกต์สนุก ๆ มากมายที่วันนี้ความชอบมันสร้างมูลค่าได้ อะไรคือเบื้องหลังของการตัดสินใจครั้งนั้น ความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนที่เขาต้องพบเจอ ถ้าคุณพร้อมแล้ว จากนี้ลองมารู้จักเขาไปพร้อมกัน UNLOCKMEN : แนะนำตัวหน่อยครับ ว่าเป็นใคร ทำอะไรอยู่ตอนนี้ ขุน : ชื่อขุนครับ ปีนี้อายุ 22 เมื่อก่อนเป็นนักศึกษา ตอนนี้เป็น Drop-Out Boy ก็คือดรอปเรียนออกมาทำตามความฝันของตัวเองครับ เพราะว่าเชื่อในความฝันนะ