ช่วงนี้ฝนกระหน่ำจนแยกไม่ออกว่านี่คือพายุหรือมันเข้าหน้าฝนแล้วกันแน่ แต่ยังไงก็เหอะ พอพ้นเดือนแห่งความร้อนระอุอย่างเมษายนไป เข้าเดือนพฤษภาคมที่อยู่ในช่วงฤดูฝนแล้ว หลายคนอาจจะยังปรับตัวไม่ทันกับสภาพอากาศ หรือไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนทั้งเดือนทั้งฤดูแล้ว UNLOCKMEN ชวนมาฟัง 10 เพลงที่คัดมาให้ เอาไว้ฟังช่วงที่กำลังเปลี่ยนฤดูแบบนี้ เหมือนกับชีวิตของเราที่มักจะเปลี่ยนไปมาอยู่เสมอ ก็แน่ล่ะ ใครมันจะมีชีวิตแบบเดียวไปตลอด เตรียมพร้อมฟังและเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน สำหรับใครที่สะดวกฟังผ่านทาง Spotify สามาถ Follow Playlist นี้ได้ ที่นี่ แต่บางเพลงใน Spotify อาจจะมีไม่ครบต้องขออภัยด้วย ยังไงสามารถหาฟังให้ครบได้ใน Youtube Two Door Cinema Club – Changing of the Seasons PARADOX – ฤดูฝน Flure – ฤดูที่ฉันเหงา POLYCAT – เป็นเพราะฝน Bruno Mars – It Will Rain FRIDAY – เปลี่ยนไปทุกอย่าง Lonely Lego
“ตั้งคำถามกับทุกสิ่ง” นั่นคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญระดับโลกอย่าง Albert Einstein พูดไว้ และ UNLOCKMEN ว่าก็ไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย เพราะในชีวิตลูกผู้ชายคนหนึ่ง คำถามจะนำไปสู่โอกาสใหม่ ๆ อีกมากมายแบบที่เราไม่คาดคิดมาก่อน อย่างน้อยที่สุดเราก็ถามเพื่อการเรียนรู้ และถามเพื่อเข้าใจผู้คน แต่คำถามแบบไหนถึงจะมีพลังกันแน่ ? มา! มาเรียนรู้ไปด้วยกัน ขั้นตอนแรกในการที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักตั้งคำถามที่ดีกว่าเดิมคือ “ถามให้มากกว่าเดิม” ใช่ ง่าย ๆ แค่นั้นเอง จากเดิมที่นั่งฟังเฉย ๆ ไม่หือ ไม่อืออะไรกับใครเขาเลย ก็ลองถามสักหนึ่งคำถาม ใครที่เคยถามหนึ่งคำถามก็เพิ่มไปเป็นสองคำถาม เพิ่มไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ อย่างไรก็ตามการเพิ่มจำนวนคำถามก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะทำให้เราเป็นนักถามที่มีอิทธิพลกว่าเดิมแต่ยังรวมไปถึงประเภทคำถาม โทนของคำถาม ลำดับการถาม และกรอบของคำถามที่มีความสำคัญเช่นกัน แต่ไม่ต้องตกใจไปอะไร ๆ ก็ฝึกกันได้ทั้งนั้น ถ้ายังรู้สึกว่ามันยาก ๆ งง ๆ อยู่ ลองทำตามเทคนิคต่อไปนี้ รับรองเลยว่าเราจะเป็นผู้ชายที่ตั้งคำถามได้ดีมากกว่าที่เคยแน่นอน Favor follow-up questions ที่ต้องจำให้ขึ้นใจเลยคือว่าไม่ใช่ทุก ๆ คำถามจะมีค่าเท่ากันไปหมด คำถามบางรูปแบบก็สำคัญกว่าบางรูปแบบ โดยคำถามมี
เมื่อก่อนมีเงินเขานับเป็นน้อง มีทองเขานับเป็นพี่ แต่เดี๋ยวนี้วิธีนับมันไม่เหมือนเก่าต่อให้เดินล่อนจ้อนออกนอกบ้าน ไม่คล้องทองหยองเต็มคอ หรือกระเป๋าสตางค์จะแฟ่บแค่ไหน ตราบเท่าที่มีสมาร์ทโฟนในกำมือมันก็อุ่นใจ เพราะเราอยู่ในสังคม cashless society ที่ถ้าย้อนกลับไป 5-10 ปีที่แล้ว พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรือนึกออกว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ไร้พรมแดนหน้าตาเป็นอย่างไร พอ ๆ กับที่หลงลืมความยุ่งยากเดิมที่มีว่ากว่าจะซื้อของสักชิ้น จ่ายบิลสักอย่าง เราใช้ชีวิตกันด้วยความยุ่งยากขนาดไหน ระหว่างที่อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะกำลังมองว่ามันไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถ้าลองย้อนคิดว่าปรากฏการณ์สเกลใหญ่ขนาดนี้ที่เกิดขึ้นในสังคมแถมผ่านมาเป็นปี ๆ แล้ว ใครเป็นคนทำ? ใครที่อยู่หลังการกดนิ้วบนจอกระจกตอบโจทย์การใช้ชีวิตพวกเรา คนที่แอบอยู่หลังความ Easy เหล่านั้น พวกเขาคือใคร ทำอาชีพอะไรกัน คำตอบคุณเหมือนที่เราจะเฉลยหรือเปล่า ? พวกเขาเหล่านี้คือ “คนธนาคาร” เมื่อปรากฎการณ์ดิจิทัลแบงกิ้งมันมาจากกลุ่ม “คนธนาคาร” คนที่เราไม่เคยมองเห็นหน้า และงาน UNLOCK ก็เป็นงานถนัดของพวกเราอยู่แล้ว UNLOCKMEN ขอถือโอกาสนี้บุกไปตามหาและพูดคุยกับคนเบื้องหลังกันให้มันลึกสุดใจกันถึงถิ่นที่ SCB สำนักงานใหญ่ อาณาจักรของพวกเขา กันดีกว่า รู้จัก “คนธนาคาร” กลุ่มคนสนุกสายดิจิทัลแบงกิ้ง ถ้าไม่นับรวมบรรยากาศครึกครื้นและคราคร่ำด้วยผู้คนยกฟลอร์ด้านนอกห้องที่เราคุยกัน คนต่างวัย ต่างสายอาชีพแต่เป็นเจ้าของความคิดสนุก
Smile Club หลายคนคงเคยได้ยินชื่อนี้ผ่านหูกันมาบ้าง หรือบางคนอาจเคยเห็นพวกเขาปรากฏตัวตาม Social Media พร้อมกับ Fashion Content เจ๋ง ๆ มากมาย จนอดสงสัยไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาคือใคร ? ทำอะไรกัน ? และเหตุใดกลุ่มคนที่มี Passion ในการใช้ชีวิตคล้ายกันเหล่านี้จึงมาโลดแล่นอยู่ในกระแสต่าง ๆ อย่างไม่ขาดสาย แน่นอนว่าเราเองก็อยากหาคำตอบในเรื่องนี้เช่นกัน ในเมื่อเป็น UNLOCKMEN หากจะทำอะไรต้องทำให้สุดและแตกต่าง จึงทำให้เกิดโปรเจกต์ “One Day With Smile Club” เพื่อทำความรู้จักกับพวกเขา Smile Club ให้ถึงแก่น หากเป็นเพียงการพูดคุยกัน ก็คงได้แค่ถาม – ตอบกันตามปกติ แต่ถ้าหากเปลี่ยนมาเป็นการเข้าไปใช้ชีวิตด้วยกันสักวันหนึ่ง ก็คงจะทำให้เข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของกลุ่มคนเหล่านี้ได้ดีมากขึ้น ซึ่งหวยก็ไปตกอยู่กับ “ต้าร์” เด็กฝึกงานหน้าละอ่อนในสังกัด UNLOCKMEN หนุ่มน้อยที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับแฟชั่นเลย แถมยังคิดว่า Smile Club คือร้านขายของเล่นด้วยซ้ำ โดยต้าร์จะมียูนิฟอร์มยอดนิยมตัวเก่งเป็น เสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบสีดำ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้อ่านลองจินตนาการภาพกลุ่มคนซึ่งเต็มไปด้วย Passion เรื่อง เสื้อผ้า
ผ่านกิจกรรม GARAGE ที่พาพวกเราไปล้วงลึกเรื่อง blockchain กันให้หายสงสัยมาสักระยะแล้ว พวกเราชาว UNLOCKMEN สายนักลงทุนอาจจะเหงา เพราะช่วงน้ีเราไม่ค่อยได้มาพูดถึงเรื่องนี้กันเท่าไร แต่หนนี้ข่าวใหญ่น่ายินดีเกี่ยวกับตลาดเทรดสกุลเงินดิจิทัลไทยเปิดใหม่พร้อมใช้ในวันที่ 26 เมษายน นี่แหละที่ทำให้เลือดในกายเริ่มสูบฉีดและส่งสัญญาณว่า “อาจถึงเวลาควักสกุลเงินดิจิทัลออกมาจ่ายกันซึ่ง ๆ หน้าได้แล้ว Bro เอ๋ย” GATEWAY สกุลเงินดิจิทัลในไทย ไม้เบื่อไม้เมาสถาบันการเงิน พูดกันตามตรงเรื่องสกุลเงินดิจิทัลสำหรับประเทศไทยวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้ว เพราะหลายคนเข้าใจและรู้จักกันดี รวมถึงขุดกันเก่งด้วย เพราะฉะนั้นเราจะไม่ขอพูดถึงมันอีก แต่เรื่องของการเอาไปใช้หรือเกตเวย์การเทรดดีกว่าที่ยังเรียกว่าฟัดกันมันส์ มีน้อยเจ้า แถมยังเคยมีข่าวเจ้าบ้านการเงินอย่างธนาคารกลางแห่งประเทศไทยที่เคยออกมาหวดกันไปหนในช่วงเดือนกุมภาที่ผ่านมาว่าให้ “ธนาคารในประเทศเลี่ยงระบบเงินดิจิตอล” เป็นผลให้เกตเวย์ในไทยอย่าง TDAX หาที่สิงแทบไม่ทันเพราะโดนปิดบัญชีจากธนาคารกรุงเทพซึ่งเป็นธนาคารผูกบัญชีไว้สำหรับรับเงินฝากจากลูกค้า หรือโอนเงินออก แต่นโยบายเชือดไก่ให้ลิงดู ไก่ที่โดนเชือดไปก็ไม่ตาย ทาง TDAX แก้ไขด้วยการใช้ช่องทางอื่นที่ไม่ผ่านบริการธนาคารในการบริการฝากและถอนเงินลูกค้านักลงทุน ทว่าตอนนี้ก็ยังมีเรื่องภาษีที่รัฐอยากจะจ่อเก็บกับตัวบรรดา Exchanger ด้วย ธุรกรรมฝั่ง TDAX เลยยังชะงักรอการคอนเฟิร์มอยู่ ส่วนลิงทั้งหลายก็ไม่ได้มองว่าที่แห่งนี้เป็น red zone แต่อย่างใด เพราะแค่เข้าให้ถูกต้องอนาคตก็น่าจะสดใสเหมือนอย่างม้ามืดของเราที่ไม่ได้กลัวแล้วดูท่าว่าจะเป็นลูกรักเสียด้วย JIBEX ลูกรักหน้าใหม่เปิดตัวครบวงจร สำหรับคนที่ติดตามเรื่อง cryptocurrency
เข้าหน้าร้อนยังไม่ทันไรฝนมาอีกแล้ว แฟชั่นหนุ่ม ๆ ที่อาจจะเหมาะกับช่วงเวลานี้ที่ต้องตากแดดตากฝนปนอากาศอบอ้าวก็น่าจะเป็น T-Shirt หรือเสื้อยืดดี ๆ นี่แหละครับที่น่าจะได้ใช้แทบทุกงาน ทั้งงานเที่ยวยันชุดทำงานที่ดูเท่แบบภูมิฐานได้ เพียงแค่สวมแจ๊คเก็ตสูท, แจ๊คเก็ตเบลเซอร์ หรือสปอร์ตสูททับ แต่การที่จะใส่เสื้อยืดแล้วออกมาดูเท่ก็ต้องอาศัยไม้แขวนที่ดูดี ในฐานะที่เราคือไม้แขวนเสื้อที่มีชีวิตก็ต้องฟิตร่างกายกันหน่อย เวลาใส่ T-Shirt จะได้รู้สึกมั่นใจ ทีมงาน UNLOCKMEN มีท่าออกกำลังกายที่เน้นเฉพาะช่วงบนของร่างกายที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออก, บ่า, ไหล่ และแขนของเราให้ดูแข็งแรงสวยงาม และทำให้เราคนพบว่า เฮ้ย ที่จริงก็ไม่ต้องซื้อเสื้อแพงนี่หว่า แค่ตัวเรากับเสื้อยืดผ้าดี ๆ ราคาย่อมเยาก็โคตรคูลได้เหมือนกัน ดึงข้อซะ ถ้าอยากได้ร่างแบบ V-Shape “ดึงข้อ” คือท่าออกกำลังกายที่ผู้ชายทุกคนควรเซ็ตไว้ในโปรแกรม เพราะว่ามันเป็นการฝึกที่ครอบคลุมกล้ามเนื้อช่วงบนของร่างกายแทบทั้งหมด ได้ออกแรงดึงตัวเองที่น้ำหนักไม่เบาเลยต้านแรงโน้มถ่วงโลก พุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อหลังและ Biceps (หน้าแขน) และเหตุผลที่เราอยากให้ฝึกกันก็เพราะว่าการฝึกท่านี้เป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายของเรามีลักษณะ V-Shape ดั่งที่ชายหลายคนอยากได้ และมันจะดูดีมากเวลาสวมใส่เสื้อยืด ส่วนวิธีการนั้นไม่ยากแต่ก็หนักหน่อยนะสำหรับผู้เริ่มต้น ถ้าเป็นท่าดึงข้อมาตรฐานมือทั้ง 2 ข้างต้องค่อนข้างห่างกัน ดึงตัวขึ้นให้คางพ้นบาร์ พยายามควบคุมตัวให้ตรง แล้วค่อย ๆ ปล่อยตัวลงจนแขนเกือบตึง ก่อนดึงตัวขึ้นไปอีกครั้ง ฝึก
เรื่องเซ็กซ์กับผู้ชายดูคล้ายจะเป็นคู่แท้กันมาตั้งแต่สัญชาตญาณแห่งความกระหายในตัวมันเริ่มทำงาน เราทำเหมือนว่าจะรู้ดีไปทุกอย่างกับกิจกรรมบนเตียง (ที่บางทีก็ไม่ได้ทำแค่บนเตียงอย่างเดียว) แต่สุดยอดพื้นที่แห่งความลี้ลับที่ไม่ว่าผู้ชายจะเชี่ยวชาญแค่ไหนแต่ก็ดูบุกเข้าไปไม่ถึงสักทีคือ “การถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง” จากการสำรวจของถุงยางยี่ห้อหนึ่งพบว่าหนึ่งในคำถามที่คนเสิร์ชถามกูเกิ้ลมากที่สุดคือคำถามที่ว่า “ทำอย่างไรให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอด?” โดยถือเป็นคำถาม 1 ใน 10 คำถามท็อปเท็นเรื่องใต้สะดือที่คนถามมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว! แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะไม่ปล่อยให้ผู้ชายต้องไปเสิร์ชกูเกิ้ลอย่างเดียวดายอีกต่อไป เพราะเราจะมาบอกให้ว่าอะไรที่ผู้ชายควรรู้เกี่ยวกับการถึงฝั่งฝันของพวกเธอ การสอดใส่ไม่ใช่คำตอบเสมอไปโว้ย! ถามผู้หญิงร้อยทั้งร้อย ก็ต้องตอบไปในทิศทางเดียวกันแน่นอนว่า การสอดใส่มันไม่ใช่คำตอบสำหรับการถึงจุดสุดยอดเสมอไป! ดังนั้นพับเก็บความภูมิใจว่าของตัวเองทั้งใหญ่ทั้งยาวลงกระเป๋าไปก่อน หรือใครที่มีน้องชายอันจิ๋วจนแอบน้อยใจเป็นประจำก็ไม่ต้องน้อยใจอีกแล้ว เพราะการถึงจุดสุดยอดของผู้หญิงไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดและการสอดใส่เพียงอย่างเดียว การสัมผัสน้องสาวของเธอภายนอกให้ถูกจุดก็สามารถทำให้เธอถึงสวรรค์ชั้น 7 ได้ โดยไม่ต้องสอดใส่ให้เสียเวลาเลยด้วยซ้ำ เล้าโลมให้มาก จะได้ไม่เหนื่อยยากกันทั้งคู่ ผู้ชายอาจเป็นประเภทจุดปุ๊ป ติดปั๊ป พร้อมพุ่งเข้าใส่ กระหน่ำ ๆ ๆ ไม่ยั้ง แล้วจบภารกิจ แต่บอกเลยว่าผู้หญิงไม่ใช่แบบนั้น อย่างที่บอกไปว่าการสอดใส่ไม่ใช่จุดไคลแมกซ์สำหรับพวกเธอเสมอไป แต่การให้เวลาก่อนการบุกทะลวงนั่นแหละโคตรไฮไลต์สำหรับพวกเธอ ยิ่งอ้อยอิ่งโลมไล้ใช้เวลากับร่างกายเธอนานเท่าไหร่ โดยเฉพาะจุดสำคัญ ๆ อย่างซอกคอ หน้าท้อง ต้นขาด้านใน ฯลฯ ยิ่งทำให้พวกเธอมีอารมณ์ร่วมไปกับเรามากขึ้น และการเล้าโลมที่ดีและใช้เวลาเหมาะสมมากพอจะช่วยให้เธอสามารถถึงจุดสุดยอดระหว่างการสอดใส่ได้ดีขึ้น ถ้าทำให้เธอเสร็จก่อนได้ อะไรจะเกิดขึ้นเธอก็ยอม ผู้ชายบางคนก็ใช้เวลาปฏิบัติภารกิจนานจนเหมือนจะใช้เวลาทั้งชีวิต ในขณะที่ผู้ชายบางคนกลั้นหายใจยังไม่ทันหมดลมภารกิจก็เสร็จสิ้นลงแล้ว โอเค การสอดใส่มันก็สำคัญ
วันเงินเดือนออกทีไรก็ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายอย่างเราได้เป็นเศรษฐีกันทั่วหน้า แต่ร่ำรวยกันได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงดี เดี๋ยวก็ต้องชำระหนี้สินจนแทบจะหมดตัว ไหนจะค่ารถ ค่าคอนโด ค่าบัตรเครดิต แถมวันต่อ ๆ มายังมือหนักซื้อนั่นซื้อนี่อย่างเมามัน กว่าจะรู้ตัวยังไม่ทันหมดอาทิตย์แรกของเดือน ก็ต้องมานั่งใช้เงินเดือนที่มีอย่างกระเบียดกระเสียน อดมื้อกินมื้อไปยันสิ้นเดือนหน้า ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าเราจัดการเงินเดือนอย่างถูกวิธี ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ลองดูวิธีของคนอื่น ๆ ดูก่อนได้ว่าเขามวิธีการจัดการเงินเดือนที่ได้มาแต่ละเดือนยังไงไม่ให้ต้องหมดตั้งแต่อาทิตย์แรกแถมสร้างมูลค่าเพิ่มได้ “ถ้าเรารู้ว่าเราทำรั่วตรงไหน เราก็จะอุดตรงนั้นได้” – พี Content Creator หนึ่งในวิธีการจัดการเงินเดือนของหนุ่ม Content Creator คนนี้น่าสนใจ เพราะหลักการสำคัญอยู่ที่เรารู้จักการใช้จ่ายของตัวเองแค่ไหน ? คำตอบก็คือผู้ชายอย่างเราแทบไม่ได้สนใจเลยว่าวัน ๆ หนึ่งเราใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ซึ่งนี่ถือเป็นจุดบอดที่ต้องรีบแก้ไขถ้าอยากจะจัดการเงินเดือนให้เป็นระบบมากขึ้น โดยเขาแนะนำว่าควรทำบัญชีรายจ่ายว่าเราใช้จ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง และอะไรที่เราใช้มือเติบเกินเหตุในเดือนที่ผ่านมา เดือนนี้เราก็ควรรู้ตัวและลดค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นลง จะทำให้เราจัดการเงินเดือนที่ได้มาได้ดีขึ้น เขายังแนะนำเพิ่มอีกว่าให้ลองโหลดแอปพลิเคชันบันทึกรายรับรายจ่ายดี ๆ มาติดสมาร์ตโฟนไว้ เพราะสามารถช่วยในการบันทึกให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถ้ายังไม่รู้จะใช้แอปไหน ลอง Wally ดู ไม่มีผิดหวังแน่นอน “แลกแบงค์ 100 มาเก็บไว้ให้ใช้ครบทั้งเดือนเลย” – ครีม Content Creator ปัญหาการชักหน้าไม่ถึงหลังจะหมดไป
หากคุณกำลังมองหาเครื่องประดับสักชิ้นที่มาช่วยยกระดับบุคลิกของตัวเอง “นาฬิกาข้อมือ” จัดเป็นเครื่องประดับชิ้นสำคัญที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้แต่บุคคลระดับโลกมากมายต่างสวมใส่นาฬิกาข้อมืออยู่เป็นประจำ แถมยังให้ความสำคัญกับการเลือกเรือนเวลาคู่ใจเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ต่างจากเครื่องแต่งกายชิ้นอื่นบนร่างกาย แต่ปัญหาโลกแตกสำหรับคนที่ไม่อยากจะมีนาฬิกาหลายเรือนให้สับสนวุ่นวาย ไหนจะกลัวลืมทิ้งไว้ให้ใครหยิบยืม การหานาฬิกาคู่ใจสักหนึ่งเรือนไว้ใช้ได้หลาย ๆ โอกาส จึงถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง เนื่องจากมีเหตุผลมากมายที่ออกมาสนับสนุนว่า นาฬิกาข้อมือ ช่วยบ่งบอกบุคลิกความเป็นตัวตนออกมา ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดูชาญฉลาด ความมีอำนาจน่าเคารพนับถือมากยิ่งขึ้น แถมยังดึงดูดเย้ายวนเพศตรงข้าม ดังนั้นจึงไม่แปลกหาก Bill Gates , Elon Musk , Warren Buffet จะใส่ใจกับการเลือกนาฬิกาข้อมือและไม่ได้มองว่ามันเป็นเพียงสิ่งที่ไว้บอกเวลาเท่านั้น ถ้าเกิดคุณกำลังคิดว่านาฬิกาทุกเรือนก็เหมือนกันหมด เราอยากให้เปลี่ยนความคิดนั้นเสียใหม่ แม้ผู้ชายทุกคนล้วนมีเวลาเท่ากันไม่ว่าคุณจะใส่นาฬิกาเรือนใดก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างโดดเด่นจากคนอื่นคือรสนิยมการเลือกใช้นาฬิกาที่ปัจจุบันแทบจะกลายเป็นศิลปะบนตัวผู้ใส่ไปเสียแล้ว อย่างเช่น นาฬิกาสไตล์มินิมอล ที่ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายตามปรัชญา Less is more แฝงไปด้วยความรู้สึกสงบนิ่ง คลาสสิคไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปสักเพียงใด มันถูกพิสูจน์แล้วว่าอะไรที่ดูคลาสสิคอย่างไรก็ได้รับความนิยมเสมอและยังคงตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ชายได้เป็นอย่างดี จนคุณไม่ควรพลาดที่จะมีติดตัวไว้ ทำไมคุณถึงควรมี Minimalist Watch ติดไว้สักเรือน? จุดเด่นของนาฬิกาข้อมือแบบมินิมอลคือความคลาสสิค ซึ่งจัดอยู่ในประเภท dress watch ที่มักจะมาด้วยดีไซน์ตัวเรือนทรงกลมเรียบ
ชีวิตที่ราบเรียบไร้อุปสรรคคงเป็นชีวิตในอุดมคติที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมี แต่เพราะชีวิตจริงเราไม่สามารถมีชีวิตแบบนั้นได้ เรามีทั้งอุปสรรค ทั้งความกล้า ความกลัว สารพัดความรู้สึกที่เราต้องงัดออกมาสู้เมื่อต้องเผชิญกับความกลัวที่มีต่ออุปสรรคของชีวิตหรือความกลัวอะไรก็ตามที่เข้ามากระทบกับความรู้สึกของเรา UNLOCKMEN จะพามาชำแหละความกลัวและแนะแนวทางว่าจะสู้หรือจะหนีตามสไตล์ของแต่ละคน เมื่อคุณรู้สึกกลัวขึ้นมา ต่อมทอนซิลของคุณจะตอบสนองกับอาการกลัว และการตัดสินใจว่าจะสู้หรือจะหนี มันจะส่งสัญญาณไปที่ต่อม hypothalamus ที่ตอบสนองกับข้อมูลที่เรารับมาจากสมอง มันทำงานร่วมกับระบบประสาท มันเลยทำให้เรารู้สึกกลัวเวลาเราตกอยู่ในอันตราย เรามักจะตอบสนองสัญญาณของความกลัวในสองรูปแบบคือ “สู้หรือถอย” เมื่อคุณถือไพ่เหนือกว่า คุณตัดสินใจได้แบบทันที แทบไม่ต้องหยุดคิดด้วยซ้ำ สมองจะบอกให้คุณอยู่ต่อและสู้กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า หลุมพลางของการหลีกหนี เมื่อร่างกายตกอยู่ในอันตราย สมองจะสั่งให้คุณหนีโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ การหนีไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เพราะมันคือการรักษาชีวิตของเราโดยสัญชาตญาณ คนที่เลือกหนีเขามักจะยอมแพ้ได้ง่ายตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของปัญหา และข้ามไปแก้ปัญหาอื่น ๆ แทน (เพราะรู้ว่าอันนี้ตัวเองแก้ไม่ได้) เหมือนคนที่วิ่งหนีปัญหายาก ๆ เพราะคิดว่าตัวเองจะจัดการกับมันไม่ได้ เราอาจจะกลัวจนอยากจะหนีกับสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ หรือบอกตัวเองว่าไม่สามารถข้ามผ่านเรื่องราวยาก ๆ เหล่านั้นได้ เมื่อคิดแบบนี้ความเฟลนอนรอเราอยู่ข้างหน้าแน่นอน เพราะเมื่อคุณไม่เชื่อว่าตัวเองสามารถทำได้ คุณก็ไม่อยากสู้ ไม่รู้จะเอาพลังที่ไหนมาผลักดันศักยภาพตัวเองให้ออกมาเต็มที่ อย่าให้การเผชิญหน้าเป็นแค่ทางเลือก คุณอาจมีแรงกระตุ้นให้วิ่งหนีบางสิ่งเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างที่บอกไปข้างต้น แต่เราสามารถเปลี่ยนความคิดตัวเองได้ ถ้าหากต้องเผชิญกับเรื่องยาก ๆ อีกในครั้งต่อไป ลองบอกตัวเองให้สู้ ปลุกตัวเองด้วยพลังบวกแทนที่ความคิดลบ ๆจากข้างในว่าตัวเองทำไม่ได้