อากาศในช่วงนี้บอกได้คำเดียวว่าร้อนตับแตกดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหนุ่ม ๆ จะหันมาหยิบจับไอเทมกางเกงขาสั้นที่มีอยู่มากมายก่ายกองในตู้เสื้อผ้ามาลองมิกซ์แอนด์แมทช์สไตล์รับกับสภาพอากาศบ้านเราที่หาความแน่นอนไม่ค่อยจะได้สักเท่าไหร่ให้รู้สึกหายอึดอัดไม่สบายตัว เพราะจะมามัวใส่กางเกงขายาวอย่างเดียวคงจะไม่ไหว แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่เมื่อพูดถึงกางเกงขาสั้น เราจะตีความไปเชิงลบนึกถึงความไม่สุภาพเรียบร้อย อะไรเล่น ๆ ยิ่งในองค์กรที่มีเครื่องแบบยูนิฟอร์มชัดเจนแล้วคงจะเป็นไปไม่ได้ หากแม้เราจะแนะนำสไตล์การแต่งตัวดังต่อไปนี้ออกไป ทว่าเชื่อเถอะการลองกางเกงขาสั้นที่หนุ่ม ๆ หลายคนอาจจะไม่ได้สนใจใยดีมันมากนัก แท้จริงแล้วเราสามารถเลือกสไตล์พร้อมผสมการแต่งตัวให้ออกมาแตกต่างเพิ่มมิติใหม่ให้คุณสนุกกับการแต่งตัวมากยิ่งขึ้น วันนี้ UNLOCKMEN จึงนำทริกการแต่งกางเกงขาสั้นอย่างไรให้เด่นเป็นสง่าไม่ซ้ำใครมาฝากกัน เชิ้ต + เบลเซอร์ ใครบอกว่าใส่กางเกงขาสั้นจะทำให้เราดูไม่ภูมิฐานเสมอไป เพราะหากเรารู้จักนำไอเทมเสริมความน่าเชื่อถืออย่างเสื้อเชิ้ตและเบลเซอร์มาเติมแต่งใส่ลุคการแต่งกายให้เฉียบคมมากยิ่งขึ้น แต่ปัญหาส่วนใหญ่ของการนำเสื้อเบลเซอร์มาใส่กับกางเกงขาสั้นคือการเลือกโทนของสีที่จะต้องไปในทิศทางเดียวกัน เพราะโดยส่วนมากจะจับคู่มาเป็นเซ็ตให้เสร็จสรรพแบบนี้ไม่มีปัญหาสบายหายห่วง แต่ถ้าเกิดไม่เป็นเช่นนั้นพยายามใช้เซ้นส์การผสมสีให้ไม่โดดจนเกิดปัญหาการเหลื่อมกันของเฉดสี ไม่อย่างนั่นจากรุ่งอาจกลายเป็นร่วงได้ เรียบง่ายเข้าไว้ หากคุณต้องการจะใส่กางเกงขาสั้นให้ได้ลุคกึ่งทางการอย่างไรสะต้องรู้จักบาล้านซ์การแต่งตัวให้เรียบง่ายที่สุด อย่าคิดว่ามันเป็น full look ที่จะจับยัดเนคไท, เข็มกลัด อะไรลงไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะอาจจะย้อนแย้งเกินไปจากความต้องการที่จะสื่อให้ลุคดังกล่าวออกมาเป็นกึ่งทางการ ดังนั้นลองใช้โทนสีเสื้อผ้าเรียบ ๆ ไม่ต้องมีลวดลายเยอะแยะจนดูลายตาที่สำคัญโฟกัสกับขนาดของกางเกงขาสั้นไม่ให้สั้นหรือยาวจนเกินไปควรจะอยู่เหนือเข่าไม่เกิน 2 นิ้ว ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เราตั้งใจไว้ทั้งหมดอาจจะออกมาเป็นลุคพัง ๆ ได้ ให้ความสำคัญกับรองเท้า เมื่อคุณเลือกกางเกงขาสั้นมาจับคู่กับเสื้อเชิ้ตและเบลเซอร์ มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าคนจะโฟกัสบริเวณช่วงล่างของขาคุณ ดังนั้นทิ้งสมการถุงเท้าออกไป(ถ้าอยากใส่จริง ๆ ให้เลือกเป็นข้อสั้น) เพราะหากคุณกำลังมองหาลุค smart casual จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้รองเท้ามาเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนลุคให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นลองเป็น Derby Shoes,
“พอทราบอายุขวัญตา น้องเอยพี่มา นั่งทำตาปริบๆ” อยู่ ๆ เพลงนี้ก็ดังเป็นเดจาวูในหู พอเราได้ยินว่า LAZADA ประกาศวันเกิดปีที่ 6 ยังจำได้ลาง ๆ ว่าเพิ่งจะจัดแคมเปญวันคนโสด 11.11 ฉายช่องปลายปีไปอย่างยิ่งใหญ่ โผล่มาอีกทีอายุ 6 ขวบ เสียแล้ว แถมหน้าฟีดตอนนี้ยังเต็มไปด้วยโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย คอยไล่สะกดจิตให้เราต้องซื้อจากสื่อหลายช่องทาง ขณะที่คนอื่นกำลังคิดว่าบ่ายนี้กูจะซื้ออะไรดี แต่สาย BIZ อย่างเรากดเข้าเว็บฯ ดูไปเรื่อย ๆ แล้วเห็นทริคทางธุรกิจว่า เฮ้ย! ที่เขาฟาดฟันมาจนแข็งแกร่งในสาย E-commerce ขนาดนี้ มันไม่ได้มาเพราะถูกหวย แต่เพราะทิปส์เสริมกลยุทธ์ดี ๆ ที่เขาใช้ต่างหาก UNLOCKMEN คนไหนเป็นสาย BIZ มีเพจ มีธุรกิจออนไลน์ ลองเอากิมมิค 6 เรื่องนี้ไปเพิ่มในธุรกิจของคุณดู แล้วจะรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันไม่ได้เล็กน้อยอย่างที่คิดจริง ๆ 6 TIPS เทรนใหม่ครองใจลูกค้าโซเชียล 1. CHATBOT สุดไฉไล ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
หลังจากแฟน ๆ Arctic Monkeys ตั้งหน้าตั้งตาคอยกันมาตั้งแต่ปี 2014 จากอัลบั้มล่าสุด AM ที่ระเบิดความมันกันในคอนเสิร์ต AM tour แล้วพี่แกก็หายต๋อมเงียบไปแบบไร้ข่าวคราว จนเมื่อไว ๆ นี้โซเชียลมีเดียของวงได้อัปเดตเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่อย่าง “Tranquility Base Hotel & Casino” จนแฟน ๆ Hype กันแบบปรอทแตก กลับมาคราวนี้ไม่มีปล่อยซิงเกิ้ลเดี่ยวทีละเพลงสองเพลงอะไรทั้งนั้น ทุกคนจะได้ฟังพร้อม ๆ กันแบบทั้งอัลบั้มในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ นับวันรอวันวางแผงได้เลย! ตั้งแต่วันที่วงประกาศเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ ข่าวเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ออกมาทีละเล็กละน้อย สัปดาห์ละข่าวสองข่าว เยอะเสียจนตามอ่านแทบไม่ทัน UNLOCKMEN เอาใจหนุ่ม ๆ ด้วยการมัดรวมข่าวทั้งหมดที่เราควรรู้เกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ของ Arctic Monkeys มาไว้ให้ที่นี่แล้ว แบบกระชับฉับไวได้ใจความ ไม่ต้องอ่านยาว ๆ ไม่ต้องแปลเอง ลุย! Tracklist ในอัลบั้ม แค่ Teaser ไม่ถึงนาทียอดวิวก็เกือบสามล้านแล้ว พลังของแฟน ๆ วงนี้บอกเลยว่าประมาทไม่ได้จริง ๆ โดยอัลบั้มนี้จะเป็นอัลบั้มในสตูดิโออัลบั้มที่หกของพวกเขา
หนึ่งในคำถามแรกสุดของการสัมภาษณ์งานแต่ละครั้งคงหนีไม่พ้น “แนะนำตัวเองหน่อยครับ” หรือ “เล่าเรื่องของคุณให้เราฟังหน่อยค่ะ” แม้จะดูเป็นคำถามสุดพื้นฐานและง่ายแสนง่ายเพราะก็แค่บรรยายความเป็นตัวเองให้เขาฟัง แต่หลายต่อหลายคนก็ตกม้าตายเพราะไม่รู้ว่าจะทำให้การแนะนำตัวเองนี้มันน่าสนใจหรือแตกต่างจากคนอื่นได้อย่างไร ? แค่แนะนำชื่อ นามสกุล จบจากที่ไหน ทำงานอะไรมา มีประสบการณ์แค่ไหนอาจจะเพียงพอสำหรับการให้ข้อมูล แต่การเริ่มต้นแบบที่แตกต่างจะสร้างความประทับใจและทำให้คุณได้เปรียบผู้เข้าสมัครคนอื่น ๆ แบบไม่เห็นฝุ่นแน่นอน “ผมสามารถสรุปความเป็นตัวเองได้ใน 3 คำ” : ดึงความสนใจจากคนสัมภาษณ์มาอย่างรวดเร็วด้วยการบอกเขาว่า ไม่ต้องฟังอะไรให้ยืดยาวแต่อย่างใด เริ่มต้นด้วยคำที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณได้อยู่หมัดและสร้างสรรค์ เป็นการปล่อยหมัดฮุกเด็ดให้เขาอยากถามเราต่อไปว่าทำไมเราถึงเลือก 3 คำนี้ “โควตที่ผมใช้ในการดำรงชีวิตเสมอมาก็คือ …” : ยกโควตของคนดัง คนประสบความสำเร็จ (จะดีมากถ้าเป็นสายงานเดียวกับคุณ) หรือใครก็ได้ขึ้นมา เพื่อบอกให้เขารู้ว่านี่แหละคือวิถีที่คุณยึดถือมาตลอด วิธีการเลือกโควตที่ใช่ของคุณ หรือคนที่กล่าวโควตนั้นออกมามีผลอย่างมากต่อวิธีที่คนสัมภาษณ์จะมองคุณ ดีกว่าบอกลอย ๆ ว่าคุณเชื่ออะไร หรือดำรงชีวิตแบบไหน แต่ให้คำพูดของคนที่คุณยึดถือมาช่วยบอกด้วยกลาย ๆ “ปรัชญาส่วนตัวของผมคือ…” : การบอกปรัชญาในการใช้ชีวิตของตัวเองเป็นการบอกให้คนสัมภาษณ์รู้ว่าคุณไม่ได้แค่ใช้ชีวิต ทำงาน แล้วปล่อยให้วันเวลาไหลไปเรื่อย ๆ แต่คุณมีปรัชญาหลักที่คุณยึดถือ คุณเป็นนักคิด เป็นนักไตร่ตรอง และคุณจะใช้ชีวิตเพื่อบรรลุถึงปรัชญาที่คุณตั้งไว้ ไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ “คนที่รู้จักผมดีมักจะบอกว่าผมเป็นคน…” :
คำว่า “มารยาท” ก็ดูจะสะกดไม่ยาก แต่ดูเหมือนว่าเวลามีหนังฟอร์มยักษ์ฟอร์มใหญ่หรือหนังที่คนทั้งโลกรอคอย เข้าโรงทีไร จะมีคนบางกลุ่มสะกดคำว่ามารยาทไม่ค่อยจะเป็นกันขึ้นมา รู้ครับว่าเฮียดูหนังรอบสื่อบ้าง รอบดึกก่อนวันฉายจริงบ้าง ดูเร็วกว่าชาวบ้านเขา แต่สงสัยเฮียกลัวคนไม่เชื่อว่าเฮียดูก่อนคนอื่นจริง เฮียเลยเล่นมาสปอยล์ให้ชาวบ้านรู้ เล่าในวงเพื่อนก็ว่าเลวร้ายแล้ว แต่ในยุคที่โซเชียลมีเดียคือเลือดเนื้อและชีวิต เฮียเล่นตั้งสเตตัสเปิดพับลิคสปอยล์ซะอย่างนั้น! พอกันที เราจะไม่ทนแล้ว และนี่คือสารพัดวิธีเลี่ยงสปอยล์ ไม่ให้ต้องนอยด์อีกต่อไป ตั้งสเตตัสเตือนไว้ก่อนว่า “กูไม่อยากรู้โว้ย” บางทีคนสปอยล์ก็มาในรูปแบบผู้หวังดี เพราะเห็นว่าเราเป็นแฟนตัวยงของหนังเรื่องนี้ อาจจะเห็นเราแชร์ข่าวบ่อย ๆ หรือตั้งสเตตัสว่าอยากดูหนังเรื่องนี้แบบเต็มสูบ พอเฮียแกไปดูมาแล้วเลยหวังดีมาเล่าให้ฟังแม่งเลย! ดังนั้นเพื่อให้เคลียร์ชัดจัดเต็มว่า โอเค เราเป็นแฟนหนังเรื่องนี้นะ ติดตามข่าวคราวทุกสิ่งอย่าง แต่ไม่ได้อยากฟังใครมาเล่าให้ฟัง อยากไปเสพด้วยตัวเองโว้ย! ก็ควรตั้งสเตตัสประกาศบนโลกออนไลน์ให้ชัดเจนไปเลยว่าอย่าสปอยล์เด็ดขาด เพราะมันเป็นมารยาททั่วไป และผมก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องราวจากคุณด้วย ไม่ต้องหวังดีครับ อาจมีขู่เพิ่มเติมว่าถ้าใครละเมิดข้อตกลงจะบล็อกให้หายจากจักรวาลของกันและกันไปเลย เพื่อแสดงความจริงจัง ขาสปอยล์หน้าเก่าหน้าเดิม ไฮด์ไว้ก่อนเลยพี่ นอกจากขาสปอยล์ที่มาในรูปแบบผู้หวังดีแล้ว ก็ยังมีขาสปอยล์ที่มาในรูปแบบกวนส้นตีน คือรู้นะว่าทำแบบนี้แล้วคนไม่ชอบ ทำแบบนี้แล้วคนด่า แต่อยากทำ เพื่อความสุข (แบบประหลาด ๆ ) ส่วนตัว หรือเพราะปกติไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจและนี่คือช่วงเดียวที่คนจะให้ความสนใจ มนุษย์จำพวกนี้มักจะเป็นหน้าเดิม ๆ ซ้ำ ๆ
จั่วหัวมาขนาดนี้ก็คงไม่ต้องอ้อมค้อมกันแล้ว เชื่อว่าคุณผู้อ่าน(แทบ)ทุกคนน่าจะเคยดูภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ หรือ “หนังโป๊” มาแล้วไม่มากก็น้อย ยิ่งปัจจุบันยิ่งหาดูได้ง่ายตามเว็บ หรือสอยเอาตามกรุ๊ป LINE ชายล้วนที่มักจะมี “ของ” ส่งกันให้ดูวันละหลาย ๆ คลิป ส่วนใครจะดูมากดูน้อยอันนี้ก็แล้วแต่คน ที่จริงแล้วการชอบดูหนังโป๊ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเราเกิดเป็นมนุษย์ และคนเราก็มีอารมณ์ทางเพศ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อมีความต้องการสืบพันธุ์หรือขยายพันธุ์ โดยอารมณ์เหล่านี้เป็นปกติของสัญชาติญาณของมนุษย์ที่เกิดจากตัวเองเมื่อร่างกายผลิตฮอร์โมนทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศตามธรรมชาติ และเกิดจากสิ่งเร้าภายนอก (มักจะเกิดได้บ่อยกว่า) ไม่ว่าจะเป็นสื่อลามกต่าง ๆ การจินตนาการ การคิดถึงเพศตรงข้าม รวมถึงสิ่งยั่วยุทางเพศอื่น ๆ ก็ล้วนแต่สามารถปลุกให้น้องชายตื่นตัวจากการหลับใหลได้ทั้งนั้น แต่ถ้ารู้สึกว่ามันชักจะหมกมุ่นมากไปแล้ว ว่างเป็นดู ติดยิ่งกว่าซีรีส์ดัง ใช้งานหนังเอ็กซ์เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ตลอด จนรู้สึกหายใจเข้าออกเป็นเรื่องเพศแล้วหละก็ คงต้องดึงสติกลับมากันหน่อย ทีมงาน UNLOCKMEN มีวิธีลด-ละ-เลิกการเสพติดหนังโป๊มาฝากกัน จะได้ไม่ฟุ้งซ่านทั้งวันจนไม่เป็นอันสงบใจ โดยวิธีการจะแบ่งเป็น 2 ข้อใหญ่ ๆ คือ ปรับที่ mindset (กระบวนการทางความคิด) และ ปรับที่ action (การกระทำ) MINDSET อย่ายอมให้หนังโป๊มีอิทธิพลมากเกินไป สำหรับชายที่พยายามย่อยสลายอาการติดหนังโป๊ออกจากใจมันค่อนข้างจะยากสักหน่อย เพราะมันเหมือนการถูกสิงสู่จากปีศาจแห่งตัณหา
PORTFOLIO เป็นเหมือนปราการด่านแรกของการแนะนำตัว โดยจุดประสงค์หลัก ๆ ของมันก็คือการขายตัวเองนั่นแหละ ข้อดีมีเท่าไหร่ต้องใส่ลงไป (แต่ก็ต้องไม่เยิ่นเย้อเกินพอดี) เพื่อทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนได้รู้ว่าคุณมีดีอะไรบ้างและโน้มน้าวให้เขาเชื่อสิ่งที่คุณนำเสนอไป ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตฯในช่วงวัยเรียนหรือทำงาน ล้วนแต่มีความสำคัญทั้งนั้น UNLOCKMEN เลยอาสาแนะนำเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนพอร์ตฯของคุณให้เจ๋งและใช้ได้จริงแบบฉบับรวดเร็วและเข้าใจง่าย ใส่แต่ข้อมูลที่จำเป็น เพื่อความง่ายต่อการกวาดสายตาอ่านของ HR สุดเฮี้ยบ ในหน้า INFO เกี่ยวกับตัวเรา ควรใส่แต่ข้อมูลที่จำเป็นแบบเนื้อ ๆ ไม่ใส่อะไรที่มันไม่จำเป็นต่อการทำงาน เช่น ความชอบที่มันส่วนตัวมากเกินไปอย่าง อาหารที่ชอบ สีที่ชอบ สัตว์เลี้ยงแสนรัก อะไรทำนองนั้น ขอให้เก็บเอาไว้เขียนในเฟรนด์ชิปของเพื่อนตอนประถมฯก็พอ และที่สำคัญคือควรใช้คำที่กระชับ เข้าใจง่าย ไม่ต้องอธิบายอะไรยืดยาวมากนัก เพราะถ้าหากจุดไหนน่าสนใจ ผู้สัมภาษณ์ก็จะเห็นและเอ่ยปากถามเราเอง ทำให้ง่ายเข้าไว้ สิ่งสำคัญสำหรับ PORTFOLIO ไม่ใช่แค่ข้อมูล ดีไซน์เองก็มีส่วนสำคัญ บางครั้งใส่อะไรเยอะ ๆ ลงไปมันชวนให้ดูล้นมากกว่าจะให้ความรู้สึกว่ามันสะดุดตา เลิกกังวลว่าการใช้สีเรียบง่ายจะทำให้น่าเบื่อ เพราะการสาดสีแบบสะเปะสะปะก็ดูรกตาเช่นกัน ลองเปลี่ยนเป็นแบบสบายตาและเป็นระเบียบ อ่านง่าย เข้าใจง่าย แยกหมวดหมู่ชัดเจน ว่าตรงนี้คือประวัติส่วนตัว ตรงนี้คือการติดต่อ ตรงนี้คือประสบการณ์ นอกจากนั้นการจัดบรรทัด การจัดย่อหน้า ก็เป็นอีกสิ่งที่ควรคำนึงถึง
เป็นเรื่องปกติที่เราจะย้ายงานเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าให้ชีวิต แต่การเดินเข้าไปทำงานในออฟฟิศใหม่ แม้จะผ่านมากี่ครั้งก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายอกสามศอกอย่างเราจะชินได้ง่าย ๆ ไหนจะเพื่อนที่ทำงานที่เรายังไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนรออยู่บ้าง วัฒนธรรมในองค์กรที่แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันและต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ที่สำคัญที่สุดก็คงไม่พ้นการดีลกับบอสคนใหม่ว่าจะทำอีท่าไหนให้บอสเขาประทับใจในตัวเราตั้งแต่วันแรก ๆ เพราะจะผ่านโปรฯ หรือไม่ผ่านโปรฯ ก็บอสนี่แหละที่จะเป็นคนประเมินเรา ดังนั้นสร้างความประทับใจไว้ตั้งแต่แรกพบจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ถ้าไม่รู้จะทำยังไงเราก็เอา 6 หนทางต่อไปนี้มาฝาก ถามคำถามถูกใจ คุณจะได้ไปต่อ หลายครั้งในฐานะพนักงานใหม่ขององค์กร เรารู้สึกว่าเราต้องแสดงความเป็นมืออาชีพ ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการแสดงออกว่าเรารู้รอบครอบจักรวาลเกี่ยวกับหน้าที่การงานและตำแหน่งของเราดีอยู่แล้ว และเรารู้สึกไปเองว่าการถามคำถามกับบอสหรือคนรอบ ๆ กายจะดูเป็นพ่อไก่อ่อนที่ดูไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาซะเลย ซึ่งมันไม่ใช่หนทางที่ถูกเสมอไปเพื่อน! การถามคำถามที่ถูกต้อง (ไม่ใช่คำถามจ้อกแจ้กชวนนินทาคนอื่น) เป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจให้บอสมาก ๆ Bryce Welker CEO ขององค์กรหนึ่งเปิดเผยว่าเขาชื่นชมพนักงานที่แสดงความปรารถนาที่จะรู้เรื่องงานและบริษัทของตัวเองมากขึ้น โดยเขาเล่าว่าครั้งหนึ่งที่เขารับพนักงานใหม่เข้ามาพนักงานคนนั้นได้สร้างความประทับใจให้เขาโดยการถามคำถามที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท เขาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าการทำงานดีก็เป็นเรื่องที่ดี แต่การที่เพิ่งเข้ามาแล้วถามคำถามที่แสดงให้เห็นว่าเขามีความตั้งใจจะเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องบริษัทของ Bryce Welker นั้นเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก ๆ ไม่ใช่แค่ตั้งคำถาม แต่มีทางออกให้ด้วย บางทีการตั้งคำถามฉลาด ๆ ก็สร้างความประทับใจได้เพียง 1 ขั้นเท่านั้น แต่ถ้าจะสร้างความประทับใจแบบคูณ 2 ก็ต้องหาหนทางแก้ไขปัญหาหรือคำถามที่เราโยนลงไปได้ด้วย เช่น ถ้าเราถามว่าทำไมที่นี่ถึงใช้วิธีการเจรจาทางธุรกิจแบบนี้ครับ? มันมีข้อเสียอะไรบ้างหรือเปล่า? โอเค เราแสดงความสนใจเรื่องบริษัทอย่างลึกซึ้งไปแล้ว
ถือว่าเป็นการกลับมาคืนชีพอย่างแท้จริงสำหรับ Converse หลังจากปีนี้ได้เลือกเน้นโปรโมตรองเท้ารุ่น One Star พร้อมปล่อยแคมเปญสุดจี๊ด RATED ONE STAR โดยเป็นการรวมตัวของสไตล์ไอคอนชื่อดังและประสบความสำเร็จเรียกความนิยมกลับมาจนกลายเป็นรองเท้าสนีกเกอร์ที่เหล่านักสะสมต่างต้องการ หากย้อนเรื่องราวของรองเท้า One Star นั้นมีจุดเริ่มต้นในปี 1974 ที่กำเนิดจากการพัฒนารองเท้าบาสเกตบอลในรูปแบบ low-top ซึ่งเวลานั้นวัสดุที่ Converse เลือกใช้คือหนังกลับและชุดพื้นโฟม ทว่าน่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะมันถูกวางขายเพียงปีเดียวเท่านั้นก่อนจะถูกยกเลิกไลน์การผลิตไป อย่างไรก็ตาม One Star ไม่เคยหายไปจากหน้าวงการรองเท้าเลย โดยมันถูกใช้เป็นตัวแทนของดนตรีกรันจ์ใน Seattle ซึ่งภาพที่ทุกคนคงน่าจะจำได้เป็นอย่างดีคือ Kurt Cobain สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ จับคู่กับรองเท้า Converse One Star สุดคูล นอกเหนือจากนี้แล้วนักสเก็ตบอร์ดหลาย ๆ คนยังชื่นชอบที่จะนำมาใช้เวลาเล่นสเก็ตจนเป็นที่มาของคำว่า Anti-Fashion แต่ถ้าจะพูดถึงเหตุการณ์สำคัญของ Converse One Star ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีกลายต้องยกให้กับการร่วมงานกันระหว่าง Tyler The Creator แร็ปเปอร์มาดกวนเจ้าของแบรนด์ GOLFWANG และเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลทางวงการแฟชั่นต่างประเทศได้กระโดดย้ายค่ายจากพันธมิตรเก่าสุดแน่นแฟ้นอย่าง Vans มาพบรักใหม่กับ
ยังคงเป็นพันธมิตรกันอย่างต่อเนื่องสำหรับซูเปอร์สตรีทแบรนด์อย่าง Supreme ที่จับมือกับ Lacoste สปอร์ตแบรนด์ระดับตำนานจากฝรั่งเศส เตรียมปล่อยคอลเลคชั่นใหม่ในคอนเซปต์ “streetwear classics” ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองหลังจากประสบความสำเร็จจาก Lacoste x Supreme 2017 Spring/Summer เมื่อปีที่ผ่านมา กลับมาในคราวนี้ Supreme ได้นำเอาแรงบันดาลใจจากตัวของ René Lacoste ที่เคยสร้างเครื่องแบบกีฬาสุดคลาสสิคโดดเด่นในยุค 20s อันเป็นเอกลักษณ์จากกีฬาเทนนิส จนทำให้ Supreme หยิบจับมาเล่นอีกครั้งในปีนี้ เพื่อต้อนรับช่วง spring / summer ที่กำลังจะมาถึง ไอเทมของ Lacoste x Supreme 2018 Spring/Summer เรียกได้ว่าจัดเต็มเล่นใหญ่เหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น sweatshirt , polo , varsity jacket , track top และอีกมากมาย ที่สำคัญยังมี Key Item อย่างเสื้อโค้ทและกางเกงวอร์มเพิ่มลูกเล่นด้วย 3M® จึงสะท้อนแสงโดดเด่นกว่าใครอย่างแน่นอน คอลเลคชั่นนี้ยังโดดเด่นด้วยการนำโลโก้จระเข้ของ Lacoste แถมหยิบจับโทนสีซิกเนเจอร์พาสเทลและสีสด