ภาษาอังกฤษยังคงเป็นไม้เบื่อไม้เมาสำหรับคนที่อ่อนแอทางภาษา แต่เราก็ต้องยอมรับว่าการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ การใช้ทักษะภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะฟังพูดอ่านเขียน หรือต่อให้เราแทบไม่ได้ใช้แต่ถ้าหากมีสกิลภาษาอังกฤษติดตัวเอาไว้ ก็ช่วยให้เราดูเป็นคนเจ๋งขึ้นมาแบบง่าย ๆ UNLOCKMEN ขอแนะนำแอปฯ ให้หนุ่ม ๆ ได้โหลดไว้ติดเครื่อง เอาไว้พัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเอง สละเวลาสักวันละสิบนาทีมานั่งเล่นและเรียนภาษาอังกฤษไปด้วยกัน รับรองว่าไม่ใช่แอปฯ นั่งท่องศัพท์สุดน่าเบื่อแน่นอน Memorise แอปฯนี้เป็นเหมือนกึ่งเกมมากกว่าจะเป็นแอปฯสอนภาษาแบบเพียว ๆ เพราะมันจะสรรหาเกมเล่นง่าย ๆ แบบเบาสมอง แต่ช่วยให้เราจดจำศัพท์ภาษาอังกฤษได้แบบแนบเนียน มีการเก็บคะแนนให้เราได้เห็นพัฒนาการของตัวเองในแต่ละวันด้วย ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเล่นยาก เพราะมันเป็นเกมง่าย ๆ แบบเด็กเบบี๋ก็เล่นได้ ส่วนคำศัพท์นั้นจะเริ่มจากง่าย ๆ ไปแอดวานซ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีแบบก้าวกระโดดอะไรแบบนั้นแน่นอน เหมาะกับใคร ? : คนที่ต้องการเพิ่มเติมคำศัพท์ให้ตัวเองแบบวันละนิดละหน่อย แต่เบื่อการท่องจำแบบเดิม ๆ CM TOEIC® MASTER รวมแบบฝึกหัดจากการสอบโทอิกให้เราได้ลองทำ มีทั้งแบบจับเวลาและไม่จับเวลา มีทุกพาร์ตให้เราได้ลองทำ ตั้งแต่พาร์ตฟังและอ่านที่จะเราต้องเจอในสนามจริง ในตอนเริ่มต้นก็ลองแบบไม่จับเวลาฝึกซ้อมให้แม่น ๆ ไปก่อน พอเซียนขึ้นมาระดับนึงแล้ว ลองแบบจับเวลา เพราะมันจะเป็นเหมือนจำลองการสอบจริง ๆ ให้เราเลยล่ะ ความเจ๋งอยู่ที่หากเราตอบผิดจะมีคำอธิบายเล็ก ๆ
ด้วยอายุและจุดอิ่มตัวในวงการการแสดง ทำให้นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Nicolas Cage ที่ฝากผลงานไว้มากมายเลือกที่จะยุติบทบาทการเป็นนักแสดงและหันหน้าเข้าสู่วงการเบื้องหลังแทน วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาหาคำตอบเบื้องลึกเบื้องหลังถึงการตัดสินใจของเขาครั้งนี้ พร้อมกับแนะนำ 5 หนังที่เขานำแสดง ให้เอาไปดูกันให้หายคิดถึงก่อนที่เขาจะพักงานแสดงไปยาว ๆ Nicolas Cage คือใคร ? เขาคือนักแสดงวัย 54 ปีที่มีผลงานการแสดงภาพยนตร์เยอะมากพอที่จะทำให้เราคุ้นหน้าเขาได้บ้างในภาพยนตร์อย่าง Leaving Las Vegas, Gone In 60 Seconds และ Face Off ชื่อในวงการ Nicolas Cage นั้นใช้แทนชื่อจริง ๆ ของเขาคือ Nicolas Coppola เห็นนามสกุลนี้มันคุ้นตาซะเหลือเกิน ใช่แล้ว เขาเป็นญาติของผู้กำกับมือฉมังอย่าง Francis Ford Coppola ซึ่งมีผลงานที่สร้างชื่ออย่าง The Godfather และ Apocalypse Now เขาเรียนจบจากคณะภาพยนตร์และการแสดงในระดับมหาวิทยาลัย ทำให้นอกจากการแสดง เขาสามารถทำงานเบื้องหลังได้อีกด้วย พักหลังนี้เราอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเขาในฐานะ Meme บนโลกอินเตอร์เน็ตเสียมากกว่า
ผู้ชายแมน ๆ อย่างเราชอบคิดอยู่ในหัวว่า การรักใครสักคนนั้น “การกระทำสำคัญที่สุด” ยิ่งเรารักใครมาก เราก็ยิ่งอยากทำให้เขามาก วิธีคิดแบบนี้ UNLOCKMEN ว่าก็ไม่ผิดอะไร แต่หลายครั้งทุ่มเทการกระทำไปเต็มหมื่น แต่ปากหนัก ไม่พูด ไม่สื่อสารอะไรให้สาวข้างกายรู้เลยว่าเราโคตรรักโคตรห่วง บางทีผู้หญิงเขาก็น้อยใจบ้างเหมือนกัน ดังนั้นเพื่อให้การกระทำที่เราจัดเต็มไม่สูญเปล่า ลองกำความลับ 5 สิ่งที่ผู้หญิงอยากได้ยินนี้ไปกระซิบให้เธอฟังบ่อย ๆ รับรองว่าจะไม่เสียใจแน่นอน “ขอบคุณที่เข้ามาทำให้ชีวิตผมดีขึ้น” ใคร ๆ ก็อยากเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ชีวิตอีกคนดีขึ้น ดังนั้นถ้าสาว ๆ ได้ยินจากปากคุณว่าการที่เธอเดินเข้ามาในชีวิตคุณแล้วมันทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นอย่างไรบ้าง รับรองเลยว่าเธอจะรู้สึกดีขึ้นกับคุณหลายสิบระดับ กฎสำคัญคืออย่าโกหก! เพราะเธอจะรู้ทันทีว่าที่คุณพูดมันไม่จริง ดังนั้นลองทบทวนดูว่าตั้งแต่มีผู้หญิงคนนี้เข้ามาในชีวิต แล้วมีอะไรดีขึ้นบ้าง แล้วขอบคุณเธออย่างจริงใจ ให้เธอรับรู้ว่าคุณเห็นค่าของเธอ เพราะมันไม่ใช่แค่เธอจะรู้สึกดีเท่านั้น คุณเองก็จะได้ทบทวนอย่างจริงจังด้วยว่าการมีความรักดี ๆ อยู่กับตัวมันดีแค่ไหน และต้องรักษามันเอาไว้อย่าให้หลุดมือ “ผมไม่มีทางทำ…ได้ถ้าไม่มีคุณข้าง ๆ “ แม้ผู้ชายอย่างเราจะทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ด้วยตัวเองตัวคนเดียว แต่ก็หลายครั้งที่พอมีคนข้างกายแล้วเราทำมันได้ในแบบที่เราไม่คาดคิดมาก่อน อย่าเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว กระซิบบอกสาวข้างกายหน่อยว่าพอมีเธอข้าง ๆ นั้นทำให้คุณทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้แบบมหัศจรรย์แค่ไหน ไม่ต้องเป็นคำพูดที่หวานมาก เอาแค่สิ่งเล็ก ๆ น้อย
การเป็นคน cool มันต้องเป็นแบบไหน ? ต้องเท่ ดูดี มีสไตล์เหนือกว่าใคร ๆ ? หรือว่าจริง ๆ แล้วมันควรมาจากข้างในมากกว่า ? นานาจิตตังครับเรื่องนี้ คำตอบในใจของเราจะเป็นอย่างไรคงไม่มีผิดมีถูก และการเป็นคนคูล ๆ ก็ไม่ได้มีความตายตัวในเรื่องรูปแบบ แต่อย่าปฏิเสธเลยครับว่าเราไม่ต้องการการยอมรับจากสังคมเลยสักนิด มาสโลว์ (Maslow) นักจิตวิทยาชั้นครูที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของทฤษฎีในวงกว้าง จัดลำดับขั้นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ไว้ดังนี้ ความต้องการทางด้านร่างกาย ความต้องการความปลอดภัย ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ ความต้องการการยอมรับนับถือ ความต้องการบรรลุศักยภาพสูงสุดแห่งตน ที่เราเน้นตัวหนาที่ข้อ 4 ก็เพื่อจะย้ำว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมและต้องการการยอมรับอยู่ในใจ และถ้าเราต้องการที่จะให้ผู้อื่นยอมรับในตัวเราแบบยั่งยืนก็ต้องเป็นสิ่งที่มาจากข้างในมากกว่าเปลือกนอกที่ไม่จีรัง ทีมงาน UNLOCKMEN มีวิธีที่จะทำให้พวกเรากลายเป็นผู้ชายแบบคูล ๆ ด้วยจิตใจที่จะสะท้อนออกมาเป็นการกระทำในสถานการณ์ต่าง ๆ มาให้ลองอ่านเป็นแนวทางในการพัฒนาตัวเอง แล้วจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วเราก็เท่ได้แบบไม่ต้องพยายาม เท่ในที่ทำงาน น้ำใจน้อยนิดมหาศาล: แน่นอนว่าคนเราย่อมนึกถึงตัวเองก่อน แต่การมีน้ำใจก็ทำให้เรารู้สึกเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ จะให้ดีต้องจริงใจและไม่ยัดเยียด ลองสังเกตดู เชื่อว่าในออฟฟิศคุณน่าจะมีเพื่อนร่วมงานอยู่คนหนึ่งที่มักจะมีลูกอมหรือขนมวางไว้ที่โต๊ะทำงานเสมอ บางคนก็เขียนโน้ตแปะไว้ว่า “หยิบกินได้เลย” แหม่ อย่าบอกว่าคุณไม่เคยเดินไปหยิบซักเม็ดสองเม็ด ไอ้น้ำใจเล็กน้อยนี่แหละคือการสร้างมิตรภาพที่ดีแบบไม่ยัดเยียด
นับเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ผู้ชายอย่างเราจะต้องพบเจอผู้คนหลากหลายประเภท เราเลือกไม่ได้ว่า “เฮ้ย วันนี้กูอารมณ์ไม่ดีเลยว่ะ ขอเจอแต่คนที่ทำให้ชีวิตมีพลังบวกแล้วกัน” (เออ ถ้าขอได้ก็ดีสิ) แต่เพราะชีวิตไม่ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาคอยคุ้มหัว เราถึงต้องคุ้มครองตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเจอคนแบบที่โคตรเต็มไปด้วยพลังลบ แล้วเราจะดีลกับเขาอย่างไร ? เพื่อไม่ให้เราสติแตกไปด้วย ยิ่งในที่ทำงานหรือบรรยากาศแห่งการเจรจาธุรกิจแล้วด้วยจะปล่อยให้พลังลบ ๆ มามีบทบาทต่อชีวิตไม่ได้เด็ดขาด! อย่าหลวมตัวไปในประเด็นที่เขาสร้างเป็นอันขาด ขึ้นชื่อว่า NEGATIVE PEOPLE แล้ว ดูเหมือนว่าพี่แกจะมีความสามารถในการทำประเด็นต่าง ๆ ในโลก ไม่ว่าประเด็นนั้นจะดูมีความเป็นไปได้ว่าจะดีงามแค่ไหนให้กลายเป็นเรื่องเลวร้ายได้ในทันตา และต่อให้พลังบวกในใจเรายังเต็มเปี่ยมพร้อมจะไฝว้กับพี่แกแค่ไหน แกก็จะยกเหตุผลแห่งพลังลบทั้งล้านแปดมาเพื่อถกเถียงกับเราได้อยู่ดี ดังนั้นอย่าหลวมตัวลงไปเวลาเขาพยายามโต้ตอบด้วยพลังลบของเขา ให้เราเฉย ๆ นิ่ง ๆ ยิ้ม ๆ ไป ฟังเขาแบบฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปเพลิน ๆ ทำใจให้สบายแล้วเตรียมรับมือกับเขาในระดับต่อไปดีกว่า ยิงคำถามรัว ๆ “แล้วด้านดีของมันล่ะ ?” แม้เขาจะมีความสามารถพิเศษในการพูดถึงคน สัตว์ สิ่งของในแง่ลบตลอดเวลา แต่ถ้าเจอการยิงคำถามให้ต้องตอบตรง ๆ เข้าไป บุคคลแห่งพลังลบก็ต้องนิ่งคิดเพื่อตอบคำถามกันบ้าง ดังนั้นหลังจากที่เขาประเคนสารพัดเหตุผลแห่งพลังลบเพื่อดีเบตหักล้างเรารัว ๆ แล้ว พอเขาพูดจบปุ๊ป ให้เรายิ้มและถามเขาด้วยความสุภาพว่า “แล้วด้านดีของประเด็นนี้ล่ะครับ
หลังจากสัปดาห์อันวุ่นวายจากวันหยุดยาว ทุกคนคงพบเจอกับปัญหาหัวหน้าสั่งให้เคลียร์โปรเจกต์ที่ค้างจนงานล้นมือและยากจะควบคุมจัดระเบียบให้ทันเวลา เพราะทุกอย่างต่างทับเส้นกันวุ่นวายเต็มไปหมด ปัญหาเหล่านี้ชวนปวดหัว หันไปพึ่งยาลดไมเกรนก็คงไม่ช่วยอะไร เพราะมีทางเดียวคือต้องสะสางงานให้เสร็จถึงจะกลับบ้านได้ แต่ใครที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าวอยู่ไม่ต้องห่วง เพราะวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN มีเคล็ดลับวิธีวางแผนความคิดที่เรียกว่า การจัดระเบียบแบบตาชั่ง ( the Scales Method ) ซึ่งจะช่วยคุณกำหนดชีวิตในช่วงยุ่งยากภายใน 10 นาทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1 . วางแผน 10 นาที หากงานเยอะ และยังทำงานอย่างไร้แบบแผน ไม่มีลำดับขั้นตอนแน่นอน ผลที่ตามมาคือความยุ่งเหยิง จนทำให้คุณขยับตัวไปไหนไม่ได้นอกจากโต๊ะทำงานและจอคอม ข้อแนะนำของเราคือหาเวลา 10 – 15 นาที เพื่อวางแผนการจัดการก่อนวันเสมอ โดยใช้เวลาเหล่านี้ในการ มองภาพใหญ่ของวัน วางเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จ ลิสต์งานทั้งหมดที่ต้องทำไว้ 2. วางตัวงานให้ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้ ขั้นตอนนี้คือสิ่งสำคัญซึ่งจะทำให้การจัดระเบียบแบบตาชั่งเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มจากลองไตร่ตรองดูงานทั้งหมดที่คุณมีอยู่ในมือตอนนี้ ลำดับความสำคัญของแต่ละงาน โดยมองเจาะจงลงไปในน้ำหนักของความคุ้มค่า ว่างานตัวไหนต้องใช้ต้นทุน ( Cost ) เท่าไหร่ และจะต้องเสียเวลาในการทำนานแค่ไหน ใช้พลังรวมถึงทรัพยากรมากเพียงใด และอีกด้านหนึ่งคือได้ผลตอบแทน ( Benefit
ความฉลาดทางอารมณ์ Emotional Intelligence (EQ) เป็นความฉลาดอีกแบบที่ผู้ชายอย่างเรามักได้ยินคนพูดถึงกัน และ UNLOCKMEN บอกได้เลยว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ความฉลาดรูปแบบอื่น ๆ ความฉลาดทางอารมณ์นี้ส่งผลให้เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เข้ากับผู้คนได้ รวมถึงรักและเข้าใจตัวเองได้อย่างมีพลัง อ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะแอบเกาหัวแกรก ๆ พลางสงสัยว่าอย่างเรานี่ถือว่ามีความฉลาดทางอารมณ์กับเขาบ้างไหมนะ ? อย่าปล่อยให้ตัวเองงงนาน เราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเถอะ ว่าคนที่โคตรฉลาดทางอารมณ์เขามีลักษณะนิสัยแบบไหนกันบ้าง ? แล้วเรามีนิสัยแบบนั้นบ้างหรือไม่ ? ไม่พยายามทำให้คนอื่นมาชอบ มันเป็นเรื่องโคตรปกติที่จะมีคนรักและมีคนเกลียด คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์รู้ดีว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือสิ่งที่พวกเขาเป็นนั่นแหละ การมีคนรักและไม่รักจึงเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องพยายามทำอะไรให้คนมาชอบ ต่อให้คนไม่ชอบแต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าถูกต้อง พวกเขาก็จะทำมัน และการไม่พยายามทำให้ใครต้องมาชอบก็จะยิ่งทำให้เขาเป็นตัวเอง แสดงความคิดเห็นที่เป็นตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ไม่ตัดสินคนอื่น คนมีความฉลาดทางอารมณ์จะมีทัศนคติที่เปิดกว้าง และความเปิดกว้างนี้เองก็จะยิ่งทำให้เขาได้รับไอเดียใหม่ ๆ จากผู้คน ที่สำคัญพวกเขาจะพยายามเข้าใจคนอื่นโดยเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่างไรก็ตามการพยายามเข้าใจคนอื่นไม่ได้แปลว่าเราต้องเชื่ออย่างที่คนอื่นเชื่อไปทั้งหมด แค่รับฟัง พยายามทำความเข้าใจ แต่ไม่ตัดสินเขา นั่นแหละคนที่ EQ สูง ๆ เขาทำกัน มีหนทางเป็นของตัวเอง คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์คือคนที่เชื่อในการกำหนดทิศทางของตัวเอง คำสบประมาท ดูถูก ถากถางจากคนอื่นไม่สามารถล้มความตั้งใจของพวกเขาได้ ถ้าเขามั่นใจว่าทางที่กำลังเดินไปมันถูกต้อง เขาก็จะเดินไปตามทางนั้นอย่างไม่หวั่นกลัว
ตั้งแต่เล็กจนโตเรามักถูกตีกรอบให้กับตัวเองว่าเป็นพวกต้องใช้ Logic (ตรรกะ) มากกว่า Emotion (ความรู้สึก) ซึ่งนั่นเป็นบ่อเกิดของการตีบตันทางความคิดสร้างสรรค์โดยไม่รู้ตัว อีกทั้งในสังคมไทยเรามักจะจำกัดความตำแหน่ง creative ไว้อย่างสวยหรูว่าจะต้องเป็นคนที่มีความคิดแปลกแยกแตกต่าง ดูติสท์ ๆ หน่อย ๆ โดยอันที่จริงแล้วความ creative นั้นมีอยู่ในมนุษย์เราทุกคน ทว่าเรามักตัดพ้อโทษตัวเองว่า “เราไม่มีทางคิดอะไรอย่างนั้นได้หรอก” ซึ่งมันไม่จริงเลยเพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนกันได้เหมือนทักษะอื่น ๆ ดังนั้นจึงมีคนได้ไปรวบรวม 10 habit of highly creative people หรือ 10 อุปนิสัยของนักคิดทั้งหลายว่าพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร จึงส่งผลไปสู่กระบวนการคิดสร้างสรรค์และผลิตงานที่ทุกคนต้องร้องว้าว! และอยากให้ลองมาเช็คกันดูว่าหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN ทั้งหลายแท้จริงแล้วอาจมีคุณสมบัติความ creative แฝงอยู่อย่างไม่รู้ตัวก็เป็นได้ พยายามเคลื่อนไหวตัวเองตลอดเวลา หากสังเกตมักจะมีคำพูดติดปากสำหรับคนทำงานสาย creative เสมอว่าเป็นพวกแอคทีฟบ้าพลัง ซึ่งอันที่จริงแล้วมันเป็นพฤติกรรมสร้างความคิดสร้างสรรค์โดยไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างเช่น Erik Satie นัก Composer เขาใช้วิธีการเดินเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตรทุกเช้าแทนที่จะเป็นรถประจำทางเข้าเมือง Paris หรือ Haruki Murakami
วันนี้วันอะไรใครรู้บ้าง ? ใครไม่รู้ แต่สายออแกนิกรู้ และจะเอามากระซิบบอกผู้ชายสายปุ๊นกันหน่อยว่าทุกวันที่ 20 เมษายนของทุกปีคือวันกัญชาโลก ถ้านับวันที่แบบอเมริกันก็จะได้รหัสลับแบบที่สายปุ๊นรู้กันทั้งโลกว่า 420 ดังนั้นเพื่อต้อนรับวัน 420 นี้และเพื่อต้อนรับเดือนของชาวออแกนิกกันด้วย เราก็เลยจัดเต็มกับ PLAYLIST นี้ขึ้นมา แม้เนื้อหาเพลงอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับสมุนไพรสายเคลิ้มโดยตรง แต่เราเน้นฟีลลิ่งของเพลงที่เราจัดลำดับมาให้มีไดนามิกเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าจะได้เอื้อมแตะเพดานกันได้ทุกคน แต่อย่าหักโหมกันจนเกินไป เติมแต่น้อยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ หรือถ้าหากไม่ได้เป็นชาวออแกนิกกับเขา แต่อยากได้เพลงลอย ๆ ชวนให้หันไปมองท้องฟ้าแบบไม่มีเหตุผล PLAYLIST นี้ก็ตอบโจทย์คุณได้เหมือนกัน เตรียมตัวให้พร้อม เราจะลอยไปด้วยกัน SRIRAJAH ROCKERS – เติม SRIRAJAH ROCKERS – ROLL ALONE (พรรณลำพัง) Kai-Jo Brothers – สุขใจ Sticky Fingers – Liquorlip Loaded Gun Snoop Dogg feat. Wiz Khalifa – That Good Rejjie Snow
การเป็นผู้ชายมันส์ ๆ มันก็ต้องการความคล่องแคล่วว่องไวในการใช้ชีวิต ทั้งเดินลุยได้ไวอย่างใจนึก วิ่งไวจนใคร ๆ ก็ตามไม่ทัน ปั่นจักรยานก็ได้รับการยอมรับว่า “ขาแรง” พอลงน้ำก็ว่ายรวดเร็วดุดันราวกับฉลามหนุ่ม หรือเป็นคนที่เร็วที่สุดในกิจกรรมที่ต้องแข่งกับเวลา (ยกเว้นบางเรื่องที่อยากจะให้เสร็จช้าเหลือเกิน…เข้าใจตรงกันนะ) ทว่าการฝึกร่างกายให้คล่องแคล่วว่องไวนั้น บางคนอาจจะมีอุปสรรคเรื่องเวลา ไม่ก็งานที่รัดตัว หรือบินไปบินมาติดต่อธุรกิจมูลค่ามหาศาล ทำเอาการจัดตารางออกกำลังการของเรานั้นมันเพี้ยนเพราะภาระมากมาย เรารู้ครับว่าทุกคนมีเหตุผล เข้าใจดีว่าไม่ใช่ข้ออ้าง แต่อย่าให้หน้าที่มาเป็นอุปสรรคต่อการฟิตร่างกายเพื่อเพิ่มความเร็วความคล่องตัวเลยครับ ทีมงาน UNLOCKMEN มีท่าออกกำลังกายแบบ body-weight (ใช้น้ำหนักร่างกายของเราทำหน้าที่แทนอุปกรณ์) ที่ช่วยเพิ่มความว่องไวมาฝากกัน และมันสามารถทำได้ทุกพื้นที่ ตั้งแต่ในคอนโด ห้องนั่งเล่นที่บ้าน ในโรงแรมที่คุณไปพักตอน business trip หรือสวนสาธารณะที่ไหนก็ได้ อย่าช้าครับ มาเริ่มกันให้ไวเลยดีกว่า Sprint อยู่กับที่ให้สุดเหวี่ยง Sprint in Place ชื่อท่านี้บอกเราในตัวอยู่แล้วว่าใช้พื้นที่ไม่เยอะ ทำตรงไหนก็ได้ (ที่ไม่อันตราย) และมันเหมาะมากกับการออกกำลังแบบ high-intensity interval training (HIIT) ที่ให้คุณได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่สลับกับการพักระหว่างเซ็ตที่ไม่นาน ทำครบแล้วแทบคลานกันทุกคน HOW TO DO IT: เริ่มจากหาที่ยืนให้มั่น ตั้งหลังให้ตรง