กางเกงยีนส์เปรียบดังไอเทมคู่ใจของผู้ชายทั่วโลกเสมอมา เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย กางเกงยีนส์ก็ไม่เคยตกจากเทรนด์การแต่งตัวไปได้เลย แม้ว่าในปัจจุบันเทรนด์กางเกงยีนส์อาจจะซบเซาไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วอย่างน้อยหนุ่ม ๆ ทุกคนก็ยังคงถวิลหาต้องการมีกางเกงยีนส์ตัวเก่งติดตู้เสื้อผ้าไว้ใช้สำหรับออกงานสักหนึ่งตัว แต่สำหรับมือใหม่บางคนอาจจะกำลังลังเลว่าควรเสียตังไปกับกางเกงยีนส์แบบไหนดีถึงจะเหมาะสมกับตัวเอง เพราะหลายครั้งกางเกงที่ซื้อมาแล้วไม่เคยได้ใส่เลย ดังนั้นทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำวิธีการเลือกซื้อกางเกงยีนส์คู่ใจสักหนึ่งตัวไว้ให้ชาว UNLOCKMEN ได้ไปลองประยุกต์ใช้กันดู ควรมีงบประมาณในใจไว้เสียก่อน หากเราเดินเข้าร้านขายกางเกงยีนส์แบบสุ่มสี่สุ่มห้า อาจจะต้องประหลาดใจ เพราะกางเกงยีนส์มีราคาตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น ดังนั้นการกำหนดงบประมาณจะช่วยจำกัดแบรนด์ได้ระดับหนึ่งว่าในงบประมาณเท่านี้ เราสามารถซื้อยีนส์ยี่ห้อใดได้บ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งก็ไม่ได้หมายความว่ากางเกงยีนส์ที่มีราคาถูกจะมีคุณภาพไม่ดีเสมอไป ซึ่ง UNLOCKMEN ลิสต์ยี่ห้อตามงบประมาณเอาไว้ดังต่อไปนี้ 8000 บาทขึ้นไป : Saint Laurent ,Dior , Pprs , Diesel , Calvin Klein , Flat Head , Iron Heart 4000 – 8000 บาท : April 77 , LVC , Evisu
เกิดเป็นลูกผู้ชายแมน ๆ กับเขาก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องทุกข์ใจ ยิ่งการสูญเสีย ความร้าวรานแหลกสลายแบบผู้ชาย ๆ ในหมู่เพื่อนที่เรารักก็เกิดขึ้นให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ วันที่เพื่อนของเราเดินมาปรับทุกข์ เล่าเรื่องสุดเศร้าในชีวิตของพวกเขาให้ฟัง เราปลอบใจเพื่อนแบบไหนกันแน่? แล้วแน่ใจได้อย่างไรว่าวิธีการที่เราปลอบใจเพื่อนไปมันเป็นการปลอบใจที่ถูกต้องแล้ว? ลองนึกภาพว่าเพื่อนรักของเราเพิ่งสูญเสียพ่อของเขาไปจากอุบัติเหตุรถยนต์ เมื่อเพื่อนกำลังพรรณนาถึงความเจ็บปวดที่เขามี เราอาจจะตบบ่าเขาเบา ๆ แล้วเริ่มบอกว่า “เราเข้าใจดีว่านายรู้สึกยังไง” พ่อเราตายตั้งแต่เราสามขวบ เราเติบโตมาแบบไม่มีพ่อ มันเป็นการเติบโตแบบโดดเดี่ยว แถมโดนล้อจนเราไม่อยากมีชีวิตอยู่เลย แต่เราก็ฝ่าฟันมาได้ถึงวันนี้ ฝ่าฟันความเจ็บปวดทั้งหมดที่มีและจากการไม่มีพ่อในชีวิต ดังนั้นเราโคตรเข้าใจเลยว่านายรู้สึกยังไง อ่านมาถึงตรงนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติใช่ไหมล่ะ? เพราะหลายครั้งเรา คุณ คนข้าง ๆ หรือใครก็ตามก็ปลอบใจคนสูญเสียด้วยวิธีนี้ เราพยายามบอกคนที่กำลังสูญเสียและเจ็บปวดว่าเราเข้าใจเขาดี เข้าใจมาก ๆ ว่าเขารู้สึกยังไง แถมไม่ได้บอกว่าเข้าใจเปล่า ๆ เรายังยกประสบการณ์สุดเจ็บปวดของเราที่ใกล้เคียงกับของเขามาเล่าให้เขาฟังเพื่อตอกย้ำให้เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้เจ็บปวดลำพัง แถมบางทีเราสิ ที่เจ็บปวดยิ่งกว่าเขา ยิ่งเขาฟังเรื่องคนที่แย่กว่าก็ต้องรู้สึกดีสิ UNLOCKMEN ก็อยากบอกว่าใช่ คุณคิดถูกแล้ว การบอกว่า “เราเข้าใจดีว่านายรู้สึกยังไง” ช่วยปลอบใจคนเจ็บปวดได้จริง แต่ที่เราต้องบอกคือไม่ มันไม่จริง มันเป็นความเข้าใจผิด! เราไม่สามารถทำให้ใครรู้สึกดีขึ้นได้ด้วยการบอกว่าเข้าใจเขา แล้วยกเรื่องราวโคตรเจ็บปวดของเรามาบลัฟกลับ เพื่อนเราจะยิ่งรู้สึกแย่พร้อมเกิดคำถามกึ่งหงุดหงิดว่า อ้าว ตกลงกูไม่ควรเสียใจที่พ่อกูตายหรอเนี่ย เพราะคนที่ไม่มีพ่อตั้งแต่สามขวบยังมีชีวิตอยู่ได้
หากพูดถึงคนที่เป็น Pioneer ในเรื่องสไตล์การแต่งตัวผู้ชายชื่อของ Kanye West มักจะโผล่คนมาเป็นคนแรก ๆ เสมอ เพราะจากการจัดอันดับ หรือผลโหวตมากมาย ล้วนเคยผ่านมือของเขามาเป็นที่เรียบร้อย ย้อนไปตั้งแต่ทีมงาน UNLOCKMEN พอจะจำความเรื่อง Kanye West ได้ เขาเริ่มต้นการแต่งตัวในสไตล์ Preppy บวกกับสตรีทแวร์จนเกิดเป็นเทรนด์ในช่วงเวลานั้น ก่อนที่จะขยับมาสวมใส่รองเท้า Air Jordan กับกางเกงสกินนี่เข้ารูปขาด ๆ จนกระทั่งมาถึงเสื้อโอเวอร์ไซส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่การเป็นกระแสนิยมที่บรรดาคนที่ชื่นชอบสตรีทแวร์หลงใหลไปตาม ๆ กัน แล้วหลังจากที่ Kanye West หรือที่เราเรียกเขากันว่า Yeezy มีลูกคนที่สอง ดูเหมือนสไตล์การแต่งตัวของเขาจะปรับเปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยที่เขาจะมีความลำลอง และสบาย ๆ กับไอเทมที่สวมใส่มากขึ้น จนในต่างประเทศเรียกกันว่า dad style ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำสไตล์ไกด์ของ Mr. West กันว่าเป็นอย่างไร เลือกกางเกงที่ใช่ หากคุณอยากมีสไตล์แบบคุณพ่อ อาจจะต้องลืมกางเกงรัดรูปไปได้เลย เพราะคุณจะต้องเลือกกางเกงทรงหลวมที่สวมใส่สบาย ดังนั้นเราจึงเสนอทางเลือกเป็นกางเกงวอร์ม หรือถ้าหากต้องการความสุภาพขึ้นมาหน่อย อาจจะใส่เป็นกางเกงชีโน่ หรือแม้กระทั่งกางเกงยีนส์สีซีด
กระแสเวลาของโลกมีความแปลกประหลาดน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือ มันมักจะเดินทวนเข็มเวลาไปสู่รูปแบบเดิม ๆ แต่เป็นมุมมองใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่างเช่นความนิยมของเสื้อฮาวาย, หมวกเบสบอล ฯลฯ ที่ต่อให้ผ่านมาแล้วกี่สิบปีก็ยังกลับมาฮิตติดลมได้อีกครั้งแบบไม่น่าเชื่อ และกระแสทวนเวลาไม่ใช่กับแค่แฟชั่นเท่านั้น แต่กับวงการถ่ายภาพก็เช่นเดียวกัน UNLOCKMEN จะพูดถึงนวัตกรรมเก่าเก็บของการถ่ายภาพที่ความจริงมันควรจะเลือนหายไปได้แล้ว แต่มันกลับฟื้นคืนตื่นกลับมาให้เหล่าช่างภาพรุ่นใหม่ใช้มันอีกครั้ง แล้วอะไรคือเสน่ห์และความน่าสนใจของเลนส์มือหมุน มาลองดูกันครับ เลนส์มือหมุนเป็นคำเรียกติดปากช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการการใช้งานที่จะต้องเอามือหมุนหาโฟกัสตำแหน่งด้วยตัวเอง ไป ๆ มา ๆ เลยกลายเป็นคำเรียกแทนไปโดยปริยาย ชื่อเต็มแบบเป็นทางการคือ เลนส์แมนนวลโฟกัส ( Manual Focus Lens) เป็นเลนส์ที่ถูกผลิตมาในช่วงนวัตกรรมถ่ายภาพยุคแรก ๆ ก่อนที่โลกจะมีระบบออโต้โฟกัสเกิดขึ้น และทุกคนไม่ว่าจะเป็นตากล้องมือใหม่หรือมือเก่า ล้วนแต่มีคำถามอยู่ในใจเสมอว่า “เลนส์มือหมุน” มันดี มันเจ๋งยังไง ทำไมคนบางกลุ่มยังคงเล่นและติดอยู่ในเสน่ห์ของมัน สวนทางกับทุกวันนี้ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกลและเลนส์ไฟฟ้าที่กินขาดทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในตอนนี้ เราลองยก 4 ข้อหลักน่าสนใจ ว่าอะไรคือเสน่ห์น่าค้นหาที่ทำให้เลนส์มือหมุนเป็นที่นิยมสวนทางกับโลกปัจจุบันตอนนี้ 1. ไม่มีสูตรสำเร็จ ผมว่าบางครั้งคนเราต้องการอาหารที่ได้รับการปรุงแต่งความอร่อยในแบบที่เราชอบมากกว่าอาหารสูตรสำเร็จตายตัวแบบมาม่าที่ให้ความรู้สึกน่าเบื่อและจำเจ การถ่ายภาพก็เช่นเดียวกัน ช่างภาพหลาย ๆ คน หันไปปรุงแต่งรสชาติของภาพตัวเอง และเลนส์มือหมุนก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การปรุงแต่งได้ดีที่สุด 2. อารมณ์ของภาพ
การดูดนตรีสดให้ได้อารมณ์ที่สุดนั้นทำอย่างไร? คำถามยอดฮิตที่คนบางคนยังไม่เข้าใจ และสงสัยอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ไปดูคอนเสิร์ตวง Rock หรือวงดนตรีที่เล่นดนตรีแนวมันส์ ๆ หนัก ๆ มักจะเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มันมีการเล่นที่จะว่าเต้นก็ไม่ใช่ เหมือนจะมีเรื่องกันก็ไม่เชิงยิ่งทำให้งงเข้าไปใหญ่ว่า มันจะอะไรขนาดนั้น จริง ๆ แล้ว ไอ้การกระทำดังกล่าว ถ้าหากว่าเป็นคนที่ชื่นชอบการเสพดนตรี และดูคอนเสิร์ต โดยเฉพาะนักเสพที่ถูกเรียกว่า “เด็กเสื้อดำ” จะเข้าใจว่า มันเป็น Culture ทางการดูคอนเสิร์ตที่เรียกว่า “Mosh Pit” ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน วันนี้เราจะพาชาว UNLOCKMEN ไปทำความรู้จักกับธรรมเนียม หรือท่าทางการแสดงออกนี้กัน จะได้ไม่ตกใจเวลาหลงเข้าไปกลางดงชาว Rock ตอนดูคอนเสิร์ต “History of Mosh” ในช่วงต้นยุค 80 การละเล่นนี้ถูกเรียกว่า Mash โดยนักร้องนำวง Hardcore Punk ที่ชื่อว่า Bad Brain นั่นก็คือ Paul Hudson เพื่อที่จะใช้อธิบายการเต้นแบบก้าวร้าว และรุนแรงในขณะที่ผู้คนกำลังดูการแสดงสดของเขา แต่เนื่องจากว่า Paul เป็นคนพูดจาติดสำเนียง
ผู้ชายอย่างพวกเราทุกคนล้วนแต่ต้องการความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ เรื่องงาน ไปจนถึงเรื่องของภาพความคมชัดที่สายตาเราจ้องมองไป และถ้าพูดถึงเรื่องของความคมชัด เราคิดว่าทุกคนคงรู้จักเทคโนโลยี Full HD กันอยู่แล้ว เพราะในสมัยนี้คงไม่มีใครที่เลือกใช้จอสมาร์ทโฟนหรือจอทีวีที่มีความคมชัดต่ำกว่านี้ เพราะมันทำให้ภาพดูไม่สมจริงและไม่สวยน่ามองสักเท่าไหร่ เหมือนสายตาเราเบลอ ๆ ไปด้วย แปลได้ว่ายิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ ภาพที่เห็นยิ่งสวยน่าดูมากขึ้นเท่านั้น ในเมื่อความชัดเจนมีส่วนสำคัญขนาดนี้ แล้วทำไมเราไม่หาความชัดเจนที่โดดเด่นและเข้าถึงได้ มาเสริมทุกอย่างให้ชัดเจนขึ้นไปอีกละ UNLOCKMEN กำลังจะพูดถึงตัว LG SUPER UHD TV ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Nano Cell เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ของ LED TV ที่อาจปฏิวัติวงการความคมชัดให้สมจริงมากขึ้นกว่าเดิมก็ว่าได้ โดยเจ้าเทคโนโลยี Nano Cell จะช่วยแสดงเฉดสีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสีดำสนิท หรือสีสันสดใส มาพร้อมความสามารถในการเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างคมชัดครบถ้วนด้วยเทคโนโลยี Multi Active HDR ที่รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision ซึ่งเป็น HDR แบบพรีเมียมที่ประมวลผลภาพเฟรมต่อเฟรม, HDR 10 HDR แบบมาตรฐานและ HLG HDR ที่ใช้ในระบบออกอากาศช่องทีวีในต่างประเทศ
สำหรับคนในแวดวงงานออกแบบ และงานโฆษณา คงจะรู้จักชื่อของผู้ชายคนที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้เป็นอย่างดีแน่นอน ด้วยศักยภาพ และความโดดเด่นของผลงานทั้งหมดของเขา ที่ผ่านการกวาดรางวัลระดับโลกมาแล้วเรียกได้ว่าทุกเวที ไม่ว่าจะเป็น LIA Awards, CLIO Awards, D&AD Award รวมไปถึง Cannes Lion Awards และอีกมากมายจนไม่สามารถจะเรียบเรียงได้หมด จนตอนนี้เขาคนนี้ถือเป็นคนที่ได้รับการยอมรับ และกลายเป็น No.1 ของโลกไปแล้ว ชายคนนั้นก็คือ “พี่ชัย” หรือ “สุรชัย พุฒิกุลางกูร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิลลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็น บริษัท CGI สตูดิโอสัญชาติ ไทยที่โด่งดังไปไกล และได้รับการยอมรับไปทั่วโลก วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ได้มีโอกาสดี ๆ ที่จะไปพูดคุยกับ “พี่ชัย” กันถึงในห้องทำงาน และ สอบถามถึงเรื่องราวที่น่าสนใจในหลากหลายแง่มุม ทั้งเรื่องประสบการณ์การทำงาน, เรื่องของมุมมองความสำเร็จ และอื่น ๆ อีกหลายเรื่องที่รับรองว่า คุณจะได้สาระดี ๆ จากผู้ชายคนนี้อีกหลายด้านที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด ตอนนี้เราไปพบกับบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจของคนที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จในชีวิตจนกลายเป็นที่
หลังจากที่ Apple ปล่อยให้ดาวน์โหลดและอัพเดทตัว iOS11 ไปสด ๆ ร้อน ๆ คงมีอีกหลายคนที่ยังลังเลใจว่าจะอัพดีเปล่า ถ้ามันช้าและเน่าจะทำยังไงดี เพราะอัพเดทแล้ว ถอยหลังกลับไปใช้อันเดิมก็คงไม่ได้ หลายคนจึงยังอยู่ในช่วงตัดสินใจกันอยู่ หรือใครที่อัพไปแล้ว ยังไม่รู้ว่ามีอะไรเด็ดใหม่ น่าสนใจบ้าง เพราะเค้าให้อัพ ก็อัพ ๆ ตามกันไป เห็นแต่หน้าตาใหม่เท่านั้น UNLOCKMEN จะมาขยายความ 8 ฟีเจอร์ยิบย่อยของ iOS 11 ที่ถูกปรับปรุงให้เพิ่มพลังมากขึ้นกว่าเก่าซะน่าใช้เลย แต่ว่ามีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน App Store ใหม่ไฉไลกว่าเดิม หลังจากคงรูปโฉมแบบเดิมมาหลาย iOS ในที่สุดตอนนี้ก็ถึงเวลาพลิกโฉม App Store ใหม่สักที โดยครั้งนี้แอปเปิ้ลได้ออกแบบใหม่แทบจะทั้งหมด เน้นความคลีนดูสะอาดตา และข้อความต่าง ๆ โดดเด่นเห็นชัด นอกจากนี้ยังเพิ่มแท็บ “วันนี้” ที่เน้นมัดรวมแอปพลิเคชั่นเด่น ๆ เจ๋ง ๆ ออกมาแยกต่างหาก คัดมาให้โดยเฉพาะ เพื่อให้เราสามารถค้นหาและได้รับคำแนะนำที่เหมาะผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น ลองเปิดกันดูซะ Live
เพราะแนวโน้มมีคนทั่วโลก รวมถึงคนไทย “หัวใจอ่อนแอ” เพิ่มขึ้นทุกปี… ไม่ใช่เพราะอกหัก รักคุด ชีวิตสุดดราม่าแต่อย่างใด แต่หัวใจอ่อนแอนี้ เป็นเพราะเดินไปฟิตเนสยากกว่าเดินไปยืนรอคิวร้านชาบู หรือ นั่งทำงานติดโต๊ะ ไม่ค่อยลุกเดินไปไหน พอเครียดก็สูบบุหรี่ให้รีแลกซ์สักมวนสองมวน หรือไม่พวกเครียดก็ไปลงกับการกินไม่ยั้ง หรือแบบพวกมือไม้สั่นน้ำลายสอเมื่อเห็นชีสยืด ๆ หมูสามชั้นที่ปิ้งย่างกรอบ ๆ ไข่ปูดองสุดฟิน มันกุ้งเผาเยิ้ม ๆ หมึกนึ่งมะนาวเนื้อเด้ง ๆ แซ่บ ๆ หรือไก่ทอดกรอบฟินที่ตรงหนัง ด้วยพฤติกรรมที่ว่ามาคือใช่เกือบทั้งหมด แทบจะฟันธงได้ว่าคุณเป็นพวกหัวใจอ่อนแอแน่ ๆ ยิ่งถ้ามีอาการเคยเจ็บแปล๊บคล้ายของแหลมทิ่มแทง หรือรู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก แน่นกลางอกเหมือนมีของหนักทับอยู่ แต่ไม่ใช่กรดไหลย้อน คือยิ่งใช่เลย เราขอต้อนรับคุณสู่สมาชิกชมรมคนหัวใจอ่อนแอ 1 ใน 2.6 แสนคนทั่วไทย สถิติล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขไทยพบว่า โรคหัวใจขาดเลือดเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยจากโลกนี้ไปเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน หรือปีละกว่า 54,000 คน กลายเป็นสาเหตุการตายของคนไทยเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็ง และอุบัติเหตุด้วยซ้ำ ในบรรดาสาเหตุการสูญเสียของคนไทยทั้ง 3 อันดับ โรคหัวใจขาดเลือดนับเป็นสาเหตุที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันฉุกเฉินขึ้นมาแล้ว มีโอกาสรอดมากกว่า
ถือว่ากระแสเทรนด์รองเท้าผ้าใบกำลังมาแรงอย่างมาก เพราะไม่เฉพาะแบรนด์กีฬาเท่านั้นที่ผลิตรองเท้าออกมาสู่ตลาด บรรดาแบรนด์แฟชั่นน้อยใหญ่ ต่างไม่อาจต้านทานความแรงของเทรนด์นี้ จนต้องมีคอลเลคชั่นเป็นของตัวเอง เช่นเดียว Diesel แฟชั่นรีเทลชื่อดังจากประเทศอิตาลี ได้นำเสนอไอเดียที่แตกต่างโดยการจับเอาแฟชั่นโคจรมาพบกับนวัตกรรมการออกแบบที่ล้ำสมัย จนเกิดเป็นคอลเลคชั่นรองเท้าผ้าใบรูปทรงใหม่ที่น่าจับตามองอย่าง The SKB Family จาก Diesel ด้วยความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุที่ทันสมัย บวกกับเทคโนโลยีลับเฉพาะนี้ ทำให้รองเท้าผ้าใบ The SKB Family จาก Diesel ออกมาโดดเด่นอย่างไม่มีข้อกังขา สำหรับรายละเอียดของทางรองเท้าทาง Diesel ได้ออกแบบผ่านองค์ประกอบของลายพรางนำมาพิมพ์ลงบนผ้าถัก (นิต) ผสมด้วยผ้าซูเอ็ด จึงทำให้ตัวรองเท้านุ่มเบาสบายเมื่อสวมใส่ และสามารถตอบโจทย์ด้านการออกกำลังกายรวมถึงยังสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างลงตัว ด้วยการออกแบบตัดเย็บผ่านส่วนผสมที่ทันสมัยนี้ทำให้รองเท้า SKB Family สามารถปรับรองรับให้กับทุกรูปทรงเท้า อีกทั้งยังรองรับน้ำหนักจากการกระแทกได้เป็นอย่างดีเมื่อใช้สำหรับกิจกรรมออกกำลังกาย อีกทั้งยังเพิ่มรายละเอียดให้โดดเด่นด้วยโลโก้แบรนด์แบบ 3 มิติ เพื่อตอกย้ำและเอาใจแฟน ๆ ชาว Diesel ที่ชื่นชอบกิจกรรม active โดยเฉพาะ สำหรับคนที่สนใจสามารถพบกับคอลเลคชั่นรองเท้าใหม่ล่าสุด SKB Family จาก Diesel ได้ที่ช้อปบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำดังต่อไปนี้ ดิเอ็มควอเทียร์ ,สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ,เซ็นทรัล ชิดลม ,เซ็นทรัล ภูเก็ต