มีรถยนต์หรูหราสำหรับผู้บริหารมากมายที่ถูกนำไปปรับแต่งเสริมเกราะกันกระสุนรอบคันเพิ่มความปลอดภัยให้ชีวิต แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เราจะเป็น Supercar อย่าง Ferrari 458 Speciale ถูกนำไปอัพเกรดในเวอร์ชั่นกันกระสุน อาจจะเป็นเพราะการยิงใส่รถ Supercar ที่ทำเวลา 0-100 km/h ใน 3 วินาทีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ AddArmor เชื่อว่าคนที่ซื้อรถ Supercar แบบนี้ได้ ย่อมต้องเป็นบุคคลสำคัญ และต้องการความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ขับ Supercar กินลมเล่นก็ตาม หลายคนต่างมีคำถามว่า ซื้อ Ferrari 458 Speciale ซึ่งเป็น Lightweight model มาเสริมเกราะกันกระสุนให้หนักเพื่ออะไร มันจะผิดวัตถุประสงค์ของรถคันนี้มากไปหรือไม่? แต่ AddArmor ไม่คิดแบบนั้น และอธิบายว่า ถ้าคุณซื้อรถธรรมดาที่หนักอยู่แล้วมาเสริมเกราะกันกระสุน แม้มันจะปลอดภัย แต่ก็จะหนักเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำความเร็วได้ไม่ดีนัก และเป้าหมายที่เคลื่อนไหวได้ช้าย่อมเป็นเป้าหมายที่อันตราย รวมถึงคนที่อยู่ในรถด้วย (มีเหตุผล!) ผลงานการเสริมความแข็งแกร่งให้ Ferrari 458 Speciale จึงเป็นการแสดงฝีมือของ AddArmor ว่าสามารถติดตั้งเกราะกันกระสุนได้ไม่ว่าจะเป็นรถรูปทรงไหน แม้แต่ Lightweight
หลังจาก Lamborghini พึ่งจะเปิดตัว Huracan STO ในเดือนที่ผ่านมา และเราคิดว่าน่าจะเป็นโมเดลสุดท้ายของปี 2020 แต่ต้องบอกเลยว่าคิดผิด เพราะ Lamborghini ยังมีผลงานที่ร้อนแรงและพิเศษยิ่งกว่ารอเอาไว้ นั่นคือ Lamborghini SC20 ในตัวถัง Roofless ไร้หลังคาไว้ซ่าแบบ Open top ผลิตเพียงคันเดียวในโลก! Lamborghini SC20, the most extreme open version of a road-legal V12 supercar, ผลงานระดับ Masterpiece ชิ้นล่าสุดของ Squadra Corse motorsport division ซึ่งต่อยอดมาจาก Track-only Lamborghini Essenza SCV12 เครื่องยนต์ NA V12 850 แรงม้า สุดยอด Racecar ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในสนามแข่งเท่านั้น ต่างกับ SC20
Mercedes-Benz ต่างกับ Mercedes-AMG ยังไง ก่อนหน้านี้อาจจะมีบางท่านที่ไม่ทราบความเป็นมาของการควบรวมแบรนด์ระหว่าง Mercedes-Benz และ AMG จนได้ออกมาเป็นสุดยอดรถยนต์สมรรถนะเยี่ยมเต็มเปี่ยมด้วย DNA จากสนามแข่งออกมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถ้าใครอยากรู้ข้อมูลแบบเจาะลึกก็สามารถเข้าไปดูกันได้ที่ History of Mercedes-Benz and AMG สำหรับในบทความนี้ เป็นอีกครั้งที่เราจะมาตอบคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยว่า รถที่เป็น Mercedes-AMG แท้ ๆ ดูยังไง แล้ว Mercedes-Benz ที่เป็น AMG Line ล่ะมันใช่ Mercedes-AMG หรือไม่ โดยการเทียบความแตกต่างที่ระหว่าง Mercedes-Benz CLS 300 d AMG Premium กับ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ จิตวิญญาณรถแข่งแท้ ๆ completed จากโรงงาน AMG Line คือการติดตั้งชุดแต่งทั้งภายนอกและภายในที่ผ่านการออกแบบมาเพิ่มอารมณ์สปอร์ตให้กับรถยนต์ Mercedes-Benz ซึ่งมักจะเป็นรุ่นท็อปสุดในโมเดลนั้น ๆ ภาพลักษณ์ที่ดูดุดันขึ้นจากชุดแต่งรอบคัน
“ผมยังจดจำได้ว่า เอนโซ่ เฟอร์รารี่ เข้ามาพูดคุยกับผม เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินความปรารถนาในการสร้างรถยนต์ที่แสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของเฟอร์รารี่ ขณะเดียวกัน ผมก็รู้ได้ในเวลาเดียวกันว่า นี่จะเป็นรถคันสุดท้ายในชีวิตของชายที่ชื่อ เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่” Leonardo Fioravanti กล่าวถึงการสนทนาที่กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ Ferrari F40 ถ้าหากพูดถึงเรื่องราวของซูเปอร์คาร์จากค่ายรถสุดแรงสัญชาติอิตาเลียนนามว่า เฟอร์รารี่ เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงมีโมเดลรถยนต์จากค่ายม้าลำพองที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอยู่หลายรุ่น อย่างไรก็ตาม หนึ่งในรถยนต์รุ่นไอคอนอย่าง Ferrari F40 ถือเป็นซูเปอร์คาร์ที่ถูกจดจำได้มากที่สุด ทั้งจากงานดีไซน์ที่มีสวยงามมีเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม รถยนต์คันสุดท้ายในชีวิต ชายผู้ก่อตั้งค่ายเฟอร์รารี่คันนี้ ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย และวันนี้เราจะพาทุกคนไปย้อนทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นของซูเปอร์คาร์คันนี้ รวมถึงความพิเศษที่ทำให้มันกลายเป็นตำนานบนท้องถนนมาจนถึงปัจจุบัน 288 GTO Evoluzione เรื่องราวของ Ferrari F40 เริ่มต้นขึ้นในปี 1984 เมื่อ Nicola Materazi หัวหน้าทีมวิศวกรผู้รับหน้าที่พัฒนาแผนกรถสปอร์ตและรถแข่งของเฟอร์รารี่ ได้เสนอไอเดียให้เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ เลือกใช้เครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขัน Group B ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.857 ลิตร Turbocharged เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์รุ่นที่ใช้บนท้องถนนของค่าย เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเฟอร์รารี่มียอดขายที่รถน้อยลง
ถือเป็นข่าวรถยนต์เท่ ๆ คันหนึ่งที่ได้ออกมาให้เราเห็นในช่วงนี้ Aptera Motors บริษัทสตาร์อัพในสหรัฐฯ พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์คันใหม่ ซึ่งความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่เหมือนกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์แนวไซไฟ แถมยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์คันแรกของโลกที่มีการจับคู่มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ liquid-cooled กับแผงพลังงานแสงอาทิตย์อีกด้วย ทาง Aptera เคลมด้วยว่า รถยนต์ของพวกเขาแทบจะไม่ต้องชาร์จไฟเลย เพียงแค่อาศัยพลังงานจากแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว มันก็สามารถเดินทางได้ถึง 72 กิโลเมตรต่อวัน โดยแผงโซลาเซลล์ที่ติดตั้งกับตัวรถจะมีขนาดอยู่ที่ 3 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยเซลล์แสงอาทิตย์จำนวน 180 เซลล์ ทั้งหมดนี้ช่วยให้รถสามารถฟื้นฟูพลังงานในขณะที่จอดนิ่งอยู่ได้ และทำให้รถมีพลังงานมากพอที่จะเดินทางได้มากกว่า 17,702 กิโลเมตรต่อปี ดีไซน์ของรถเองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยรูปร่างที่ดูเหมือนกับยานอวกาศขนาดเล็ก ล้อเพียง 3 ล้อ และที่นั่งเพียง 2 ที่นั่ง ช่วยให้รถสามารถเคลื่อนที่ผ่านอากาศได้ดี และเดินทางได้ไกลมากขึ้น อีกทั้งในส่วนของสมรรถนะของรถ มันสามารถเดินทางจากระยะทาง 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ โดยใช้เวลาอย่างน้อยที่สุดเพียง 3.5 วินาที และมันยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่เมื่อชาร์จพลังงานจนเต็มแล้ว รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้เป็นระยะทางสูงสุด 1,600
ผู้ชายกับรถยนต์ เรียกว่าเป็นของคู่กันมานานมาก ๆ แล้ว หลายคนยอมเสียเงินเสียทองมากมายเพื่อซื้อของแต่งรถที่รัก ซึ่งถ้าหากเราให้นิยามความหลงใหลและคลั่งไคล้ในพาหนะ 4 ล้อนี้ ทุกคนจะนิยามออกมาว่าอะไรกันบ้าง ? แล้วถ้าเราบอกว่ามีคน 2 คน ที่คลั่งรถยนต์มาก ขนาดที่สัมผัสถึง “ลมหายใจของรถ” ได้ คุณพอจะนึกภาพออกไหม ? จะมีสักกี่คนที่จินตนาการถึงส่วนต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในตอนขับรถได้ขนาดนั้น ถ้าใจมันไม่ได้หลงใหล และรักในรถยนต์จริง ๆ ใช่ไหม ? คอลัมน์ The Real สัปดาห์นี้ เราลองไปพูดคุยกับคุณเชฎฐ์-วิเชฎฐ์ จิรบวรวิสุทธิ์ และ คุณชิต-วิชิตพล จิรบวรวิสุทธิ์ 2 พี่น้องเจ้าของสำนักแต่ง Autobahn ถึงที่มาที่ไปกว่าจะมาเป็น Autobahn และความคลั่งไคล้ต่อรถยนต์ที่ยากจะหาคำมาอธิบายได้กันครับ จุดเริ่มต้นความคลั่งไคล้รถยนต์ นำไปสู่การสานฝันที่อยากจะเป็นสำนักแต่งรถระดับเวิลด์คลาส “จุดเริ่มต้นมันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ ที่คุณพ่อขับ BMW รุ่นแรก ๆ เลย พวก M3 หรือ
สำหรับผู้ชายพ่อบ้านอย่างเราชาว UNLOCKMEN จะเลือกใช้อะไรก็ต้องมี Story และต้อง Hype อยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ตอนตัดหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งใครต้องการตัดหญ้าอย่างมีสไตล์ ดูเท่ตั้งแต่หน้าปากซอย เราขอแนะนำนี่เลยครับ “GT XI Lawn Mower” รถตัดหญ้าสุดเท่ที่ได้รวมเอา 3 สหายจากแต่ละวงการ นั่นคือ “Mansory สำนักแต่งรถยนต์” “Air Jordan เจ้าพ่อแห่ง Sneakerheads” และ “BSTN ผู้นำด้าน Sportswear” มาสร้างผลงาน Masterpiece รันวงการเครื่องตัดหญ้าทุกสถาบัน อย่าถามว่าทำไมทั้ง 3 แบรนด์ถึงมาจับมือกันสร้างเครื่องตัดหญ้า ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครทำธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเลย เพราะเราเองก็ไม่ทราบเหตุผล แต่ที่แน่ ๆ เรารู้ว่า Mansory แบรนด์ที่ออกแบบชุดแต่งโหด ๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น 2020 Ford GT “Le MANSORY”, 2020 Rolls-Royce Cullinan
ถ้าพูดถึงแบรนด์รถยนต์หรูอย่าง Mercedes-Benz น่าจะพูดได้เต็มปากว่าเป็นรถในฝันของมนุษย์ทุกคน ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่น่าหลงใหล สมรรถนะ เทคโนโลยี และความปลอดภัยที่เหนือกว่าใคร เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือด้านวิศวกรรมระดับโลกจากประเทศเยอรมนี สะท้อนรสนิยมความมีระดับ ความสำเร็จของคนคนนั้นได้อีกด้วย หลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่านอกจาก Mercedes-Benz รุ่นรหัสปกติ มันยังมีความพิเศษที่เหนือกว่าภายใต้ชื่อรหัส ‘AMG’ อยู่ด้วย ซึ่งเป็นรหัสที่หลายคนคุ้นเคยปนสับสน ระหว่าง Mercedes-Benz AMG line ที่เน้นการตกแต่งเพิ่มอารมณ์สปอร์ต เช่น C 220 d AMG Dynamic และ Mercedes-AMG Car รถที่ผ่านการปรับจูนสมรรถนะจากนวัตกรรม Race Cars ซึ่งจะแตกต่างตั้งแต่เครื่องยนต์ สมรรถนะ ช่วงล่าง และการตกแต่งทั้งภายนอกภายใน เช่น Mercedes-Benz CLS 300 d AMG Premium เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 245 แรงม้า
หากพูดถึงชื่อของสตีฟ แม็กควีน หลายคนคงรู้จักเขาในฐานะนักแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่น ทั้งเรื่องของบุคลิกภาพและการแต่งกาย อย่างไรก็ตามฉายา King of Cool ไม่ได้เกิดขึ้นจากรูปลักษณ์ภายนอกของเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความหลงใหลที่มีให้กับกิจกรรมท้าทายต่าง ๆ ทั้งการเป็นสตั๊นท์แมน นักบินและนักแข่งรถ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนการขับรถจะเป็นสิ่งที่ตัวเขาหลงใหลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะการขับขี่บนท้องถนนและการแข่งขันในสนามแข่ง ทั้งหมดทำให้เขาเป็นบุรุษอีกหนึ่งคนที่เคยใช้งานและครอบครองรถยนต์มากมาย แต่ยนตรกรรมที่เขาเคยประทับจะเป็นรุ่นไหนและมาพร้อมแรงม้าเท่าไหร่บ้าง มาทำความรู้จักแต่ละคันไปพร้อมกันได้เลย Ferrari 250 GT Berlinetta Lusso สตีฟ แม็กควีน มีความหลงใหลในรถยนต์จากค่ายม้าลำพองพอสมควร ทำให้เขามีรถยนต์จากเฟอร์รารี่อยู่ในครอบครองถึง 4 คัน อย่างไรก็ตาม Ferrari 250 GT Berlinetta Lusso คันนี้ คือเฟอร์รารี่รุ่นแรกที่ราชาแห่งความเจ๋งเลือกมาใช้งาน Ferrari 250 GT Berlinetta Lusso คือรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาในสไตล์ Grand Tourer ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1962 รถคันนี้มาพร้อมขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ Colombo-V12 ขนาด 2953 ซีซี เป็นเครื่องยนต์ที่ให้กำลัง
ระหว่างที่รอ Porsche GT3 ตัวโหดที่ดุทั้งภายนอกและสมรรถนะสำหรับลงสนามแข่งซึ่งเตรียมเปิดตัวในไม่ช้า ตอนนี้ยังมีอีกเวอร์ชั่นที่น่าสนใจจาก Techart สำนักจูนนิ่งคู่บุญที่พร้อมจะอัพเกรด Porsche 911 Turbo S ทั้งด้านความแรงและชุดแต่งที่โหดจนใครเห็นเป็นต้องถอนคันเร่ง ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าใครจะคิดว่า Porsche 911 Turbo S ในชุดแต่งเดิม ๆ อาจจะไม่โหดมากนักเมื่อเทียบกับศักยภาพของมัน ซึ่งชุดแต่งของ Techart นั้นก็ได้รับความนิยมที่ช่วยเพิ่มความโหดเท่ให้กับ Porsche 911 มานานหลายยุคสมัย เช่นเดียวกับใน 992 generation ที่ Techart นำเสนอทางเลือกด้วยชุดแต่งทั้งหมด 14 ชิ้นรอบคัน พร้อมสีสันให้เลือกมากมายทั้ง glossy, matt หรือ carbon fiber ชุดแต่ง Techart body kit มาครบถ้วนรอบคันตั้งแต่ side skirts, carbon fiber air intakes พร้อมระบบ adjustable valves, side
ผู้ชายกับรถยนต์เป็นเหมือนสิ่งที่แยกขาดจากกันไม่ได้ เพราะความหลงใหลในความเร็วสามารถเกิดขึ้นได้กับหนุ่ม ๆ ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่นักแสดงสุดไอคอนอย่าง เจมส์ ดีน เจมส์ ดีน เป็นนักแสดงที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในช่วงต้นยุค 90’s หรือนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นดารารุ่นใหม่ในเวลานั้นที่กลายเป็นต้นแบบสำคัญให้กับผู้ชายทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสไตล์การแต่ง รสนิยมในการฟังเพลง รวมไปถึงหนึ่งในกิจกรรมที่ตัวเขาใหลเหนือสิ่งอื่นใดอย่าง “ความเร็ว” ในช่วงเริ่มต้นอาชีพการแสดง เจมส์ ดีน มักจะแบ่งเงินค่าจ้างของตัวเองส่วนนึงไว้สำหรับโลกแห่งความเร็วโดยเฉพาะ เริ่มจากซื้อมอเตอร์ไซค์สัญชาติสโลวาเกีย aZ 125 A, Royal Enfield และ Indian Warrior TT ต่อมาเมื่องานด้านการแสดงเริ่มไปได้สวยและได้เซ็นสัญญากับ Warner Brothers ค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นทำให้เขาเลือกซื้อรถยนต์อย่าง MG TF รุ่นปี 1953 มาใช้งาน ต่อมา หลังประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมากขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง East of Eden ในเวลาเดียวกัน ความชอบที่มีในรถชนิดต่าง ๆ ของเจมส์ก็เพิ่มมากขึ้นไปพร้อมกัน ตัวเขาจึงตัดสินใจซื้อหนึ่งในรถสปอร์ตที่ดีที่สุดของยุคสมัยอย่าง Porsche 356 Speedster ซึ่งเป็นรถยนต์คันโปรดของพระเอกร่วมยุคอย่าง
สัปดาห์ที่แล้วเราพึ่งจะนำเสนอตัวแข่งสุดโหด Lamborghini Huracan STO ผ่านไปไม่กี่วัน ก็ถึงคราวของคู่แค้นตลอดกาล Ferrari เปิดตัวโมเดลบ้าคลั่งที่สุดในตระกูล 488 เป็นรถแข่งที่รวมเอาเทคโนโลยีของ Ferrari 488 GT3 และ 488 GTE เข้าไว้ด้วยกัน และชื่อของมันก็คือ Ferrari 488 GT Modificata แต่ต่างจาก Huracan STO เพราะมันเป็น Track-Only ที่ใช้ลงสนามแข่งเท่านั้น Ferrari 488 GT Modificata ถูกสร้างขึ้นโดยไม่สนข้อจำกัดของ FIA จึงสามารถจูนเครื่องยนต์ twin-turbocharged V8 ให้ได้พละกำลังถึง 700 แรงม้า แถมยังทั้งแรงทั้งอึด เพราะได้นำทั้งเทคโนโลยีและช่วงล่างมาตรฐานแข่ง World Endurance Championship จาก Ferrari 488 GTE มารวมกับที่สุดของการแข่งขันความเร็วของ Ferrari 488 GT3 พร้อมออกแบบ downforce