‘ภูมิสถาปัตยกรรม’ หรือ Landscape Architecture เป็นการนำหลักศิลปวิทยาที่ว่าด้วยการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ภายนอกอาคารมาปรับแต่งภูมิทัศน์โดยรอบของเมือง เริ่มตั้งแต่สวนสาธารณะ จัตุรัสกลางเมือง หรือแม้แต่ถนนเส้นเล็กที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อวิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่แวดล้อม จริงอยู่ที่โลกเรานั้นเจริญก้าวหน้าและไม่เคยหยุดอยู่กับที่ แต่อีกปัญหาที่หลากประเทศเป็นกังวล คือสังคมผู้สูงอายุซึ่งกำลังย่างกรายเข้ามาและเติบโตโดยสมบูรณ์แล้วในบางประเทศ ด้วยเหตุนี้สมาคมภูมิสถาปนิกแห่งอเมริกา (American Society of Landscape Architects) ที่รวมเหล่าสถาปนิกราว 15,000 คน จึงนำการดีไซน์แบบสากลมาประยุกต์ใช้กับถนนหนทางและพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้เหล่าผู้สูงอายุตลอดจนคนธรรมดามีสถานที่พักผ่อนและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม บางครั้งการออกแบบพื้นที่ไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นให้เลิศหรูอลังการ เพราะการแปลงโฉมและรังสรรค์สเปซด้วยความเรียบง่ายก็น่ายกย่องไม่แพ้กัน หากมันตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองได้จริง แล้วนี่คือ 3 ภูมิสถาปัตยกรรมที่มอบสิ่งปลูกสร้างธรรมดาเป็นพิเศษและพิชิตใจคนเมืองได้เต็มเปา Tongva Park, Santa Monica, California ชื่อ ‘Tongva Park’ ตั้งขึ้นจากการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมประเพณีอันยาวนานของชาวตองกาพื้นเมือง ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคแห่งนี้มานานนับ 1,000 ปี บนพื้นที่สาธารณะขนาด 6 เอเคอร์ ถูกจัดสรรให้เป็น 4 ส่วนหลักคือ Observation Hill, Discovery Hill, Garden Hill, และ Gathering Hill
หากพูดถึง ‘ความร่วมสมัย’ หนุ่ม ๆ หลายคนคงมโนภาพไปถึงตึกรามบ้านช่องเก่าแก่และสไตล์การตกแต่งโบราณที่ดูจะหลุดออกจากความนิยมของคนหมู่มากไปแล้ว แต่แท้ที่จริงการตกแต่งแบบร่วมสมัย หรือ Contemporary Style เป็นการหยิบความนิยมของปัจจุบันมาผนวกเข้ากับเอกลักษณ์งานดีไซน์จากอดีตที่ยังมีเสน่ห์เหนือกาลเวลา การตกแต่งสไตล์นี้มักจะเน้นความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่ทำให้พื้นที่ดู ‘มากล้น’ จนเกินไป อาจเลือกใช้โครงสร้างยุคเก่าและเติมแต่งความทันสมัยด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่น ๆ โดยไม่ได้มีกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับที่ตายตัว หากต้องเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ก่อร่างขึ้นแล้วกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเท่านั้น ด้วยความเร็วเครื่องบิน 14 ชั่วโมง 30 นาที เดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังสเปน ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงเกาะอิบิซา (Ibiza) หนึ่งในหมู่เกาะแบลีแอริกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากที่นี่จะโด่งดังด้านสถานบันเทิงยามราตรี เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน และมีสีสันของชีวิตกลางคืนที่เป็นจุดเด่นและเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศให้มาเยือน เกาะอิบิซาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนแสนสงบและซุกซ่อนโรงแรมสไตล์ร่วมสมัย ที่ไม่ได้ขัดแย้งแถมยังไปกันได้ดีกับสภาพแวดล้อมภายนอก La Granja Ibiza Dreimeta สตูดิโอออกแบบชื่อดังในเยอรมนีเปลี่ยนแปลงไร่อายุร่วม 200 ปีและกระท่อมเก่าคร่ำคร่าให้กลายเป็นโรงแรมร่วมสมัยบนพื้นที่ 10 เฮกเตอร์ ที่นี่มีห้องพักให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งห้องธรรมดาและเกสต์เฮาส์ มีสระว่ายน้ำ ห้องครัว และฟาร์มในตัว ทำให้เมนูอาหารของ LA GRANJA IBIZA แห่งนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากผักผลไม้กว่า 30 ชนิด ทั้งบีทรูท,