เมื่อพูดถึงแบรนด์นาฬิกาไฮเอนด์คนไทยส่วนมากมักนึกถึง Patek Philippe หรือ Rolex ก่อนเสมอ หลายคนยังไม่ค่อยรู้จักแบรนด์นาฬิกาที่มีชื่อว่า Ulysse Nardin มากนัก แต่ตอนนี้แบรนด์ดังกล่าวปล่อยโมเดลรุ่นล่าสุดที่เรียกความสนใจจากเหล่าผู้ชื่นชอบนาฬิกาได้ไม่น้อย Ulysse Nardin (ยูลิส นาแด็ง) คือนาฬิกาที่มีเรื่องราวตั้งแต่ปี 1846 เริ่มต้นจากการผลิตนาฬิกาเดินเรือรุ่นแรกชื่อ Deck Marine Chronometer จากนั้นสร้างชื่อเสียงโด่งดังยิ่งขึ้นในรุ่น Trilogy ซึ่ง Guinness world record บันทึกไว้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่จำลองความซับซ้อนของระบบสุริยะจักรวาลให้อยู่บนนาฬิกาข้อมือได้สำเร็จ จนกระทั่งปี 2001 Ulysse Nardin เปิดตัวนาฬิการุ่น Freak ที่กลายเป็นดาวเด่นของแวดวงนาฬิกา เพราะนาฬิกาจากคอลเลกชัน Freak ถูกยอมรับว่าเป็นนาฬิกาเรือนแรกของโลกที่ไม่มีเข็มบอกชั่วโมง ไม่มีเม็ดมะยม และไม่ต้องใช้น้ำมันการหล่อลื่นระบบกลไกภายใน ทำให้นิตยสารนาฬิกาชื่อดังของเยอรมนีอย่าง Chronos ยกย่องให้เป็นนาฬิกานวัตกรรมยอดเยี่ยมของยุค Ulysse Nardin ยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะปีนี้พวกเขาเผยข้อมูลนาฬิการุ่นล่าสุดจากตระกูล Freak โดยใช้ชื่อว่า The NeXt มีคุณสมบัติชูโรงอย่าง NeXt flying oscillator ที่พัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับบริษัทผลิตส่วนประกอบไมโครซิลิกอนชื่อดังของสวิตเซอร์แลนด์อย่าง
แบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น Casio ออกคอลเลกชันพิเศษกันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบ 35 ปี ของนาฬิกาตระกูล G-Shock และล่าสุดสร้างเสียงฮือฮาให้กับเหล่าคนรักนาฬิกาด้วยการออกรุ่นลิมิเตดทำจากทองคำ 18K เมื่อปี 2018 แบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่น Casio ออกคอลเลกชันพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 35 ปี ของ G-Shock หลายรุ่นด้วยกัน เช่น 35th Anniversary GLACIER GOLD กับคอนเซ็ปต์ตัวเรือนแบบใสผสมผสานกับสีทองที่ได้แรงบันดาลใจจากภูเขาน้ำแข็ง หรือคอลเลกชัน MAGMA OCEAN ตัวเรือนสีดำแต้มสีแดงตามแบบลาวาในภูเขาไฟ ความตื่นเต้นของเหล่าแฟนคลับอาจน้อยลงจากการออกคอลเลกชันมากว่า 10 รุ่น แต่ครั้งล่าสุดนี้ Casio สร้างความตื่นเต้นครั้งใหม่ด้วยการนำนาฬิกา DW-5000 เรือนแรกของตระกูล G-Shock รูปทรงสี่เหลี่ยมคุ้นตาจากปี 1983 ที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่านี่คือนาฬิกาของแบรนด์ Casio มาใช้เป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษทำจากทองคำอย่าง G-D5000-9JR การนำโมเดลเก่ากลับมาทำใหม่ครั้งนี้ Casio ใช้วัสดุพรีเมียมอย่างทองคำ 18K ทั้งตัวเรือน ปรับโครงสร้างบางส่วนเพื่อให้นาฬิกาทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนมากขึ้น ประกอบตัวเรือนเข้าด้วยกันโดยการขันสกรูยึดฝาหลังกับตัวเรือน พร้อมประทับโลโก้ฉลองครบรอบ 35 ปี ไว้ด้านหลัง
กลับมาพร้อมความเหนื่อยจากภาระและหน้าที่ต่าง ๆ ที่บังคับให้เราต้องก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน อย่าได้แบกเอาสิ่งเหล่านั้นจากโลกภายนอก เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าขาดเวลาของตัวเอง เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของเราอย่างห้องนอนที่เป็นอีกพื้นที่ที่ทำให้เราได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปลดปล่อยความคิด อยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นระเบียบ ของกระจัดกระจายตามประสาห้องของหนุ่ม ๆ หรือเป็นห้องที่เรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วก็ตาม หากมันเป็นพื้นที่ที่เราแสนจะสบายใจ พร้อมทิ้งตัว มันก็คือพื้นที่ของเราที่เรียกว่าโลกส่วนตัวได้แบบเต็มปากแล้วล่ะ ขึ้นชื่อว่าห้องนอน แต่กลับทำให้เรานอนหลับพักผ่อนไม่เต็มที่ ตื่นกลางดึกบ้าง สิ่งรบกวนภายนอกที่เข้ามาปลุกให้เราสะลึมสะลือก่อนถึงเวลาตื่นตามปกติของเรา ปัญหานี้นอกจากแก้ไขที่ร่างกายเราแล้ว ยังสามารถแก้ได้จากการจัดห้องให้มีสภาพที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างเต็มที่อีกด้วย หากยังไม่มีไอเดียอะไร ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำให้ห้องนอน เป็นห้องที่นอนได้อย่างสนิทจริง ๆ สมกับชื่อของมัน ว่ากันด้วยเรื่องของแสง แสงแดดต้องส่องถึง ตามปกติแล้วห้องนอนคือห้องที่มีหน้าต่าง ไม่ว่าจะอยู่ด้านไหน เราขอแนะนำให้ที่นอนของคุณ ตั้งอยู่ในระยะที่แสงแดดส่องถึง เพื่อให้ที่นอนของคุณไม่มีกลิ่นเหม็นอับ รวมถึงภาพรวมของทั้งห้องด้วย เพราะนอกจากเรื่องของกลิ่นอับแล้วมันยังช่วยให้เราไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันอีกต่างหาก และอย่าลืมเปิดหน้าต่างในบางช่วงเวลา เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อช่วยลดกลิ่นอับได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน แถมได้อากาศสุด Fresh สูดเข้าไปแบบเต็มปอด อุณหภูมิที่เหมาะสม หากวันไหนเหนื่อยล้าจนรู้สึกว่าร่างกายมีอุณหภูมิที่แปลกไป ก็ลองอาบน้ำเย็นหรืออุณหภูมิปกติดู เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิของร่ายกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน แบบที่คุณเคยรู้สึกว่าวันไหนทำงานหนัก ๆ แล้วรู้สึกตัวอุ่น ๆ
ช่วงปลายปี 2018 โลกของแฟชั่นต้องสั่นสะเทือน เมื่อธุรกิจเครื่องดื่มชื่อดัง Evian จับเจ้าพ่อวงการแฟชั่นอย่าง Virgil Abloh มานั่งเป็นที่ปรึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์ และร่วมกันออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ล่าสุด Virgil ได้โชว์ผลงานภายใต้คอนเซ็ปต์ที่มีชื่อว่า Rainbow Inside ก่อนที่จะมีผลงานให้เห็น Virgil กล่าวถึงน้ำแร่ Evian ว่าเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นและน้อยคนที่จะไม่รู้จักน้ำดื่มยี่ห้อนี้ เขาต้องการพาแบรนด์ไปอีกขั้นในรูปแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดังนั้นผลงานแรกของเขากับเอเวียงอย่าง Rainbow Inside จะเปรียบกับน้ำหนึ่งหยดที่สามารถสร้างรุ้งได้ และเมื่อแสงหักเหผ่านหยดน้ำเผยให้เห็นสีสันหลากหลาย ก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสิ่งอื่นต่อไปอย่างไม่รู้จบ สินค้าในคอลเลกชัน Rainbow Inside ของหนุ่ม Virgil จะใช้ขวดแก้วของบริษัทบรรจุภัณฑ์ชื่อดัง SOMA water ที่มีคอนเซ็ปต์การผลิตเพื่อให้สินค้าใช้ได้นานที่สุด รวมถึงนโยบายเรื่องการกุศลในพื้นที่ทั่วโลกที่กำลังประสบกับวิกฤตน้ำ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้ ด้วยจุดยืนที่ชัดเจนของ SOMA ทำให้ Virgil ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์ของเอเวียงตัดสินใจร่วมงานกบ SOMA เพื่อสร้างสรรค์ขวดน้ำที่เป็นได้ทั้งแฟชั่นและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ขวดน้ำคอลเลกชัน Rainbow Inside ขนาด 75cl ทำจากวัสดุรีไซเคิล 100% ที่ได้มาตรฐานทนทานต่อการกระแทก ฝาขวดทำจากต้นไผ่ไม่ปนเปื้อนสารเคมี พร้อมปลอกซิลิโคนสีขาวประทับชื่อคอนเซ็ปต์ Rainbow
สำหรับใครที่ชื่นชอบและคิดถึงเครื่องเกมคลาสสิกที่เคยเล่นเมื่อครั้งเป็นเด็กอย่าง PlayStation 1 จะต้องถูกอกถูกใจอย่างแน่นอนเพราะ Merchoid พาเครื่องเกมรุ่นตำนานกลับมาอีกครั้งรูปแบบนาฬิกาข้อมือดิจิทัล นาฬิกาข้อมือนี้มีชื่อว่า PlayStation: Loading Times Watch Preorder ทำจากซิลิโคนสีเทาขนาดกะทัดรัด รายละเอียดถอดแบบมาจาก PlayStation 1 ทุกประการ พร้อมดัดแปลงบริเวณฝาเปิด CD ให้กลายเป็นจอแสดงเวลาแบบเรืองแสง เปลี่ยนปุ่ม power และ open ให้เป็นปุ่มตั้งค่าเวลา ถ้าถามว่าเพราะอะไร Merchoid ถึงเลือกรุ่น PlayStation 1 มาสร้างสรรค์เป็นนาฬิกาข้อมือ คำตอบคือเพราะเครื่องเกมรุ่นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ถ่ายทอดจินตนาการและความสนุกสนานอย่างเต็มอิ่ม เป็นไอเทมยอดฮิตที่วัยรุ่นยุค 90 ผู้ชื่นชอบการเล่นเกมจะต้องมีติดบ้าน จุดเริ่มต้นของ PlayStation 1 เกิดขึ้นเมื่อบริษัทวิดีโอเกมชื่อดัง Nintendo ยกเลิกสัญญาที่ร่วมพัฒนาเครื่องเกมกับบริษัท Sony กลางคัน และหันไปเซ็นสัญญากับทางฟิลิปแทน ทำให้ Sony ได้รับผลกระทบอย่างหนัก Sony จึงตัดสินใจนำข้อมูลที่เหลือจากโครงการที่ยุบไปแล้วมาพัฒนาต่อ เกิดเป็นเครื่องเกมแบบคอนโซลเดี่ยว การพลิกเกมของโซนี่สร้างความไม่พอใจแก่ Nintendo และฟ้องให้โซนี่ระงับการพัฒนา แต่ผลคือศาลไม่รับฟ้องกรณีดังกล่าว ในที่สุดเครื่องเกม
ช่วงนี้ข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของสุดยอดดีไซเนอร์เปลี่ยนโลกอย่าง Karl Lagerfeld ผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นเต็มหน้าฟีดโซเชียลทั้งไทยและเทศ บุรุษอายุ 85 นี้คือใคร ทำไมวงการการออกแบบและแฟชั่นถึงออกมาร่วมไว้อาลัย ถ้ายังคิดไม่ออกว่าเขาคือใคร ภาพติดตาของดีไซน์เนอร์ของแบรนด์ Chanel ที่ชอบใส่สูทสีดำ ไว้ผมยาวสีขาวโพลนรวบหางม้า และสวมแว่นกันแดดตลอดเวลาด้านล่าง คงทำให้ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน UNLOCKMEN ขอนำทุกคนไปทำความรู้จักกับชายผู้สร้างสีสันให้กับโลกแฟชั่น เพื่อสดุดีถึงผลงานที่ทำมาตั้งแต่ช่วง 50’s ที่โดดเด่น ไม่ธรรมดา และกินใจผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่ Karl Lagerfeld จะเป็น Creative Direction ให้กับแบรนด์แฟชั่นสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Chanel และแบรนด์ดังจากอิตาลี Fendi รวมถึงก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นในชื่อของตัวเองว่า Karl Lagerfeld จนเกรียงไกร เขาต้องพบกับขวากหนามมากมายที่ต้องพยายามฝ่าฟันนับครั้งไม่ถ้วนจนได้สิ่งที่หวัง เรื่องราวชีวิตก่อนมีชื่อเสียงโด่งดังของ Karl เริ่มต้นจากเด็กชายชาวเยอรมันที่ย้ายมาตามความฝันใน “ปารีส” มหานครแห่งแฟชั่น ทุ่มเวลากับสิ่งที่ชอบด้วยการเรียนรู้เรื่องผ้าอยู่ 2 ปี จากนั้น Karl ในวัย 17 ปี จึงได้ลองส่งผลงานชิ้นแรกของตัวเองคือแบบสเก็ตช์เสื้อโค้ตเข้าประกวดในปี ค.ศ. 1954 และได้รับรางวัลชนะเลิศ ผลงานชิ้นนี้ของ Karl เข้าตา Pierre Balmain ดีไซเนอร์ชื่อดังแห่งยุค
ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีบิดชีวิตให้เราไปเลื่อนฟีดบนสมาร์ตโฟน ใช้ชีวิตบนโลกโซเชียล หาข้อมูลจากอินเทอร์เนตมากกว่า แต่เราก็ยังเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า “อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์” และ “หนังสือ” ยังคงมีคุณค่าอยู่เสมอ ไม่ว่าตลาดการแข่งขันคอนเทนต์วันนี้จะเป็นเช่นไร วัตถุอนาล็อกอย่างหนังสือก็ยังคงความคราฟต์และคลาสสิกในสายตาเรา ล่าสุดเวทีประกวดหนังสือที่ดีไซน์ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019 ที่จัดขึ้นที่ Leipzig ประเทศเยอรมนีได้ประกาศรายชื่อหนังสือที่ได้รับรางวัลประกวดการออกแบบหนังสือที่ดีที่สุดในปีนี้ เป็นหนังสือสีน้ำตาลที่ใช้ชื่อว่า Old Trades of Jiangsu: A Glimpse จากโรงพิมพ์ Jiangsu Phoenix Education Publishing Co., Ltd ถ้ามองผ่าน ๆ อาจจะดูไม่ออกว่าทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงชนะใจกรรมการและกองหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่ส่งประกวด เพราะหน้าตาของมันดูบ้าน ๆ เทคนิคการเข้าเล่มก็ไม่ได้เหนือกว่ามากมาย แล้วยิ่งถ้าเจาะเข้าไปจากการสัมผัสเนื้อกระดาษหรือมองด้วยตาเปล่าก็รู้ได้ทันทีเลยด้วยว่ามันไม่ใช่กระดาษคุณภาพและมีราคาแพง แต่เป็นกระดาษถูก ๆ นี่แหละ เพราะขอบข้างของมันก็ดูเปื่อยยุ่ยขนาดนั้น ความจริงของกระดาษราคาถูกที่เพิ่มคุณค่าด้วยเรื่องราวของมัน คือหนึ่งในเหตุผลที่เอาชนะใจกรรมการได้ เนื่องจากเหตุผลสามประการ ข้อแรกกระดาษเหล่านี้คือกระดาษจากร้านขายของชำที่ใช้ห่ออาหาร กระดาษที่ถูกมองข้ามเรื่องการนำมาใช้ในงานพิมพ์ผลิตหนังสือเพราะเป็นกระดาษถูก ทำให้แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เราเห็นมานานแล้วแต่ก็เป็นการพลิกโฉมวงการดีไซน์หนังสือ ข้อที่สอง เนื้อเรื่องภายในเล่ม ชวนสัมผัสและมีเสน่ห์ขึ้นจากวัสดุที่นำมาทำหนังสือ อ่านจากชื่อหนังสือเราจะรู้ว่าภายในเล่มพูดถึงเรื่อง Old trade หรือการค้ายุคเก่าของมณฑลเจียงซู
ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง “Constantine คนพิฆาตผี” คงต้องยอมให้กับความเท่ระเบิดระเบ้อของ Keanu Reeves ที่เจิดจรัสออกมาตลอดทั้งเรื่อง จนกลบเสียงวิจารณ์เนื้อหาที่ฉีกไปจากคอมมิกอย่างไม่มีชิ้นดี นอกจากความเท่ที่มันเตะตาคนดูอย่างเราแล้ว หลายคนคงจำรอยสักปริศนาที่แขนของ John Constantine ตัวเอกของเรื่องกันได้ดี โดยเฉพาะฉากยกแขนมาแนบกันเพื่อปราบเจ้าเด็กแสบ รอยสักนั้นไม่ได้ถูกดีไซน์ขึ้นมาใหม่ ให้มันเท่เข้ากับคาแรกเตอร์เฉย ๆ อย่างตัวละครในเรื่องอื่น แต่มันเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายและมีมานานอีกแล้วอีกต่างหาก UNLOCKMEN จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสัญลักษณ์นั้น ที่กลายมาเป็นรอยสักแสนสะดุดตาบนแขนของเขากัน ทำความรู้จักเรื่อง Constantine ก่อนจะไปทำความรู้จักกับสัญลักษณ์นั้น ลองมาทบทวนเนื้อเรื่อง “Constantine คนพิฆาตผี” กันหน่อย เผื่อมีบางคนที่ดูนานแล้วจนลืมเลือนเนื้อเรื่องไป หรือบางคนที่อาจจะยังไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อน ความเท่ของการปราบผีระดับตำนาน เรื่องราวของ John Constantine (Keanu Reeves) เขาไม่ได้เป็นนักบุญ แต่เขาคือผู้ที่เคยผ่านความตาย และมีพรสวรรค์ในการเห็นสิ่งใด ๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ เขาใช้ชีวิตเพื่อกำจัดพวกเกเรกลับนรกไม่ให้เหลือซาก จนเขาได้ไปเจอกับตำรวจสาวที่ขอร้องให้เขาช่วยสืบเกี่ยวกับคดีการฆ่าตัวตายของน้องสาวฝาแฝดของเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อความตายของสาวคนนั้นเป็นเพียงปมเล็ก ๆ ของเรื่องราวอันยุ่งเหยิงระหว่างปีศาจ ลูกตัวแสบของลูซิเฟอร์ที่อยากจะขึ้นมาป่วนโลกนี้แบบเต็มที ใครที่ชื่นชอบปีศาจแบบตามศาสนา ไม่ใช่ผีแบบ Ghost ล่ะก็ แนะนำเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ เพราะเรื่องนี้จะเต็มไปด้วย ปีศาจ ศาสนา
SEIKO ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,หน่วยงานพันธมิตร, สื่อมวลชน, Fabien Cousteau แบรนด์แอมบาสเดอร์ในระดับโกลบอลของ Seiko Prospex และ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม จัดทำ โครงการ SEIKO Save The Ocean ครั้งที่ 3 เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูท้องทะเลไทย ซึ่งโครงการนี้ได้ต่อยอดมาจากโครงการ Save The Sea ของ SEIKO ประเทศไทย โดยได้นำเอาเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกา Seiko Prospex Zimbe Collection จัดทำโครงการมาแล้วถึงสองปี ซึ่งในปีนี้ประกอบด้วยกิจกรรมการอนุรักษ์ปล่อยเต่าทะเล กิจกรรมดำน้ำทำความสะอาดเก็บขยะรวมถึงสำรวจการเจริญเติบโตของแนวประการังในโครงการ Save the sea ที่เคยร่วมปลูกไว้เมื่อสองปีที่ผ่านมา ณ บริเวณอ่าวสยาม เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 8 – 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อนโครงการ Save The Sea โดยบริษัทไซโก
“Swiss made คือหนึ่งในความนิยมของนักเล่นนาฬิกาทั้งมือเก่ามือใหม่ แต่ SEIKO จะเป็นนาฬิกาเรือนแรก ๆ ที่คนไทยใส่” เรานั่งพูดคุยเรื่องความนิยมกับพี่น้องที่รักและหลงใหลเรื่องนาฬิกา ชื่นชอบเรื่องวัสดุการผลิตสายลึกจนจู่ ๆ ได้ยินประโยคนี้ขึ้นมาระหว่างการพูดคุย จริงหรือเปล่าที่ Seiko เป็นแบบนั้น แต่คงไม่ต้องมองไปไหนไกล เมื่อที่ข้อมือเราเองก็คาดไว้หนึ่งเรือน แม้จะไม่ใช่ Limited Edition ก็ตาม ก็น่าจะจริงอย่างเขาว่า ทำไมแบรนด์นี้ถึงเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่คนไทยคิดถึง และยังเป็นหนึ่งแบรนด์ในดวงใจของชายหญิงผู้มองหาเรือนเวลาสักเรือนมาสวมใส่และสะสม หรือกระทั่ง Brand Heritage เขามีความเป็นมาอย่างไรทำไมถึง survive ข้ามกาลเวลามานับ 100 ปีแล้วก็ยังไม่ตกชั้น UNLOCKMEN จะพาไปดูหลาย ๆ มุมมองเหล่านี้ไปพร้อมกัน THE BEGINNING OF SEIKO Kintaro Hattori คือผู้เขียนตำนานของ Seiko เขาเติบโตในครอบครัวที่ทำอาชีพขายของโบราณและได้รับ DNA เดียวกับพ่อมาเต็มเปี่ยมจึงใฝ่ฝันจะเป็นพ่อค้าตั้งแต่วัยสิบกว่าขวบ ก่อนเริ่มตัดสินใจว่าจะเป็นช่างทำนาฬิกาตั้งแต่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้นหลังไปที่ร้าน Kobayashi Clock Shop
ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนเรามั้ย แต่เวลาว่าง ๆ เราชอบเปิดรูปบ้านดีไซน์สวย ๆ จากทั้งในและต่างประเทศขึ้นมาดูเล่น ๆ ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษ ไม่ใกล้เคียงกับการเก็บเป็นไอเดียไว้สร้างบ้านในอนาคต เพราะที่อยู่ปัจจุบันยังเช่าเขาอยู่เลย แต่เอาเป็นว่าดูแล้วมันสบายใจ รู้สึกผ่อนคลาย โดยเฉพาะดีไซน์บ้านจากประเทศ ‘ญี่ปุ่น’ สถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างบอกไม่ถูก มีความ Minimal ไม่ฉูดฉาดหวือหวา แต่เห็นแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกแบบเรา และด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นหนาแน่นไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะในโตเกียวที่มีประชากรมากถึง 38 ล้านคน หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศไทยเลยทีเดียว จึงทำให้บ้านแต่ละหลังยิ่งต้องใส่ไอเดียเข้าไป เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุดในพื้นที่จำกัด Vice ได้รวบรวม 10 บ้านดีไซน์สุดคูลในย่านโตเกียวจนถึงฟุกุโอกะจากหนังสือ 411 of Japan’s Most Incredible Modernist Houses. เขียนโดย Naomi Pollock เราจึงอยากนำมาแบ่งปันให้กับชาว UNLOCKMEN เก็บไว้เป็นไอเดียเผื่อว่าใครกำลังมีแผนจะสร้างบ้านใหม่ เราว่าถ้ามีบ้านแบบนี้ในไทยน่าจะเจ๋งไม่น้อยเลย KHT House IRA, Kahoku, Yamagata Prefecture House Snapped, Naf Architect, Saitama, Saitama Prefecture
มี 2 สิ่งในการแต่งตัวของผู้ชายที่ถือเป็นส่วนสำคัญถึงขั้นตัดสินภาพรวมของสไตล์ในแต่ละคนได้ นั่นคือรองเท้าหนังและนาฬิกาข้อมือ ที่บอกว่าสำคัญเพราะสองสิ่งนี้จำเป็นจะต้องมีรองรับให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ ไม่ใช่สิ่งที่จะมีเพียงชิ้นเดียวแล้วใส่ลุยได้ทุกงานอย่างที่หลายคนเข้าใจ ซึ่งถ้าให้เทียบความสำคัญกัน ต้องบอกว่านาฬิกาเป็นตัวเสริมความมั่นใจได้มากอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเราเลือกจับคู่ได้อย่างถูกต้อง สำหรับคนที่ไม่ใช่นักเล่นนาฬิการะดับมือโปร ว่ากันตามตรงก็ไม่จำเป็นจะต้องมีนาฬิกาในกล่องสะสมเป็นสิบ ๆ เรือน สำหรับสิบเทศกาลก็ได้นะครับ อันที่จริงการมีนาฬิกาเรือนเก่งที่รูปทรงคลาสสิก เป็นนาฬิกาที่ใส่ติดมือ ใส่แล้วมั่นใจ สามารถไปได้กับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์ของเรา ก็เป็นไอเดียการเลือกนาฬิกาที่ถูกต้องเช่นกัน และที่สำคัญราคาของนาฬิกาดี ๆ สักเรือนก็ไม่จำเป็นต้องไปแตะหลักแสนหลักล้านก็ได้ครับ เพราะสไตล์และความมั่นใจเกิดจากหัวใจและการเข้าใจสิ่งที่ตัวเองต้องการ ใน Watch Talk ครั้งนี้เราได้คัดเลือกนาฬิกา 7 เรือน ที่ออกแบบได้คลาสสิกสวยงามแบบ Vintage-look มั่นใจได้เลยว่าเลือกเรือนไหน ก็สามารถสวมใส่เข้าได้เกือบทุกสไตล์การแต่งตัวตั้งแต่ Casual ยัน Formal ในราคาไม่หนักหนาอย่างที่คิด อันที่จริงเรามีให้เลือกตั้งแต่ราคาสบายกระเป๋ามากไปจนถึงสมน้ำสมเนื้อกันเลยล่ะครับ HAMILTON Khaki Aviation X-Wind Day Date Auto นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1919 Hamilton เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับเลือกจากกรมไปรษณีย์กลางสหรัฐฯ ให้ใช้บนเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากวอชิงตันไปยังนิวยอร์ก รวมถึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ผลิตและส่งมอบนาฬิกาให้แก่กองทัพสหรัฐฯอย่างเป็นทางการนับแต่ปี 1914 อีกด้วย จึงนับได้ว่ามีชื่อเสียง