ทุกวันนี้เรารู้กันดีว่าตลาดสนีกเกอร์เป็นตลาดโหด ที่ไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่ค่ายไหนอยากจะบุกเข้าไปเสี่ยงสู้กับแบรนด์ดังเจ้าถิ่นเดิม เพราะภาพมวยรองที่ติดตาเมื่อเทียบกับแบรนด์ขาใหญ่จากต่างประเทศกับความกังวลว่าถ้าลงทุนไปยังไงก็เจ็บตัวแน่นอน “แบรนด์ใหญ่เราไม่ได้คิดจะไปสู้กับเขาอยู่แล้ว เพราะเราก็ยังซื้อแบรนด์ใหญ่อยู่ แต่คนเราหลากหลายมาก มันไม่จำเป็นว่าต้องไปซื้อรองเท้ายี่ห้อเดียว” – DUST OFF SHOES แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา มีแบรนด์สนีกเกอร์ไทยอย่าง “Dust Off” หาญกล้าลุกขึ้นมาผ่าเหล่า โยนความกลัวทิ้งไปแล้วสร้างความคึกคักให้วงการสนีกเกอร์ ทยอยส่งโมเดลใหม่จัดจ้านทั้งสีสัน ดีไซน์ และคุณภาพจนสายแคนวาสต้องตามเก็บ พวกเขาใช้ธีมสนีกเกอร์ยุค 70 นำมาพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น เข้ากับยุคสมัย จนจุดประกายกระแสสนีกเกอร์คลาสสิกทางเลือกในวงการรองเท้า ต้นตอของแรงบันดาลและความแตกต่างของจุดยืนที่มั่นใจว่าไม่ได้เปิดฉากมันเพราะอยากข้ามหัวแบรนด์ใหญ่แบรนด์ไหน แต่แค่ทำขึ้นเพื่อคนคอเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะเป็น Sneaker Head สายไหน ก็สามารถเลือกซื้อ เลือกใส่ ซบแบรนด์ที่ชอบได้ อยากเลือกมันส์แบบไหนก็ตามสบาย แม้ฟังดูเป็นความคิดธุรกิจที่ออกจะห่ามและโคตรฟุ้งของพวกเขา เบิร์ด – สิทธิอาจ อมศิริ, เบิร์ด – รุ่งเรือง กุฎมหาราช, โอ้ต – ชิดชนก บุญเกษม และอาร์ท – เอกสิทธิ์ โขมมัย 4
ยิ่งการแข่งขันบาสเกตบอล NBA ใกล้รอบตัดเชือกมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ Jordan Brand ยิ่งทำให้คนตื่นเต้นด้วยการปล่อยรองเท้ารุ่น Air Jordan 33 สีสันใหม่ที่เรียบเท่และล้ำสมัยด้วยลายพรางกับดีไซน์ของรองเท้าอวกาศ ชุดอวกาศส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเห็นจากข่าว สารคดี หรือในภาพยนตร์ก็มักเป็นชุดสีขาวล้วนเสมอ นั่นเป็นเพราะสีขาวสะท้อนอุณหภูมิความร้อนของดวงอาทิตย์ได้ดีกว่าสีอื่น ๆ ทำให้สนีกเกอร์ Air Joudan 33 ที่หยิบแรงบันดาลใจจากชุดอวกาศแต่งแต้มสีขาวลงไปบนรองเท้าแล้วตัดความเรียบด้วยลายพรางสีเทาและผ้าตาข่ายสีดำ ดีไซน์ของ Air Jordan 33 จะรวมสไตล์คลาสสิกย้อนยุคกับความล้ำสมัยของคอนเซปต์ชุดอวกาศเข้าด้วยกัน เสริมด้วยลายพรางสีเทาบริเวณด้านหน้า แซมสีแดงเล็กน้อยตรงขอบรองเท้า จากนั้นแต้มสีทองลงบนส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นรองเท้า โลโก้ Jumpman อันเป็นเอกลักษณ์บนลิ้นรองเท้า และสัญลักษณ์ Nike Air สีทองตรง new tap ส่งให้สนีกเกอร์นี้แตกต่างโดดเด่นจากรองเท้าคู่อื่น ๆ Air Jordan 33 นอกจากจะมีดีไซน์สวยงามเฉพาะตัว ยังมาพร้อมระบบ FastFit นวัตกรรมล้ำสมัยเสมือนเป็นเข็มขัดนิรภัยให้กับเท้า ที่ทาง Nike ได้พัฒนาร่วม 3 ปี เพื่อการก้าวเดินที่ไม่สะดุดและให้รองเท้ากระชับเข้ากับรูปเท้ามากที่สุด นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี FlightSpeed
Casio สร้างความตื่นเต้นให้วงการนาฬิกาอีกครั้งในงาน Baselworld ปี 2019 งานจัดแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูล G-Shock ที่ได้แรงบันดาลใจจากกาแลคซี่ สายรุ้ง และแสงแดดมาสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือที่ไม่ธรรมดา นาฬิกาต้นแบบที่ Casio เลือกหยิบมาแต่งแต้มสีสันคือโมเดล MT-G จากตระกูล G-Shock ที่สร้างชื่อให้แบรนด์ การดีไซน์สีสันของนาฬิกาข้อมือจะใช้แถบสีของรุ้งกินน้ำทั้ง 7 ที่เกิดจากการหักเหของแสงผ่านหยดน้ำที่ล่องลอยอยู่ในอากาศมาตกแต่งบริเวณของนาฬิกา รวมถึงแต่งบนเครื่องหมายและตัวเลขบนหน้าปัด เส้นบอกตำแหน่งเวลาสีทอง สลับกับตัวเลขสีชมพูและสีฟ้าแตกต่างกันไปแต่ละช่องแสดงผล เพิ่มสีสันความสนุกสนานให้กับนาฬิกาสายสปอร์ต ไม่ใช่เพียงแค่สีสันโดดเด่นเท่านั้นที่ผู้คนตอบรับ แต่เทคโนโลยีของนาฬิกาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนาฬิกาในตระกูล G-Shock โมเดล MT-G จะผสานโลหะและเรซินทำให้เกิดสีสันสะดุดตา โครงสร้างกันแรงกระแทกด้วย Triple G Resist แข็งแรงแต่ยังคงรูปลักษณ์เพรียวบางเอาไว้ พร้อมสายนาฬิกาน้ำหนักเบาและทนทาน ชิ้นส่วนเรซินคุณภาพเยี่ยมมีคุณสมบัตินำความร้อนต่ำกว่าสเตนเลสสตีล ดังนั้นความเย็นจะส่งผ่านไปถึงข้อมือน้อยกว่าแม้ในฤดูหนาว กระจกนาฬิกาทำจากคริสตัลแซฟไฟร์ทำให้เกิดรอยขีดข่วนยาก รวมถึงการเคลือบแบบไม่สะท้อนแสงจะช่วยให้สามารถมองเห็นหน้าปัดชัดขึ้นแม้จะอยู่บนพื้นที่กลางแจ้ง และสามารถลงน้ำลึกได้ 200 เมตร การซิงค์ปรับแก้เวลาเมื่อเดินทางข้ามทวีปสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีบลูทูธเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น G-SHOCK Connected เพื่อรับข้อมูลเวลาที่แม่นยำจากเซิร์ฟเวอร์เวลาออนไลน์ และระบบ MULTIBAND 6 ปรับเวลาอัตโนมัติตามการรับสัญญาณเทียบเวลาจากสถานี 6
Virgil Abloh ยอดดีไซเนอร์มากฝีมือผู้ก่อตั้งแบรนด์สตรีต Off-White และเป็น Artistic Director ของแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์อย่าง Louis Vuitton ส่งคอลเลกชันรองเท้าผ้าใบเซ็ตแรกหลังจากร่วมงานกับ Louis Vuitton มาได้หนึ่งปีในงานแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษประจำฤดูกาล Spring/Summer 2019 ผลงานรองเท้าคอลเลกชันแรกภายใต้ Louis Vuitton ของเขาจะใช้ชื่อว่า LV 408 โดยมีทั้งหมด 3 แบบ 3 สไตล์ให้เลือกได้ตามใจ ซึ่งหนุ่ม Virgil มั่นใจมากว่ารองเท้าที่เขาออกแบบจะต้องถูกอกถูกใจเหล่าผู้ชายสายสตรีตอย่างแน่นอน สนีกเกอร์คอลเลกชัน LV 408 ของหนุ่ม Virgil Abloh ได้แรงบันดาลใจจากรองเท้ากีฬาของนักบาสเกตบอลในสมัยก่อนที่โดดเด่นเรื่องวัสดุหนังที่ใช้ รวมถึงรูปทรงหนา ๆ คล้ายรองเท้าคุณพ่อ ทำให้รองเท้า LV 408 ทั้งสามคู่เต็มไปด้วยความวินเทจแบบยุค 90 แต่ผสมผสานกับกลิ่นอายของแฟชั่นสมัยใหม่แบบปัจจุบัน วัสดุที่ Louis Vuitton เลือกใช้คือหนังลูกวัวคุณภาพพรีเมียมที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในประเทศอิตาลีโดยรองเท้าแต่ละคู่จะใช้เวลาตัดเย็บกว่า 6 ชั่วโมง ด้วยวัสดุกว่า 106 ชิ้น ประกอบขึ้นเป็นรองเท้าผ้าใบหนึ่งคู่ และให้ความสำคัญกับพื้นรองเท้ามากที่สุด
เชื่อเหลือเกินว่านาทีนี้หนุ่ม ๆ สาวกของโคตรแบรนด์สตรีตอย่าง Supreme และค่ายกีฬายักษ์อย่าง NIKE คงไม่มีรองเท้าคู่ไหนที่เฝ้ารอเป็นเจ้าของมากไปกว่า Supreme x Nike Air Tailwind IV ที่มีรูปหลุดออกมาก่อนหน้านี้ จนในที่สุดมันก็ถูกประกาศวันวางขายอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว ภาพสมบูรณ์ของ Supreme x Nike Air Tailwind IV เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นล่าสุดเกิดจากการ Collaboration ระหว่างของเจ้าพ่อสตรีตจากนิวยอร์กและ Nike ที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นจนกลายเป็นของหายากทันทีที่เปิดตัวใน SS19 ของ Supreme หลังจากทั้งคู่ร่วมงานกันมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่จับรองเท้ารองเท้าโมเดล Dunk Low Pro SB มาทำด้วยกันครั้งแรกในปี 2002 Supreme x Nike Air Tailwind IV เกิดจากการเลือกหยิบ Air Max ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1999 อย่าง Nike Air Tailwind VI มาปรับแต่งและเติมดีไซน์ความไฮป์ลงไป จนออกมาเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตออกมา 2 โทนสีด้วยกัน สีแรกคือ White/University Red-Gayser
Deus Ex Machina (เดอัส เอ็กซ์ มาคิน่า) คัลท์แบรนด์จากออสเตรเลีย เปิดตัวคอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Artist Capsule Collection ภายใต้ชื่อ “Deus Ex McNeil” ที่ได้ร่วมมือกับ Paul McNeil (พอล แมคนีล) ศิลปินอัลเทอร์เนทีฟจากนิวซีแลนด์ ผู้ซึ่งหลงรักในงานศิลปะและหลงใหลในการเล่นเซิร์ฟเป็นชีวิตจิตใจ จนได้นำสิ่งต่างๆเหล่านี้ถ่ายทอดมาเป็นคอลเลคชั่นดังกล่าว Paul McNeil ศิลปินชาวนิวซีแลนด์เป็น Graphic Designer ในตำนานของ Mambo แบรนด์ Surf ชื่อดังจากออสเตรเลีย สร้างสรรค์ผลงานโดยใช้แรงบันดาลใจจากเซิร์ฟ หนัง ดนตรีอัลเทอร์เนทีฟยุค ‘60s – ‘80s การ์ตูนและศิลปะ Hot Rod ที่หลงใหลตั้งแต่เด็ก ๆ นอกจากโด่งดังจากการทำงานร่วมกับ Mambo แล้ว เขายังร่วมงานกับวงดนตรีอีกหลายวงเพื่อออกแบบ โปสเตอร์ทัวร์ หน้าปกอัลบั้มและสินค้าอื่น ๆ ของวงดนตรี Paul ออกแบบอะไรมากมายแม้กระทั่ง หนังสือนิทานของเด็ก! ด้วยงานที่เป็นเอกลักษณ์ในการใช้ฝีแปรงและแอร์บรัช
เมื่ออสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ที่ควรค่าและหายาก เปรียบเสมือนสมบัติอันทรงคุณค่ายิ่งแก่การครอบครองและสามารถส่งต่อเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น แสนสิริ ในการร่วมทุนกับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เผยโฉมโครงการ “THE MONUMENT THONG LO” (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) คอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่ล่าสุด หนึ่งใน Sansiri Luxury Collection คอลเล็กชั่นของการรวมโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่และแฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในแบบฉบับของแสนสิริ ที่นำเสนอความสมบูรณ์พร้อมด้วยสุนทรียะประสบการณ์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตระดับเวิลด์คลาส ที่เปี่ยมด้วยรสนิยมแห่งการอยู่อาศัยที่เหนือระดับอย่างเต็มภาคภูมิควรค่าและหายากแก่การครอบครอง จากการลงทุนในของรักของสะสมอันมาจากความรักและความหลงใหลที่สร้างมูลค่าเหนือกาลเวลา อย่างไม่สิ้นสุด Sansiri Luxury Collection (แสนสิริ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็กชั่น) ประกอบด้วย 4 แบรนด์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่และลักซ์ชัวรี่ของแสนสิริที่ได้รับการยอมรับทั้งในเมืองไทยและระดับโลก ได้แก่ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส), BAAN SANSIRI (บ้านแสนสิริ),The Monument Thong Lo (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) และ KHUN by yoo (คุณบายยู) โดยทั้งหมดล้วนรังสรรค์มาจากแนวคิดที่ละเมียดละไมในการนำเสนอโครงการระดับเวิลด์คลาสที่เต็มด้วยรายละเอียดเปรียบเหมือนงานศิลปะ ที่เกิดมาจาก 4
สำหรับผู้ชื่นชอบแนวเพลงแกลมร็อก คงไม่มีใครไม่รู้จัก David Bowie ชายที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยสไตล์และบทเพลงที่โดดเด่นยากจะหาใครเหมือน ด้วยผลงานระดับตำนานของเขาทำให้ Vans ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวของ David Bowie ผ่านรองเท้าสี่แบบของแบรนด์ที่มีสไตล์แตกต่างกัน จนเกิดเป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงและอัลบั้มของเจ้าพ่อแห่งวงการแกลมร็อก ถ้าพูดถึงเจ้าพ่อแนวเพลง Glam Rock ก็ต้องนึกถึง David Bowie ศิลปินแกลมร็อกที่ทั่วโลกยกย่องถึงความสามารถและที่มีแนวทางเด่นชัดในแบบของตัวเอง เป็นชายที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและดนตรี มีบทบาทมากต่ออุตสาหกรรมดนตรีและโลกของแฟชั่น ด้วยการฉีกทุกกฎของยุคสมัย ทำให้รองเท้าทั้ง 4 คู่ ที่ดีไซน์ตามอัลบั้มของเขาโดดเด่นด้วยสไตล์ที่ไม่ซ้ำกัน Space Oddity (1969) รองเท้าคู่แรกคือผ้าใบสีฟ้าสดใส ถ่ายถอดบทเพลงแจ้งเกิดของของ David Bowie อย่าง Space Oddity จากปี 1969 เมื่อเห็นรองเท้าก็ชวนให้หวนคิดถึงวันเก่าก่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งการแต้มจุดสีฟ้าลงบนพื้นรองเท้าสีเขียวไล่ระดับจากเข้มไปอ่อนเหมือนกับปกอัลบั้มแรกของเขาไม่ผิดเพี้ยน จากนั้นจึงใช้สีดำของเชือกรองเท้าและพื้นยางตัดกับสีรองเท้าสีสันสดใสเพื่อขับให้รองเท้าโดดเด่น พร้อมประทับความว่า SPACE ไว้ด้านข้าง ระลึกถึงห้วงอวกาศอันเป็นแรงบันดาลใจของบทเพลงนี้ Hunky Dory (1971) รองเท้าคู่ถัดมาในคอลเลกชันนี้ยังคงคอนเซปต์สีสันสดใส นำเสนอเรื่องราวจากอัลบั้มที่สอง Hunky Dory ในปี
เริ่มงาน Baselworld 2019 อย่างร้อนระอุกันไปแล้ว ท่ามกลางข่าวลืมไม่ค่อยดีเกี่ยวกับนาฬิกาแบรนด์หรูที่ว่าไปได้ไม่ดี แต่ในความเป็นจริงดูเหมือนตลาดจะยังคึกคัก ไม่มีท่าทีจะซึมเศร้ายาวนานเหมือนที่หลายคนหวาดกลัว เอาแค่ Rolex แบรนด์เดียวก็มีการเปิดตัวนาฬิกาในงานนี้มากมายหลายรุ่น แต่บางรุ่นอย่างเช่นตระกูล Oyster Perpetual Datejust 36 หรือ Day-Date 36 ที่อาจจะไม่โดนใจเรามากนัก เราจึงขอเลือกนำเสนอ Rolex 3 รุ่นที่ทั้งโดนใจ เท่ และน่าสะสมกันดีกว่า Rolex Monochromatic Yacht-Master 42 เริ่มจากเรือนแรก ขอยกให้เป็นเรือนที่เราชอบมากที่สุดใน 3 เรือน นั่นคือ Monochromatic Yacht-Master 42 ที่มาในขนาดใหญ่เหมาะกับข้อมือผู้ชาย ใครมี Submariner หรือ GMT แล้วอยากได้เรือนที่ใหญ่กว่าน่าจะถูกใจ ตัวเรือน White Gold ขนาด 42mm จากเดิมที่หลายคนคุ้นกับขนาด 40mm ขับเคลื่อนด้วยกลไกรุ่นใหม่ Calibre 3235 สำรองพลังงานได้ถึง 70 ชั่วโมง ต้านสนามแม่เหล็กและมีความแม่นยำมากกว่าแฮร์สปริงแบบดั้งเดิมถึง
นาฬิกาอัจฉริยะอย่าง Apple Watch ถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย รวมถึงตอนนี้ก็เข้าใกล้ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการเข้ามาทุกทีแล้ว Apple จึงปล่อยสายนาฬิกาคอลเลกชันล่าสุดที่ collaboration กับแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง Hermes และ Nike เพื่อต้อนรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังมาถึง Apple Watch x Nike+ คือการ collaboration ระหว่างแบรนด์เทคโนโลยีกับแบรนด์เครื่องกีฬาชั้นนำออกมาเป็นนาฬิกาอัจฉริยะและสายนาฬิการุ่นพิเศษสองรุ่นอย่าง Sport Band และ Sport Loop Apple Watch Series 4 Nike+ แตกต่างจาก Apple Watch Series 4 ธรรมดาหลายอย่าง ทั้งเอกลักษณ์ของแบรนด์กีฬาชื่อดัง Nike บน smartwatch พร้อมระบบ Nike Run Club และ Nike Training Club ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้สายสปอร์ต Sport Band สายนาฬิกาทำจาก Fluoroelastomer ยางคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน ตัวสายมีรูขนาดใหญ่ออกแบบมาเพื่อระบายอากาศสำหรับผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายโดยเฉพาะ พร้อมกับสีใหม่ 3 สี
ในขณะที่เราอยู่ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความทันสมัยรวดเร็ว บางครั้งเราพบว่าเรากลับถวิลหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายคลาสสิค ถึงแม้ว่าจะมีความสะดวกสบายของเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นมาตอบโจทย์การใช้ชีวิต แต่บางครั้งเรากลับมองหาเพียงชั่วขณะหนึ่งที่ได้ระลึกถึงอดีตอันแสนเรียบง่าย ราโด (RADO) นวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ผู้นำทางด้านวัสดุและดีไซน์ กลับมาอีกครั้งในปีนี้กับการนำประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของแบรนด์ มาผสมผสานอย่างลงตัวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และความเป็นผู้นำแห่งโลกดีไซน์ ก่อเกิดเป็นเรือนเวลาใหม่ล่าสุด ราโด กัปตัน คุก ออโตเมติก ลิมิเต็ด อิดิชั่น (RADO Captain Cook Automatic Limited Edition) ประจำปี 2019 ที่เรียกได้ว่าสวยงามเหนือกาลเวลา นาฬิกาคอลเลคชั่น Captain Cook รุ่นแรกถูกผลิตขึ้นระหว่างช่วงปี 1962 – 1968 โด่งดังด้วยการออกแบบที่กะทัดรัดและคุณสมบัติที่โดดเด่นหลากหลาย จนเมื่อปี 2017 ราโด ได้นำเรือนเวลารุ่นกัปตัน คุก กลับสู่ คอลเลคชั่นอีกครั้ง และยังคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์ของนาฬิการุ่นแรกเกือบทั้งหมด RADO Captain Cook Automatic Limited Edition ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,962 เรือนทั่วโลกเท่านั้น และเพื่อเป็นการผสานความวินเทจคลาสสิคเข้ากับความต้องการของคนยุคปัจจุบัน ที่ล้วนต่างมองหาความโดดเด่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เรือนเวลานี้จึงมาพร้อมกับเซทกระเป๋าหนังสีน้ำตาลขนาดกะทัดรัด บรรจุสายหลากสไตล์ให้เลือกตามความชอบ
ในที่สุดแบรนด์แฟชั่นสตรีตสัญชาติอเมริกาอย่าง Stüssy ก็ตัดสินใจเปิดสาขาใหม่ในประเทศออสเตรเลียและตัดสินใจ collaboration กับ Supply เพื่อร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าให้โดนใจเหล่าวัยรุ่นดินแดนจิงโจ้มากที่สุด Stüssy แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าสตรีต-ฮิปฮอป ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1980 โดยบริษัท Shawn Stussy ผู้ผลิตกระดานโต้คลื่นที่มีชื่อเสียงของแคลิฟอร์เนีย เน้นคอนเซปต์ดีไซน์เครื่องแต่งกายแบบ “California lifestyle” บอกเล่าเรื่องราวของฝั่งตะวันตก ถ้านึกถึงเด็กสตรีตนิวยอร์กก็ต้องพูดถึงสเกตบอร์ด แต่ถ้าเป็นสตรีตแบบแคลิฟอร์เนียร์ก็คือเด็กแนวที่มาพร้อมกับกระดานโต้คลื่นนั่นเอง ส่วน Supply คือร้านค้าปลีกชื่อดังของออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2002 เป็นร้านที่รวบรวมสินค้าสตรีตแบรนด์ดังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Supreme, Silas หรือ Gimme V รวมถึงออกแบบลายกราฟิกต่าง ๆ และด้วยลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ Supply ได้ร่วม collaboration กับแบรนด์แฟชั่นหลายเจ้าเพื่อคิดโลโก้เท่ ๆ อยู่บ่อยครั้ง แฟชั่นไอเทมในคอลเลกชันพิเศษนี้เต็มไปด้วยหัวกะโหลกทั้งเล็กและใหญ่ ทั้งเสื้อผ้าจากกลุ่มสีเทาอย่างเสื้อเชิ้ตแขนสั้น หมวกและกางเกงขายาว ทั้งหมดจะแต่งแต้มลวดลายด้วยกราฟิกหัวกะโหลกจำนวนมาก ดูนาน ๆ แล้วอาจลายตาไปบ้าง แต่จะต้องถูกใจเหล่าชาวสตรีตที่ชื่นชอบการแต่งตัวอย่างแน่นอน ส่วนคอลเลกชันกลุ่มสีดำจะไม่มีลายกราฟิกหัวกะโหลกซ้อนทับกันเป็นจำนวนมากเหมือนกับไอเทมสีเทาก่อนหน้า เสื้อยืดสีดำแปะสัญลักษณ์หัวกระโหลกไขว้สีเทา เสื้อแจ็คเก็ตเบสบอลสีดำทำจากขนแกะ ส่วนแขนเสื้อทำจากหนัง ประทับลายหัวกะโหลกไขว้ลายสีขาวไว้ที่แขน พร้อมกับปักโลโก้แบรด์ของ Stüssy ไว้ทางอกด้านขวาและตัวอักษร S