ก่อนหน้านี้มีการปล่อยภาพ sketch ที่ทำให้หลายคนเป็นห่วงอนาคตของ Kia Carnival รุ่นใหม่ แต่ดูเหมือนทุกคนจะสบายใจได้แล้ว เพราะ Kia เผยภาพภายนอกออกมาให้เห็นกันแบบเต็มคัน และมันก็เป็นรถตู้ที่ดูดีมาก ๆ เลยทีเดียว หลังทำตลาดรถตู้ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามานานถึง 6 ปี สำหรับ Kia Grand Carnival generation ที่ 3 ที่เปิดตัวไปยาวนานตั้งแต่ปี 2014 ทำตลาดในบ้านเราผ่านเครือยนตรกิจ ด้วยจุดเด่นในด้านดีไซน์ที่สวยงามดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวกว่ารถตู้คู่แข่งอย่าง Hyundai H1 อย่างชัดเจน ภายในกว้างขวาง แม้จะไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรพิเศษ มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือ 2.2 ลิตร 197 แรงม้า และเบนซิน V6 3.3 ลิตร 280 แรงม้า แม้จะมีช่องทางการขายไม่เยอะมาก แต่ก็ได้รับความนิยมในหมู่พ่อบ้านรักครอบครัวอย่างเราไปไม่น้อย ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัว Generation ที่ 4 กันสักที All
เป็นรถลุยป่า ก็ต้องมีที่ให้นอนพักค้างคืนได้ และมันต้องสามารถติดตั้งกับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่เป็นเหตุผลที่ Autohome คิดค้นและพัฒนาร่วมกันกับ Land Rover เพื่อให้มั่นใจว่าจะผลิต Roof tent ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชัน และเหมาะสมกับรถ Defender 110 ใหม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด Autohome Roof Tent ผลิตจาก fiberglass น้ำหนักเบา ออกแบบให้ติดตั้งง่ายดายด้วยมือเดียวได้ภายในไม่กี่วินาที ใช้เทคโนโลยีโครงสร้างระบบ Gas Struts-assisted ด้านในเป็นที่นอน full-size เต็มพื้นที่สำหรับผู้ใหญ่นอน 2 คนได้สบาย ๆ พร้อมเครื่องนอนหมอนและไฟ LED ส่องสว่างในเวลากลางคืน การขึ้นลงจากหลังคารถทำได้อย่างมั่นคงด้วยบันได aluminum ที่สามารถถอดเก็บได้ง่ายดาย ไม่ต้องกลัวว่าใส่ Roof Tent แล้วจะมีปัญหากับการขับขี่ เพราะ Autohome และ Land Rover ได้ทำการทดสอบตามหลัก aerodynamic มาเป็นอย่างดี ให้การลุยป่าผจญภัยของคุณไปได้ไกลกว่าเดิม Autohome Roof Tent มาพร้อมราคา
Balance Bike คือจักรยานทรงตัวสำหรับเด็กเล็ก ปกติมันมักจะเป็นกิจกรรมที่ห่างไกลกันระหว่างพ่อกับลูก แต่มันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับ Roel Van Heuer ดีไซเนอร์ชาว Dutch ผู้หลงใหลใน BMW Motorrad ทุกลมหายใจเข้าออก และเมื่อถึงต้องหาของขวัญพิเศษ ๆ ให้ลูกชายเพื่อนสนิทได้ทำกิจกรรมร่วมกัน จึงเป็นที่มาของ BMW K75 Balance Bike รถจักรยานทรงตัวที่เก๋าสุดสำหรับเด็กทุกย่าน BMW K75 Balance Bike ขึ้นมาด้วยสองมือ โดยได้แรงบันดาลใจจาก BMW K75 ในยุค 1985 – 1995 เครื่องยนต์ 740cc 75 แรงม้า แรงบิด 68 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นรุ่นย่อยรองของ K100 4 สูบ ที่โด่งดังในอดีต Roel Van Heuer จัดการเริ่มจากโครงรถที่สร้างจากท่อ Stainless Steel ประกอบ จากนั้นใช้
วันนี้แบรนด์ Luxury ไหนยังไม่ย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ใน Subculture นอกสายแฟชั่น อาจจะถูกนับว่าเป็นแบรนด์ที่ห่างไกลไลฟ์สไตล์คนมากเกินไป ล่าสุดเป็นการ Collaboration สุดปังของ Christian Dior และ Vespa สองแบรนด์ที่เกิดพร้อมกันในปี 1946 จึงมีอายุ 74 ปีเท่ากัน เรียกว่าชื่อชั้นความเก๋าขลังอยู่ในขั้นตบไหล่กันได้สบาย ๆ Vespa ได้นำเอาโมเดลยอดฮิต 946 ซึ่งเป็นโมเดลกลางเก่ากลางใหม่ เพราะพึ่งจะถือกำเนิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2013 แต่ด้วยดีไซน์แบบ retro-futurist ที่ผสมผสานทั้งความคลาสสิคของ Vespa ยุคเก่า ให้เข้ากับความทันสมัยของเทคโนโลยี และปรับโฉมให้คล่องตัวขึ้นกว่าเดิม มันจึงผ่านการ Collab ทำรุ่นพิเศษมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Emporio Armani edition สีดำด้านสุดเท่ หรือ RED edition สีแดงสดเพื่อการกุศล ก็ล้วนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งนั้น ล่าสุดเป็นการสร้างสรรค์ดีไซน์พิเศษที่เน้นจับกลุ่มหญิงสาวมีสไตล์และชอบใช้ของหรูหราโดยเฉพาะ ผลงานของ Maria Grazia Chiuri, Dior’s director โดยเลือกใช้โทนสีครีมรอบคัน เพิ่มความหรูด้วยลายเส้นสีทองตามจุดต่าง
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนเรา ว่าเพราะอะไร ถึงค่ายรถถึงนิยมดีไซน์รถยนต์ Coupe SUV ออกมาขาย ทำไมเราถึงต้องเอารถที่มีจุดเด่นเรื่องพื้นที่ห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระ ลดขนาดมันให้เล็กลง เพื่อแลกกับความโฉบเฉี่ยวสวยงามที่เพิ่มขึ้น แถมยังต้องจ่ายเงินแพงกว่าหลายแสนบาท? จนกระทั่งเราได้รีวิวมัน ถึงได้เข้าใจว่าอารมณ์ของรถ Coupe SUV และการขับขี่ในความเร็วสูงนั้น มันแตกต่างกันจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม BMW และ Porsche ถึงต้องมีรถทรงนี้ออกมาขายกันอย่างจริงจัง ที่จริง BMW เป็นผู้ริเริ่มการทำ Coupe SUV ไม่ว่าจะเป็น X4, X6 ซึ่งมีความสวยงามโฉบเฉี่ยวมากขึ้น และก็ทำกำไรได้มากกว่ารุ่นทั่วไป เช่นเดียวกับ Mercedes-Benz ที่ตั้งราคาขายรุ่น Coupe SUV ไว้สูงกว่าปกติพอสมควร อย่างใน GLC 220d 4MATIC Coupe’ AMG Dynamic Facelift คันนี้ราคา 4,040,000 บาท ซึ่งต่างจากรุ่นหลังคาปกติ GLC 220d Off-Road ราคา 3,239,000
ถ้าเอ่ยถึงชื่อ Ford Mustang พวกเราคงมีรุ่นที่ชอบเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น King Cobra, Bullit, GT หรือ Shelby GT500 รถทุกคันล้วนเป็นสายพันธุ์ม้าป่าตัวแรงที่ได้รับความนิยมข้ามยุคสมัย และแฟนพันธุ์แท้ของมัสแตงหลายคนคงทราบกันดีว่ามีอีกหนึ่งรุ่นคลาสสิกเตรียมกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในปี 2021 ชื่อของมันคือ Ford Mustang “Mach 1” การคืนชีพของ Ford Mustang Mach 1 รุ่นปี 2021 เป็นการสานต่อตำนาน Mach 1 ที่ถือกำเนิดมานาน 52 ปี และเชื่อว่าการกลับมาครั้งนี้ทำให้แฟนมัสแตงหลายคนต้องประทับใจแน่นอน แต่ก่อนที่จะไปพบกับโฉมใหม่ของ Mach 1 ที่ยังถูกปิดบังไว้ วันนี้ไปทำความรู้จักจุดเริ่มต้นของม้าป่าสายพันธุ์นี้ใหัมากขึ้นกันก่อน ย้อนกลับไปในปี 1960 ช่วงเวลาที่ฟอร์ดต้องการเพิ่มรุ่นของในสายการผลิตของ Mustang ซึ่งเน้นเรื่องความเร็วที่มากกว่ารุ่นปกติ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับอเมริกันผู้ชื่นชอบเครื่องใหญ่ม้าเยอะ จึงเริ่มพัฒนารถต้นแบบในเดือนสิงหาคม 1968 และเปิดตัวในปีต่อมา โดยใช้ชื่อว่า Ford Mustang Mach 1 ซึ่งรถยนต์คัน Prototype
การกลับมาอีกครั้งของ Vintage model อย่าง Aston Martin DB5 หลังสิ้นสุดสายพานการผลิตไปเมื่อ 55 ปีที่แล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้มาแค่ DB5 ธรรมดา เพราะมันคือเวอร์ชันพิเศษ ‘Goldfinger’ พกอาวุธและเทคโนโลยีของสายลับ James Bond ใส่มาครบ ๆ ผลิตจำกัดเพียง 25 คัน ในราคาขายที่แพงระยับสมกับความพิเศษ คันละ 3.4 ล้านเหรียญ (120 ล้านบาท) ผลงานสุดพิเศษนี้มาจากทางฝั่ง Aston Martin Heritage Division ซึ่งปัจจุบันหลายค่ายมักจะมีแผนกที่รับผิดชอบด้านการนำรถคลาสสิคมาผลิตขายใหม่แบบนี้ เช่น Jaguar E-type เป็นต้น แต่สำหรับ Aston Martin นี่เป็นโมเดล vintage ลำดับที่ 3 ที่ถูกนำกลับมาผลิต โดยก่อนหน้านี้มี DB4 GT Zagato และ DB4 GT ถูกปลุกชีพมาผลิตขายใหม่แบบจำนวนจำกัด
คงยากจะปฏิเสธว่าทุกวันนี้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ควรจะหันมาทำความรู้จักเทคโนโลยีด้านยนตรกรรมชนิดนี้ให้เข้าใจมากขึ้น ทั้งระบบการทำงานรวมไปถึงส่วนประกอบพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเราเชื่อว่าอีกไม่นาน ความรู้ในด้านนี้จะมีประโยชน์สำหรับการเลือกรถยนต์ไฟฟ้าสักคันมาใช้งานแน่นอน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ส่วนประกอบสำคัญที่สุดที่พวกเราควรทำความรู้จักให้ดี นั่นก็คือ แบตเตอรี่ ที่เปรียบได้ดั่งหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้า ถ้าน้ำมันและเครื่องยนต์เผาไหม้คือหัวใจที่ขับเคลื่อนรถยนต์ทั่วไป แบตเตอรี่ขับเคลื่อนที่ติดตั้งอยู่ในตัวรถคือแหล่งพลังงานหลัก ทำหน้าที่ส่งกำลังไฟฟ้าไปยังมอเตอร์เพื่อเริ่มต้นการขับเคลื่อนรถ คำถามที่สำคัญคือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ในบ้านเรา ระบบแบตเตอรี่แบบไหนที่จะทำให้ขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะมากที่สุด? ปกติการทำงานของ ‘แบตเตอรี่ขับเคลื่อน’ จะสามารถทำงานได้ดี และดึงสมรรถนะสูงสุดเมื่ออยู่ภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสม การทำงานของแบตเตอรี่ขับเคลื่อนจึงต้องมีระบบควบคุมอุณหภูมิซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่ขับเคลื่อนสามารถทำงานได้ดีภายใต้สภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องบอกก่อนว่าระบบนี้มีความแตกต่างกันไปในรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละแบรนด์ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายตามแต่ละภูมิภาค โดยระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ขับเคลื่อนจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ระบบ ดังต่อไปนี้ ระบบ Heating System: ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ขับเคลื่อน Heating System สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในประเทศที่มีอากาศหนาว หรืออุณหภูมิติดลบ โดยภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ ระบบจะทำหน้าที่ส่งผ่านความร้อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิของแบตเตอรี่ขับเคลื่อนให้สูงขึ้น ทำให้มีอุณหภูมิเหมาะสมกับการขับขี่ใช้งานต่อไป ระบบต่อมาคือ ระบบ Cooling System: เป็นระบบที่เหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานในประเทศเขตร้อน เช่นประเทศในทวีปเอเชียและประเทศไทย ที่มีอุณหภูมิสูงในบางฤดูกาล โดยระบบ Cooling System จะทำหน้าที่ในการควบคุมความร้อนของแบตเตอรี่ขับเคลื่อน
ต้องขอบคุณ Ferrari และ Lamborghini Miura ในวันนั้น ที่ทำให้ Ferruccio Lamborghini (เฟอร์ลูซิโอ แลมเบอร์กินี) มีวันนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป Mr. Lamborghini คงเป็นได้เพียงแค่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีทางได้เติมเต็มความฝันในการสร้างแบรนด์ Supercars ที่ดีที่สุดในโลกอย่างที่เจ้าตัวใฝ่ฝันเอาไว้ ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า Lamborghini มีจุดเริ่มต้นจากบริษัทผลิตรถไถที่เกิดจากความอัจฉริยะของ Mr. Ferruccio Lamborghini ใช้ทั้งสมบัติเก่าและเศษซากหลังสงครามโลก บวกกับความรู้ด้านเครื่องยนต์ สร้างรถไถที่ไม่มีใครตามทัน ก่อนจะร่ำรวยจนซื้อ Supercars ดี ๆ เก็บไว้ขับเล่นมากมาย รวมถึง Ferrari แต่ระหว่างที่ขับไป ก็พบหลายสิ่งที่เจ้าตัวไม่ชอบ และรู้สึกว่า Ferrari ที่ถือว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในยุคนั้นยังไม่สามารถมอบสิ่งที่ Lamborghini ต้องการได้ ระหว่างทางก็นึกได้ว่า ‘กูก็ทำเองซะเลยมั้ยล่ะ” จึงตัดสินใจก่อตั้ง Automobili Ferruccio Lamborghini S.p.A ขึ้นมาในปี 1963 โดยใช้ทั้งความรู้ ความรวยจากการทำธุรกิจมาลงทุนซื้อตัวคนสำคัญจาก Ferrari อย่าง
ขวัญใจชาวซูบี้ที่ต้องรีบหามาไว้ในครอบครอง กับตัวแรงรหัสร้อน Subaru WRX S4 STI Sport# ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน มากับขุมพลังเดิม 2.0-liter เทอร์โบ 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือการปรับแต่งช่วงล่างให้เหนียวแน่นหนึบพร้อมรับทุกสถานการณ์ และเปลี่ยนอุปกรณ์บางจุดเพื่อให้ขับขี่แบบสปอร์ตได้สนุกสนานมากขึ้น Subaru WRX S4 STI Sport# เป็นรุ่นพิเศษที่อัพเกรดมาจากรุ่นย่อย WRX S4 STI Sport EyeSight ค่อนข้างจะแยกยากถ้าไม่ใช่แฟนซูบี้ตัวจริง ภายนอกมีชุดแต่งใหม่ที่เพิ่มอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น กระจังหน้าสีดำ Dark Clay Silica กันชนหน้าเพิ่มช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านหลังเพิ่มสปอยเลอร์ดำ กันชนหลังเพิ่มรูระบายอากาศและเปลี่ยน rear diffuser ให้โหดขึ้นพร้อมปลายท่อออกด้านละสอง ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วสีดำตามสไตล์นักซิ่ง ภายในมาพร้อมโทนสีดำขรึมทั้งห้องโดยสารสลับตะเข็บด้ายสีน้ำเงิน เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตจาก Recaro ปักโลโก้ STI หุ้มหนังกลับสลับหนังแท้เช่นเดียวกับพวงมาลัย
แม้ผลกระทบจากโควิดจะทำให้ตลาดรถยนต์ทั่วโลกซบเซาไปบ้าง แต่หนุ่ม ๆ ที่รักรถยนต์โดยเฉพาะสาวกของ Porsche 911 ยังคงมีเรื่องให้ได้กระชุ่มกระชวยหัวใจกันอีกครั้ง เพราะโปรเจกต์ที่พัฒนาและผลิตเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวออกมาแล้วกับ Porsche 911 ตัวถังรหัส 992 Targa 4 และ Targa 4S ถ้าพูดถึงรถยนต์อย่าง Porsche 911 ผู้ชายส่วนใหญ่คงนึกถึงรุ่นสองประตู (Coupe) หรือเปิดประทุน (Convertible) มาเป็นภาพแรกในหัว แต่สำหรับ Porsche รุ่นเปิดประทุนดีไซน์คลาสสิกสไตล์ Targa ก็เป็นอีกรูปแบบที่ทุกคนอยากครอบครอง พวกเขาจึงได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดสร้างมันขึ้นมาให้เกิดใหม่อีกครั้งภายใต้รหัส 992 *Cool Fact: นอกเหนือจาก Porsche ยังมีรถรุ่นอื่นที่ใช้การเปิดหลังคาสไตล์ Targa อยู่ใน Chevrolet Corvette, Lamborghini Aventador Roadster, Ferrari 812 GTS เป็นต้น แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งกันซะทีเดียว เพราะอยู่กันคนละกลุ่มราคา แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Porsche เคยสร้าง 911
ถ้าเราพูดถึง BMW 8-Series ในวันนี้ คนส่วนใหญ่จะนึกถึง BMW แบบ Grand Tourer สปอร์ต 2 ประตู รุ่นใหญ่สุดเก๋าของค่ายที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานในรหัส G14 (Coupe’) และ G15 (Covertible) ที่เรียกได้ว่ามีดีไซน์ที่สุดสวยงามผสมผสานความสปอร์ตและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แน่นอนว่ามันเป็นรถในฝันที่หลายคนต้องอยากได้ไว้ในครอบครอง แต่ถ้าพูดถึงรหัสเลข 8 เราต้องย้อนไปพูดถึงโมเดลที่สร้างมาตรฐานความเป็นที่สุดของ BMW ซึ่งถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1989 และปัจจุบัน BMW 8-Series รหัส E31 ซึ่งเป็นผู้สร้างความขลังให้กับตัวเลข 8 ของค่ายใบพัดฟ้าขาว ก็ยิ่งทวีความ Rare เพิ่มมูลค่าในหมู่นักสะสมและผู้คนที่มีโอกาสได้เห็นมัน ส่งผลให้รถ 2-Door Coupe’ ที่มีจุดเด่นคือไฟ Pop-up headlight เพียงหนึ่งเดียวของตำนาน BMW ยังคงเป็นรถที่สวยงามเอาชนะกาลเวลา และไม่ว่าใครก็ต้องหันไปมองกันจนคอเคล็ดเสมอแม้เวลาจะผ่านมากว่า 20 ปีแล้วก็ตาม ในอดีตหลายคนเข้าใจผิดว่า BMW 8-Series คือรถโมเดลที่ต่อยอดมาจาก BMW 6-Series