เมื่อปี 2017 แบรนด์รถยนต์จากเมืองมักกะโรนีเปิดตัวสุดยอดซูเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini Terzo Millennio Concept และตอนนี้ Lamborghini ก็กำลังต่อยอดความสำเร็จจากครั้งก่อนโดยการผลิตรถ Hybrid Hypercar ในโปรเจกต์ LB48H ที่ภายหลังมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Lamborghini Unico Lamborghini Unico มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 6.5 ลิตร ทำงานประสานกับเพลาล้อหลัง ไม่ใช้ระบบอัดอากาศแบบเดิมแต่เปลี่ยนมาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าแทน ให้กำลัง 789 แรงม้า เท่ากับ Lamborghini Aventador แต่สิ่งที่แตกต่างคือมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 49 แรงม้า ทำให้รถยนต์สามารถมีแรงม้าสูงสุดถึง 838 แรงม้า (625 กิโลวัตต์) สมรรถนะและความเร็วใกล้เคียงกับรถที่ใช้ในสนามแข่ง Formula One ดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกบางส่วนจะถอดแบบมาจากซูเปอร์คาร์รุ่นพี่อย่าง Lamborghini Terzo Millennio Concept พร้อมปรับเปลี่ยนบางส่วนให้ล้ำสมัยมากขึ้น เน้นความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์เหมือนเคย แต่การเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างบางส่วน โดยใช้วัสดุน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ที่เป็นวัสดุมาตรฐานสำหรับยานยนต์แห่งอนาคต
เมื่อแบตเตอรี่ไฟฟ้าถูกนำไปใช้ในรถยนต์มากขึ้น ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอันยุ่งยากจึงเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป จึงสามารถทำให้รถยนต์มีขนาดเล็กลงได้เยอะ ค่ายรถจึงเริ่มฉีกกฎเกณฑ์การออกแบบรถยนต์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด และมีการนำเสนอรถยนต์กลุ่มใหม่เรียกว่า Ultra-Compact ที่เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองมากขึ้น ซึ่ง CITROEN AMI ONE ULTRA-COMPACT CONCEPT CAR คันนี้ก็เป็นอีกไอเดียรถยนต์อนาคตที่แหวกแนวและมีจุดเด่นน่าสนใจหลายอย่าง CITROEN AMI ONE ULTRA-COMPACT CONCEPT CAR เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่แสดงให้เห็นถึง Vision ยานยนต์ในโลกอนาคตของ Citroen มันไม่ใช่แค่รถยนต์พลังงานทางเลือก แต่มันคือยานพาหนะทางเลือกที่จะมานำเสนอการเดินทางในเมืองรูปแบบใหม่แทนที่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ด้วยรูปร่างทรงกล่อง กว้าง 2.5 เมตร สูง 1.5 เมตร ความเล็กกะทัดรัดที่ถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานบนถนนและซอยที่เล็กแสนเล็กของเมืองในประเทศฝั่งยุโรป แต่ยังคงมีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และพื้นที่เก็บสัมภาระที่เหลือเฟือ Concept ที่น่าสนใจของ Citroen Ami One คือการใส่เทคโนโลยีให้รถคันนี้ฉลาดขึ้น มีเทคโนโลยี Self-Driving ให้เลือกใช้งานได้แม้ไม่มีคนขับอีกด้วย และไม่จำเป็นต้องซื้อ Citroen วางแผนให้สามารถเช่าได้ผ่านทาง Application อีกด้วย ความเร็วสูงสุดของ Ami One
พึ่งผ่านไปหมาด ๆ กับงาน #BIMMERMEET3 หรือ “บิมเมอร์” ที่เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมพลคนรักรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูมาจัดแสดงมากกว่า 400 คัน พร้อมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ และสาวกได้ฟังเรื่องราวเชิงลึก เคล็ดลับต่าง ๆ จากบรรณาธิการของคอลัมนิสต์ของนิตยสาร BMWCar อีกด้วย ใครที่พลาดงานดี ๆ แบบนี้ไปไม่ต้องเสียใจเพราะ UNLOCKMEN เก็บภาพบรรยากาศมาไว้ให้แล้ว ภายในงานมีการแบ่งโซนจัดแสดงอย่างเช่น BMW M Town โซนที่คนรักรถหรูสมรรถนะสูงสายพันธุ์ M ต้องปลื้ม ไปถึงโซน BMW CLASSIC ที่ทั้งจัดแสดงและให้ข้อมูลการสั่งซื้ออะไหล่รถคลาสสิกแท้ ซึ่งปัจจุบันทางบีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทย ได้อำนวยความสะดวกให้การจัดหาอะไหล่ที่เคยหายากมากทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมแล้วด้วย ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่ารถทุกรุ่นทุกปี จะมีอะไหล่แท้ที่ได้มาตรฐานให้ใช้งาน ต่อด้วยโซน #BMWstories ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจที่ชาวบิมเมอร์มีต่อบีเอ็มดับเบิลยู โซน X-Series ที่มีรถ SAV และ SAC พร้อมเทคโนโลยี xDrive มาโชว์กัน โซนโปรแกรมสิทธิประโยชน์ The Ultimate JOY Experience ที่เปิดให้เจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นสมัครได้ฟรี โซน
ในยุคสมัยที่ไม่ว่าอะไรก็ต้องมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เหล่าผู้ผลิตทุกวงการต่างต้องปรับตัวให้ทันกับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงบริษัทใหม่ ๆ ที่เล็งเห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีที่สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่ล้ำสมัยและน่าทึ่งอย่าง Byton Byton บริษัทผู้ผลิตและออกแบบรถยนต์น้องใหม่ที่เกิดจากการร่วมทุนกันระหว่าง Future Mobility Corp บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของไต้หวัน และ Tencent Holdings บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีนผู้ผลิตแอปพลิเคชั่นเพลงออนไลน์อย่าง Joox รวมถึงเกมสุดฮิต Garena Rov และแอปพลิเคชั่นสำหรับแชทที่นิยมในจีนอย่าง WeChat โดยพวกเขาพร้อมเปิดตัวและจำหน่ายรถยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโลยีในประเทศจีนช่วงปี 2019 และวางแผนจะลุยตลาดสหรัฐฯ และยุโรปในปี 2020 บริษัทผู้ผลิตตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงในโลกของเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอะไรที่เป็นจอภาพแสดงผลจะต้องมีขนาดใหญ่ไว้ก่อนและเข้าถึงง่าย จึงเกิดไอเดียให้บริษัทผลิตหน้าจอรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาภายในรถยนต์ที่ว่ากันว่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งของ Tesla อย่าง Byton M-Byte SUV นอกจากจะเป็นการร่วมกันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีความถนัดในแต่ละด้านแล้ว Byton ยังดึงคนจากแบรนด์รถยนต์ชื่อดังระดับโลก bmw อย่าง Daniel Kirchert ผู้บริหารฝ่ายขาย BMW ในประเทศจีน และ Carston Breitfeld ผู้จัดการโปรเจกต์การพัฒนา BMW i8 มารับหน้าที่เป็นผู้บริหารในครั้งนี้ ในขั้นต้น Byton M-Byte
ถ้าพูดถึงชื่อ MG (เอ็มจี) หนุ่ม ๆ ในบ้านเราคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งปี 2556 ด้วยรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัยเข้ามาสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย ซึ่งนับเป็น 5 ปีที่พวกเขานำเสนอจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นด้านงานออกแบบและสมรรถนะของตัวรถ รวมถึงนวัตกรรมสำหรับสนับสนุนการขับขี่ที่เหนือระดับ ยกตัวอย่างจากการที่พวกเขาเป็นผู้ผลิตรายแรกที่มีการติดตั้งซันรูฟ (Sunroof) ในรถยนต์ขนาดเล็กและนำระบบปฏิบัติการอัจฉริยะอย่าง i-SMART ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่รองรับการสั่งการในรถด้วยเสียงภาษาไทย รวมถึงการพัฒนางานด้านบริการเพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าแบบครบวงจรและการดำเนินงานด้านการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยปัจจุบันเอ็มจีมีโชว์รูมกว่า 100 แห่งครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งหมดทำให้ในปี 2561 ที่ผ่านมาเอ็มจีมียอดขาย 23,740 คัน เติบโตขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งนี้ในต้นปี 2562 นี้ บริษัทฯ จะมียอดขายรถยนต์ในประเทศครบ 50,000 คัน ในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปีของการดำเนินงาน นับตั้งแต่การขายรถยนต์คันแรก ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของเอ็มจีและแนวทางการบริหารงานที่เป็นเอกลักษณ์ จนสร้างการตอบรับจากผู้ชายชาวไทยได้เป็นอย่างดี 5 ปีกับ 5 โมเดลยอดนิยมของ MG หนุ่ม ๆ ในเมืองไทยได้สัมผัสกับความยอดเยี่ยมของเอ็มจีเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมปี 2557 โดยทางเอ็มจีได้เริ่มจำหน่ายรถยนต์คันแรกคือ MG
ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีในรถยนต์ Tesla ของ Elon Musk มักจะคิดค้นพัฒนาได้ตอบโจทย์จนค่ายรถยนต์แบรนด์อื่นดูล้าหลังไปเลย และไม่ใช่แค่เรื่องของการขับขี่เท่านั้น แม้แต่การตอบโจทย์เรื่องปลีกย่อยสำหรับคนรักสุนัข ก็ยังได้รับการพัฒนาอย่างน่าประทับใจกับล่าสุด Dog Mode ฟังก์ชันที่แก้ Pain Point ไม่ต้องทิ้งสุนัขอยู่ในรถร้อน ๆ และไม่ต้องกลัวว่าจะมีพลเมืองดีทุบกระจกเข้าไปช่วยเหลือ รวมถึง Sentry Mode เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันเมื่อจอดสุดอัจฉริยะ เริ่มจาก Dog Mode ที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเจ้าของรถผู้รักสุนัข ที่มักจะพาสุนัขตัวโปรดเดินทางไปในรถด้วยกัน และบางครั้งอาจจะลำบากใจในการทิ้งสุนัขเอาไว้ในรถที่ดับเครื่องเพื่อลงไปทำธุระ และคนรอบ ๆ อาจจะเป็นห่วงสุนัขในรถว่าสุขสบายดีหรือไม่ ซึ่ง Dog Mode ของ Tesla สามารถตั้งอุณหภูมิ Climate Control System ในรถให้เย็นได้ตามที่ต้องการเพื่อความสะดวกสบายโดยไม่ต้องติดเครื่อง ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่หลักในรถได้นานจนกระทั่งเหลือ 20% จะมี Notification แจ้งเตือนผ่าน Tesla Smartphone Application บนหน้าจอจะมีข้อความแสดงผลว่า “My owner will be back
ถ้าพูดถึงชื่อของค่ายรถยนต์อย่าง Bentley หนุ่ม ๆ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับภาพของ Luxury Cars ที่มาพร้อมความหรูหราสวยงาม ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นจุดขายสำคัญของค่ายรถเมืองผู้ดีแห่งนี้มาช้านาน แต่ล่าสุดทาง Bentley ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาไม่ได้มีดีแค่เพียงทำรถยนต์ที่ตอบโจทย์เฉพาะความมีระดับเพียงเท่านั้น หลังจากได้เปิดตัว Bentley Bentayga Speed (2019) ที่กลายมาเป็น SUV ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ Bentley Bentayga รถยนต์ประเภท SUV รุ่นแรกของ Bentley ที่ถูกพัฒนาต่อจาก Prototype อย่าง Bentley EXP 9 F พร้อมเปิดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกใน Frankfurt Motor Show 2015 และถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนในรุ่นล่าสุดอย่าง Bentayga Speed ที่มาพร้อมสมรรถนะสุดโหดคันนื้ Bentley Bentayga Speed มาพร้อมรูปลักษณ์งานดีไซน์เฉพาะตัวในแบบของการเป็น SUV ที่มาพร้อมความโค้งเว้าเรียบเนียนตลอดทั้งคัน จุดเด่นคือฝากระโปรงที่ยกสูงขึ้นมาเล็กน้อยและเส้นตัดกลางที่ผ่านลงมาถึงส่วนช่องระบายอากาศด้านหน้า Bentayga Speed ยังมาพร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบสีขุ่น
สำหรับผู้ชายอย่างเรา นอกจากแนวทางชีวิตแบบ Work Hard Play Hard ในเวลาทำงานก็ปล่อยพลังเต็มที่ไม่มียั้ง เมื่อถึงเวลาหาความสุขให้ตัวเองก็ต้องไปให้สุดทาง ไม่ว่าจะเป็นความสุขที่เกิดจากได้ออกไปดื่มสังสรรค์ การได้เลือกซื้อเสื้อผ้าและรองเท้า หรือแม้กระทั่งได้ครอบครองรถในฝัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าเส้นทางความสุขของเขาจะเดินควบคู่ไปกับอะไร เหมือนอย่างที่ คุณก้อง-สุภวิช วงศ์วิวัฒน์ บอสใหญ่แห่งอาณาจักร Smiling Mad Dog ธุรกิจนำเข้าเครื่องดื่มผู้เลือกให้ความสุขกับชีวิตด้วยการออกตามรถยนต์รุ่นคลาสสิกของ BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) และคว้ามันเข้ามาอยู่ในคอลเลกชันส่วนตัว เพื่อเติมเต็มความหลงใหลที่มีต่อยานยนต์จากค่ายพัดสีฟ้าของตัวเอง อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกใช้เวลาแห่งการ Work Hard ไปกับธุรกิจคราฟต์เบียร์และ Play Hard ด้วยการวิ่งตามหาพาหนะในฝัน วันนี้มาหาคำตอบของมันไปพร้อมกับทำความรู้จักเรื่องราวที่น่าสนใจของตัวเขาไปพร้อมกันกับเราได้เลย แนะนำตัวหน่อย ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่บ้าง สวัสดีครับ คุณก้อง-สุภวิช วงศ์วิวัฒน์ ครับ ตอนนี้ผมกับเพื่อนสนิทกำลังเปิดธุรกิจนำเข้าเครื่องดื่มในชื่อ Smiling Mad Dog ซึ่งผลิตภัณฑ์หลัก ๆ จะเป็นพวกคราฟต์เบียร์กับไซเดอร์รวมถึงเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ด้วยครับ เริ่มต้นทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มได้ยังไง ด้วยความที่สมัยก่อนตัวผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อย บวกกับการที่เราเป็นชอบดื่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนั้นเราก็สังเกตเห็นว่าในบ้านเราทั้งคราฟต์เบียร์และไซเดอร์ยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายเท่าที่ควร ก็เลยตัดสินใจนำเข้ามาเพราะคิดว่าคนไทยน่าจะชอบ โดย Smiling Mad Dog
แค่ขึ้นชื่อว่า Lamborghini ก็ทำให้เหล่าผู้หลงใหลความเร็วต่างก็อยากได้มาครอบครองซักคันกันจะแย่อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้รถซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลีเพิ่มความพิเศษมากขึ้นไปอีกขั้นกับรถแต่งรุ่นพิเศษสำหรับสมเด็จสันตะปาปาแห่งนครรัฐวาติกันที่มีเพียงแค่คันเดียวในโลก Lamborghini Huracan RWD Coupe เป็นรถแต่งรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาแค่คันเดียว เกิดจากการสร้างสรรค์ของ Personam และ Bianco Monocerus สำนักแต่งรถที่เข้ามาดูแลเรื่องสี ออกแบบรถยนต์และตัวถังเป็นสีขาวพร้อมตกแต่งด้วยสีทอง Giallo Tiberino ตามแบบธงชาติของนครรัฐวาติกันโดยทางผู้ผลิต Lamborghini ตั้งใจออกแบบรถยนต์คันหรูเพื่อมอบรถรุ่นพิเศษนี้ให้แก่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส Huracan RWD Coupe (LP 580-2) กระทิงดุสีขาวบริสุทธิ์ที่มอบให้แก่โป๊ปฟรานซิสเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นเล็กขับเคลื่อนด้วยระบบ 2 ล้อหลัง เครื่องยนต์เบนซิน V10 ความจุ 5.2 ลิตร กำลัง 580 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ และคลัทช์คู่ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. พร้อมฟังก์ชัน Cylinder Deactivation ที่จะลดการทำงานเหลือ 5 สูบ
แน่นอนสำหรับผู้ชายอย่างเรา รถยนต์แต่ละคันที่ชื่นชอบและเลือกซื้อต่างก็มีในดีไซน์และสมรรถนะอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นรถยี่ห้อไหนรุ่นใดเมื่อออกจากโรงงานผลิตมาก็ล้วนอยู่ในสภาพพร้อมออกไปโลดแล่นร่วมกับเราอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันการพัฒนารถที่มีสมรรถนะสุดแรงให้โหดขึ้นกว่าเดิมก็ยังคงเป็นกฎเหล็กที่ต้องเกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกแห่งความเร็ว เหมือนอย่างที่ Hennessey ทำกับ McLaren 600LT HPE1000 คันนี้ Hennessey Performance Engineering ยังคงเป็นบริษัทนักปรับจูนรถสปอร์ตและซุปเปอร์คาร์ยักษ์ใหญ่ ที่มีผลงานโดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำรถยนต์จากต่างค่ายโมดิฟายเพิ่มความก้าวร้าวของเครื่องยนต์และชุดแต่ง หรือแม้กระทั่งไฮเปอร์คาร์สเปคโหดในสายการผลิตของพวกเขาเอง และล่าสุดกับการจับ McLaren 600LT เจ้าของฉายา LongTail มายัดแรงม้าเพิ่มเข้าไปที่ 400 ตัวด้วยชุดแต่ง HPE1000 โดย McLaren 600LT ที่ได้รับจากปรับแต่งจาก Hennessey มาก่อนหน้านี้แบ่งออกเป็น 2 ตัว คือ ชุดแต่ง HPE700 ที่มาพร้อมพลัง 708 แรงม้า สูงสุดที่ 7,500 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 ใน 2.6 วินาทีสูงสุดที่ 223 กิโลเมตร/ชั่วโมง และชุดแต่ง HPE700 ที่มาในขุมกำลัง 805
เดินทางมาถึงครบรอบ 110 ปีการก่อตั้ง Automoblies Ettore Bugatti บริษัทผู้ผลิตรถสัญชาติฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 ซึ่งแน่นอนว่าการเฉลิมฉลองของพวกเขาก็สุดยิ่งใหญ่ด้วยรถรุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาเพียงหลักสิบคันอย่าง Bugatti Chiron Sport “110 ANS Bugatti” “110 ANS Bugatti” คือรถรุ่นพิเศษที่พัฒนาจาก Bugatti Chiron Sport สุดยอดไฮเปอร์คาร์ของค่ายที่เปิดตัวไปในงาน 2018 Geneva Internationnal Motor Show แต่แน่นอนว่าด้วยความเป็น Limited Edition ที่ผลิตออกมาเพียงไม่กี่คันในโลกทำให้มันต้องพิเศษกว่าแน่นอน “110 ANS Bugatti” มาพร้อมตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์สี Steel Blue ตลอดทั้งคัน พร้อมตกแต่งให้เข้าคอนเซ็ปต์ด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ใช้สีประจำธงชาติฝรั่งเศสที่เรียกว่า Bleu-Blanc-Rouge ไว้ในส่วนของกระจกมองข้าง สปอยเลอร์หลังและฝาถังน้ำมันที่เข้ากันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ล้ออัลลอยสีดำสนิทกับคาลิปเปอร์เบรกสี Bright Blue พร้อมกันชนและ Diffuser ที่เข้ามาเพิ่มความดุดันมากขึ้นอีกเท่าตัว งานตกแต่งภายในห้องโดยสารที่หุ้มด้วยโทนสี Steel Blue เหมือนกับด้านนอกตัวรถและเบาะหนัง
Audi TT รถยนต์สปอร์ต 2 ประตูจากสายการผลิตรถยนต์ที่เริ่มต้นจากการเป็นรถที่ต้องการนำเสนอความโดดเด่นของดีไซน์มาตั้งแต่ช่วงยุค 90’s ซึ่งแน่นอนว่าความสวยงามของมันก็ทำให้ได้รับความนิยมจากหนุ่ม ๆ มาทุกยุคสมัย แต่ในปัจจุบันกับรุ่นล่าสุดอย่าง 2020 Audi TT RS กลับไม่ได้มาพร้อมความสวยงามเท่านั้น แต่มาพร้อมอัตราการเร่งบนท้องถนนที่ทำได้ไม่แพ้บรรดาซุปเปอร์คาร์เลยทีเดียว TT RS เปิดตัวครั้งแรกที่ Geneva Auto Show 2009 เป็นรถยนต์ที่ถูกพัฒนาโดยแผนกผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงของ Audi ที่รู้จักกันในชื่อ Quattro GmbH ในโรงงานที่เมือง Neckarsulm ประเทศเยอรมนี โดยถูกผลิตออกมาเป็นรถสปอร์ตขนาดกะทัดรัด 2 รูปแบบด้วยกันเป็นโมเดล Coupe และ Convertible และยังคงสายการผลิตมาถึงรุ่นล่าสุดอย่าง 2020 Audi TT RS ที่กำลังจะเข้าตีตลาดยุโรปในเร็ว ๆ นี้ 2020 Audi TT RS มาพร้อมดีไซน์เอกลักษณ์กับความโค้งมนของตัวรถที่ตัดด้วยเส้นที่เริ่มจากฝากระโปรงยาวไปจนส่วนท้ายของตัวรถ พร้อมไฟหน้า Matrix LED ที่โฉบเฉี่ยวและช่องระบายอากาศด้านหน้ารูปทรงหกเหลี่ยมสีดำ โดยยังคงให้ความสำคัญในสีสันของตัวรถ มีเฉดสีให้เลือกมากถึง