ก่อนที่เราจะเล่าคอนเท้นท์นี้ต้องขอย้ำก่อนว่า “กัญชายังถือเป็นยาเสพติดที่ผิดกฎหมายให้โทษประเภท 5 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งมีโทษทางอาญากับผู้เสพและผู้ครอบครองและไม่มีการอนุญาตให้นำมาใช้ในทางการแพทย์แต่อย่างใด” ดังนั้นเรื่องที่ทีมงาน UNLOCKMEN นำเสนอเป็นเพียงข่าวสาร ความรู้รอบตัวจากรอบโลกเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าต่างประเทศเขามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น และเป็นเช่นไรกันบ้าง เพราะอย่างที่เราทราบกันว่าในต่างประเทศ เริ่มมีการเปิดเสรีในเรื่องของกัญชามากขึ้น ตัวอย่างเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกาที่บางรัฐอนุญาติให้มีการจำหน่ายกัญชากันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อีกทั้งบางมหาวิทยาลัยยังได้เปิดหลักสูตรสอนเกี่ยวกับกัญชาโดยเฉพาะ เพื่อศึกษาแบบเจาะลึกหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพืชสายเขียวเจ้าปัญหานี้ต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเคยมีการศึกษาเรื่องหนึ่งมาก่อนแล้วว่าการรับประทานกัญชานั่นมีปรโยชน์กว่าการสูบ เราจึงนำข้อมูลจาก herb.co ที่เขียนอธิบายประโยชน์จากการกินกัญชาทั้งแบบดิบ และปั่นดื่มสมูทตี้ไว้อย่างละเอียดหยิบมาฝากกัน กัญชาอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และ ไฟเบอร์ หากเราศึกษาลึกลงไปจะพบว่าภายในกัญชามีส่วนประกอบทางชีวภาพเคมีที่ยอดเยี่ยม และเต็มไปด้วยสารอาหารชั้นดี จนคุณต้องประหลาดใจ เพราะในใบกัญชาสดนั้นมี วิตามิน K , วิตามิน C , ธาตุเหล็ก , แคลเซียม , โฟเลต อีกทั้งมันเต็มไปด้วยไฟเบอร์ชนิดที่ว่าผักหลาย ๆ ประเภทยังต้องชิดซ้าย สารอาหารชะลอความเสื่อมชรา หากจะพูดให้ภาษาดูสวยงามเราอาจต้องบอกว่ากัญชานั้นสามารถต่อต้านความเสื่อมชรา หรือมี Anitoxidants อยู่ภายในตัวมันเอง ซึ่งไอ้เจ้า Anitoxidants จัดว่ามีความสำคัญต่อร่างกาย อีกทั้งยังปกป้องเราจากความเครียดตลอดไปจนโรคหลอดเลือด และมะเร็งหากเราเลือกกินแบบดิบ
สำหรับคนทั่วไปรวมไปถึงนักบิดปกติที่ไม่ได้มีกลุ่มแก๊งค์จริงจัง และยังคงเป็นมนุษย์ในจำนวน 99% ที่ใช้ชีวิตการขับขี่ที่ไม่มีกฎระเบียบของกลุ่มเพื่อนนั้น แน่นอนว่า ชีวิตในการขับขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจไปไหนต่อไหน ถือเป็นอะไรที่เพลิดเพลิน สนุกสนาน ผ่อนคลาย และทำให้รู้สึกถึงความเป็นอิสระ แต่สำหรับนักบิดตัวจริงซึ่งถูกเปรียบเทียบเป็นกลุ่มคนจำนวน 1% ที่มีความแตกต่างจาก 99% ที่เหลือนั้น มันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ตามหลักสากลแล้ว นักบิดตัวจริงที่ได้ชื่อว่าเป็น 1% เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่อยู่ในกลุ่ม หรือ Club ที่มีความใหญ่โตระดับชาติ จนไปถึงระดับโลก โดยชาวต่างชาติมักจะเรียกกลุ่มรถจักยานยนต์เหล่านี้ว่า “One-Percenter Outlaw Motorcycle Gangs” ซึ่งที่เรียกแบบนั้นก็เพราะว่า กลุ่มมอเตอร์ไซค์เหล่านี้นั้น จะไม่สนใจถึงกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ใช่พวกเขาจะใช้ชีวิตได้อย่างตามอำเภอใจไร้กฎระเบียบใด ๆ ในชีวิตเลย เพราะในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเองก็มีกฎที่ยุ่งยาก และต้องเคร่งครัดมาก ๆ ของพวกอยู่ด้วยเช่นกัน โดยกฎเหล่านี้ ไม่ได้มีไว้เล่น ๆ หรือมีไว้ขู่ขำ ๆ แต่ถ้าหากใครละเมิดขึ้นมาล่ะก็จะมีความผิดรุนแรง และมีการลงโทษที่ไม่มีใครอยากเจอกับตัวแน่นอน บางครั้งบทลงโทษอาจจะหนักถึงขนาดที่คนทั่วไปอาจจะจินตนาการไปไม่ถึงเลยทีเดียว แต่ด้วยความเข้มข้นของกฎระเบียบเหล่านี้เอง ทำให้พวกเขาได้ความมีวินัย ความมีระบบ