หลังจบ ‘GARAGE’ พื้นที่ใหม่ที่ UNLOCKMEN ตั้งใจสร้างขึ้น เพื่อให้สหายชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้มีโอกาสเยี่ยมเยียน MAN CAVE ของเรา พร้อมมอบประสบการณ์ UNLOCK ในรูปแบบที่ใกล้ชิดมากกว่าการอ่านผ่านตัวหนังสือ เข้ามารวมตัวกันนั่งพูดคุยหรือสัมผัสเรื่องที่คุณไม่เคยรู้ด้วยกันกับเราแบบถึงพริกถึงขิง ซึ่งหนนี้เราว่าด้วยเรื่องของการเอาชนะขีดจำกัดขั้นแรกอย่าง “ความกลัว” ด้วย “ความรู้” ด้านการเงิน กับเรื่องที่ใกล้ตัวที่เราได้ยินมันมาตลอด แต่อาจจะไม่เข้าใจมันอย่างทะลุมากพอ นั่นก็คือ “BLOCKCHAIN” คำจ่อปลายหูที่หลายคนได้ยิน แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้เกิดความกลัวที่จะสัมผัสมัน อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสดี ๆ จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไป บวกกับหลายเสียงที่ e-mail มาถามเราว่า ‘พอจะเข้าใจ Bitcoin แต่ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับ Blockchain ยังไง มันเกิดจากอะไร มันเป็นของใคร’ พอไม่รู้ก็เลยไม่กล้าลงทุน ในขณะที่ราคา Bitcoin พุ่งไปไกลจนหลายคนตามไม่ทัน คิดได้ดังนั้น เราก็เลยเชิญกูรูด้านนี้โดยเฉพาะ ให้มาอธิบาย พูดคุยกันให้กระจ่าง ด้วยการเชิญคุณ Alan Lee – Blockchain Developer บินตรงดิ่งมาจากสิงคโปร์
นับว่าเป็นข่าวอิมแพคในวงการ High-Fashion เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกิดการโยกย้ายข้ามไปมาของกลุ่มผู้มีอิทธิพลและกำหนดทิศทางของแฟชั่นโลกหลาย ๆ คน เริ่มจาก Hedi Slimane ผู้ที่นำความเป็นไลฟ์สไตล์ดึงความเป็น youthful ใส่กลิ่นอายอารมณ์วัฒนธรรมร็อคลงไปจนทำให้แบรนด์ Saint Laurent โดดเด่นทั้งรันเวย์และท้องถนน แต่แล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Hedi Slimane ก็ได้ประกาศอำลาตำแหน่ง และย้ายไปนั่งแท่น artistic creative director ของ CÉLINE ดังนั้นคาดว่าทิศทางของแบรนด์น่าจะได้ความเป็น grunge rock aesthetic ของ Slimane มาเต็ม ๆ อย่างแน่นอน มาต่อกับอีกแบรนด์ที่น่าจะเสียศูนย์พอสมควรหลังจาก Riccardo Tisci ผู้ชุบชีวิตแบรนด์ GIVENCHY ให้กลับมาผงาดคืนชีพอีกครั้งด้วยซิกเนเจอร์ส่วนตัวสตรีทลักซ์ชัวรี่อย่าง Dark Romantic และ Animal Spirits ต่าง ๆ โดยเฉพาะ Rottweiler ประกาศลาออกเมื่อปีกลายก่อนจะไปจับโปรเจคกับ Versace อยู่แวบหนึ่งและเพิ่งได้ตอบตกลงรับตำแหน่ง chief creative officer
ปี 2018 นี้ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่มีอีเว้นต์กีฬาใหญ่ ๆ เวียนมาจัดการแข่งขันอีกครั้งให้คนทั่วโลกได้ร่วมลุ้นร่วมเชียร์ร่วมมันส์ไปด้วยกัน และที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ไม่ควรพลาดก็คือการแข่งขันกอล์ฟแห่งศักดิ์ศรีระหว่างทีม ยุโรป และทีม สหรัฐอเมริกา “Ryder Cup 2018” (ไรเดอร์ คัพ 2018) ที่เตรียมระเบิดความมันส์ในการดวลวงสวิงที่ L’Albatros course ในสนาม Le Golf National (เลอ กอล์ฟ เนชั่นแนล) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 28-30 กันยายนนี้ ว่าแล้วก็ย้อนไปดูไฮไลท์เปิดตัวการแข่งขัน เรียกน้ำย่อยก่อนแข่งจริงกันหน่อย ซึ่งในงานเปิดตัว Thomas Bjørn (โธมัส บียอร์น) กัปตันทีมยุโรป และ Jim Furyk (จิม ฟิวริค) หัวหน้าทีมสหรัฐฯ ร่วมกันไดรฟ์กอล์ฟบนหอไอเฟล เหมือนกับที่ Arnold Palmer (อาร์โนลด์ พาลเมอร์) ตำนานโปรกอล์ฟชาวอเมริกันผู้ล่วงลับเคยทำไว้เมื่อปี 1976 ถามว่าทำไมไรเดอร์ คัพ ถึงน่าดู ? กอล์ฟรายการนี้มันเจ๋งอย่างไร ? แล้วอย่างผมที่ไม่ค่อยอินกับการดวลวงสวิงเท่าไหร่จะดูสนุกไหม ? ทีมงาน UNLOCKMEN ขอบอกว่าหากคุณรู้ที่มาที่ไปของกอล์ฟไรเดอร์ คัพแล้วหละก็ คุณอาจจะเปลี่ยนใจมาหลงใหลกีฬาชนิดนี้มากขึ้นก็ได้
เวียนมาอีกครั้งสำหรับงาน Bangkok International Motor Show โดยในปีนี้เป็นการจัดครั้งที่ 39 เข้าไปแล้ว แน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะมาสัมผัสความหลากหลายของสุดยอดยนตรกรรมในงานนี้ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพคเมืองทองธานี แต่ละคนอาจจะมีบูธในดวงใจชนิดที่ต้องเดินเข้าไปหาเป็นบูธแรกต่างกันออกไป และสำหรับบูธที่เราต้องแวะไปก่อนใครเสมอ ก็คือ MINI ที่สุดของ Iconic Car จากประเทศอังกฤษ ที่ยังคงเอกลักษณ์ความโดดเด่นดั้งเดิมไว้ครบถ้วน ผสมผสานกับนวัตกรรมใหม่ตามแนวคิด “From the original to the Original” ได้อย่างเต็มที่ทั้งตัวรถและการออกแบบบูธที่ใครเดินมาต้องหลงคิดว่าอยู่ London กันเลยทีเดียว บูธของ MINI ในปีนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายเมืองผู้ดี ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์ London Street โดยการจำลองบรรยากาศจากท้องถนนในกรุง London เมืองหลวงประเทศอังกฤษ ผู้ผลิตยนตรกรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี 1959 ค่ายนี้ จะมาโชว์ของร้อนแรงในงาน Motor Show ทั้งที ย่อมต้องมีทีเด็ดเอาใจสาวก MINI ผู้ชื่นชอบรถขนาดกะทัดรัด ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจุดเด่นด้านความสนุกสนานในการขับขี่แบบ Go-Kart Feeling และเสน่ห์ในแบบผู้ดีแดนอังกฤษ เรียกว่า ถ้าอยากใส่สูทให้เท่กว่าใคร ต้องสูท Kingsman จากอังกฤษ ถ้าอยากขับรถที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์และสร้างความโดดเด่น ต้องขับ MINI Cooper
สงกรานต์จัดเป็นเทศกาลประจำชาติที่รวมเอาความสนุกสุดเหวี่ยงรอให้เราไปปลดปล่อยความมันส์สุดเปียกอย่างเต็มที่ในช่วงวันหยุดของปีใหม่ไทย และปีนี้สำหรับคนที่ต้องการความเร้าใจมากกว่าเดิม แต่ยังลังเลอยู่ว่างานสงกรานต์ที่ไหนจะตอบโจทย์ความสนุกอย่างแท้จริง ต้องบอกว่า หลายครั้งปัจจัยในการออกไปเล่นสงกรานต์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราเพียงคนเดียว ถ้าเกิดโป๊ะเชะกลุ่มเพื่อนดันอยากนัดรวมตัว หรือสาวที่กำลังดูใจเดทกันอยู่อยากออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ คราวนี้ก็ต้องมานั่งวางแผนจัดสรรตารางเสียใหม่ เพราะจะปล่อยให้เธอออกไปเล่นสงกรานต์คนเดียวในสถานที่เปิดสาธารณะ อาจจะเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายเกินไป ด้วยการควบคุมดูแลฝูงชนไม่ทั่วถึง ดังนั้นหากต้องไปเที่ยวในวันสงกรานต์ทั้งที ก็ควรจะเลือกสถานที่ให้เจ๋งและดีที่สุด โดยแลนมาร์คที่เราอยากจะเชิญชวนให้ชาว UNLOCKMEN จดไว้เป็นตัวเลือกสำหรับการพาคนรู้ใจไปเที่ยวให้สนุกสุดเหวี่ยงในช่วงสงกรานต์คือ “S2O Songkran Music Festival” ยิ่งพิเศษสุด ๆ เนื่องจาก BLEND 285 ได้เป็นสปอนเซอร์หลักของงานในปีนี้ ด้วยคอนเซ็ปต์ #ชีวิตดีเรามีได้ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าความสนุกจะถูกจัดเตรียมไว้อย่างเต็มเหนี่ยว มาลองดูกันว่าคุณได้จะพบประสบการณ์ดี ๆ อะไรจากงาน S2O Songkran Music Festival ในครั้งนี้กัน บูธกิจกรรมดี ๆ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม ภายในงาน BLEND 285 ได้เนรมิตความสนุกพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพื่อเอาใจทุกคนให้ได้ปลดปล่อยตัวเองไปกับเทศกาลวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นบูธกิจกรรมหลักที่เรียกว่า BLEND 285 Underwater Bar โดยบูธนี้เป็นการจำลองเหมือนทุกคนกำลังสนุกอยู่บาร์ใต้น้ำ ไว้เพลิดเพลินระหว่างรอศิลปินดังขึ้นเวที หรือแม้ว่าคุณจะบอกว่าไม่ชอบเต้นก็ตาม ทางงานก็ได้จัดโซนนั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อยอีกทั้งสามารถนั่งรอเพื่อนชิล ๆ
เคยตันบ้างมั้ย ? แม้ว่าผู้ชายอย่างเราจะรู้สึกมั่นใจในการใช้ชีวิตและการทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามชั่วโมงบินบนโลกใบนี้ แต่เชื่อสิมันต้องมีวันที่เจอ ‘ทางตัน’ กันบ้าง ทางตันในที่นี้ไม่ใช่การขับรถไปเจอกำแพงสุดซอย หรือไปเจอกับใครที่สร้างอุปสรรคให้เรา แหม่ ไอ้สองอย่างแรกคงหาทางออกได้ไม่ยาก แต่ไอ้ที่ยากที่สุดคือทางตันที่เกิดจากตัวเอง ที่มักทำให้เราสบถออกมาว่า “คิดไม่ออกโว้ย!” ไม่ว่าจะเป็นการคิดงานไม่ออก ในหัวมีแต่อะไรซ้ำซาก สมองล้าขึ้นทุกที หรือไม่ก็ไม่กล้าเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่แตกต่าง ถ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนี้ ถึงเวลาที่ต้องหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ มาช่วยปลดล็อกความคิดแล้วหละครับ ที่จริงวิธีการสร้างแรงบันดาลใจและหามุมมองใหม่ ๆ นั้นทำได้ไม่ยาก โดยจากที่เราลองหาวิธีเอง และจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ก็พอจะสรุปได้ว่า เราควรจะอยู่ห่างจากเทคโนโลยีบ้าง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน ไม่ก็แหกกฎอะไรเดิม ๆ ออกไปอยู่ในสเปซที่เราไม่เคยไป หรือไปเยือนสถานที่ที่จะช่วยปลดล็อกความคิดและความกล้าที่จะแตกต่างของเราออกมา จริง ๆ แล้วก็ไม่ต้องไปไหนไกลก็ได้ครับ เพราะในกรุงเทพฯ ก็มีที่เจ๋ง ๆ แบบนี้อยู่ ทีมงาน UNLOCKMEN จะพาไปเยือนสถานที่สุด unique เหล่านี้ด้วยกัน ด้วยการขับรถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่งระดับพรีเมียมอย่าง CHEVROLET TRAILBLAZER Z71 ออกไปหาไอเดียใหม่ ๆ ด้วยการไปเยือน Lifestyle Destination
สำหรับคนที่เกิดในยุค 70’s – 80’s เป็นต้นมา น่าจะเติบโตพร้อมกับภาพความเท่ของมือกีตาร์วง Rock and Roll ที่ถือว่าหล่อกินเรียบกว่าใครในวง เป็นอาชีพที่เท่สุดยอดกว่าอาชีพใด ทำรายได้ถล่มทลาย สาววิ่งกรี๊ดตามรถตู้เพราะอยากจะโยนตัวเองเอาใส่บรรดามือกีตาร์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความคูลของ Slash กับกีตาร์ Gibson คู่ใจ หรือความเท่ของ The legendary Jimi Hendrix กับกีตาร์ Fender ข้างกาย แต่ใครจะไปคาดคิดว่าปัจจุบัน บริษัทกีตาร์ระดับขึ้นหิ้งทั้ง 2 แบรนด์ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เป็นหนี้ก้อนใหญ่มหาศาลและไม่มีทีท่าว่าจะหมุนมาจ่ายทัน เสี่ยงต่อการล้มละลายอย่างสูง ดูเหมือนยุคสมัยนี้จะเป็นยุคแห่งเก้าอี้ดนตรี ใครปรับตัวไม่ทัน ก็มีโอกาสล้มพับได้ทุกราย ไม่ว่าจะเคยยิ่งใหญ่มาแค่ไหน เอาง่าย ๆ ก็คือสิ่งที่เราเห็นจากวงการ Magazine ที่ปิดเล่มล้มกองกันจนเกือบหมดแผง จากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ไม่เว้นแม้แต่ในอุตสาหกรรมกีตาร์ที่มี Big Player หลัก ๆ อยู่แค่ 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับ Iconic อย่าง Gibson และ
โหนกระแสมันสนุก ใครเกาะทันข้ามวันข้ามคืนก็กลายเป็นคนดัง เราทุกคนรู้ดีว่าในยุคนี้ดาวใหม่สายไอดอลเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เมื่อได้รับความสนใจไม่ว่าจะจากเรื่องดีหรือไม่ดี ขอเพียงการกดคลิกไลค์เล็กน้อย กับยอดวิวตัวเลขใต้แชนแนล Youtube คนส่วนใหญ่ก็พร้อมจะพลีชีพเพื่อเรื่องเหล่านั้น แต่หนนี้เราเห็นปุ๊บถึงกับต้องสบถเลยว่า “What the f*ck!” ใจมันจะสู้เกินไปไหมเพราะวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวอเมริกันออกมานำเทรนด์ฉีกถุงยางขึ้น สูด สูด สูด และสูดปรื้ดทะลุจากรูจมูกจากนั้นดึงออกมาทางปาก แล้วส่งคำท้าใส่กันใต้ชื่อ “Condom Snorting Challenge” “Condom Snorting Challenge” มันไม่ใหม่เรียกได้ว่า 5-6 ปีจะโผล่มาสักครั้ง โดยวีรกรรมสุดแผลงนี้อยู่ ๆ ก็เกิดขึ้นมาในปี 2550 ก่อนจะซาไปโผล่มาใหม่ในปี 2556 อีกหน จนมาถึงปีนี้ที่มีความพยายามจะเอาเรื่องนี้กลับมาแลกยอดไลค์อีกครั้ง งานนี้คงไม่ต้องมีใครบอกว่าผลที่ออกมามันจะแย่แค่ไหน เพราะหมอเขาออกมาการันตีว่าไม่ว่าเราจะคิดยังไง มันยังแย่ได้กว่าที่เห็น หากริอ่านจะเปลี่ยนจากสวมมาเป็นสูด Dr. Jennifer Villwock ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชาโสต ศอ นาสิกวิทยาจาก University of Kansas ออกมาบอกว่าสูดไปมันอันตราย อย่าริไปลองเด็ดขาดเพราะอาจจะมีอาการเหล่านี้ ! Level 1
หากพูดถึงวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกในปัจจุบันอย่าง Skate Culture ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจากกีฬาเอ็กซ์ตรีมธรรมดา เพราะแต่เดิมมันเป็นเพียงการเล่นผาดโผนที่แม้แต่ผู้ปdครองเองยังไม่ค่อยจะอนุญาต ก่อนที่จะค่อย ๆ ขยายตัวฝังลึกเข้าไปถึงแก่นสารของวัฒนธรรม ซึ่งแสดงออกผ่านทางการแต่งกาย รสนิยมการฟังเพลง รวมไปถึงสถานที่เที่ยว และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมาก ยิ่งในตอนนี้มันได้หลอมรวมกลายเป็น mainstream culture ชนิดที่เราเองยังแทบจะไม่รู้ตัว โดยหากต้องแตกประเด็นของเรื่องสเก็ตบอร์ดออกมาให้พูดเป็นวันก็คงจะไม่จบ แต่เพื่อให้ชาว UNLOCKMEN ได้เข้าใจที่มาวัฒนธรรมกระดานสี่ล้อเพื่อเป็นการวอร์มอัพก่อนสกู๊ปใหญ่ประจำเดือน เราจึงสรุปเรื่องราวความเป็นมาแบบคร่าว ๆ ของวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดมาเล่าให้ฟังในวันนี้ ย้อนกลับไปในปี 1950 กีฬา surfing ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับวัยรุ่นชาว California แต่นั้นไม่เพียงพอต่ออะดรีนาลีนที่พุ่งพล่านพยายามหาอะไรที่สนุกสุดเหวี่ยงและต้องการความมันส์บ้าบิ่นในชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงเกิดไอเดียนำเอากล่องไม้มาดัดแปลงมาติดล้อโรลเลอร์สเก็ตลงไปและใช้ไถไปมาตามถนน ซึ่งในเวลานั้นยังคงไม่มีคำว่า skateboard ทว่าคนทั่วไปจะเรียกกลุ่มเด็กเหล่านี้ว่า sidewalk surfing ความนิยมของเจ้ากระดานล้อลื่นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งบริษัททำกระดาน surf ใน California ได้ติดต่อกับ Bill Richard เจ้าของธุรกิจ Chicago Roller Skate เพื่อประกอบกระดาษสเก็ตบอร์ดสำเร็จรูปขึ้น มาเป็นครั้งแรก โดยผู้เล่นต้องถอดรองเท้า แต่ในเวลาต่อมาได้เกิดโรงงานผลิตอีกนับไม่ถ้วน อาทิ