ความสำเร็จของ BMW M หรือ BMW MotorSport ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงขวัญใจผู้ชายทั่วโลกในปัจจุบันมีที่มาที่ไป พวกเขาถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1972 เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนารถยนต์สำหรับแข่งขันของ BMW ซึ่งมีผลงานโดดเด่นด้วยรถยนต์ที่หลายคนรู้จักดีกับโปรเจกต์แรกอย่าง BMW 3.0 CSL (Coupé Sport Lightweights) ซึ่งประสบความสำคัญอย่างท่วมท้นจากการคว้าแชมป์รถยนต์ประเภท Touring Car ของทวีปยุโรปถึง 7 สมัยและยังเป็นพื้นฐานสำคัญของรถยนต์ที่มีสัญลักษณ์ “M” ในเวลาต่อมา หลังจากเปลี่ยนชื่อมาเป็น BMW M GmbH พร้อมปรับโครงสร้างของบริษัท เพื่อรองรับการพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ ในปี 1978 พวกเขาก็ได้เปิดตัวรถยนต์คันแรกของค่ายคือ BMW M1 ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นรถแข่งโดยเฉพาะ แต่ด้วยกฎในการแข่งขันที่เรียกว่า Homologation ซึ่งระบุไว้ว่ารถที่ลงแข่งขันได้ จะต้องเป็นรถที่มียอดขายในทะเบียนรถวิ่งบนถนนปกติอย่างน้อย 400 คัน ทำให้ BMW M ผลิต BMW M1 ออกมาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 3.5 ลิตร ที่ให้พลังถึง
BMW ส่งรถซีรีส์ 8 ออกมาทักทายโลกเป็นครั้งในปี 1989 ภายใต้โมเดล BMW E31 ก่อนในเวลาต่อมามันจะกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์รถยนต์ประเภท Gran Turismo ที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกจนถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็น Generation 2 และล่าสุดพวกเขาได้เผยโฉมซีรีส์ 8 โฉมใหม่ล่าสุดออกมาแล้วในรุ่น M850i xDrive Convertible ต่อจากรุ่น m850i xdrive coupe ซึ่งเปิดตัวออกมาแล้วก่อนหน้านี้ ภาพรวมของ 8-Series Convertible คือการเดินตามรอยของ 8-Series Coupe ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้าแต่คงความเป็นเอกลักษณ์ของรถประเภท Convertible ด้วยหลังคาเปิดประทุน ซึ่งสามารถพับเก็บเองได้ภายใน 15 วินาที ขณะรถหยุดนิ่งหรือวิ่งในความเร็วไม่เกิน 48 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่เพียงแค่นั้นเพราะตัวรถยังมีระบบรักษาความปลอดภัย Rollover Protection System ที่จะมีแท่งอลูมิเนียมแข็งแรงพิเศษ 2 ข้างโผล่ออกมาภายในเสี้ยววินาทีหากรถเกิดพลิกคว่ำ โดยเป็นนวัตกรรมด้านความปล่อยภัยที่ต้องมีในรถยนต์ประเภทเปิดหลังคาได้เพื่อป้องกันศรีษะของผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ด้านงานดีไซน์ภายนอก 8-Series Convertible ด้านหน้าเสริมความดุดันด้วยตะแกรงระบายอากาศที่กว้างขึ้น ไฟหน้ารถเป็น LED Laserlight technology พร้อมท่อไอเสียคู่รูปสี่เหลี่ยมคางหมูและล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว
ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนกำลังแข่งขันกันสะสมความสำเร็จ โลกที่ทุกอย่างดูเร่งรีบ แทบไม่มีช่องว่างให้เราหายใจ เคยถามตัวเองบ้างไหม ว่าเราห่างหายจากความสุขที่เคยคุ้นเคยไปนานแค่ไหน ? แล้วทำไมเราถึงห่างจากการ “ใช้ชีวิต” มากขึ้นทุกที ? หลังจากที่ UNLOCKMEN ได้นำเสนอผลงานภาพถ่ายในโปรเจ็กต์ ‘X1 Inspired Art’ by BMW X1 ของช่างภาพ 2 คนแรก คือ ‘หาว 2 how’ – ต่อวงศ์ ซาลวาลา ช่างภาพดิจิทัลแถวหน้า และ ‘หลิน – รินรดา พรสมบัติเสถียร’ ช่างภาพสาวไฟแรงไปแล้ว อีกหนึ่งผลงานภาพถ่ายในโปรเจ็กต์นี้ที่เราจะนำมาเสนอให้ดูกันเป็นของคุณ ‘โต้-วิรุนันท์ ชิตเดชะ’ ช่างภาพมืออาชีพชื่อดัง เจ้าของผลงานนิทรรศการ The Last Light ผลงานที่ถ่ายทอดภาพภูมิทัศน์ ผ่านสถานที่โครงการในพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยผลงานของคุณโต้ในโปรเจ็กต์ X1 Inspired Art นั้น น่าจะทำให้ทุกคนฉุกคิดได้ว่า เราต่างหลงลืมเสน่ห์ที่คุ้นเคย เพราะมุ่งหน้าหาแต่ความสำเร็จ ช่างภาพหนุ่มมาดเท่บอกกับเราว่า แรงบันดาลใจของภาพภ่ายชุดนี้ของเขาคือ ตัวตน ความเป็น BMW X1 และ Bangkok night life ทำให้เราอยากรู้ขึ้นมาเลยว่า
การใช้ชีวิตในแบบเดิม ๆ ใน safe zone ทำอะไรเดิม ๆ ไปแต่ที่เดิม ๆ ก็คงจะไม่ทำให้เราได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ และไม่มีวันรู้ขีดจำกัดของตัวเอง ยากต่อการปลดล็อกศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ แบบนี้น่าเบื่อแย่ ต้อง GET OUT THERE ซะแล้ว หลายท่านคงจะได้อ่านแนวคิด และชมผลงานบางส่วนของ คุณ ต่อวงศ์ ซาลวาลา หรือ พี่หาว 2 how ช่างภาพอิสระผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการถ่ายภาพดิจิทัล และเจ้าของเว็บไซต์และแฟนเพจ 2how.com ในโปรเจกต์ “X1 Inspired Art” แคมเปญเท่ ๆ ของ BMW ไปแล้วในคอนเทนต์นี้ มาถึงตอนนี้เรามาพูดคุยและดูผลงานของสาวสวยคนนี้กันบ้างดีกว่า เธอคือ “หลิน – รินรดา พรสมบัติเสถียร” ช่างภาพสาวรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีผลงานมากมาย ทั้งงานภาพนิ่ง หนังสั้น และเมกอัพอาร์ติสท์หนังสั้น โดยผลงานล่าสุดของเธอก็คืองานถ่ายภาพนิ่งเบื้องหลังซีรีส์ “SOS skate ซึมซ่าส์” ด้วยความที่คุณหลินเป็นคนรุ่นใหม่ สิ่งที่เธอต้องการนอกจากการสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ออกมา ก็คือ อิสรภาพของการเดินทางและการใช้ชีวิต ซึ่งเธอได้อธิบายความรู้สึกที่ได้ร่วมโปรเจ็กต์นี้ว่ามันโดนใจคนสไตล์เธออย่างไร “นอกจาก
ยิ่งเราอยู่บนโลกนี้นานขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้ว่ายังมีเส้นทางอีกมากที่รอให้เราไปผจญภัย และหากจะให้อยู่เฉย ๆ ใน safe zone แบบไม่โลดโผนเลย ก็คงจะไม่ใช่ผู้ชายสไตล์อย่างเรา ที่ต้องการเต็มที่กับทุกด้านในชีวิต และมองความท้าทายใหม่ ๆ เป็นประสบการณ์สุดล้ำค่า เปรียบทางข้างหน้าดั่งผืนผ้าใบที่ให้เราสร้างสรรค์งานศิลป์ในแบบของเราออกมาให้สวยงาม เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้สึกถึงการสร้างสรรค์ชีวิตที่เหนือชั้นอย่างไม่เหมือนใครในสไตล์ของ BMW X1 ยนตรกรรม SAV ที่พร้อมพาสู่เส้นทางใหม่ ๆ ที่ไม่เคยไปมาก่อน ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีจึงได้สร้างแคมเปญ “X1 Inspired Art” ขึ้นมา โดยการชวนช่างภาพชั้นนำในบ้านเรา 3 คนมาถ่ายทอดมุมมองทางศิลปะของพวกเขาและเธอที่มีต่อ BMW X1 แน่นอนว่างานแต่ละคนนั้นล้วนมีเอกลักษณ์ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน ช่างภาพสุดเท่ที่เราจะพูดถึงงานของเขาเป็นคนแรกก็คือ คุณ ต่อวงศ์ ซาลวาลา หรือ พี่หาว 2 how ช่างภาพอิสระ และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการถ่ายภาพดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เจ้าของเว็บไซต์และแฟนเพจ 2how.com ที่หลายคนรู้จัก และเราก็อยากรู้แล้วว่า คุณต่อวงศ์มอง BMW X1 เป็นงานศิลปะแบบไหน ? “ผมมองมันเป็นงานออกแบบในรูปแบบสิ่งของครับ เหมือนนาฬิกา เป็นนาฬิกาเรียบๆ ดู
ถือเป็นข่าวดีสำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบในรถยนต์และรักในการชมภาพยนตร์ โดยเฉพาะแฟนของบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) เพราะไม่นานมานี้มีแฟนคลับที่หลงใหลในรถยนต์ของค่ายใบพัดฟ้าขาว ได้ทำการ Remastered หนังสั้นของ BMW Films ทั้งหมด 10 ตอน อัปโหลดให้ทุกคนได้ชมฟรีผ่านทาง YouTube กันแล้ว BMW Films เป็นหนังสั้นที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างยุค 90’s – 00’s ถือเป็นผลงานทรงคุณค่าที่แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างวงการภาพยนตร์และโลกยนตรกรรมที่หลายคนอาจไม่เคยรับรู้ แต่ก่อนจะได้พิสูจน์เรื่องราวทั้งหมดด้วยตาตัวเอง วันนี้มาทำความรู้จักที่มาและรายละเอียดของ BMW Films รวมถึงเหตุผลที่ไม่ควรพลาดหนังทั้ง 10 ตอนนี้ ไปพร้อม ๆ กัน จุดเริ่มต้นของ BMW Films เกิดขึ้นในช่วงต้นยุค 2000 ในขณะนั้นทางบีเอ็มดับเบิลยู สหรัฐอเมริกา ยังไม่มีการเปิดตัวรถยนต์ครั้งใหญ่ในตลาด และหัวหน้าฝ่ายการตลาดอย่าง จิม แม็คโดเวล ก็ต้องการทดลองใช้กลยุทธ์ใหม่เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ผู้ชอบความท้าทายและหลงใหลในการขับขี่ ให้ได้มากขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์รถยนต์ของพวกเขาให้กลายเป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม และได้ข้อสรุปว่า “เรามาทำหนังสั้นสำหรับปล่อยบนโลกออนไลน์กันเถอะ!” อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นของยุค 2000 การเผยแพร่วิดีโอผ่านทางอินเทอร์เน็ตเพียงช่องทางเดียวยังคงเป็นเรื่องใหม่
ระยะหลังตลาดรถยนต์ในบ้านเรามีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีค่อนข้างมาก จากเมื่อก่อนที่เราได้แต่มองรถยนต์รุ่นเทพ ๆ วางขายในต่างแดนตาปริบ ๆ ส่วนโมเดลที่วางขายในประเทศไทยมักจะเป็นรุ่นพื้นฐานที่เน้นยอดขาย เพราะส่วนใหญ่รุ่นเจ็บ ๆ มักจะราคาขายพุ่งแรงจนฐานลูกค้าเหลือไม่มาก แต่ปัจจุบันตลาดรถบ้านเราเปิดตัวแทบจะพร้อมกับตลาดโลก และมีการนำรุ่นท็อป ๆ เข้ามาวางขายเป็นทางเลือกนักเลงรถตัวจริง โดยเฉพาะแบรนด์ BMW ที่มีการวางขายรถตระกูล M มากขึ้นในระยะหลัง เรียกเสียงตื่นเต้นและสร้างยอดขายจากกลุ่ม Beemer ในประเทศไทยได้ไม่น้อย ล่าสุดในงาน Motor Show 2018 ก็เป็นอีกครั้งที่ BMW ประกาศศักดาทั้งความหรูและความแรง เปิดตัวรถยนต์โมเดลน่าสนใจหลายรุ่นพร้อมกัน แต่ที่เราจะนำมาเน้นกันวันนี้ก็คือ BMW X2, BMW M4 CS, BMW M5 และ BMW 530i Touring ล้วนเป็นรุ่นเจ็บ ๆ ที่เราไม่คาดคิดว่า BMW Thailand จะนำเข้ามา เพราะปกติใครอยากได้โมเดลพวกนี้ ต้องไปสั่งจาก Importer เท่านั้น ซึ่งจะเสียเปรียบเรื่องการซ่อมบำรุงไป ดังนั้นปีนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับสาวก BMW ที่ต้องการครอบครองรถรุ่นเทพ
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่หลงใหลในความเร็วและห้วงอารมณ์การขับขี่รถยนต์ที่ท้าทาย ในชีวิตที่เกิดมาเพียงครั้งเดียวคงไม่มีประสบการณ์ใดล้ำค่าไปกว่าโอกาสในการขับขี่รถยนต์สมรรถนะสูงบนสนามที่ขึ้นชื่อว่าท้าทายที่สุดในโลก หากสนามอย่าง Nurburgring (นูร์เบอร์กริง) ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสนามแข่งรถทางเรียบที่ขึ้นชื่อว่าท้าทายมากที่สุด ที่สามารถดึงดูดผู้ชายที่หลงใหลการหลั่งอะดรีนาลีนจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกัน ทางฟากฝั่งของสนามขับรถบนผิวหิมะคงไม่มีสนามไหนที่จะท้าทายและน่าสนใจไปกว่าสนาม Arctic Driving Center, Rovaniemi สนามขับรถบนหิมะสุดแรร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศฟินแลนด์ ซึ่งเรากำลังจะพาชาว UNLOCKMEN ทุกท่านไปทำความรู้จักสังเวียนดริฟต์อุณหภูมิติดลบแห่งนี้ไปพร้อมกัน สนาม Arctic Driving Center, Rovaniemi เป็นสนามขับรถที่ตั้งอยู่ในเมืองโรวาเนียมิ ประเทศฟินแลนด์ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของซานตาครอส โดยสนามแห่งนี้มีช่วงเวลาพิเศษสำหรับเปิดใช้งานซึ่งต้องรอให้ถึงช่วงที่มีอุณหภูมิเหมาะสมในฤดูหนาวที่หนึ่งปีเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น โดยสนามหิมะแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในทิวป่าสนที่สวยงามและตั้งอยู่ห่างจากเส้นสูงสุดไม่เกิน 10 กิโลเมตร ทำให้มีอุณหภูมิในฤดูหนาวอยู่ที่ประมาณ 4 ถึง -8 องศาเซลเซียส แน่นอนว่าสภาพอากาศหนาวเหน็บแบบนี้มันคือสิ่งที่จะมากระตุ้นให้การขับขี่ท้าทายขึ้นกว่าเดิม และในปีนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับชาวไทยเพราะบีเอ็มดับเบิลยูได้จัดทริป JOY GO ICE DRIVING EXPERIENCE – Rovaniemi ที่จะพาผู้เข้าร่วมเดินทางทุกคนได้สัมผัสห้วงอารมณ์ของการขับขี่รถยนต์บนสนามหิมะ มาชมบรรยากาศที่น่าสนใจในทริปนี้ไปพร้อมกัน สมาชิกทริป JOY GO ICE DRIVING EXPERIENCE – Rovaniemi เป็นคนกลุ่มแรกที่เดินมาประเดิมสนาม
โดยปกติถ้าเราจะยืมรถมาขับเพื่อรีวิวหรือแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เรามักจะต้องเลือกเส้นทางที่เบา ๆ ไม่โหดร้ายมากนัก เพื่อความมั่นใจว่าจะช่วยรักษารถของลูกค้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้ เพราะส่วนใหญ่ราคามักจะค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์โมเดลใหม่ล่าสุดอย่าง All New BMW X3 แม้จะรู้ว่ามันลุยทางวิบากได้ แต่คงจะไม่มีใครใจกล้าพอจะใช้งานมันอย่างโหดร้ายขนาดนั้น แต่สำหรับครั้งนี้ เราเลือกที่จะทดสอบความทรงพลัง อึด ถึก ทน ของมันแบบเน้น ๆ จะได้รู้ว่าสิ่งที่รวมอยู่ในราคาและ Fact Sheet นั้น สามารถใช้งานจริงได้แค่ไหน สำหรับรถยนต์ BMW X3 xDrive20d xLine รถยนต์ Compact Luxury Crossover SUV รหัส G01 คันนี้เป็น Generation ที่ 3 ซึ่งแม้จะดูเหมือนอยู่มาไม่นาน แต่ที่จริงแล้ว BMW X3 ได้ทำตลาด segment นี้มานานกว่าที่คิด ถ้าย้อนไปไกลถึง Generation แรกกับรหัส E83 ช่วง 2003 –
ปล่อยให้บรรดาพี่ ๆ ตัวหลักเผยโฉมกันไปเกือบครบตระกูลแล้ว ตั้งแต่ 7-Series, 6-Series, 5-Series หรือแม้แต่ X3 ใหม่ คิวต่อไปที่พวกเราเฝ้ารอคอยความคืบหน้าก็คือน้องเล็กพิมพ์นิยม 2019 3-Series ในรหัส G20 ที่ถึงวันนี้มีเพียงภาพ Spy Shot ปล่อยออกมา โดยไม่มีรายละเอียดใด ๆ หลุดรอดออกมาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ใบพัดฟ้าขาวจนเนื้อตัวสั่นกันไปหมด เรียกว่าจะถอยรถใหม่ช่วงนี้ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะกลัวจะพลาดโอกาสครอบครอง G20 คันนี้ไป ซึ่งดูจาก Spy Shot แล้วต้องบอกว่ามันเท่โคตรมากเหลือเกิน จากภาพ Spy Shot ล่าสุดโดยทาง Carscoop และ BMW BLOG เผยให้เห็นจุดสำคัญหลายอย่างในรถโมเดลใหม่ล่าสุดคันนี้ คงไม่ต้องเดาว่าโฉมหน้าต้องถอดแบบจากรุ่นพี่อย่าง 5-Series มาแน่นอน แต่ด้านหลังดูเหมือนจะผ่านการออกแบบใหม่หมด โคมไฟท้ายที่เรียวเล็กกว่าเดิม กับขนาดโดยรวมที่ดูอวบอ้วนกว่าเก่า ชวนให้นึกถึง Audi a4 ให้อารมณ์สปอร์ตที่หรูหรามากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่า Air Breather