ความรัก–ความสัมพันธ์ตัดสินได้ง่ายเสมอเมื่อเป็นเรื่องของคนอื่น แต่เมื่อใดก็ตามที่เรากระโจนเข้าใส่มันด้วยตัวเองแล้ว ร้อยทั้งร้อยมักไม่อาจใช้มาตรวัดเดิม ๆ ที่เคยใช้ชี้วัดตัดสินคนอื่นมาใช้กับความรู้สึกของตัวเองได้ เพราะความรักมักเป็นเช่นนั้น เช่นที่ซับซ้อน เพ้อคลั่ง ชวนให้ดำดิ่งลงไปสู่บางห้วงแห่งชีวิตที่เราจินตนาการไม่ออกว่าจะต้องมาพบเจอ บางครั้งรักหวาน แต่บางคราวรักก็ขมแสนขมและเรายังเลือกดื่มกินมันต่อไป ความรัก–ความสัมพันธ์จึงซับซ้อนเสมอ และง่ายที่จะบอกว่าผิดจากมุมของคนข้างนอก แม้หลายครั้งสถานการณ์ความรักสุดซับซ้อนจะปวดเจ็บยิ่งกว่านิยาย แต่ในฐานะผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เคยสัมผัสรสชาติหวานหอมแห่งความรัก เราจึงอยากชวนทุกคนมาดำดิ่งลงไปในรสชาติขมขื่นกับหนังสือ 6 เล่มที่ว่าด้วยความสัมพันธ์สุดซับซ้อนที่ยิ่งอ่านก็ยิ่งขม แต่ก็ยิ่งเข้าใจและอาจยิ่งต้องบอกตัวเองให้หนัก ๆ ว่าโปรดจงอย่าพาตัวเองและคนที่เรารักไปสู่จุดขมแสนขมนั้นของความสัมพันธ์ จากดวงจันทร์ จากดวงจันทร์ แปลจากหนังสือ: Mal di pietre ผู้เขียน: Milena Agus ผู้แปล: นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ สำนักพิมพ์: อ่านอิตาลี เรื่องราวของหญิงสาวผู้เพ้อคลั่งกับความรักจนได้รับการขนานนามว่ามาจากที่สักแห่งไกลแสนไกลอย่างดวงจันทร์ ถึงอย่างนั้นเมื่อมีชายผู้ยินยอมมอบความรักให้เธอ เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ใช่ เพราะความรักไม่เคยเป็นเรื่องง่าย นี่จึงเป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้อยากถูกรักและได้รับรักจากผู้ชายคนหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันเธอกลับหลงใหลเพ้อคลั่งถึงความรักกับคนอื่นที่ไม่อาจครอบครอง เนื้อเรื่องเรียบเรื่อยล่องลอย ไม่ใช่การคบซ้อนที่หวือหวา แต่ซับซ้อนด้วยอารมณ์ ความรู้สึกและจินตนาการของหญิงสาว ที่เราไม่อาจตัดสินได้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด หรือแม้แต่สิ่งใดกันแน่ที่จริง ? เพราะความรักเป็นแบบนั้น มันง่ายที่จะตัดสินจากมุมอื่น แต่เมื่อมันอยู่ตรงหน้าเรา กลับพร่าเลือนวูบไหวราวกับทะเลคลั่งในคืนที่แสงจันทร์ไม่เป็นใจ ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย
“หวามไหว” ดูไม่ใช่คำศัพท์ที่ผู้ชายอย่างเราจะยกมาใช้ได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แต่ละเช้าเราตื่นมาเพื่อทำงานหนัก ตกเย็นสังสรรค์เพื่อพักผ่อน ก่อนจะกลับห้องเพื่อหลับไปแล้วตื่นมาทำกิจวัตรเดิม ๆ วนย้ำซ้ำเก่า “หวามไหว” จึงไม่ใช่คำที่เราจะได้ใช้และอาจถึงขั้นลืมไปแล้วว่าคำนี้มันมีความหมายแบบไหน ชวนให้รู้สึกอย่างไร UNLOCKMEN อาสากระตุกความวาบหวามในหัวใจ กระตุ้นความหวั่นไหวในร่างกายผู้ชายด้วยวรรณกรรมอีโรติก 7 เล่มสุดเย้ายวนรัญจวนใจที่เราชวนอ่านเพื่อเสพเรื่องราว ดื่มด่ำภาษาที่งดงามราวกับมีมนตร์สะกด ที่สำคัญเนื้อหาชวนสุขสมจนผู้ชายอ่านเมื่อไหร่เป็นต้องตื่นทั้งตัวและหัวใจ เนินนางวีนัส Anaïs Nin เนินนางวีนัส แปลจากหนังสือ: Delta of Venus ผู้เขียน: Anaïs Nin ผู้แปล: รังสิมา ตันสกุล สำนักพิมพ์: Library House เซ็กซ์สำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ ไม่ใช่เรื่องลึกลับดำมืดขนาดนั้น แต่จินตนาการดูสิว่าช่วงทศวรรษที่ 1940 ช่วงที่เรื่องราวเซ็กซี่ เย้ายวน ยังไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ ก็พูดถึงได้ขนาดนั้น ความน่าค้นหามันจะยิ่งเพิ่มความรัญจวนเป็นกี่เท่า ? อนาอิส นิน นักเขียนหญิงสายเลือดสเปน ฝรั่งเศส และเดนมาร์ค เขียนเรื่องสั้นเล่มนี้ขึ้นในช่วงทศวรรษ 1940 โดย ณ
Elon Musk คือชายที่โลกตั้งฉายาให้ว่า Iron Man ในชีวิตจริง เพราะมุมมองเฉียบคมและมันสมองสุดอัจฉริยะ แถมยังเป็นเจ้าของบริษัทที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง SpaceX, Tesla และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนทรัพย์สินยิ่งไม่ต้องอธิบายให้มากความ เขามีมากกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ แต่นอกจากเรื่องของความสำเร็จทะลุขีดความเป็นมนุษย์ที่เราพยายามนำเสนอรูปแบบการทำงานของเขามาให้ชาว UNLOCKMEN ได้เสพบ่อย ๆ แล้ว เราเชื่อว่าเราสามารถเข้าถึงความคิดของเขาผ่านหนังสือที่อ่านได้ UNLOCKMEN จึงอยากแนะนำหนังสือ 5 เล่มที่ Elon Musk อ่าน เพื่อเป็นแนวทางให้เห็นว่าคนที่ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้เขาสนใจอ่านอะไร Zero to One: Notes on Startups, or How to Build the Future by Peter Thiel หนังสือเกี่ยวกับธุรกิจโดย ปีเตอร์ ธีล ผู้ได้ฉายาว่าเป็นประธานาธิบดีของโลกไร้เงินสด จากชายที่ถูกปฏิเสธไม่รับเข้าทำงานในศาลสูง เขาคือหนึ่งในผู้สร้างธนาคารออนไลน์ชื่อดังอย่าง PayPal หนังสือเล่มนี้จึงไม่ต่างจากการแบ่งปันความคิดและทัศนคติในการเริ่มต้นสร้างธุรกิจของตัวเองบนโลกแห่งการเงินในปัจจุบันของเขา Musk
ถ้าพูดถึงจักรวาลของเศรษฐีระดับโลก ชื่อของ Bill Gates มักไปโผล่อยู่ในนั้นเสมอ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของเขาเลยแม้แต่น้อยทว่าเขายังคงทำต่อเนื่องและน่าจะไปเอาดีทางนี้ด้วย คงเป็นเรื่องทูตนักอ่านหนังสือนี่แหละ เพราะหลายคนเฝ้ารอว่าเขาจะพลิกเล่มไหนอ่าน เผื่อเราจะถอดรหัสวิธีคิดของเขาออกมาได้บ้าง นี่คือ 5 เล่มในปี 2018 นี้ที่ Bill Gates หยิบจับพลิกไปมาในมือ ใครที่อยากอ่านหนังสือดี ๆ สักเล่มจากบิดา Microsoft ในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้ เตรียมตัวไปหาซื้อหรือยืมมาอ่านกันได้เลย Bad Blood: Secrets and Lies in a Silicon Valley Startup, John Carreyrou เล่มแรกที่วางไม่ลงต้องยกให้เล่มนี้ เพราะมันเป็นหนังสือสารคดีจากเรื่องจริงที่มีเนื้อหาเชือดเฉือนไปมาสุดฤทธิ์ของสตาร์ทอัพประวัติศาสตร์อย่าง Theranos ที่สามารถแหกตา Silicon Valley ได้อยู่หมัด จากผลงานของ Elizabeth Holmes – CEO หญิงหน้าสวย อายุน้อยที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่นด้วยการสวมเสื้อคอเต่าแบบเฮีย Steve Jobs กับการพูดด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ ที่หลอกขายฝันคนใน Sillicon Valley
“พบกันน้อยนิด..จากกันเนิ่นนาน” วลีอมตะจากนวนิยายเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า หนึ่งในผลงานขึ้นหิ้งของ ‘กิมย้ง’ คงจะเข้ากับเหตุการณ์ตอนนี้ที่สุด เพราะเขาในวัย 94 ปี ก็ได้เริ่มต้นการจากกันเนิ่นนานกับยุทธภพแห่งนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม (พ.ศ. 2561) ที่ผ่านมา 94 ปีแห่งชีวิต 63 ปีแห่งการสร้างยุทธภพผ่านตัวอักษร ไม่ว่าจะสรรเสริญเท่าไรก็คงไม่เพียงพอกับความยิ่งใหญ่ของบุรุษผู้นี้ เขาคือหนึ่งในผู้บุกเบิกนิยายจีนกำลังภายใน เป็นอาจารย์ของนักเขียนรุ่นหลัง สร้างแรงบันดาลใจและความบันเทิงมากมายให้กับผู้เสพงานของเขา ดังนั้นถ้าใครติดตามนามปากกากิมย้งมาตลอดจะรู้ความจริงข้อนี้ดีอยู่แล้ว คอนเทนต์นี้เราจึงอยากแนะนำกิมย้งให้นักอ่านรุ่นใหม่รู้จักกันเสียมากกว่า หลายคนมักจะอคติกับนิยายชุดกำลังภายในว่าเน้นการบรรยายพรรณาเยิ่นเย้อ อ่านแล้วรู้สึกเบื่อ ซึ่งเราก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อก่อนเราก็เคยคิดเช่นนั้น จนกระทั่งได้ลองอ่านงานของกิมย้งอย่างจริงจัง พบว่าในสำนวนโวหารต่าง ๆ นั้นคือหมู่มวลแห่งความบันเทิงทั้งสิ้น และทุกประโยคสนทนาคือแง่คิดดี ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มอ่านจากเล่มไหนดี เราขอแนะนำผลงานอมตะ 5 เรื่องนี้ของกิมย้งที่รับรองว่าคุณจะสนุกไปกับมันได้อย่างแน่นอน มังกรหยก คงไม่ผิดนักถ้าจะพูดว่านี่คือผลงานที่โด่งดังที่สุดของกิมย้ง โด่งดังถึงขนาดที่ว่าต่อให้คุณไม่รู้จักกิมย้งแต่คุณต้องรู้จักมังกรหยกอย่างแน่นอน เพราะผลงานซีรีส์โทรทัศน์ที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้อยู่คู่กับจอแก้วบ้านเรามาตั้งแต่จำความได้ ในส่วนของเนื้อหา มังกรหยกแบ่งเรื่องราวทั้งหมดออกเป็น 3 ภาค โดยในภาคปฐมบทเล่าถึงแผ่นดินจีนที่กำลังเสื่อมโทรม ประชาราษฎร์ยากแค้น ขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง ก่อนการปรากฏตัวของ ‘ก๊วยเจ๋ง’ เด็กหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในดินแดนของมองโกลก่อนจะเดินทางกลับสู่ยุทธจักรจีน ก๊วยเจ๋งหมั่นฝึกฝนวิชามากมาย เป้าหมายคือขับไล่พวกมองโกลจากแผ่นดินจีน
หนังสือไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวภายใน แต่ยังสะท้อนเรื่องราวของคนอ่านด้วยว่ามีความสนใจเรื่องไหน ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหนังสือจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ นี่จึงเป็นโอกาสดีที่เราแอบทำโปรเจกต์ลับ ๆ นี้ขึ้นโดย Snapshot หนังสือที่เราพบในสถานที่ต่าง ๆ ที่ไปเยือนและนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อแนะนำต่อให้ชาว UNLOCKMEN ได้อ่านกัน เผื่อใครที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ของเจ้าของหนังสือจะเห็นมุมมองอีกด้านที่กว้างขึ้น ที่สำคัญมันยังถือเป็นการปลุกกระแสการอ่านหนังสือล็อตเก่าที่ยังคงเจ๋งเสมอไว้ให้เรามีโอกาสไปพลิกอ่านกัน สำหรับครั้งนี้สถานที่ที่เราตามไป Snap คือ Apos the HQ สถานที่ทำงานของ Apostrophys Group แต่บอกก่อนว่าทั้ง 5 เล่มนี้ไม่ได้เป็นการ Recommend จากชาว Apos แต่อย่างใด หากเป็นความคิดเห็นและการคัดเลือกของเราที่คิดว่าน่าสนใจและต้องการนำมาบอกต่อ Very Thai : everyday popular culture เริ่มต้นเล่มแรกด้วยหนังสือปกแข็งสีชมพูแสบสันจำนวน 320 หน้าที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษทั้งฉบับ แต่ไม่ได้ยากเกินความเข้าใจ ข้างในเล่มว่าด้วยเรื่องวัฒนธรรมของไทยที่เราเห็นจนชินตา แต่ชาวต่างชาติที่มาไทยแทบทุกคนล้วนต้องอุทานว่า “อย่างนี้ก็มีด้วยเหรอ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทิชชู่สีชมพูในร้านอาหาร รถแท็กซี่ที่ตกแต่งด้วยการแปะโน่นนี่เต็มรถ ไปจนถึงการจัดชุดอาหารเล็ก ๆ แล้วปักธูปเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความโดดเด่นของเล่มนี้อยู่ที่มุมมองการนำเสนอจากผู้เขียนหนังสือที่เล่าเรื่องพาซื่อจากความเป็นชาวต่างชาติ แต่มีผลกับการปรับมุมมองที่เคยจำเจของเราไปอย่างสิ้นเชิง แถมยังต่อยอดความคิดให้เราตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบตัวได้มากขึ้นด้วย ดังนั้น Very Thai หรือ
ไม่ว่าชื่อเต็มจะเรียกว่าอะไร แต่ผู้ชายนักอ่านก็เป็นอันรู้กันว่า “งานสัปดาห์หนังสือ” จะวนมาปีละ 2 ครั้งในทุกเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม เดือนตุลานี้ก็เช่นกันที่งานหนังสือวนมาให้เราได้เลือกหาหนังสือถูกใจมาอ่านอีกหน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันแบบนี้ ถ้าใครไม่รู้จะทำอะไรหรือไม่รู้จะไปไหน ลองพาตัวเองไปสูดกลิ่นกระดาษ เสพความรู้และความบันเทิงที่งานหนังสือดูได้ แต่ถ้าหนังสือกองพะเนินทำให้หนักใจไม่รู้จะหยิบเล่มไหนกลับบ้านดี UNLOCKMEN ภูมิใจนำเสนอว่า 5 เล่มนี้ที่เราอยากแนะนำ เมา: ประวัติศาสตร์แห่งการร่ำสุรา ผู้เขียน : Mark Forsyth ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายขี้เมาหรือไม่เคยคิดจะเมาเลย การมี “เมา: ประวัติศาสตร์แห่งการร่ำสุรา” ผลงานของ Mark Forsyth เล่มนี้อยู่ในครอบครองเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเล่มนี้จะพาเราดื่มด่ำเมามายไปกับประวัติศาสตร์แห่งการเมาที่ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ แต่ย้อนยาวไกลไปได้ถึงชาวอียิปต์โบราณ หรือยาวไกลไปถึงความเมาของจักรพรรดิจีน ในเล่มนี้เราจะได้พบความเมาในสารพัดมิติ ทั้งประวัติศาสตร์ การเมือง สังคม ถ้าเป็นผู้ชายขี้เมาเราก็อ่านเล่มนี้เพื่อดื่มเหล้าครั้งต่อไปได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่ใช่สายเมา แต่มีเหตุให้ต้องไปอยู่ในวงสนทนาของเพื่อนหรือธุรกิจที่เมากันเป็นประจำ อ่านเล่มนี้ไว้เป็นข้อมูลพูดคุยในวงเหล้า รับรองว่าดูมีชั้นเชิงขึ้นหลายระดับแน่นอน ไฟต์คลับ ผู้เขียน : Chuck Palahniuk กฎข้อแรกของ “ไฟต์คลับ” คือ เราจะไม่พูดถึง “ไฟต์คลับ” คงไม่มีอะไรต้องโน้มน้าวเชิญชวนให้มากความสำหรับหนังสือเล่มนี้
หนุ่ม ๆ คนไหนที่หลงใหลหนังสือและการอ่านอาจพอได้ยินข่าวการประกาศผลหนังสือที่ได้รางวัลซีไรต์ประจำปี พ.ศ. 2561 ไปหมาด ๆ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนผู้ชายคนไหนไม่ได้ติดตามการประกาศรางวัลนี้เป็นพิเศษก็ไม่ถือว่าพลาดอะไรไป เพราะขึ้นชื่อว่าหนังสือ ต่อให้ไม่มีรางวัลอะไรการันตี ถ้าเรารัก เราชอบ เราถูกใจ อ่านเล่มไหนก็ดีทั้งนั้น วันนี้ UNLOCKMEN เลยอยากนำเสนอหนังสือ 7 เล่มที่เรารัก (และได้รางวัลซีไรต์ด้วย) พูดง่าย ๆ ว่าที่เลือกมาเพราะใจรัก ส่วนซีไรต์ที่ได้ถือเป็นส่วนเสริมเท่านั้น ต่อให้ไม่ได้ซีไรต์เราก็รักอยู่ดี รางวัลซีไรต์ (S.E.A. Write) หรือรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน เป็นรางวัลประจำปีที่มอบให้แก่ผลงานประเภทต่าง ๆ สำหรับในไทยก็จะสลับกันไปในแต่ละปีระหว่าง รวมเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และนวนิยาย แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ : จเด็จ กำจรเดช “ตอนที่หยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ไม่รู้จักนักเขียน ไม่รู้ว่าเป็นหนังสือรางวัลอะไรเลย แต่สะดุดตากับชื่อหนังสือเลยหยิบขึ้นมา ยืนอ่านคร่าว ๆ ไม่ถึงนาทีก็ตัดสินใจเอาเล่มนี้เลย เพราะชอบสำนวนการเขียน การประชดประชัน เสียดสี ที่ต้องอาศัยความตั้งใจในการตีความด้วย ถึงจะได้ความหมาย อารมณ์ ที่อยู่เบื้องหลัง แต่นั่นก็เป็นข้อเสียเหมือนกัน
ในวันที่ท้องฟ้ายามกลางวันกลับมืดดำขมุกขมัวด้วยเมฆสีหม่น สายฝนโปรยปรายลงมาก็ทำให้ลำบากเกินกว่าจะออกไปไหน การอยู่บ้านเฉย ๆ ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่จะให้นอนโง่ ๆ อืด ๆ เฉย ๆ ก็อาจจะน่าเบื่อไปสักหน่อย หรือจะเปิดคอมพิวเตอร์ท่องอินเตอร์เน็ต ดู Netflix ก็รู้สึกจำเจ นาน ๆ ทีลองหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านดีกว่า และทั้ง 5 เล่มที่เรามาแนะนำวันนี้บอกเลยว่าเหมาะกับวันฝนพรำสุด ๆ ฝนตกตลอดเวลา : ปราบดา หยุ่น แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับการอ่านในวันฝนตกขนาดไหน นอกจากนั้นชื่อผู้เขียนยังการันตีถึงความยอดเยี่ยมของมันได้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือผลงานจากปลายปากกาของ ปราบดา หยุ่น นักเขียนรางวัลซีไรต์ที่ลีลาการใช้ภาษามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ฝนตกตลอดเวลาคือเรื่องราวในที่ฝนตกตลอดเวลา ชายคนหนึ่งตื่นขึ้นมาในห้องโรงแรมเก่า ๆ โทรม ๆ แห่งหนึ่ง ในสภาพเปลือยเปล่า เขาปราศจากซึ่งความทรงจำ ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน หรือแม้กระทั่งตัวเองเป็นใคร เขาจึงเริ่มต้นออกค้นหาคำตอบ เสน่ห์ที่ร้ายกาจที่สุดในหนังสือเล่มนี้คือการที่ปราบดาสร้างบรรยากาศทุกอย่างให้ชวนฉงน มีความ Surreal สูง เป็นความพร่ามัวเหมือนเราถอดแว่นสายตาออก โดยมีเสียงสายฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย Milk and Honey : Rupi Kaur
วันหยุดยาวมาถึงทีไร ผู้ชายอย่างเราถ้าไม่ได้นอนอยู่บ้าน ก็เดินทางไปพักผ่อนที่ไหนสักแห่ง วินาทีที่เราได้อยู่กับตัวเอง วินาทีที่ได้พักจากงานที่ถาโถมและอยากพาตัวเองออกจากโลกโซเชียลมีเดียสุดวุ่นวายสักพัก ดูเหมือน “หนังสือ” จะเป็นเพื่อนยากที่รอตอบโจทย์การใช้เวลาในวันหยุดของเราได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศแห่งการเดินทาง หรือหยุดอยู่บ้านแต่อยากเสพการเดินทางของนอื่น UNLOCKMEN อาสานำเสนอหนังสือ 5 เล่มว่าด้วยการเดินทางของมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ รับรองว่าบูสต์พลังให้วันหยุดได้แบบเต็มขั้น กลับไปเริ่มต้นวันทำงานใหม่ด้วยทัศนคติแบบหิวกระหายความหมายบางอย่างให้ชีวิตแน่นอน ติดอยู่ระหว่างการเดินทาง : อุทิศ เหมะมูล สำหรับผู้ชายที่ชอบดื่มด่ำกับความสัมพันธ์ ดื่มด่ำกับอารมณ์และความรู้สึก เล่มนี้อาจจะเหมาะกับวันหยุดยาวของคุณ เพราะ “ติดอยู่ระหว่างการเดินทาง” ผลงานเล่มล่าสุดของอุทิศ เหมะมูล คือรวมเรื่องสั้นหลากอารมณ์ที่จะพาเราดำดิ่งไปในบรรยากาศของเมืองต่าง ๆ ในหลายมุมโลก พร้อมเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ตลอดเวลาที่อ่านเราอาจเผลอแทนตัวเองเข้าไปเป็นตัวละครในเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง จนแม้แต่นอนอยู่บ้านก็อาจจะรู้สึกราวกับว่าได้ออกเดินทางไปพร้อม ๆ กับตัวละคร และด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์สารพัดรูปแบบ เราเชื่อว่าคุณจะได้ปลดล็อกเรื่องราวในใจกับใครบางคนได้ แถมอยากออกเดินทางในวันหยุดครั้งต่อไปขึ้นมา หรือถ้าคุณเดินทางอยู่แล้ว คุณจะหิวเบียร์และกระหายที่จะสนทนากับใครสักคนขึ้นมาแน่นอน Eat Pray Love : Elizabeth Gilbert แม้ตัวละครหลักของหนังสือเรื่อง Eat Pray Love จะเป็นผู้หญิง แต่ UNLOCKMEN เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะบูสต์พลังแห่งความเด็ดเดี่ยวเต็มขั้นให้คุณในวันหยุดนี้ได้แน่นอน