ความตื่นเต้นของการได้ลักลอบทำอะไรบางอย่างมันกระตุ้นเร้าให้เลือดในร่างกายผู้ชายอย่างเราสูบฉีดแรงเสมอ โดยเฉพาะความรู้สึกของการได้ลอบอ่านบันทึกหรือจดหมายของใครสักคน ความลับ ความรู้สึก ความคิดและความทรงจำของมนุษย์คนอื่น ๆ มีแรงยวนใจบางอย่างให้เราอยากเข้าไปตะลุยและค้นหาแบบไม่รู้จบ แต่การไปแอบอ่านบันทึกหรือจดหมายคนอื่นในชีวิตจริงมันไม่ใช่มารยาทที่ดีของสุภาพบุรุษเท่าไหร่ จะดีแค่ไหนถ้ามีหนังสือสักเล่ม (หรือหลายเล่ม) ที่มาในรูปแบบจดหมายหรือบันทึกประจำวันให้เราได้ตะลุยอ่านความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเพื่อปลดล็อกพลังบางอย่างให้ตัวเอง ? นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไม UNLOCKMEN ไม่อยากให้คุณพลาดหนังสือ 5 เล่มนี้ เพราะมันได้ทั้งความรู้สึกของการได้อ่านบันทึกหรือจดหมายของคนอื่น แถมได้กระตุกเสี้ยวของความคิดอะไรบางอย่างในตัวเองได้แน่นอน บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์ (The Diary of a Young Girl) ถ้าจะพูดถึงบันทึกลับแล้วไม่พูดถึงหนังสือเล่มนี้ UNLOCKMEN คงพลาดมาก บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์ คือหนังสือที่เป็นสมุดบันทึกประจำวันจริง ๆ ของเด็กหญิงชาวยิวนามว่าแอนน์ แฟรงค์ที่ต้องหลบซ่อนอยู่ในบ้านเกือบ 2 ปีเพราะหนีการกวาดล้างชาวยิวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2! บันทึกของเด็กหญิงวัย 10 ปีต้น ๆ ภายใต้สภาวะชวนหวาดผวา หลับไม่เต็มตาในแต่ละวัน แต่ละคืน จะพาเราดำดิ่งไปในความรู้สึกนึกคิดและความกล้าหาญของเธอ จนปลดล็อกพลังนักสู้ในตัวเราได้แน่นอน เมื่อพ่อของฉันถูกฆ่า (First They Killed My Father)
Coming of Age คือการเติบโตก้าวผ่านช่วงวัยสำคัญของชีวิต จากเด็กสู่การเป็นผู้ใหญ่ มีการมองโลกที่เปลี่ยนไป มันเป็นช่วงเวลายากลำบากที่ทุกคนต้องเจอและผ่านมันไป ด้วยความมีมิติของการ Coming of Age นี่เอง จึงมีการหยิบยกเหตุการณ์นี้มาเล่าผ่านสื่อต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือแม้กระทั่งหนังสือ วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากแนะนำหนังสือที่ว่าด้วยเรื่อง Coming of Age 5 เล่มที่ไม่ควรพลาดไม่ว่าคุณจะผ่านช่วงวัยนั้นมาแล้วหรือกำลังจะผ่านในอนาคตก็ตาม เพราะเชื่อเถอะว่าทั้ง 5 เล่มนี้จะให้อะไรบางอย่างที่จะตกผลึกในใจคุณไปตลอดแน่นอน The Catcher in the Rye Author: J. D. Salinger หนังสือมีชื่อไทยว่า ‘จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น’ หนึ่งในวรรณกรรมคลาสสิคระดับโลกที่ติดอยู่ในลิสต์ ‘หนังสือที่ควรอ่านก่อนตาย’ เสมอ เรื่องราวในหนังสือก็แสนเรียบง่าย เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มหัวขบถนาม ‘Holden Caulfield’ ซึ่งโดนไล่ออกจากโรงเรียน แต่เขายังไม่พร้อมที่จะให้พ่อแม่เขารู้ความจริง เขาจึงไม่ยอมกลับบ้านและเที่ยวตระเวนอยู่ในเมืองนิวยอร์กบริเวณใกล้ ๆ กับบ้านของเขาเอง และตั้งใจไว้ว่าเมื่อถึงวันคริสมาสต์เมื่อไหร่จะบอกความจริงให้พ่อแม่รับรู้ เนื้อเรื่องมีเพียงเท่านี้ แต่สิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่ธรรมดา และได้รับการพูดถึงทั้ง ๆ
“โรคซึมเศร้า” กลายเป็นประเด็นที่เราพูดถึงกันมากขึ้นทุกทีและคนรอบตัวเราก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้กันมากขึ้น ๆ อย่าคิดว่า “เฮ้ย เราเป็นผู้ชายอกสามศอก” ไม่มีทางเป็นโรคนี้หรอก UNLOCKMEN อยากบอกว่าโรคซึมเศร้าก็ไม่ต่างจากโรคทางกายภาพอื่น ๆ มันไม่สำคัญว่าเราเป็นเพศอะไร จิตใจแข็งแกร่งแค่ไหน หรือชีวิตสมบูรณ์พร้อมเพียงใด ความป่วยไข้ก็คือความป่วยไข้ที่อาจเดินทางมาหาได้ทุกเมื่อ ที่สำคัญผลการสำรวจพบว่าผู้ชายที่เป็นโรคซึมเศร้าฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า เพราะผู้ชายอย่างเรามักมีความเป็นผู้นำ ความเข้มแข็งที่มันค้ำคอว่า “เป็นผู้ชายห้ามเศร้าให้ใครเห็น” เวลาระเบิดตู้มออกมาจึงแหลกละเอียดทำลายแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง UNLOCKMEN ไม่อยากให้ใครไปถึงจุดนั้น มาทำความทำความรู้จักโรคซึมเศร้าไปพร้อม ๆ กันเพื่อจะเข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้นกันเถอะ เรื่องเล่าจากยอดภูเขาน้ำแข็ง ถ้าจะให้พูดถึงหนังสือเรื่องโรคซึมเศร้าเล่มที่ผู้คนพูดถึงมากที่สุดเล่มแรก ๆ ในไทยก็คงหนีไม่พ้น”เรื่องเล่าจากยอดภูเขาน้ำแข็ง”ที่การันตีด้วยรางวัลนายอินทร์อวอร์ดเล่มนี้ นี่คือเรื่องเล่าของผู้หญิงคนหนึ่งที่เผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้ามาอย่างหนักแน่นนานกว่า 7 ปี การเดินทางจากช่วงชีวิตที่จมน้ำแสนเหน็บหนาว ฝ่าฟันจนก้าวขึ้นสู่ปลายยอดของภูเขาน้ำแข็งแล้วมาถ่ายทอดเรื่องราวให้เราอ่านได้ รับรองเลยว่าเราจะเปิดใจรับคนใกล้ตัวที่ต้องอดทนกับโรคนี้มากขึ้น หรือเข้าใจตัวเองในฐานะเพื่อนร่วมโรคกับผู้เขียนได้อย่างรักตัวเองมากกว่าที่เคย สามวันดี สี่วันเศร้า ถ้าพูดถึง “ทราย เจริญปุระ” เราอาจนึกภาพผู้หญิงสวยแกร่งในละครหรือภาพยนตร์ไทยพีเรียดย้อนยุคทั้งหลาย ที่จะถ่ายทำฉากสุดโหดขนาดไหนเธอก็ไม่หวั่น ตั้งแต่ฉากที่เป็นผีนางนากห้อยหัวลงจากเพดานในภาพยนตร์เรื่องนางนากหรือเป็นเลอขิ่นบู๊สุดขีดบนหลังม้า สะพายธนูในตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือเธอเองก็เป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคนหนึ่ง “สามวันดี สี่วันเศร้า”จึงเป็นหนังสือที่เธอออกมาเล่าประสบการณ์การเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าของตัวเอง ด้วยสำนวนอ่านง่าย เสพสนุก ทั้ง ๆ ที่เรื่องที่เธอต้องเผชิญมาทั้งหมดนั้นหนักหนาสาหัสจนผู้ชายอย่างเราหลาย ๆ
ผู้ชายหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับคำว่า Dystopia สักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงหนังสุดมันส์อย่าง The Hunger Games, The Maze Runner หรือแบบคลาสสิค ๆ ระดับพระกาฬอย่าง Blade Runner, Children of Men หรือที่พอจะเห็นภาพแบบง่ายโคตร ๆ ก็ต้องเป็น The Matrix หนังที่ผู้ชายอย่างเราคุ้นตาดีพวกนี้แหละคือหนังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนัง Dystopia เพราะ Dystopia คือเรื่องราวว่าด้วยโลกในอนาคตอันล่มสลาย หรือสังคมที่ไม่พึงประสงค์หรือน่าหวาดกลัว อาจจะผ่านภัยพิบัติล้างโลกมาจนต้องกินอยู่กันอย่างแร้นแค้น หรือแม้แต่การพัฒนาทางเทคโนโลยี การเมือง การปกครองไปแบบก้าวหน้าสุด ๆ (อย่าง The Matrix) แต่ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุม ปกครองที่โหดร้าย รุนแรง (ถ้าจินตนาการไม่ออกก็ลองนึกถึงหนังที่เรายกตัวอย่างไปได้เลย) เพราะในสังคม Dystopia แต่ละเรื่องก็จะมีความบิดเบี้ยวแตกต่างกันไปที่ทำให้เราเห็นภาพโดยที่เจ้าของเรื่องยังไม่ทันอธิบายเลยด้วยซ้ำว่านี่คือโลก Dystopia ความสนุกของการเสพหนังหรือหนังสือ Dystopia มันจึงเร้าใจผู้ชายอย่างเรามาก ๆ ด้วยความที่การปกครองมันทั้งโหดร้าย ชวนให้เราลุกขึ้นมาต่อต้าน ทั้งความตื่นเต้นที่มันชวนให้เราลุ้นอยู่ทุกขณะว่าเราจะเจออะไรสุดแปลกประหลาดบ้าง หรือแม้แต่ความสิ้นหวังของระบบการปกครองที่ชวนให้เราขบคิดว่าถ้าเราต้องไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง ๆ เราจะฝ่าฟันกับความสิ้นหวังในใจเราได้มากน้อยแค่ไหน
ไม่ว่าเราจะเป็นผู้ชายที่เหงา หว่อง โดดเดี่ยวมาจากขั้วหัวใจอย่างแท้จริง หรือเป็นผู้ชายสายเฮฮาปาร์ตี้แต่อยากอินกับอารมณ์เหงา หรือจะเป็นสายแซะที่ชอบแซะคนเหงาวอนนาบีเป็นชีวิตจิตใจ UNLOCKMEN ก็อยากแนะนำว่าหนังสือของ Haruki Murakami นักเขียนญี่ปุ่นขวัญใจชาวเหงาชาวหว่องเหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่ง! คุณจะได้เข้าถึงความเหงาแบบที่คุณชอบ หรือคุณจะได้เข้าใจคนเหงา (ในกรณีที่คุณเป็นคนไม่เหงา) หรือยิ่งเป็นสายแซะการเข้าใจคนที่คุณจะแซะให้ถ่องแท้ก็เป็นคุณสมบติของนักแซะที่ดีที่คุณพึงมี (จะได้แซะให้ถึงแก่นยิ่งขึ้น) มา เราอาสาแนะนำ 5 เล่มของ Haruki Murakami หรือเฮียมู ให้ผู้ชายอย่างคุณได้เลือกอ่านกัน Norwegian Wood : ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย เล่มนี้เป็นเล่มที่ได้ชื่อว่าแมสสุดในบรรดาหนังสือของเฮียมู อ่านไม่ยาก เข้าถึงไม่ยาก แต่ดีกรีความเหงาความหว่องมาเต็มล้นทะลัก ใครที่เป็นคนเหงาจะได้เข้าถึงความเคว้งคว้างสุดฤทธิ์ชนิดที่ว่าร้องไห้ยังร้องไม่ออก ส่วนใครไม่ชินกับความเหงาอาจจะร้องโห! คนอะไรชีวิตมันจะหว่องได้ขนาดนี้วะ? ส่วนสายแซะก็คงแซะกันมัน เรื่องนี้ว่าด้วยความรัก ความตาย (ตามชื่อเรื่องที่แท้จริง) แต่เราบอกเลยว่าเป็นอีกเรื่องที่งดงามตรึงใจ อ่านจบแล้วก็ยังลืมไม่ลงได้ง่าย ๆ จริง ๆ South of the Border, West of the Sun : การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก
เมื่อเดือนเมษายนกำลังคืบเคลื่อนมาถึงพร้อมหอบลมระอุแห่งฤดูร้อนมาด้วย ก็เป็นที่รู้กันดีว่านอกจากวันหยุดยาว เทศกาลสงกรานต์และการพักผ่อนแล้ว สิ่งที่มาพร้อม ๆ กับเดือนเมษายนของทุกปีคือ “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ” และปีนี้ก็เช่นกัน โดยงานมีระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ถ้าผู้ชายคนไหนยังงง ๆ ไม่รู้จะอ่านอะไรดี เรามีหนังสือ 5 เล่มที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ แนะนำให้อ่านกัน Barack Obama : The Power Barack Obama อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ที่มักเจียดเวลามาอ่านหนังสืออยู่เสมอและมักแนะนำหนังสือที่เขาอ่าน เผื่อใครอยากจะอ่านตามบ้างให้เป็นประจำ สำหรับหนึ่งในหนังสือที่เขาแนะนำในปี 2017 ที่ผ่านมาคือ The Power ของ Naomi Alderman ไม่ต้องกลัวว่าจะเครียดเกินไปเพราะ The Power เป็นวรรณกรรม sci-fi ฝีมือนักเขียนชาวอังกฤษ ที่ว่าด้วยอำนาจที่เรามักเคยชินว่ามันอยู่ในมือผู้ชาย แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้หญิงสามารถพัฒนาความสามารถจนสามารถปล่อยไฟฟ้าออกมาจากนิ้วมือได้ และกลายเป็นเพศที่มีอำนาจควบคุม! แค่จินตนาการก็สนุกแล้วใช่ไหมล่ะ? แต่ภายใต้ความเครียดผู้ชายอย่างเราต้องได้ขบคิดอะไรบางอย่างแน่นอน ถ้าไม่อยากพลาดความสนุกและประเด็นเรื่องอำนาจและความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างเพศก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
ภาพจำเดิม ๆ ของผู้ชายอ่านหนังสือมักเป็นภาพผู้ชายใส่แว่นตาหนาเตอะ เนิร์ด ๆ จมอยู่กับหนังสือกองโตจนไม่สนใจโลกรอบกาย แต่เราอยากจะบอกว่าทุกวันนี้หนังสือมันไม่ใช่ของสูงส่งแตะต้องยากอีกต่อไปแล้ว แถมหนังสือก็มีหลากหลายประเภทจนผู้ชายทุกวัย ทุกแบบสามารถหาหนังสือคู่ใจมาอ่านได้ไม่ยาก ประโยชน์ที่แถมมาแบบฟลุค ๆ อีกอย่างคือหนังสืออาจกลายเป็นเสน่ห์ติดตัวอีกอย่างที่ทำให้สาว ๆ หันมาสนใจผู้ชายอย่างเรา นี่ก็ใกล้งานสัปดาห์หนังสือเข้ามาทุกที ๆ งานหนังสือครั้งนี้ลองไปหาหนังสือมาอ่านดูหน่อย เราจะกระซิบบอกให้ว่าผู้ชายอ่านหนังสือนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดใจเบอร์ไหน จินตนาการกว้างไกล หนังสือกลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถักทอจินตนาการของผู้ชายอย่างเราให้แผ่ขยายไปได้ไกลแสนไกล ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมหรือหนังสือจริงจังให้ความรู้ ก็ล้วนแต่ทลายกรอบคิดเดิม ๆ ของเราให้กว้างขวางไปกว่าเดิม ดังนั้นผู้ชายที่มีจินตนาการ สาว ๆ คนไหนก็อยากอยู่ใกล้ เพราะไม่อยากพลาดความคิดดี ๆ ที่จะแผ่ขยายมาให้เมื่อได้ซุกตัวอยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง ความรู้รอบตัวกว้างขวาง ขึ้นชื่อว่าหนังสือ ผู้เขียนย่อมเขียนขึ้นมาด้วยแก่นสารอะไรบางอย่างแน่นอน การได้อ่านหนังสือจึงเป็นการอ่านความคิด อ่านความรู้ อ่านจินตนาการ อ่านภาษาของผู้เขียนมาซึมซับไว้กับตัวเรา ดังนั้นหายห่วงเรื่องความรู้รอบตัวที่เราจะได้มาประดับสมองไปฟรี ๆ และความรู้รอบตัวเหล่านี้เองที่จะกลายเป็นหัวข้อพูดคุยชวนให้สาว ๆ หลงใหลและฝากหัวใจไว้กับความรอบรู้นี้ได้ไม่ยาก จิตใจละเอียดอ่อน ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งได้สัมผัสมนุษย์ในแง่มุมต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ อ่านหนังสือแนวมานุษยวิทยา หรือแม้แต่วรรณกรรมเองก็ตาม การได้รับรู้เรื่องราวของคนในบริบทต่าง ๆ จะทำให้เราเป็นผู้ชายที่นึกถึงผู้อื่นมากขึ้น
หนังสือกลายเป็นของขวัญที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะต้องอาศัยความใส่ใจจากตัวผู้ให้ แถมต้องรู้นิสัยใจคอของผู้รับอยู่บ้าง ยิ่งซื้อหนังสือให้ผู้หญิงที่เรารักสักคนไม่ว่าจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดในวันแม่ที่จะถึงนี้ หรือหวานใจในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เราอาจยิ่งกุมขมับเพราะไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงดี UNLOCKMEN ขออาสารับความยุ่งยากใจตรงนั้นมาจัดการให้เอง! เพราะยิ่งใกล้ช่วงวันแม่แห่งชาติเข้ามา เราก็สนับสนุนให้เลือกสรรของขวัญอย่างหนังสือเป็นอีกทางเลือก (นอกจากดอกมะลิ อาหารเสริม ฯลฯ) แถมเราช่วยเลือกให้ด้วยว่า 5 เล่มไหนที่น่าจะถูกใจผู้หญิงที่คุณรักชัวร์ ๆ ! หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา ผู้เขียน: อุรุดา โควินท์ สำนักพิมพ์: มติชน ถ้าคุณแม่หรือแม่คุณของคุณเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน หรือจะเข้มแข็งก็ไม่ว่า แต่ชอบเสพความงดงามของความสัมพันธ์ หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา คือหนังสือที่คุณควรรีบหยิบใส่ตะกร้าซื้อไปฝากให้เร็วไว เพราะหยดน้ำหวานในหยาดน้ำตาถูกเขียนขึ้นจากความคิด ความรู้สึก ความทรงจำของนักเขียนสาวที่เราลงความเห็นว่ามีภาษาที่งดงามที่สุดอีกคนหนึ่ง หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตาว่าด้วยเรื่องราวชีวิตจริงของ “อุรุดา โควินท์” นักเขียนสาวซึ่งเป็นคนรักของ “กนกพงศ์ สงสมพันธ์” นักเขียนหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จอีกคนของวงการน้ำหมึกไทย หนังสือบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ชีวิตคนสองคนในชั่วระยะหนึ่งของเวลาก่อนความตายจะพรากพวกเขาจากกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเขียนนวนิยาย จนกลายมาเป็น หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา เล่มนี้ UNLOCKMEN บอกเลยว่าไม่อยากให้คุณพลาด ซื้อให้แม่ก็ได้ หวานใจก็ดี รับรองว่าทันทีที่อ่านจบ อ้อมกอดที่มีให้กันจะโอบแน่นขึ้นกว่าเดิม ทำลาย, เธอกล่าว
ได้ยินคำว่า “หนังสือให้ความรู้” เราก็นึกออกแต่หนังสือปกสีเคร่งขรึม เปิดมาเจอตัวอักษรเล็ก ๆ เรียงยาวเหยียดชวนหลับ แต่หนังสือ 5 เล่มที่ UNLOCKMEN ภูมิใจนำเสนอนี้คือหนังสือ 5 เล่ม 5 สไตล์ที่สดใสจี๊ดจ๊าดตั้งแต่หน้าปก (แค่ถือก็คูลแล้ว) แถมอัดแน่นไปด้วยสาระความรู้ที่เรารับรองว่าหาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ ที่สำคัญเป็นความรู้ สาระหนัก ๆ อย่างประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จิตวิทยาแต่อ่านง่าย ภาษาสนุก ทำความเข้าใจได้ในรอบเดียว อ่านจบนอกจากได้ความรู้ ยังได้ความสนุก ได้เรื่องไปเล่าต่อให้คนอื่นฟัง ช่วย UNLOCK ความสามารถในการส่งต่อความรู้ไปสู่วงเหล้า เอ้ย วงเพื่อนไปอีกแบบ ยังไม่ต้องเชื่อหรอก แต่ลองเปิดใจดูสักนิด แล้วเราจะรู้ว่าหนังสือให้ความรู้ ไม่ต้องอ่านแล้วทำหน้ายู่ยี่เสมอไป อ่านไปยิ้มไปได้สาระไปก็ได้ รับรองเลย! ประวัติศาสตร์ความเป็นไทยฉบับไม่น่าเบื่อเหมือนในตำราเรียน ไทยๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ผู้เขียน: ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ สำนักพิมพ์: Salmon Books ได้ยินคำว่าประวัติศาสตร์ ผู้ชายหลายคนก็พร้อมเบือนหน้าหนีแล้ว เพราะความทรงจำวัยเด็กกับตำราเรียนประวัติศาสตร์และการท่องจำปี พ.ศ. นั้นไม่น่าพิศมัยเอาเสียเลย ไทย ๆ
คนประสบความสำเร็จระดับโลก ไม่จำเป็นต้องอ่านอะไรยาก ๆ เสมอไป…