โลกรอบตัวของผู้ชายอย่างเรา มีการเปลี่ยนแปลงและเดินไปข้างหน้าตลอดอยู่เวลา ไม่ว่าจะเป็นโลกของแฟชั่นที่มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเสื้อผ้ารูปแบบต่าง ๆ ให้เราต้องวิ่งตามเทรนด์ตลอดเวลา หรือจะเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น ซึ่งถูกพัฒนาให้เข้ามามีบทบาทในการเป็นตัวช่วยของชีวิตหลาย ๆ ด้าน แต่เวลาเดียวกันก็ยังมีสิ่งที่ยังคงรักษาตัวตนได้เป็นอย่างดี นั้นคือศิลปะและบทเพลงที่ยังคงความเป็นตัวเองได้อยู่เสมอ เชื่อเหลือเกินว่าผู้ชายแต่ละคนต่างมีรสนิยมความชอบในการฟังเพลงแตกต่างกันออกไป บางคนอาจชอบความหนักแน่นดุดันของเพลงร็อก บางคนชอบจังหวะและเนื้อหาโดน ๆ ของเพลงแร็พ บางคนอาจชอบความนุ่มนวลของดนตรีแจ๊ส เพราะประโยชน์ของเพลงนอกจากจะทำหน้าที่ขับกล่อมเป็นเพื่อนเราตลอดการเดินทางแล้ว มันยังเป็นสิ่งบ่งบองคาแรกเตอร์ของรถยนต์ที่เชื่อมต่อตัวเราเข้าไว้ด้วยกันได้อีกด้วย ในขณะที่ยุคสมัยเปลี่ยนผ่านไป แต่ขณะเดียวกันทางค่ายรถยนต์อย่าง BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ก็พร้อมที่จะปรับตัวเข้าสู่ทิศทางใหม่ของการสื่อสาร ด้วยการเลือกสร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ชายอย่างเราได้มากขึ้น รวมถึงมีความสนุกและเป็นที่จดจำมากขึ้น จนเกิดเป็นแนวคิดใหม่ของการเปิดตัวนวัตกรรมทางยานยนต์ของพวกเขาผ่านแคมเปญ Be My World โดยได้ร่วมกับ 3 ศิลปินชื่อดังที่จะเปิดตัวเพลง Be My World พร้อมกับนวัตกรรมยานยนต์ที่จะเชื่อมต่อผู้คน รถยนต์ และบทเพลงให้เป็นหนึ่งเดียวกัน 3 of the Best ถ้าพูดถึงชื่อของศิลปินอย่าง ป๊อด-ธนชัย อุชชิน แน่นอนว่าภาพที่เราคิดคงเป็นนักร้องหนุ่มรุ่นเก๋าผู้ให้แรงบันดาลใจและฝากผลงานเอาไว้มากมาย เพราะเขาคือศิลปินที่มีเอกลักษณ์และถือเป็น Iconic ของยุคสมัยหนึ่งที่แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ทุกครั้งที่ได้ยินน้ำเสียงของเขา เราก็ยังคงจดจำได้เสมอและสำหรับหนุ่ม ๆ สาย HipHop
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของวงการ Electric Vehicle หรือยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้หนุ่ม ๆ อย่างเราได้เห็นพัฒนาการรวมถึงรถพลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมรูปแบบแห่งอนาคตมากมายหลายคัน โดยเฉพาะ Zeus พาหนะสองล้อพลังไฟฟ้าสเปคโหดล่าสุดที่เพิ่งเปิดจอง ส่งตรงจาก Curtiss Motorcycles ค่ายมอเตอร์ไซค์สัญชาติอเมริกันที่ชวนให้ขยับมือกำแฮนด์บิดแน่นเน้น ๆ อย่างไม่รู้ตัวคันนี้ Curtiss Motorcycles คือค่ายผลิตรถมอเตอร์ไซค์เก่าแก่จากสหรัฐอเมริกาที่เดิมใช้ชื่อว่า Confederate Motorcycle ตามประวัติกล่าวว่าความเจ๋งของแบรนด์นี้อยู่ในระดับตำนาน เพราะ GLENN HAMMOND CURTISS ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้คิดค้นระบบเครื่องยนต์ V-twin หรือที่เรียกว่าเครื่องยนต์ V2 สำหรับมอเตอร์ไซค์สัญชาติอเมริกันขึ้นตั้งแต่ปี 1903 (6 ปีก่อนหน้า Harley-Davidson จะหยิบมาทำ) ต่อมาในปี 2017 พวกเขาปรับเปลี่ยนแผนการตลาดหันมาผลิตพาหนะสองล้อที่พึ่งพาพลังงานไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ Zeus ได้แรงบันดาลใจมาจากโมเดลรถที่ได้ชนะรางวัลจากการประกวดในงาน Quail ในปี 2018 ก่อนจะนำมาพัฒนาเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มาพร้อมรูปทรงและเทคโนโลยีแห่งอนาคต รวมทั้งยังสามารถเลือกปรับแต่งตามที่ผู้สั่งซื้อต้องการได้อีกด้วย Zeus ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 140 kw (190 hp) ให้แรงบิดสูงสุด 197 Nm (145 lb-ft) ที่สร้างอัตราการเร่ง 0
โลกยนตรกรรมไม่เคยหยุดนิ่ง รวมถึงยังเหยียบคันเร่งพัฒนาอยู่เสมอจนผู้ชายอย่างเราได้ประโยชน์เต็ม ๆ ทั้งเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวเข้ามามีบทบาทต่อผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการเข้ามาเป็นผู้ช่วยขับขี่อัจฉริยะ รวมทั้งสมรรถนะที่ยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หนุ่ม ๆ อย่างเรามีทางเลือกก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันมากกว่าที่เคย นอกจากเรื่องเทคโนโลยีและสมรรถนะแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบก็ถือเป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะรถยนต์ที่เปิดตัวใหม่ เพราะงานดีไซน์สามารถบอกตัวตนของรถยนต์แต่ละคันให้ประทับอยู่ในใจผู้คนไม่รู้ลืม หลายคนอาจไม่เคยรู้เลยว่ากว่าจะพัฒนาออกมาเป็นรถยนต์โฉมสุดท้ายที่เปิดตัวสู่สายตาผู้คน จะต้องผ่านการกลั่นกรองไอเดียและใช้เวลาออกแบบอย่างละเอียดขนาดไหน วันนี้จึงเป็นโอกาสดีของ UNLOCKMEN ที่ได้คุยกับ Mr. Matthias Junghanns หัวหน้าทีมดีไซเนอร์และผู้ดูแลการออกแบบรถยนต์ในเซกเมนต์ SAV จากค่ายใบพัดสีฟ้าอย่าง THE X7 ที่จะมาเล่าถึงปรัชญาการออกแบบยนตรกรรมคันล่าสุดที่ถือเป็นตำนานบทใหม่ของ BMW เลยก็ว่าได้ ไอเดีย ความใส่ใจและการแข่งขันที่ทำให้เกิดงานดีไซน์ชั้นเลิศ Matthias Junghanns เล่าเรื่องจุดเริ่มตอนการออกแบบ THE X7 ให้เราฟังว่า เดิมทีรถยนต์ในรุ่น X ของ BMWจะถูกมองเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานอย่างคล่องตัว เหมาะสำหรับลุยไปทุกที่เพราะเป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนใหญ่มาในรูปแบบ Compact Luxury SUV หรือ Sub-Compact Luxury SUV แต่สำหรับ
นอกเหนือจากรถสปอร์ต, ซุปเปอร์คาร์ หรือมอเตอร์ไซค์สองล้อคันงาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถกระบะสายแกร่ง และดุดัน คือยานพาหนะอีกประเภทที่ยืนหนึ่งจับจองพื้นที่ความคลั่งไคล้ในหัวจิตหัวใจของชายผู้หลงใหลในเครื่องยนต์อย่างพวกเรา และในช่วงเวลาที่งานแสดงนวัตกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่อย่าง Bangkok International Motor Show 2019 วนเวียนมาบรรจบแบบนี้ เราก็ไม่พลาดที่จะไปเก็บภาพบรรยากาศมาฝาก กับทีเด็ดที่เชื่อว่าชาว UNLOCKMEN ได้เห็นเป็นต้องตาลุกวาว กับบูธของ Mitsubishi Motors ที่ขนเอายนตกรรมต้นแบบความโหดดิบ ตามคำจำกัดความ ‘ABSOLUTELY Beyond Tough’ อย่าง Mitsubishi Triton Absolute มาให้สาวกกระบะแต่งเต็มสายดุ ได้ยลโฉมกันชัด ๆ ในงาน Motor Show 2019 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดย Mitsubishi Triton Absolute คันนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากการออกแบบภายใต้แนวคิด Build-up Robustness ตีบวกเพิ่มความแกร่งดุดันกันแบบเต็มเหนี่ยว ที่มีความโดดเด่นกับมาดคมเข้มสะกดทุกสายตาด้วยตัวถังสีดำสนิท ชูจุดเด่นของงาน Metallic Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความแข็งแกร่งของโลหะด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีเทา-ดำ ตัดกับขอบโครเมียมสีเงินแวววาวที่ล้อมรอบกรอบป้องกันชุดไฟตัดหมอกเอาไว้ พร้อมแผงกันชนคาร์บอนที่ให้อารมณ์ความโหดและความสปอร์ตแบบเต็ม ๆ เสริมด้วยแผ่นกันกระแทกใต้ห้องเครื่องสีเงินตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีดำ-แดง ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดเด่นดึงดูดสายตา
ถึงเวลาซื้อรถทีไร ต้องมีหลายเสียงรอบตัวคอยทักท้วงว่าจะซื้อแพง ๆ ไปทำไม เพราะเมื่อเวลาผ่านไปรถ รถยนต์ที่เคยซื้อไว้จะยิ่งมีแต่ลดราคา ลดมูลค่าลงเรื่อย ๆ จนเกือบไม่เหลืออะไรนอกจากกุญแจและรายจ่าย แต่ถ้าถามกูรูนักสะสมรถตัวจริง คำตอบที่ได้จะแตกต่างอย่างแน่นอน เพราะการซื้อรถบางรุ่นที่คาดการณ์ว่าจะเป็นที่ต้องการในอนาคตนั้น นอกจากราคาจะไม่ลดลงแล้ว กลับยิ่งเพิ่มมูลค่ากลายเป็นกำไรได้ไม่ยาก ซึ่งทุกวันนี้นักสะสมเก็งกำไรจากรถหายากเริ่มมีจำนวนมากขึ้น และการลงทุนในรถหายากเองก็ได้รับการยอมรับว่าทำกำไรได้ดีไม่แพ้การลงทุนประเภทอื่น แม้จะต้องใช้เงินต้นที่สูงมากหน่อย และความรู้ด้านประวัติของรถยนต์แต่ละรุ่นอีกนิด ก่อนงาน Geneva Motor Show ที่ผ่านมา บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน JBR Capital ได้ทำการเปรียบเทียบมูลค่ารถยนต์หลายรุ่นที่เปิดตัวในงาน Geneva Motor Show จากหลากหลายปีที่ผ่านมา และราคาปัจจุบันแพงขึ้นมามูลค่าวันที่ซื้อไป โดยมีทั้งรุ่นที่สองสามปีก็เห็นผลแล้ว หรือบางคันอาจจะใช้เวลามากหน่อย แต่ก็บวกไปเกิน 100% อยู่หลายรุ่นเหมือนกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ผลิตจำนวนน้อย ใช้เวลารอคิวนาน มีเงื่อนไขในการซื้อที่ยุ่งยาก หรือถูกจองหมดไปแล้วตั้งแต่เปิดตัว 10. PORSCHE 911 GT3 (991) Geneva debut: 2013 Price at launch: £110,000 Value now: £110,000
เปิดตัวไปแล้วเรียบร้อยหลังปล่อย teaser ออกมาให้แฟนคลับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Telsa ซึ่งดีไซน์หน้าตาคงไม่ใช่อะไรที่หลายคนประหลาดใจมากนัก เพราะน่าจะเดาทางได้ตั้งแต่แรกแล้ว กับการเอา Model 3 มาขยายให้ดูดีพร้อมพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นแบบ SUV ซึ่งเป็นทรงรถทำเงินที่ตลาดอเมริกาให้ความนิยมแซงหน้ารถ Sedan มาแล้วหลายปี เปิดตัวแบบลับ ๆ ณ โรงงานออกแบบของ Tesla ในเมือง Hawthorne, California ต่อหน้าเจ้าของรถและพนักงานของ Tesla ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เห็นหน้าตาและทราบข้อมูลของ Tesla Model Y ซึ่งเป็นรถ Electric Compact Crossover ขนาดเล็ก แต่รองรับผู้โดยสารได้ 5 ถึง 7 คน ขึ้นอยู่กับรุ่นและรูปแบบการตกแต่งซึ่งสามารถเติมเบาะแถวหลังสุดได้ แต่ต้องแลกกับพื้นที่สัมภาระที่หายไปบางส่วน ภายนอกทั้งรูปทรงและลายเส้นด้านหน้าดูคล้ายกับ Model 3 ผสมกับรูปทรงด้านท้ายของ Model X กระจังหน้าแบบ Grille-less ดูสมกับเป็นรถพลังงานไฟฟ้า แม้จะไม่มีประตู Falcon-wing อันสุดเท่แบบใน Model X เพื่อลดต้นทุน แต่จะได้หลังคา
ถ้าให้พูดถึงไอคอนด้านยนตรกรรมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกก็คงหนีไม่พ้น BMW 3 Series แน่นอน ที่นับได้ว่าเป็นโมเดลที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ BMW ได้เด่นชัดที่สุดในฐานะคอมแพคซีดานตัวแรกที่โดดเด่นด้วยลุคสปอร์ตและสมรรถนะที่ทรงพลังและปราดเปรียวเหนือใคร จนถึงวันนี้ BMW Series 3 ได้ผ่านมาถึง 6 เจเนอเรชั่นแล้ว และยังคงครองตำแหน่งยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมที่ขายดีที่สุดในโลก นอกจากนั้นแล้วยังเป็นรุ่นที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดของแบรนด์ BMW ด้วย โดยมียอดจำหน่ายรวมกว่า 15 ล้านคัน ซึ่งการออกแบบของรถในแต่ละยุคก็เปรียบเหมือนภาพสะท้อนของแฟชั่น ที่ทำให้เราได้เห็นถึงการพัฒนา และการเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงนั้น ๆ 1975-1983 เริ่มกันด้วย BMW 3 Series E21 ต้องย้อนกลับไปที่ปี 1975 ซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยูอีกยุคหนึ่ง และเป็นครั้งแรกที่ BMW 3 Series E21 ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ต้องบอกว่าการเปิดตัวของ BMW E21 นั้น สั่นสะเทือนไปทั้งวงการรถยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยดีไซน์กระจังหน้าที่ค่อนข้างชันและขนาดที่ใหญ่ขึ้น ดูล้ำยุคล้ำสมัยขึ้น และพูดได้ว่ามีสไตล์คล้าย ๆ 5 Series E12 ที่ผลิตอยู่ในช่วงนั้นเพื่อให้มันห่างจากกันมาก ในส่วนของภายใน
ทุกครั้งที่เราเห็นรถยนต์คลาสสิกสุดสวยในวันนี้ ทำให้เราจินตนากรถึงภาพที่หรูหราราวกับถนนที่โรยด้วยกุหลาบในอดีต แต่ในความเป็นจริงแล้วรถยนต์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง World War II หลายคันกลับมีประวัติที่ไม่ได้สบายอย่างที่เราคิด เนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นฟูขาดความเสถียร ประชาชนต้องคิดหนักในการใช้จ่าย รวมถึงวัตถุดิบที่ทีขีดจำกัดเป็นอย่างมาก เรียกว่าจะสร้างอะไรขึ้นมาเหมือนต้องเทเงินทุนกันหมดหน้าตัก เดินหมากผิดนิดเดียวอาจะสะเทือนถึงขั้นล้มละลายได้ เช่นเดียวกับ BMW 507 สุดคลาสสิกคันงามคันนี้ ในอดีตมันคือรถยนต์ที่ทำให้ BMW ต้องสั่นสะเทือนเกือบถึงขั้นล้มละลาย แต่ในวันนี้มันคือหนึ่งใน Iconic Car ประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของ BMW พร้อมมูลค่าซื้อขายที่ไปไกลถึงราว 70 ล้านบาท BMW 507 เป็นรถ Roadster ที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 1956 – 1959 ราว 10 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ Germany แม้หลายบริษัทจะเริ่มฟื้นตัวจากร่องรอยแผลจากสงครามมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมี resource ที่จำกัดมาก ส่งผลถึงค่ายรถยนต์แบรนด์ต่าง ๆ ที่มุ่งผลิตรถยนต์เรียบง่าย ราคาไม่แพง เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น Isetta รถทรงไข่ที่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้คนหันไปเลือกใช้ Scooter ในการเดินทาง
ข่าวดีสำหรับคนที่อยากได้รถสำหรับครอบครัว มีพื้นที่ในการเดินทางกว้างขวางสำหรับลูกคนใหม่ หรือพาพ่อแม่ไปเที่ยวพักผ่อน MG เตรียมเปิดตัว “NEW MG V80” รถยนต์ Passenger Van ขนาด 11 ที่นั่ง ที่มาพร้อมห้องโดยสารกว้าง พร้อมความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัยครบครัน เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์นั่งขนาดใหญ่เพื่อการเดินทางกับครอบครัว หรือในแบบหมู่คณะ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2562 นี้ นับตั้งแต่ MG เปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นแรกสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อปี 2014 ปัจจุบัน MG จำหน่ายรถยนต์ที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง 4 ประตู (Sedan) รถยนต์นั่ง 5 ประตู (Hatchback) และรถเอสยูวี (SUV) โดยได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยเป็นอย่างดี มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทยมากขึ้น ล่าสุดจึงได้เตรียมแนะนำ
รถยนต์ 1 ในตำนานยอดฮิตของผู้ชายทั้งโลก การถือกำเนิดของ AC Cobra หรือ Shelby Cobra ชื่อเรียกสำหรับทำตลาดในอเมริกาซึ่งพวกเราคุ้นเคยกับชื่อหลังมากกว่า เป็นรถที่หาของแท้ได้ยาก แม้จะมีการทำแบบ Replica ขึ้นมามากแค่ไหน แต่ก็ไม่ทำให้ราคามูลค่าของรถดั้งเดิมลดหายไปได้ แม้จะมีความแตกต่างในคาแรคเตอร์มากแค่ไหน แต่สิ่งนึงที่ Shelby Cobra มีเหมือนกับจุดเริ่มต้นของรถยนต์ระดับโลกทุกแบรนด์ นั่นคือความลุ่มหลงที่หมายจะสร้างรถแข่งให้โลกได้จารึกไว้ของ Carroll Shelby ชายผู้มีความเร็วอยู่ในหัวใจ และเป็นผู้ให้กำเนิด Shelby Cobra แก่โลกใบนี้เมื่อ 57 ปีที่แล้ว Carroll Shelby เด็กชาว Texas ที่เกิดมาพร้อมปัญหาลิ้นหัวใจตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ทำให้เค้ามีปัญหาด้านสุขภาพมาโดยตลอด แต่กระนั้นมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาแยก Shelby ออกจากความรักในการแข่งขันรถยนต์ได้ แม้ในวัยหนุ่มเค้าจะยังไม่มีรถเป็นของตัวเอง แต่ก็พยายามไปหยิบยืม Allards ของเพื่อนเพื่อใช้ซิ่งแข่งอยู่เป็นประจำ และนั่นก็ทำให้ Shelby ประทับใจในรถบอดี้น้ำหนักเบาจาก UK ที่ใส่ขุมพลัง V8 บล็อคใหญ่จาก US เข้าอย่างจัง ซึ่งเป็นอิทธิพลที่ทำให้เกิดเป็น Shelby