แม้ผู้ชายหลายคนจะมองนาฬิกา Baby-G จากแบรนด์ดังอย่าง Casio ว่าเป็นนาฬิกาสำหรับผู้หญิงแต่ก็ยังมีผู้จำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบดีไซน์และขนาดของนาฬิกาตระกูล Baby-G เพราะนี่คือนาฬิกาที่มีหลากหลายสไตล์ ทะมัดทะแมง เรียบง่าย มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์แบบ Unisex แถมระยะนี้ยังไปร่วม collaboration กับภาพยนตร์และการ์ตูนที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ชื่นชอบกันอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่แปลกที่ Baby-G จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในปีนี้ Baby-G ก็เดินทางมากว่า 25 ปี นับตั้งแต่ ค.ศ. 1994 Casio จึงไม่พลาดปล่อยนาฬิกาคอลเลกชันพิเศษเพื่อฉลองการครบรอบโดยตัดสินใจจับมือกับการ์ตูนและเกมที่คนทั่วโลกต้องรู้จักอย่าง Pokemon โดยเลือกตัวการ์ตูนสีเหลืองพลังสายฟ้าอย่าง Pikachu โปเกมอนตัวเอกมาเป็นคอนเซ็ปต์หลักของเรือนเวลารุ่นพิเศษ สายนาฬิกาสีดำด้านจะถูกแต่งแต้มด้วย Pokeball กับสายฟ้าขนาดจิ๋วหลากสี จากนั้นสลักตัวเลข 0:25 สีเหลืองตามสีขนของ Pikachu ไว้ตรงบริเวณห่วงรัดสายนาฬิกา โดยลวดลายทั้งหมดจะมาในรูปแบบ pixel สไตล์วินเทจเข้ากับรูปทรงของนาฬิกา ส่วนบริเวณหน้าปัดตรงด้านบนมีชื่อการ์ตูน Pokemon รวมถึงดีเทลเล็ก ๆ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ซึ่งจะเห็นก็ต่อเมื่อกดปุ่มแสงหน้าจอ (เมื่อกด Pikachu จะโชว์ตัวเป็นภาพพื้นหลังของนาฬิกา) แถมฝาหลังจะสลักชื่อการ์ตูนแบบนูนเอาไว้เพื่อย้ำถึงความพิเศษของนาฬิกาคอลเลกชันนี้ คุณสมบัติอื่น ๆ
ในบรรดาสถาปัตยกรรมทั้งหมด คงต้องยอมรับว่า ‘สถาปัตยกรรมภายใน’ เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวผู้ชายเรามากที่สุด มันครอบคลุมตั้งแต่การใช้ชีวิตในบ้านไปจนถึงที่ทำงาน นอกจากจะมุ่งเน้นจัดวางพื้นที่ในอาคารให้ตอบโจทย์ด้านสุนทรียศาสตร์แล้ว ยังเน้นหนักด้านประโยชน์การใช้สอยเพื่อให้ผู้คนที่อยู่แวดล้อมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามมาด้วย แม้แต่ Branch Studio Architects สตูดิโอสถาปัตยกรรมชื่อดังยังนำหลักการออกแบบภายในมาปรับใช้ และแปลงโฉมอาคารบริหารของโรงเรียน Caroline Chisholm College ในเขต Braybrook ของกรุงเมลเบิร์น ให้กลายเป็นผลงานสถาปัตยกรรมสุดเท่ โดยมีกระดาษแข็งทรงกระบอกเป็นพระเอกหลักในการออกแบบ ‘Office Square’ หรือ ‘Piazza Dell’Ufficio’ ในภาษาอิตาลี เป็นอาคารสำนักงานรกร้างที่ไม่ได้ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 1970 เดิมทีผนังอาคารจะดีไซน์เป็นสีฟ้าหม่น มาพร้อมมูลี่สีเบจที่ยิ่งเพิ่มความหม่นหมองขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนที่ Branch Studio Architects จะเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างภายในของอาคารและเนรมิตพื้นที่เก่าเก็บให้กลายเป็นผลงานดีไซน์สุดเท่ สำหรับรองรับแผนกบัญชีและสวัสดิการของโรงเรียน Caroline Chisholm College แห่งนี้ จุดประสงค์ในการออกแบบอาคาร Office Square ไม่เพียงทำพื้นที่ให้เกิดประโยชน์และยกระดับงานดีไซน์ให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น หากสถาปัตยกรรมภายในยังเข้ามาช่วยทำให้การติดต่อสื่อสารของพนักงานและนักเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น บริเวณศูนย์กลางของสำนักงานสร้างเป็นสเปซเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “Clock Tower” จัดวางกระดาษแข็งทรงกระบอกให้โค้งเข้าหากันจนเกิดเป็นมุมพักผ่อนขนาดย่อม ด้านในมีเคาน์เตอร์ทรงโค้งมนที่ดีไซน์มาให้คล้ายกับหน้าปัดของนาฬิกา พื้นที่โดยรอบจะแยกออกเป็นห้อง ๆ
ถ้าจะพูดว่าการออกกำลังกายกับผู้ชาย (บางคน) เป็นของคู่กันก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะในปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้ชายส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น และการออกกำลังกายก็ไม่เพียงช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง หากยังสร้างมัดกล้าม สร้างรูปร่างกำยำล่ำสัน และทำให้ผู้ชายหลายคนดูภูมิฐานขึ้นมาได้ แต่คงต้องบอกว่าสภาพแวดล้อมของฟิตเนสก็มีผลต่อการออกกำลังกายไม่น้อย เพราะฟิตเนสที่มีผู้คนพลุกพล่านและทัศนียภาพไม่เอื้ออำนวย อาจทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนไม่จดจ่อและจริงจังกับการออกกำลังมากเท่าที่ควร จะดีแค่ไหนถ้าพื้นที่ออกกำลังกายของหนุ่ม ๆ มีงานดีไซน์ที่ถูกยกระดับให้เอื้อประโยชน์แก่การออกกำลังกายและทำให้คุณจริงจังกับกิจกรรมเรียกเหงื่อมากยิ่งขึ้น VSHD Design นำสถาปัตยกรรมแนวบรูทัลลิสต์ (Brutalist) มาประยุกต์เข้ากับพื้นที่ออกกำลังกาย จนเกิดเป็น ‘WAREHOUSE GYM’ ฟิตเนสสุดคูลที่ใช้ดีไซน์เรขาคณิตเข้ามาเพิ่มความจริงจังให้กับการออกกำลังกายของหนุ่ม ๆ นี่เป็นฟิตเนสล่าสุดจากบริษัทฟิตเนสแวร์เฮ้าส์ยิม ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าในกรุงดูไบ การออกแบบภายในเน้นหนักรูปทรงเรขาคณิตและแพตเทิร์นเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาจากอิทธิพลของสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์ ไฮไลต์ของฟิตเนสแห่งนี้คือมีการจัดหาดีเจเข้ามาสปินแผ่นเพลงเจ๋ง ๆ พร้อมตกแต่งแสงไฟให้เหมือนไนต์คลับ เพื่อสร้างสิ่งแปลกใหม่ให้กับการออกกำลังกาย VSHD Design ตั้งใจจะสร้างพื้นที่ออกกำลังกายให้มีกลิ่นอายเหมือนอยู่ในห้องใต้ดิน มอบความสงบ เป็นส่วนตัว และใช้งานดีไซน์เคร่งขรึมช่วยกระตุ้นให้ผู้ชายจริงจังกับการออกกำลังมากขึ้น ภายในโดดเด่นด้วยคาน เสา และผนังคอนกรีต พร้อมนำพาร์ติชั่นมากั้นเพื่อแบ่งโซนการออกกำลังกายอย่างเป็นระบบ แทนที่จะใช้การดีไซน์เปิดโล่งเพื่อให้แสงสว่างลอดผ่านเข้ามา ทีมนักออกแบบกลับประดับประดาแสงไฟสปอตไลต์มุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์ออกกำลังกาย หวังปลุกเร้าอารมณ์และสะท้อนภาพลักษณ์ของฟิตเนสดั้งเดิม ทั้งยังติดตั้งกระจกทรงกลมเพื่อให้เกิดพื้นที่ต่อเนื่องแบบ open plan ช่วยให้ผู้ออกกำลังกายรู้สึกว่าฟิตเนสแห่งนี้กว้างขวางและไม่อึดอัดคับแคบ WAREHOUSE GYM ยังเลือกใช้วัสดุและของตกแต่งท้องถิ่นจากส่วนประกอบของธรรมชาติ
กระแสภาพยนตร์ The Joker (2019) ผู้คนกำลังพูดถึงเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอันสุดยอดจากพระเอกอย่างวาคีน ฟินิกซ์ รวมถึงตัวบทและฝีมือการถ่ายทอดอารมณ์ของผู้กำกับท็อดด์ ฟิลลิปส์ที่ดิบเถื่อนและสวยงาม ขณะเดียวกันผู้ผลิตนาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่าง RJ ก็ได้แรงบันดาลใจจากจอมร้ายตัวนี้ในเวอร์ชัน Comics มาถ่ายทอดลงบนนาฬิกาโดยใช้ชื่อว่า The Joker สุดยอดอาชญากรจากเมือง Gotham ดูเหมือนจะเป็นที่ชื่นชอบมากกว่าเกลียดชัง หลังจากปรากฏตัวครั้งแรกในคอมิกส์ Batman เล่มที่ 1 ในปี 1940 นับตั้งแต่นั้นมาโจ๊กเกอร์ก็ปรับเปลี่ยนและพัฒนาออกมาหลากหลายเวอร์ชัน แต่ละเวอร์ชันก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมและเสียงค้านปะปนกันไป อย่างไรก็ตามตัวละครนี้ก็ถูกยกให้เป็นสุดยอดศัตรูตลอดกาลของอัศวินรัตติกาลเป็นที่เรียบร้อย The Joker จาก RJ อยู่ในคอลเลกชัน RJ x Batman Villains โดยมีพื้นฐานจากเรือนเวลารุ่น Arraw มาพร้อมหน้าปัดไทเทเนียม เกรด 5 ขนาด 45 มิลลิเมตรพร้อมกรอบที่สลักเลเซอร์ เป็นลวดลายแพตเทิร์นรูปตัวละครโจ๊กเกอร์ ด้านในเป็นกระจกแซฟไฟร์แบบป้องกันการสะท้อนแสงที่ออกแบบมาอย่างลงตัวสวยงาม พร้อมการป้องกันน้ำลึกถึง 100 เมตร ภายในของกระจกแซฟไฟร์ของ The Joker แต่ละเรือนจะถูกทาสีด้วยมือ ที่มีระบบทำงานแบบ RJ-2042
หลังจากที่คอลเลกชันนาฬิกา Neo-Tokyo ทั้ง 4 เรือนเพิ่งปล่อยออกมาหมาด ๆ G-SHOCK ก็ไม่รอช้า เตรียมคอลแลปส์โมเดลนาฬิกากับ Herschel Supply Co. แบรนด์แฟชั่นยอดฮิตระดับโลก การผสมผสานที่ลงตัวของสองแบรนด์นี้เกิดเป็นเรือนเวลารุ่น ‘Herschel G-Lide’ ที่ถอดแบบความแข็งแกร่งของกองทัพสหรัฐฯ มาได้อย่างแยบยล Herschel นำโมเดลยอดนิยมในหมู่นักโต้คลื่น นักกีฬา และผู้ชายสายสตรีตอย่าง G-SHOCK GLX5600-1 มาเป็นต้นแบบและต่อยอดงานดีไซน์ให้มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น นาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเหลืองอ่อนจากกระจก mineral ที่ผนวกความเท่แบบย้อนยุคและความทันสมัยเข้าด้วยกัน ตัวบอดี้และสายรัดข้อมือของ Herschel G-Lide ห่อหุ้มด้วยเคสเรซิ่นแบบด้านสีเขียวมะกอก สะท้อนกลิ่นอายของเหล่าทหารผู้กล้า พร้อมสลักโลโก้ Herschel Supply ไว้ที่สายนาฬิกา ไฮไลต์ของนาฬิการุ่นนี้คือฝาหลังที่ใช้สเตนเลสสตีลสลักว่า “YOU CAN SURF LATER” ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของทหารอเมริกัน เพราะเป็นประโยคที่มักจะสลักไว้บนซิปโป้ เพื่อให้เหล่าทหารรู้สึกว่าไฟแช็กของพวกเขาเป็นเหมือนเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มอบกำลังใจให้พวกเขาทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงโดยสวัสดิภาพ Herschel G-Lide ยังคงเอกลักษณ์ของฟังก์ชันนาฬิกาจาก G-SHOCK ที่สามารถกันกระแทกและกันน้ำลึก 200 เมตร ใช้เทคโนโลยี Electroluminescent Backlight
ปัจจุบันสมาร์ตโฟนกลายเป็นไอเทมคู่กายของคนส่วนใหญ่ไปเสียแล้ว คู่กายจนบางคนกล้าพูดว่ามือถือของตัวเองเปรียบเหมือนมือที่สามของร่างกายก็ว่าได้ ด้วยความสำคัญของสมาร์ตโฟนในยุคปัจจุบันทำให้มีบริษัทจำนวนไม่น้อยเล็งเห็นความสำคัญของเคสใส่โทรศัพท์และขยันออกลายสวย ๆ มาแข่งให้คนซื้อกันแล้ว ซึ่งตอนนี้มีแบรนด์กล้องแบรนด์หนึ่งไม่ยอมน้อยหน้า ขอบุกตลาดเคสสำหรับมือถือแล้วด้วยเช่นกัน หลาย ๆ คนคงจะรู้จัก Kodak บริษัทชื่อดังสัญชาติอเมริกันที่อยู่ในวงการถ่ายภาพกันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทกล้องฟิล์มที่โด่งดังของแบรนด์ทำให้ขึ้นแท่นยอดขายกล้องฟิล์มในศตวรรษที่ 20 หลังจากนั้นก็ถูกศาลสั่งฟ้องล้มละลายในปี 2012 ถือเป็นบริษัทที่พวกเราทันทั้งยุครุ่งเรืองก้าวสู่จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดไปพร้อมกัน เรื่องราวหลังล้มละลายจากปี 2012 ที่บางคนอาจไม่ได้ตามกันต่อ คือ Kodak ปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ บริษัทขนาดใหญ่ได้กลายเป็นบริษัทที่ไซซ์เล็กลงและเริ่มมองหาลู่ทางในตลาดใหม่ ทั้งตลาดสมาร์ตโฟนไปจนถึงเคสกันรอยและหันมาจับมือกับบริษัทที่อยู่ในวงการมาก่อนอย่าง Case Mate Case Mate เป็นใคร ทำไม Kodak ถึงอยากจับมือด้วยนัก? Case Mate เป็นแบรนด์ผลิตเคสสำหรับสมาร์ตโฟนที่โด่งดังไปทั่วโลก จุดเด่นคือวัสดุพรีเมียมทั้งคริสตัลแท้ไปจนถึงโลหะต่าง ๆ เพื่อเน้นถึงความแข็งแรงของเคส ในด้านดีไซน์ที่แปลกตาบ้างก็เอาไข่มุกมาประดับเอาใจกลุ่มลูกค้าผู้หญิง หรือดีไซน์เท่ ๆ ล้ำสมัยเพื่อกลุ่มผู้ชาย รวมถึงสไตล์วินเทจในวันวานสำหรับวัยรุ่นฮิปสเตอร์ คอลเลกชันเคสที่เกิดจากการ collaboration ระหว่าง Kodak กับ Case Mate ดีไซน์ออกมาในสไตล์วินเทจ โดยตัวชูโรงของคอลเลกชันนี้หนีไม่พ้นเคสโทรศัพท์มือถือสี CI คือสีเหลืองมีเส้นและตัวอักษรสีแดงสีคู่ใจของแบรนด์
ขึ้นชื่อว่าแฟชั่นมักเป็นสิ่งที่ผ่านกระบวนการคิด การสร้างสรรค์ และการออกแบบมาอย่างแยบยล จนใครหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า Fashion Design ล้ำ ๆ ที่เราเห็นโลดแล่นอยู่บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรกันบ้าง? บางครั้ง Fashion Design ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งของรอบตัว เพราะแฟชั่นไม่ใช่แค่เรื่องบนรันเวย์ แต่แฟชั่นอยู่ในทุกสิ่งรอบตัวเรา แม้บางสิ่งจะดูห่างไกลกับคำว่าแฟชั่น จนกระทั่งมีแบรนด์หาญกล้าคว้าเอาแรงบันดาลใจจากสิ่งนั้นมารังสรรค์จนเกิดแฟชั่นไอเทมที่ไม่เหมือนใครและใช้งานได้จริง วันนี้ UNLOCKMEN อาสาพามาสำรวจ “CAMPER Fall/Winter 2019 Collection” คอลเลกชันรองเท้าล่าสุดจาก Camper ที่ถือเป็น Premium Casual Brand เก่าแก่ระดับโลกจากสเปน โดย CAMPER Fall/Winter 2019 Collection ได้แรงบันดาลใจจาก Motor Sports กีฬาที่เต็มไปด้วยความแรง ความเร็ว การแข่งขัน หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับ Motor Sports มากนัก แต่เมื่อ Camper นำมาสร้างสรรค์และตีความใหม่ จากความเร็ว ความแรง ก็นำไปสู่รองเท้าที่เป็นตัวแทนของ Race และ Speed ซึ่งมาพร้อมดีไซน์สุดเท่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองผู้ชอบแฟชั่น แม้ไม่หลงใหลเรื่องการแข่งขันและความเร็วก็สวมใส่เพื่อบ่งบอกตัวตนคู่ไปกับฟังก์ชันการใช้งานที่คล่องตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ Camper รุ่น Pix Camper รุ่น
เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา หนุ่ม ๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเวียนนาเมืองหลวงของประเทศออสเตรียได้เฉือนเอาชนะแชมป์เก่า 7 ปีซ้อนอย่างเมืองเมลเบิร์นของประเทศออสเตรเลีย ขึ้นแท่นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสาร Economist แต่ไม่ต้องเห็นผลการจัดอันดับก็พอทราบอยู่บ้างว่าเมืองเวียนนานั้นมีพื้นฐานการคมนาคมที่เป็นระบบ มีบรรยากาศอบอุ่นน่าอาศัย ทั้งยังมีเทคโนโลยีที่เอื้อประโยชน์ต่อชีวิตของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นเวียนนายังซ่อนกลิ่นอายทางสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์และเสริมเสน่ห์ให้เมืองแห่งนี้ดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น OMA (Office for Metropolitan Architecture) สตูดิโอสถาปัตยกรรมที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1975 โดย Rem Koolhaas สถาปนิกชาวเนเธอร์แลนด์ ออกแบบสถาปัตยกรรมแห่งแรกในกรุงเวียนนาที่มีชื่อว่า ‘THE LINK’ ตั้งอยู่บนถนน Mariahilfe หนึ่งในถนนสายสำคัญใจกลางเมือง THE LINK เป็นทั้งห้างสรรพสินค้าและโรงแรมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์เมือง และเชื่อมโยงเมืองเก่า ผู้คน สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ด้านหน้าดีไซน์ให้เป็นห้างสรรพสินค้า แต่เมื่อเดินลอดผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่เรียงรายด้วยต้นไม้และพื้นที่นั่งสาธารณะ จะสามารถเชื่อมไปยังโรงแรมต่าง ๆ ด้านหลังได้ นอกจากที่นี่จะอัดแน่นไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมมากมาย ยังมีสวนบริเวณชั้นดาดฟ้าที่ครอบคลุมตั้งแต่สวนผลไม้ไปจนถึงลานอาบแดด เพื่อสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ให้ชาวเมืองและเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพโดยรอบเมืองได้อย่างแจ่มชัด การออกแบบภายนอกอาคารจะใช้สีขาวและครีมเป็นหลัก สอดแทรกโครงสร้างที่เป็นแพตเทิรน์เพื่อให้กลมกลืนกับเมืองเก่า พร้อมใช้กระจกใสสร้างความรู้สึกโปร่งโล่งสบายและไม่อึดอัด การออกแบบด้านหน้าอาคารจะสอดแทรกแนวคิดเวียนนาซีเซสชัน (Vienna Secession) ที่ได้อิทธิพลจากศิลปินระดับตำนานอย่าง
การออกแบบพื้นที่พักอาศัยนับเป็นอีกหนึ่งผลงานสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญไม่น้อย ไม่เพียงสร้างสเปซเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้พักอาศัยในแง่ฟังก์ชัน แต่ยังต้องสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ เพื่อมอบประสบการณ์การพักอาศัยเหนือระดับและนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญปัญหาโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลาย และการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม เหล่าสถาปนิกและสตูดิโอสถาปัตยกรรมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด หากขบคิดและสร้างสรรค์ไอเดียการออกแบบโดยหยิบนำ ‘ธรรมชาติ’ มาผนวกเข้ากับงานดีไซน์ จนได้ออกมาเป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่เล็งเห็นทั้งคุณค่าของชีวิตและคุณค่าของธรรมชาติ BIG สตูดิโอสถาปัตยกรรมเจ้าดังได้ดีไซน์ ‘KING TORONTO’ สถาปัตยกรรมเรือนกระจกกลางกรุงโตรอนโตที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ตั้งอยู่ในย่าน King West ที่ตรอกซอกซอยทะลุถึงกันได้หมด แถมยังเป็นย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของแคนาดา ผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นนี้ซ่อนกลิ่นอายบรูทัลลิสต์ เน้นหนักในการใช้แพตเทิร์นเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา โดยได้อิทธิพลมาจากผลงาน Habitat 67 ในกรุงมอนทรีออลที่ดีไซน์โครงสร้างให้เป็นสามมิติ แต่จะต่างตรงที่ KING TORONTO เลือกใช้บล็อกแก้วโปร่งใสแทนบล็อกคอนกรีต บล็อกแก้วโปร่งใสนั้นทำให้มองเห็นการตกแต่งภายในของตัวอาคารได้เป็นอย่างดี แถมยังนำต้นไม้น้อยใหญ่มาผสมผสานกับงานดีไซน์ มีการปลูกต้นไม้ตามระเบียง ปลูกพืชเกาะผนังตามฟาซาด และสอดแทรกพื้นที่สีเขียวไว้ตามจุดต่าง ๆ ของอาคาร ธรรมชาติสีเขียวถือเป็นอีกหัวใจของโครงการ KING TORONTO เพราะนอกจากจะมอบบรรยากาศร่มรื่นให้กับผู้พักอาศัยแล้ว ยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวโดยไม่ปิดบังทัศนียภาพโดยรอบมากจนหนาทึบและน่าอึดอัด ด้านการตกแต่งภายในก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ด้านนอกเลย ภายในอาคารได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวียนสมัยใหม่ เน้นการใช้วัสดุเรียบง่ายอย่างพื้นไม้ ผนังสีขาว และหินสีขาว เพื่อสะท้อนความอบอุ่น ดูเรียบง่าย แต่ยังคงทันสมัยพร้อมก้าวไปในทุกยุค นอกจากนั้นเพนเฮาส์แห่งนี้ยังมีสระว่ายน้ำในร่ม
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่หลงใหลรถยนต์คลาสสิก ไม่ว่าจะค่ายไหน รุ่นอะไร หนึ่งในช่วงเวลาที่ชื่นชอบมากที่สุดอาจไม่ใช่การขับขี่รถคันโปรดของเราเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นช่วงเวลาที่เรากำลังคืนสภาพหรือดัดแปลงให้รถคันนั้น ๆ เสร็จสมบูรณ์ออกมาตามรูปแบบที่เราต้องการ นั่นเป็นเหตุให้เราได้เห็นรถยนต์คลาสสิกมากมายถูกคืนสภาพกลับแบบโคตรสวยงาม ล่าสุดคือ Chevrolet Camaro รุ่นปี 1969 มาพร้อมฉายา Z/409 ที่ไม่เหมือนใครคันนี้ Chevrolet Camaro ‘Z/409 เป็นผลงานการคัสตอมของ Classic Cars Investment ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานเรนเดอร์ของรถจากปกของนิตยสาร Hot Rod ฉบับเดือนกันยายน ปี 2009 ผลงานการออกแบบของ Steve Stanford ที่สร้าง Chevrolet Camaro ออกมาเป็นอเมริกันมัสเซิลคาร์ที่ต่างแตกจากคันอื่น โปรเจกต์เริ่มจากการซื้อ Chevrolet Camaro รุ่นปี 1969 ก่อนจะคัสตอมด้วยการเปลี่ยนดีไซน์ของรถให้ออกมาเป็นแบบที่ต้องการ “Z/409” คันนี้เปลี่ยนมาใช้ชิ้นส่วนและดัดแปลงด้วยการดึงเอาส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์สไตล์อเมริกันมัสเซิลคาร์จากยุค 60’ มาสร้างเป็นรถที่มีสไตล์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ด้านหน้าตัวรถที่ได้แรงบันดาลใจจาก Chevrolet Bel Air ปี