‘STAR WARS’ ภาพยนตร์สงครามจักรวาลที่เข้าฉายครั้งแรกในวันที่ 25 พฤษภาคม 1977 ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เราเชื่อว่าพล็อตเรื่องที่เล่าถึงจักรวาลสมมติบวกกับการต่อสู้ฟาดฟันของเหล่ามนุษย์ต่างดาวหลากเผ่าพันธุ์ คงยังฝังอยู่ในความทรงจำวัยเด็กของหนุ่ม ๆ หลายคน UNLOCKMEN เลยอยากพาพวกคุณย้อนวันวาน ไปชมคอลเลกชันเฟอร์นิเจอร์สุดเฟี้ยวที่ผสมผสานคาแรกเตอร์ตัวละครใน STAR WARS รูปแบบงานดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้สอยออกมาอย่างลงตัว บอกเลยว่าโคตรเท่ โคตรคูล และคงช่วยให้หนุ่ม ๆ คลายความคิดถึงที่มีต่อหนังจักรวาลอันดับหนึ่งในใจเราได้อย่างดี Kenneth Cobonpue ดีไซเนอร์ชาวฟิลิปปินส์ร่วมมือกับ DISNEY สร้างคอลเลกชันเฟอร์นิเจอร์จากการตีความคาแรกเตอร์ตัวละครใน STAR WARS ถอดแบบความเท่และเอกลักษณ์ออกมาจากหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ได้แบบไม่ผิดเพี้ยน คอลเลกชันชุดนี้ประกอบไปด้วยเก้าอี้นั่ง 3 ตัว โคมไฟ 1 โคม และเก้าอี้โยกอีก 1 ตัว ความโดดเด่นของตัวละครถือเป็นแรงบันดาลใจหลักในการรังสรรค์ผลงาน แม้กระนั้นการดีไซน์โครงสร้างและวัสดุที่ใช้ก็ต้องแข็งแรงทนทานและสอดคล้องกับฟังก์ชันการใช้งานที่ต่างกันด้วย Kenneth Cobonpue ผนวกความเท่ สไตล์ตัวละคร และเทคนิคการสร้างเฟอร์นิเจอร์เข้าด้วยกัน หวังจะจำลองจักรวาล STAR WARS ออกมาเพื่อแฟนหนังที่คลั่งไคล้แฟรนไชส์เรื่องนี้ ตัวแรกเป็น The Chewie Rocking
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเลยว่าหลาย ๆ เมืองเริ่มคิดแผนปรับปรุงและวางผังเมืองเพื่อรองรับการใช้รถใช้ถนนอย่างจริงจัง แต่ BICYCLE ARCHITECTURE BIENNALE (BAB) ยังคงกล้าหาญที่จะจัดนิทรรศการประจำปี เพื่อแสดงงานสถาปัตยกรรมที่ช่วยยกระดับทางจักรยาน หวังเปลี่ยนชุมชนทั่วโลกให้ดีขึ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้คนหันมาใช้จักรยานสองล้อมากกว่ารถยนต์พ่นควัน ปี 2019 นี้นับเป็นปีที่สองของนิทรรศการดังกล่าว BAB ได้คัดเลือกนักออกแบบจากทั่วทุกมุมโลกที่เห็นความสำคัญของจักรยาน มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานสถาปัตยกรรมครั้งนี้ ซึ่งในปีนี้มีทั้งหมด 15 โปรเจ็กต์จาก 9 ประเทศถูกเลือกเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการของ BIENNALE โดยมี Routes, Connections และ Destinations เป็นธีมหลักในการดีไซน์ สถาปัตยกรรมของแต่ละเมืองล้วนมีรูปลักษณ์ ฟังก์ชัน และเสน่ห์แตกต่างกัน แต่ทั้ง 15 โปรเจ็กต์ต่างเผยให้เห็นความหลากหลายของวิถีชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมต่างที่ ทั้งยังถ่ายทอดความสมดุลระหว่างการเคลื่อนไหวและชุมชนพักอาศัยออกมาได้อย่างสมบูรณ์ CYCLING AND PEDESTRIAN CONNECTION (Barcelona, Spain) COFFEE & BIKES (Delft, the Netherlands) CURTIN BIKE HUB (Perth, Australia) XIAMEN
คงจะจริงกับประโยคที่ว่า “การ์ตูนและภาพยนตร์ไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้” เพราะสิ่งที่ UNLOCKMEN ได้พบเจอและหยิบมานำเสนอคือเรื่องราวสุดเท่ของชายคนหนึ่งที่สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์สุดล้ำอย่างชุดเกราะ Iron Man เพื่อเติมเต็มความชอบของเขา ผู้สร้างชุดเกราะที่ว่าคือ Adam Savage ชายที่เป็นทั้งอดีตพิธีกร Mythbuster เป็นทีมผู้สร้างสเปเชียลเอฟเฟกต์ให้กับสตูดิโอ George Lucas ที่โด่งดังมาจากหนังเรื่อง Star Wars และปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็น Youtuber มีช่องเป็นของตัวเอง ซึ่งคลิปส่วนใหญ่ที่เขานำเสนอคือโปรเจกต์ DIY ผลงานเท่ ๆ มาให้ได้รับชมกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นเกอิชาจากเรื่อง Ghost in the Shell (2017) หรือปืนพกสุดล้ำจากแอนิเมชันที่สร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Blade Runner 2049 (2017) และครั้งนี้ผลงานชิ้นโบแดงของอดัมกำลังจะทำให้เขาดังเป็นพลุแตกมากกว่าเดิม เหตุที่บอกว่า Adam กำลังจะกลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นไปอีกนั้นเป็นเพราะช่อง Discovery Channel ได้นำผลงานที่น่าทึ่งของเขามาสร้างเป็นซีรีส์แปดตอนชื่อ Savage Build เราจะเห็น Adam สร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ร่วมกับทีมวิศวกร เช่น การดัดแปลงอุปกรณ์ของกองทัพอังกฤษ หรือแม้แต่ดัดแปลงรถใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง Mad
โลกธุรกิจวันนี้ คนที่อุ้ยอ้ายและปรับตัวได้ช้าที่สุดจะได้รับผลกระทบมากกว่าชาวบ้านเสมอ ต่อให้ใหญ่ค้ำฟ้าแค่ไหนก็มีโอกาสถูกเขี่ยทิ้งไปอยู่ด้านหลังได้ทันที ดังนั้น การปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ แม้จะต้องลงทุนด้วยเงินมูลค่ามากมายแค่ไหนก็ตาม เจ้าของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างรู้ดีว่าจำเป็นต้องแลกมา ครั้งนี้เราขอเจาะปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกเรื่อง “โค่นบรรจุภัณฑ์พลาสติก” กันก่อน ใครที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ หรือต่อให้เป็นผู้บริโภคเองก็ตาม เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องสนุก ๆ ที่ทำให้คุณได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดเรื่องนี้อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจทั้งเรื่องการลงทุนและบริโภคของตัวคุณเอง NEW WAVE FROM CONSUMER สำหรับคนค้าขาย พอคนหันไปนิยมอะไร มันก็ยากที่เราจะทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน เพิกเฉยต่อสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะถ้าคลื่นลูกนั้นถาโถมใส่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายหลักของเรา ยิ่งเมื่อการแข่งขันเรื่องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าใน พ.ศ. นี้กลายเป็นแกนของการทำธุรกิจแล้ว การสร้างแบรนด์ตัวเองให้เป็นผู้นำเรื่องทัศนคติบวก ๆ รับผิดชอบต่อสังคมจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะคนทุกคน “ไม่มีใครอยากโดนเอาเปรียบ หรืออยากอุดหนุนแบรนด์ที่เอาเปรียบคนอื่น” กลับมาที่เรื่องบรรจุภัณฑ์อีกที ในช่วงสองปีที่ผ่านมากระแสการต่อต้านพลาสติกเริ่มรุนแรงขึ้นเพราะผู้คนตระหนักเรื่องผลกระทบทางธรรมชาติ ทั้งเรื่องโลกที่เพิ่มอุณหภูมิ ไปจนถึงเรื่องปลาวาฬที่ตายปริศนาจนเมื่อผ่าพิสูจน์แล้วพบว่าในท้องเต็มไปด้วยถุงพลาสติก ทั่วโลกจึงให้ความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยหันมาจริงจังกับการดูแลสิ่งแวดล้อม แล้วพวกเขาใช้อะไรเข้ามาทดแทนพลาสติก แบรนด์ไหนบ้างที่จับกระแสนี้อยู่หมัด UNLOCKMEN นำมาฝากด้านล่างแล้ว 2019 MATERIALS FOR PACKAGING PAPER ถึงแม้กระดาษจะไม่ดังเปรี้ยงปร้างอีกต่อไปในธุรกิจสิ่งพิมพ์ แต่ในวิถีของ Packaging วันนี้ยังไงก็มาแน่ ๆ
สำหรับลูกผู้ชายอย่างเราพ่อคือต้นแบบของการกระทำหลาย ๆ อย่าง เขาทำให้เราอยากเก่งแบบเขา อยากเท่เหมือนเขา และอยากแข็งแกร่งให้ได้ครึ่งหนึ่งของเขา ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่หล่อหลอมให้เรากลายเป็น ‘เรา’ ในวันนี้ ส่วนหนึ่งก็ได้มาจากพ่อ แม้จะไม่ใช่คนอุ้มท้อง ไม่ใช่ต้นกำเนิดของน้ำนม และไม่ใช่แม้กระทั่งคนที่นอนให้ซบหน้าอกจนหลับไป แต่เชื่อว่าความรักของพ่อที่มีต่อลูกชายไม่ได้มีน้อยไปกว่าความรักจากแม่แม้แต่น้อย UNLOCKMEN เลยอยากพาลูกชายของคุณพ่อทุกคนไปซึมซับความรักและไปดูอีกมุมหนึ่งของคนผู้เป็นพ่อผ่านคอลเลกชันภาพถ่าย ‘THE FRAGILITY OF FATHERHOOD’ ของ TROY COLBY ที่อาจทำให้คุณรู้สึกเฉย ๆ ทำให้คิดถึงพ่อ หรือทำให้รู้ว่าบางครั้ง ‘พ่อ’ ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเสมอไป เมื่อมีลูก ความเครียดและความวิตกกังวลก็ถาโถมเข้าใส่คุณพ่อหลายคนอย่างจัง แม้การมีลูกจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเลี้ยงลูกนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน สำหรับ TROY COLBY ช่างภาพอเมริกันวัย 43 ปีคนนี้ก็คงไม่ต่างกัน อายุที่เพิ่มขึ้น ความกังวลใจของเขาก็เพิ่มตามมาด้วย เป้าหมายที่จะทำตัวเข้มแข็งและไร้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ กลับไร้ผล เพราะเมื่อมีลูกจริง ๆ ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป ซึ่งเขาเองก็ยอมรับว่าเพศพ่อนั้นอ่อนแอได้เหมือนกัน โลกที่เปิดกว้างจนชายและหญิงเท่าเทียมกันทำให้บทบาทของพ่อในปัจจุบันต่างจากอดีต พ่อไม่จำเป็นต้องหาเลี้ยงครอบครัวและเป็นนักล่าประจำชนเผ่าเหมือนแต่ก่อน และความคิดที่ว่า “พ่อทำอะไรให้ลูกน้อยกว่าแม่” จึงผุดขึ้นในหัวของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะช่างภาพเขาจึงเลือกจะหมุนเลนส์กล้องที่เคยจ่อไปที่ธรรมชาติ ผู้คน
IKEA เปิดตัวโครงการความร่วมมือกับแบรนด์และดีไซเนอร์พันธมิตร (Collaboration Projects 2020) จาก ทั่วโลก โดยครั้งนี้เลือกจับมือ GREYHOUND ORIGINAL แบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์จากเอเชียตะวันออก-เฉียงใต้เพียงแบรนด์เดียว สร้างสรรค์คอลเล็คชั่นพิเศษ SAMMANKOPPLA/ซัมมันคอปล่า ซึ่งแปลว่าความเชื่อมโยง หรือเชื่อมต่อ เตรียมวางจำหน่ายในสโตร์อิเกียทั่วโลกปี 2563 IKEA ให้ความสำคัญและสนใจในความหลากหลายของวัฒนธรรม ตลอดจนมุมมองการใช้ชีวิตในบ้านซึ่งแตกต่างกันไปทั่วโลก เห็นได้จากการสร้างสรรค์สินค้าคอลเล็คชั่นพิเศษมากมายที่เกิดจาก การร่วมงานระหว่างนักพัฒนาสินค้าและดีไซเนอร์อิเกียกับดีไซเนอร์และพันธมิตรจากวงการออกแบบในประเทศต่างๆ ทั้งอเมริกาใต้ อินเดีย และแอฟริกา ครั้งนี้ อิเกียได้มุ่งความสนใจมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมองหาแนวคิดที่สดใหม่ในการนำเสนอสินค้าตกแต่งบ้านที่รองรับ การใช้งานหลากหลายหรือมัลติฟังก์ชัน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในเมืองในบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ลาเซีย เชอร์ล็อก รองผู้บริหารฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ไทย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากที่ได้รู้ว่านักพัฒนาสินค้าของอิเกียกำลังร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ชื่อดังซึ่งเป็นแบรนด์ไทยแท้อย่าง “เกรฮาวด์” สำหรับพวกเราที่อยู่ในไทย เราเห็นการเติบโตของเกรฮาวด์จากแบรนด์แฟชั่นขยายตัวสู่ธุรกิจอื่น เช่น คาเฟ่ และปัจจุบันก็ก้าวขึ้นเป็นผู้นำแบรนด์ไลฟ์สไตล์ และตอนนี้ทีมครีเอทีฟของอิเกียและเกรฮาวด์ก็กำลังร่วมกันพัฒนาคอลเล็คชั่นใหม่ที่จะเพิ่มสีสัน และเติมความเท่ในสไตล์อินดัสเตรียลให้สโตร์ของเราอยู่” ภาณุ อิงคะวัต ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์กลุ่มบริษัทเกรฮาวด์ เล่าถึงความรู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจเมื่อได้รับการติดต่อจากอิเกีย สวีเดนให้มาร่วมงานกันเป็นครั้งแรกเมื่อสองปีที่ผ่านมา “ใครจะคิดว่าอิเกียแบรนด์ระดับโลกจะรู้จักเรา และจะติดต่อเราเพื่อชวนให้มาทำคอลเล็คชั่นด้วยกัน!” แต่เมื่ออิเกียติดต่อมาอีกครั้งจึงตอบอีเมลกลับไป แล้วจากวันนั้น ทีมของเราก็ได้รับโอกาสสำคัญใน การทำงานร่วมกับไมเคิล นิโคลิก
ปัญหาเรื่องความสูงกับผู้ชายอย่างเราเป็นสิ่งที่น่าเหนื่อยใจและชวนท้อแท้ยิ่งนัก พูดไปคนสูงโปร่งก็คงไม่เข้าใจว่าประสบการณ์ที่ต้องสูดลมหายใจภาคพื้นดินมันเป็นอย่างไร ยิ่งเวลาที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน อย่าหวัง! ว่าจะได้มองเห็นอะไรต่อมิอะไรเบื้องหน้า เพราะไอ้ผู้ชายตัวสูงคนอื่น ๆ ยืนบังเราจนมิด ถือซะว่าเป็นความซวยของผู้ชายรูปร่างสันทัดแบบเราแล้วกัน ที่ไม่เคยได้รับโอกาสให้สูดอากาศบริสุทธิ์จากชั้นโอโซนด้านบนอย่างใครเขาเลย ถึงจะโทษกรรมพันธุ์จากบิดามารดรและพฤติกรรมการกินนมในตอนเด็กก็คงไม่ทำให้ความสูงของเราเพิ่มขึ้นมาสักฟุตสองฟุตได้ วันนี้เราเลยเอาของเล่นเจ๋ง ๆ ที่ช่วยทำให้วิสัยทัศน์ของหนุ่ม ๆ กว้างไกลยิ่งขึ้นมาฝากชาว UNLOCKMEN ทุกคน ตั้งแต่นี้เรื่องความสูงจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ชายอย่างเราอีกต่อไป! ONE FOOT TALLER แว่นตาปริทรรศน์กับมุมมองใหม่ที่สูงกว่า โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Dominic Wilcox ดีไซเนอร์ชื่อดังของลอนดอนถูกท้าทายจาก Microsoft Surface ให้ออกแบบแกดเจ็ตที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันเพื่อเอาไปจัดแสดงในนิทรรศการของกรุงลอนดอน Dominic Wilcox จึงสร้างสรรค์แว่นปริทรรศน์หรือแว่นเพอริสโคปสุดกวน โดยนำศิลปะมาประยุกต์กับงานดีไซน์ งานคราฟต์ และเทคโนโลยี จนได้ออกมาเป็น ONE FOOT TALLER แว่นตาที่ทำให้มุมมองของคนตัวเตี้ยเปลี่ยนไปตลอดกาล แรงบันดาลใจที่จุดไฟงานดีไซน์ครั้งนี้เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เขาเคยไปเข้าร่วมเทศกาลดนตรี แล้วมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อชะเง้อคอมองเวทีที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่เป็นผลเมื่อถูกบดบังจากคนที่ตัวสูงกว่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดค้นแว่นตาอัจฉริยะที่ช่วยให้คนตัวเตี้ยมองเห็นอะไรที่ไม่เคยได้เห็น ตัวแว่นด้านบนทำจากกระจกอะคริลิกสะท้อนแสงที่โค้งงอ 45 องศา และทำมุมกับกระจกแว่นที่อยู่บริเวณดวงตาของผู้สวมใส่ ทำให้สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าได้อย่างง่ายดายแม้จะมีสิ่งกีดขวาง ดู ๆ แล้วลักษณะการดีไซน์คล้าย ๆ กับกล้องเรือดำน้ำที่ถึงจะอยู่ใต้น้ำก็มองเห็นสิ่งที่อยู่บนน้ำได้
BAHÁ’Í TEMPLE OF SOUTH AMERICA เป็นวิหารรูปทรงแปลกตาในสาธารณรัฐชิลีที่ถูกคัดเลือกจาก Royal Architectural Institute of Canada (RAIC) ให้เข้ารับรางวัลระดับนานาชาติในฐานะสถาปัตยกรรม transformative ซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์ของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตให้กับคนชุมชน วิหารรูปโดมแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Hariri Pontarini Architects บริษัทสถาปนิกชื่อดังของเมืองโตรอนโต นี่เป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการเลือกบริษัทสัญชาติแคนาดาให้เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ พื้นที่กว่า 25 เอเคอร์ ในแถบชานเมืองซันติอาโกถูกเลือกเป็นที่ตั้งของวิหาร BAHÁ’Í TEMPLE OF SOUTH AMERICA จากที่ตั้งในจุดนี้คุณสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบของเมืองหลวงได้ไกลสุดลูกหูลูกตา พร้อมชื่นชมความงามของเทือกเขาแอนดีสที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง วิหารแห่งนี้เป็นวิหารลำดับที่ 8 และเป็นวิหารหลังสุดท้ายในทวีปที่สร้างขึ้นสำหรับศาสนิกชนผู้ศรัทธาในศาสนาบาไฮ แต่ถ้าหนุ่ม ๆ หลายคนจะไม่คุ้นชื่อศาสนานี้ก็คงไม่แปลกนัก เพราะเพิ่งเกิดขึ้นบนโลกเมื่อ 100 ปีก่อน เราจะขยายความให้ฟังอีกนิดว่าบาไฮเป็นศาสนาที่เชื่อว่าทุกคำสอนจากทุกศาสดาคือสิ่งที่ดี จุดประสงค์ในการออกแบบวิหารแห่งนี้คือสร้างขึ้นเพื่อต้อนรับผู้คนโดยไม่คำนึงถึงความศรัทธาด้านศาสนา และตัวอาคารก็ถูกดีไซน์มาให้เปิดกว้างตามคอนเซ็ปต์ที่ทีมสถาปนิกตั้งใจไว้ แถมก่อนที่จะสร้างขึ้นจริงยังต้องใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ในการวัด เพื่อให้วิหารแปลกประหลาดหลังนี้เปลี่ยนแปลงรูปร่างเพื่อรับมือกับแผ่นดินไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายนอกของวิหารถูกห่อหุ้มด้วยแผงกระจกรูปทรงปีกนกแก้ว ปีกทั้ง 9 ปีกถูกร้อยเรียงและมาบรรจบกันตรงจุดมงกุฎด้านบนของวิหาร สร้างสรรค์เลเยอร์ด้านนอกด้วยกระจก borosilicate กว่า 1,129 ชิ้น
ความเท่เป็นอะไรที่ต้องมาคู่กับผู้ชายอย่างเราเสมอ นอกจากแจ็คเก็ตหนังหรือผมทรงควิฟที่ช่วยเพิ่มมาดเท่ ๆ ให้กับหนุ่ม ๆ ไอเทมอีกชิ้นที่ขาดไม่ได้เลยคือแว่นกันแดดที่ช่วยกรองทั้งแสง UVA และ UVB แต่คุณสมบัติในการกันแดดของมันอาจเป็นเรื่องรอง ถ้าเทียบกับความเท่เฉียบเนี้ยบในขณะที่สวมใส่ ต่อให้มิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าได้เห่ยสุด ๆ แต่สวมแว่นกันแดดเจ๋ง ๆ สักอันก็เอาอยู่แล้วละครับ วันนี้ UNLOCKMEN เลยยกความเท่ของแว่นกันแดดที่พระเอกคนดังระดับตำนานเขาใส่กัน มาให้หนุ่ม ๆ ของเราดู จะหล่อและคูลขนาดไหน ไปดูกัน! OLIVER PEOPLES 523 (FIGHT CLUB, 1999) แว่นตาสุดแปลกในภาพยนตร์ตลกร้ายลึกลับ FIGHT CLUB ที่พูดถึงปรัชญาช่างแม่งหรือแนวคิดสุญนิยม ไม่เชื่อและไม่ยอมรับระบบคุณค่าใด ๆ แถมยังนำเสนอความเบื่อหน่ายของชีวิตที่นำไปสู่ความมืดมิด และความรุนแรงจากการปลดปล่อยสัตว์ร้ายในตัวมนุษย์ นอกจากความเจ๋งของหนังแห่งอุดมการณ์ ในเรื่องนี้ยังมีแว่นตาเท่ ๆ อีกอันที่หนุ่ม Brad Pitt ใส่เกือบตลอดทั้งเรื่อง แว่นรุ่นนี้คือ OLIVER PEOPLES 523 แว่นกันแดดรุ่นเก๋าสัญชาติอเมริกันที่ผลิตออกมาตั้งแต่ปี 2000 มาพร้อมรูปทรงประหลาดสะท้อนมาดกวน ๆ และความกล้าบ้าบิ่น มีทั้งกรอบสีเงินกับเลนส์สีแดงเลือดนกและกรอบสีเงินกับเลนส์สีส้ม
สงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐอเมริกาไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ในประเด็น Talk Of The Town ในกรณีของ Huewei กับ Google เพียงเท่านั้น ทว่าความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจครั้งนี้อาจส่งผลโดยตรงต่อเหล่าหนุ่ม ๆ ผู้หลงใหลรองเท้าทั่วโลกด้วย เมื่อสินค้าประเภทรองเท้าถูกใส่เป็นหนึ่งในรายชื่อสินค้าที่ถูกเพิ่มกำแพงภาษี หาก Trade War ครั้งนี้ยังดำเนินต่อไป สนีกเกอร์เฮดอย่างเรา ๆ อาจต้องเผชิญกับราคารองเท้าที่เพิ่มสูงขึ้น ขึ้นภาษีในฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุด หลังสหรัฐอเมริกาเปิดเผยรายชื่อสินค้ากว่า 6,000 รายการที่กำแพงภาษีเพิ่มขึ้นอีก 25 เปอร์เซ็นต์ โดยคิดเป็นเป็นมูลค่ารวมกว่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เหล่าสนีกเกอร์เฮดก็ต้องกุมขมับเพราะสินค้าอย่างรองเท้าก็ถูกบรรจุอยู่ในรายชื่อสินค้าขึ้นภาษีเหล่านั้นด้วย เดือดร้อนถึงบริษัทผู้ผลิตรองเท้ากว่า 173 แห่งต้องร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึก เพื่อพูดถึงผลกระทบที่ผู้ผลิตและผู้บริโภคจะต้องพบเจอจากนโยบายครั้งนี้ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพราะกำแพงภาษีที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อตลาดรองเท้าในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกอย่างแน่นอน Footwear Distribution and Retailers of America (FDRA) หรือองค์กรนำเข้า-ส่งออกรองเท้าแห่งสหรัฐอเมริกาเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกที่แบรนด์รองเท้ายักษ์ใหญ่ทั้ง Nike, Adidas, Converse, Under Armour, Foot Locker, Clarks, Crocs,