ผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับงาน NBA Hall of Fame 2018 ซึ่งปีนี้มีอดีตผู้เล่นชื่อดังมากมายถูกรับเลือกให้เข้าสู่หอเกียรติยศ ไม่ว่าจะเป็นยอดการ์ดจ่ายอย่าง Steve Nash กับ Jason Kidd รวมไปถึงมือปืนระดับตำนานอย่าง Ray Allen ซึ่งดูจะพิเศษกว่าคนอื่นเมื่อได้เข้าทั้งหอเกียรติยศ แถมยังมีชุดของขวัญพิเศษหนึ่งเดียวจาก Air Jordan แบรนด์รองเท้าที่เขาใส่สมัยเป็นผู้เล่นให้อีกด้วย อดีตสตาร์ดังของวงการยัดห่วงจงรักภักดีต่อ Air Jordan เป็นอย่างมาก ไม่เคยเปลี่ยนยี่ห้อรองเท้าเลยตลอดระยะเวลาที่เล่นอยู่ในลีก โดยในยุคแรกเขาเป็น 1ใน 5 ผู้เล่นที่ถูก Michael Jordan เลือกให้ใส่รองเท้าของแบรนด์และประสบความสำเร็จมากมาย ได้แชมป์ NBA 2 สมัยปี 2008 และ 2013 ติดทีม All-Star 10 สมัย และทำลายสถิติการยิง 3 แต้มอีกมากมาย ซึ่งมันเป็นเหมือน Signature ส่วนตัวในสมัยโลดแล่นอยู่บนสนาม ทำให้ Air Jordan ตอบแทนความภักดีของเขาด้วยชุดรองเท้า
ถ้าพูดถึง New York Yankees ภาพแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวผู้ชายอย่างเราคงจะเป็นหมวกเบสบอลทรงกลมกับสัญลักษณ์ตัว NY วางเด่นไว้กลางหมวกมากกว่าจะพูดถึงทีมเบสบอล รวมถึงเสื้อผ้าแฟชั่นของเค้าก็ถือว่าเด็ดไม่แพ้ใคร วันนี้ Yankees Logo กำลังกลับมาอีกครั้งพร้อมการร่วมงานกับแบรนด์หรูอย่าง Gucci แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อะไรกันที่ทำให้โลโก้ตัวแทนทีมกีฬากลายมาเป็น Pop-culture ในยุคสมัยหนึ่ง แถมยังสอดแทรกอยู่ไลน์แฟชั่นตลอดมา เราจะเริ่มจาก Background ตรงนี้สักเล็กน้อย เพราะถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แรกเริ่มสัญลักษณ์ N และ Y ที่เราเห็นกันจนชินตาไม่ได้ถูกวางทับกันเอาไว้ แต่มันถูกวางแยกกัน โดยเดิมทีสัญลักษณ์ Yankees Logo ที่เราเห็นกันในปัจจุบันถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเหรียญเกียรติยศในช่วงปี 1877 ออกแบบโดยบริษัท Tiffany and Co ถูกเรียกในชื่อ The Medel of Valor เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ John McDowell NYPD ผู้โดนยิงในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ทำให้ชาวนิวยอร์กต่างสนใจและเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกคนคุ้นตากับสัญลักษณ์นี้ แต่ New York Yankees ก็ไม่ได้นำรูปแบบดังกล่าวมาเป็นตราสโมสรในทันทีจนเมื่อในปี 1909 Bill Devery เจ้าของทีมร่วมของ New York
“A collaboration without boundaries, welcome to the family @ChildishGambino” คือโพสต์อินสตาแกรมที่ Adidas ส่งถึง Childish Gambino ซึ่งถือเป็นเดินหน้าคว้าตัวคนดังมาร่วมงานอย่างต่อเนื่องสำหรับค่าย Threes Stripes หลังจากได้ปล่อยคลิปวิดีโอเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ล่าสุด ซึ่งเหมือนเป็นการร่วมทีมยอดมนุษย์ที่ทรงอิทธิพลของโลกอีกคนหลังจากก่อนที่มีทั้งศิลปินอย่าง Kanye West และ Pharrell Williams อยู่แล้ว Donald McKinley Glover Jr หรือที่เรารู้จักกันในนาม CHILDISH GAMBINO ศิลปินมากความสามารถสุดครีเอท ผู้เป็นทั้งนักแสดง, คอมเมเดียน, นักเขียนบท, ผู้กำกับ, แร็ปเปอร์ ไปจนถึงดีเจ ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนในบ้านเรารู้จักเขาแน่นอนว่าต้องเป็นเพลงกับมิวสิควิดีโอสุดเสียดสีอย่าง This Is America แต่ถ้าหากใครติดตามผลงานของเขามานาน หรือพูดถึงความสามารถเชิงประจักษ์ในสหรัฐอเมริกาแล้ว คงรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังก้าวขึ้นมาเป็นตัวพ่อประจำวงการ จากความทักษะอันครบเครื่องในทุกด้าน ทำให้กลายเป็นเรื่องน่าสนใจมากเมื่อเค้าเข้ามาข้องเกี่ยวกับวงการแฟชั่น Donald Glover ถูกรู้จักครั้งแรกในฐานะหนึ่งผู้สร้างและนักแสดงของคลิปไวรัลยอดฮิตบนอินเตอร์อย่าง Girl Are Not To Be Trusted กับกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกันใน New York
อีกไม่กี่วันก็จะถึงคิวฉายภาพยนตร์แฟรนไชส์เอเลี่ยนอมตะอย่าง The Predetor 2018 แล้วโดยนับตั้งแต่หนังภาคแรกเข้าฉายในปี 1987 แม้บทบาทของตัวละครจะเป็นนักฆ่าเลือดเย็นแต่หลายครั้งบุคลิกและความเท่แบบไม่มีบทพูด กลับส่งผลให้ตัวละครนี้ได้รับความนิยมไปโดยปริยาย แถมยังมีอิทธิพลถึงขนาดทำให้เกิดไอเทมที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นตามมามากมายอีกด้วย ล่าสุด Reebox ก็เอากับเขาด้วย โดยได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากนักล่าสายพันธุ์ต่างดาวลงในโมเดลรองเท้าอย่าง Reebox DMX Run 10 โดย DMX Run 10 เวอร์ชันนี้มาพร้อมส่วน Upper ลวดลาย Camouflage เลียนแบบมาจากชุดล่องหนเอกลักษณ์ของตัวละคร Predetor พร้อมส่วน Mid-Sole สีขาวดูเหมือนกำลังจะพรางตัวไปพร้อมส่วนบน ด้านข้างมีการตกแต่งด้วยพิกัดทางทหารสีแดงและด้านในลิ้นรองเท้าซึ่งเขียนด้วยภาษา Predetor แปลได้ว่า “ฉันอยู่ตรงนี้” และ “หันหลังมาสิ” ชวนให้นึกถึงฉากจู่โจมในขณะที่เหยื่อไม่รู้ตัวตามแบบฉบับหนัง แต่ส่วนที่บ่งบอกตัวตนได้ชัดเจนคงจะเป็นเครื่องรางรูปหัวกะโหลกและกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนความดิบเถื่อนของนักล่ารายนี้ได้ชัดเจนที่สุด ไม่เพียงแค่ตัวรองเท้าเท่านั้นที่ถูกออกแบบอย่างเอาใจใส่ ในส่วนของ Packaging ของ DMX Run 10 Predator เองก็สร้างความฮือฮาได้ไม่แพ้กล่องแสนอลังแบบของแบรนด์ Air Jordan ด้วยเพราะมักถูกตกแต่งด้วยลวดลายแบบ Infrared Vision รวมไปถึงกล่องชั้นในที่เหมือนรองเท้ากำลังโดนสแกนอยู่ให้ความรู้สึกว่ามันมีชีวิตด้วยโทนสีอุ่นเหมือนมีอุณหภูมิร่างกายคล้ายกับตอน Predator กำลังมองเหยื่อให้ความรู้สึกร่วมตั้งแต่แกะกล่องแน่นอน
ก่อน Blue Ribbon Sport จะกลายเป็นแฟรนไชส์ผู้ผลิตรองเท้าที่ประสบความสำเร็จ และผันตัวเองมาเป็น Nike จนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดในอันดับ 18 ของโลกในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับชายผู้ให้กำเนิดอย่าง Phil Knight ผู้ทุ่มเททั้งชีวิตลองผิดลองถูกผลิตรองเท้าแต่ละรุ่นออกมา ซึ่งหนึ่งในนั้นต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบการผลิตและพัฒนาพื้นรองเท้า (Out Sole) ซึ่งเรารู้จักในชื่อ Nike Waffle เรื่องราวเริ่มต้นจากฤดูร้อนในปี 1970 ยุคซึ่งถูกเรียกว่า Running Boom เมื่อ University of Oregon มีแผนจะพัฒนาลู่วิ่งของมหาวิทยาลัยจากพื้นดินแห้งกรอบเป็นยางสังเคราะห์ เพื่อให้นักกีฬาคุ้นชินกับสนามระดับมาตรฐาน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชายผู้มีบทบาทสำคัญอีกคนอย่าง Bill Bowerman โค้ชนักกรีฑาเบอร์ต้นของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาและก่อตั้ง Blue Ribbon Sport ได้รับการท้าทายเพื่อหารองเท้าที่เหมาะสมกับสนามแข่งขันใหม่ เพราะเมื่อมองดูในท้องตลาดแล้วไม่มีรองเท้าคู่ไหนที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้เลย ทำให้เวลาต่อมา Bill และ Phil ได้ร่วมมือกันพัฒนารองเท้าที่เหมาะสมกับต่อการวิ่ง รวมถึงสามารถใช้ได้กับพื้นผิวที่หลากหลายเป็นโจทย์หลัก เพราะเวลานั้นรองเท้าส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อรูปแบบของพื้นรองเท้าเท่าไหร่นัก ทั้งสองจึงมีความคิดว่าจะสร้างรองเท้าที่มีพื้นนู้นต่ำสลับกันตลอดแนวพื้นขึ้นมา เวลาผ่านไปไม่นาน Bill Bowerman ก็เดินเข้ามาในโรงงานผลิตรองเท้าพร้อมกับถาดเหล็กคล้ายกับที่ใช้ทำวาฟเฟิล ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อพิมพ์พื้นรองเท้าต้น โดยคู่แรกถูกสร้างด้วยมือตั้งแต่การวัดไซส์ตัด
ในตลาดซื้อขายเสื้อผ้ามือสอง มีเทรนด์ที่ทำให้พ่อค้าออนไลน์สายแฟชั่นหลายคนเลือกเก็บและทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ นอกจากเสื้อวง ความนิยมเก็บ Vintage Sportswear ก็การันตีความสำเร็จได้ตลอดกาลเช่นกัน ซึ่งหนึ่งแบรนด์ที่นักสะสมนิยมเก็บและหยิบมาใส่ ต้องยกให้ดีไซน์สุดคลาสสิคจาก Tommy Hilfiger จุดเด่นของเสื้อผ้าจากมันสมองของ Thomas Jacob Hilfiger แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอเมริกันที่สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ปี 1985 เสื้อผ้าที่ชูดีไซน์สี Bi-Color ขาวแดง เต็มไปด้วย essence ของความเป็น American Classic ก่อนจะดังเป็นพลุแตกในช่วง 90s จาก Rave Culture ปาร์ตี้ที่จัดให้บรรดาวัยรุ่นได้อวดท่าเต้นและการแต่งตัวสไตล์ Sportswear ไซส์ใหญ่เกินตัวเข้าแข่งกัน จนเป็นที่มาของเทรนด์ 90’s Vintage Sportswear มีแบรนด์ที่โด่งดังคุ้นหูพวกเรามากมายอย่างเช่น Fila, Champion และ Tommy Hilfiger แทรกซึมเข้าไปได้ในทุก Culture ตั้งแต่ Preppy, Hip-Hop หรือแม้แต่ Streetwear ที่นิยมความ Vintage ของแบรนด์นี้อย่างไม่เสื่อมคลาย ถือเป็นการ Collab ที่ดีสำหรับคนที่ไม่ถนัดเก็บเสื้อ Vintage แต่อยากแต่งตัวแนว
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเดือนสิงหาคมอันแสนเดือดของตลาด Sneakers หลังจากค่ายยักษ์ใหญ่ต่างเรียงหน้ากันปล่อยรองเท้าคู่เด็ดของตัวเองออกมาให้เราเฝ้ามองเพื่อจับจองอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งหลายคนคงได้เป้าหมายที่ถูกใจไปแล้วบ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้ยังไม่โดน วันนี้ UNLOCKMEN ได้คัดสรรรองเท้าที่น่าสนใจ ซึ่งจะออกวางขายในเดือนกันยายนนี้มาไว้ให้แล้ว ไปดูกันว่ามีคู่ไหนทำให้เราอยากจะเสียเงินกันบ้าง NEW BALANCE x END (Dusk Pack) งาน Collab ล่าสุดจาก New Balance และ END ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการมองไปที่เส้นขอบฟ้าในตอนพลบค่ำ ความคิดนี้ถูกถ่ายทอดลงในโมเดล X90 โดยมีการผลิตออกมาทั้งหมด 2 สีด้วยกัน คือ White และ Black ในส่วนของ Midsole ใช้สีเนวี่กับม่วงตัดสลับ มาพร้อมเทคโนโลยี REVlite จุดขายของ NB ในส่วนของ Uppers ขึ้นรูปเป็นผ้า Mesh ซึ่งดูมีสีสันทีเดียวสำหรับ X90 Day Release : 1 กันยายน Price : 135$ PUMA
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดเหตุเรียกความฮาปนสงสัยขึ้นบนโลกแฟชั่น เมื่อ Dan Jagger ผู้จัดการร้าน Supreme สาขาลอนดอน ประเทศอังกฤษเดินมาทำงานในตอนเช้า แล้วพบว่าป้ายโลโก้หน้าร้านมีลักษณะห้อยลงมาอย่างน่าแปลกใจ จนเมื่อไปเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่า ต้นเหตุเกิดจากชายคนหนึ่งพยายามจะดึงมันออก หมายจะขโมยมันไปอย่างไม่ต้องสงสัย แต่โชคดีของร้านที่มันทำไม่สำเร็จ ป้ายจึงมีสภาพอย่างที่เห็น ที่น่าแปลกคือความกล้าบ้าบิ่นของชายคนดังกล่าว เป็นความระห่ำอันยิ่งใหญ่แถมยังทำในจุดไม่ลับตาคน เนื่องจากช็อป Supreme สาขาลอนดอนนั้นตั้งอยู่ใจกลางย่าน Soho ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งกิน เที่ยว ช้อป ยอดนิยมของเขต West End ที่เต็มไปด้วย ผับบาร์ ร้านอาหาร รวมไปถึงแหล่งช้อปปิ้งสินค้ามากมาย ซึ่งจะมีคนไปพลุกพล่านตลอดเวลา แต่เท่าที่เห็นจากในวิดีโอ ชายคนนั้นก็ไม่ได้สนใจใคร คงเพราะโลโก้ Supreme มันช่างยั่วยวนใจให้กระชากมาครอบครองเหลือเกิน แต่อีกนัยยะหนึ่งมันแสดงถึงความมีคุณค่าและราคาของ Supreme Logo Box ที่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะถูกหยิบจับไปแปะกับอะไรก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งนั้นได้หลายเท่าตัว ยกตัวอย่างจาก Items ในคอลเลกชัน Supreme Accessories SS18 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรือยางกับไม้พายขวาน สารพัดสิ่งไลฟ์สไตล์ที่ไม่เกี่ยวกับแฟชั่น ไปยันหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ The NewYork Post ก็ทำมาแล้ว แถมยังขายได้ขายดีทุกล็อต ซึ่งแฟน ๆ Supreme
ตราบใดที่มนุษย์ยังคงต้องสวมใส่เสื้อผ้า เมื่อนั้นแฟชั่นก็ยังถือเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ แม้หนุ่ม ๆ หลายคนจะพลางคิดในใจว่า แท้จริงแล้วแฟชั่นนั้นคืออะไร? จำเป็นต้องแต่งตัวด้วยไอเทมหรูหราราคาแพงถึงจะออกมาดูดีหรือไม่? ซึ่งพวกเราอยากจะบอก ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายสไตล์ไหน ใส่เสื้อยืดรองเท้าแตะธรรมดา หรือสูทราคาเป็นแสน มันคือเรื่องของสไตล์ที่ไม่มีใครสามารถปรับเปลี่ยนกันได้ วันนี้ UNLOCKMEN จะนำบทสัมภาษณ์จากสองแฟชั่นตัวพ่อแห่งวงการสตรีทแวร์ ที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่นอย่าง คุณ ปิ๊น อนุพงศ์ คุตติกุล หรือที่น่าจะรู้กันดีในชื่อ ปิ๊น Carnival และ คุณ กัญ ชลัช ปุณยาฤทธิ์ แฟชั่นนิสต้าที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งจะมาเผยถึงความหลงใหล รวมถึงตัวตนของพวกเขาที่มีแฟชั่นเป็นแรงขับเคลื่อน รับรองว่าหลังจากทุกคนอ่านบทสัมภาษณ์นี้จบแล้ว คุณจะได้เข้าใจและมีมุมมองต่อแฟชั่นที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ปิ๊น Carnival “เพราะแฟชั่นคือความสุขที่ผมมอบให้กับตัวเองได้ในทุก ๆ วัน……การแต่งตัวไม่จำเป็นจะต้องเป็นยี่ห้อแพง ถ้าเกิดมันไม่เข้ากับตัวคุณ ลองค้นหาสไตล์จนเจอ Distinctive Style คุณก็จะสนุกกับแฟชั่นโดยที่คุณไม่ต้องแคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาใส่หรือฮิตอะไรกัน เพียงแค่มันเป็นสไตล์ที่เราอยากนำเสนอพอ” ก่อนอื่นเลย อยากจะถามว่าอะไรคือเสน่ห์ที่ทำให้มาหลงใหล รวมถึงชอบเรื่องแฟชั่น? คือมนุษย์ต้องแต่งตัวทุกวันอยู่แล้ว เสน่ห์ของมันคือการที่เราพรีเซ้นท์ตัวเองว่าเป็นคนแบบไหน นิสัยยังไง ทั้งหมดมันสามารถถูกนำเสนอผ่านการแต่งตัวได้ ที่เราสามารถเลือกที่จะพรีเซ้นท์ในแต่วัน อย่างเช่น อินกับหนังเรื่องนี้ เราอินกับเพลงนี้
หนุ่มน้อยชาว Canadian ที่แจ้งเกิดบนเส้นทางถนนสายดนตรีอย่างเต็มตัว Shawn Mendes พร้อมส่งบทเพลงยอดฮิตออกมาอย่างมากมายอาทิ Stitches และ Treat You Better หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ตัวเขาก็หายหน้าหายตาไปนานกว่าสองปี ก่อนจะคัมแบ็คกลับมาพร้อมสไตล์ที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นทั้งเรื่องของหน้าตารวมถึงการแต่งตัว ซึ่ง UNLOCKMEN เริ่มรู้สึกประทับใจกับการแต่งตัวของ Shawn Mendes จากงาน MTV VMA’s 2018 ที่เขาได้เลือกเสื้อสูทจาก Paul Smiths มาสวมใส่นับว่ายอดเยี่ยมสุด ๆ เลยกลับไปค้นดูรูปเก่า ๆ เขาดูปรากฎว่าได้เจอสไตล์อันน่าจับตามองทั้งลุค Formal และ Casual ดังนั้นในวันนี้ UNLOCKMEN เลยนำสไตล์การแต่งตัวของหนุ่ม Shawn Mendes หลังจากผ่าน Evolution ต่าง ๆ มาจนค้นพบสไตล์ที่เป็นตัวเอง Classy Rock จนทุกคนไม่ควรพลาดเอาเป็นเยี่ยงอย่าง Good Tailor Mendes มักจะทำได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อต้องไปอยู่บนพรมแดง ตัวอย่างเช่นงานกาล่าของ Grammy เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เมื่อเขามาในสูท Tailor สีดำจาก