อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของ Prophere ด้วยการปล่อยซีรี่ย์ภาพที่แสดงออกถึงความเด็ดเดี่ยว ความมั่นใจในการเป็นตัวของตัวเองของเหล่าครีเอเตอร์ การปล่อยรองเท้ารุ่นล่าสุดนี้เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า Prophere เป็นรองเท้าสำหรับคนที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นผู้นำของคนที่มีความคิดนอกกรอบ นักร้องแร็ปดาวรุ่งจากฝั่งตะวันตก SOB x RBE เป็นที่รู้จักในด้านการร้องที่ไม่ยึดตามแบบฉบับสากล โดดเด่นด้วยจังหวะเฉพาะตัว และความเป็นตัวของตัวเอง นั้นได้ถูกถ่ายทอดตัวตนผ่านซีรี่ย์ภาพที่ห่อหุ้มความคิดของบุคคลภายนอกออกมาเป็นรากฐานของรูปแบบ Prophere ภาพถ่ายนั้นถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ จากสนามหญ้าที่บ้านของพวกเขาในเมือง Vallejo, California เพื่อส่งมอบมุมมองและตัวตนที่แท้จริง “จากภายใน” ของพวกเขา การใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ คนใกล้ชิดที่มีทัศนคติ บุคลิก และพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกัน ในบรรยากาศที่คุ้นชิน หล่อหลอมให้เรากลมกลืนไปกับเหล่าพวกพ้องของตนเอง การแร็ปของแร็ปเปอร์ทั้งสี่ที่มีความมั่นใจผสานด้วยจิตวิญญาณอันแน่วแน่ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดรองเท้าโฉมใหม่สำหรับฤดูใบไม้ร่วง 2018 นี้ ที่เผยทั้งความกล้าหาญและความโดดเด่นกับ 2 เฉดสี โดยรองเท้านั้นประกอบด้วยแถบสีดำที่ส่วนด้านบนและส่วนกลาง เพิ่มสีสันด้วย 3 แถบเอกลักษณ์จากอาดิดาส ทั้งสีขาว และสีชมพู ซึ่งทำให้ Prophere นั้นเป็นตัวแทนของสายสตรีทที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกล้าคิดกล้าทำ ด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่าง แนวทางที่ชัดเจน Prophere ยังคงมุ่งมั่นสร้างบรรทัดฐานที่คุ้นเคยในการสร้างสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ และสิ่งที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร Prophere
ในโลกของวงการแฟชั่น สิ่งที่เป็นตัววัดคุณภาพของแต่ละแบรนด์ สามารถดูได้จาก Brand Heritage ที่มาพร้อมอายุเก่าแก่ของแบรนด์นั้น ๆ เพราะในโลกที่แฟชั่นเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แบรนด์ที่สามารถดำรงอยู่มาได้ยาวนาน ย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์คุณภาพได้ รวมถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยยังคงบาลานซ์ DNA ดั้งเดิมของแบรนด์เอาไว้ได้ครบถ้วน ไม่งั้นแบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ ก็จะกลายเป็น Fast Fashion ที่ไม่มีเหตุผลและคุณค่าให้คนอยากสวมใส่ เช่นเดียวกับ Bally แบรนด์ High-Fashion ที่มีเสน่ห์ เป็นชื่อและโลโก้ที่สร้าง Perception ให้คนเข้าใจถึงคุณภาพและประวัติอันเก่าแก่ของแบรนด์ได้โดยอัตโนมัติ สำหรับเรา Bally เป็นแบรนด์ที่มีความน่าสนใจสำหรับผู้ชาย มีส่วนผสมของความหรูหราแต่ถ่อมตัว ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยลืมจิตวิญญาณของการเป็นนักผจญภัย อย่างที่ Carl Franz Bally ตั้งใจให้เป็นตั้งแต่วันก่อตั้งแบรนด์สาขาแรกในเมือง Schonenwerd ประเทศ Switzerland ปี 1851 ก่อนจะเริ่มส่งแบรนด์ Bally ขยายข้ามชายแดน Switzerland ได้ภายใน 6 ปีเท่านั้น ตั้งแต่วันแรก จุดเด่นทั้งด้าน Design และ Functionality อันเปรียบเสมือน 2
กลายเป็นข่าวฮือฮาวงการแฟชั่นเมื่อแอคเคาท์ Instagram ของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง COACH ได้ทำการโพสต์ต้อนรับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครนอกจากตัวร้ายสุดคูลจาก The Black Panther อย่าง Michael B Jordan ในลุค Signature Hood สีเอกลักษณ์ของแบรนด์นอกจากนี้ยังมีข่าวอีกว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะมาพร้อมกับการผลักดันไลน์เสื้อผ้าผู้ชายระลอกใหม่ที่จริงจังยิ่งกว่าเดิมจากห้องเสื้อ COACH อีกด้วย Stuart Vever ผู้รับตำแหน่ง Creative Director ของแบรนด์เล่าผ่านงานแถลงข่าวถึงสาเหตุที่ COACH ตัดสินใจเลือก Michael B Jordan มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ฟังว่า พวกเขารู้จัก Michael มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยถ้าเล่าจากมุมมองของแบรนด์ พระเอกมาดเข้มคนนี้มีความเยือกเย็นในตัว ซึ่งหลายครั้งก็ปรากฏตัวในเสื้อผ้าของ COACH ที่ดูดีมีความเป็นธรรมชาติเสมอ และนั่นเองทำให้เขาคิดว่า Michael จะต้องเป็นผู้ชายที่เข้ากันกับ DNA ของแบรนด์ได้ดีมาก ๆ อย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจดึงตัวมาร่วมงานกันและจะเริ่ม launch โปรเจกต์ต่าง ๆ กันในเร็ววันนี้ คาดกันว่าการเปิดตัวนักแสดงวัย 31
หลังจากตั้งตารอมาพักใหญ่ ในที่สุดเราก็ได้เห็นฝีไม้ลายมือแรกในการออกแบบของ Riccardo Tisci ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน ในฐานะผู้ที่มารับตำแหน่ง Chief Creative Officer คนใหม่ ให้กับแบรนด์เก่าแก่ของเกาะอังกฤษอย่าง Burberry แทน Christopher Bailey โดยหลายคนต่างคาดหวังกับความสามารถของเขาซึ่งเคยคืนชีพให้กับ Givenchy มาแล้ว Burberry เองแสดงก็ความมั่นใจโดยการ Rebranding แบรนด์เสียใหม่ ด้วยการเปลี่ยนลวดลาย Thomas Burberry monogram ครั้งแรกในรอบ 20 ปีให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น อาจจะมากจนแฟน ๆ หลายคนตกใจในความเป็น Street ที่วัยรุ่นขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับแฮชแท็ก #newera อย่างเต็มภาคภูมิ ล่าสุดการ Debut ผลงานชุดแรกในฐานะ Chief Creative Office ของเขาก็ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกผ่าน Collection Spring/Summer 2019 ใน London Fashion Week ที่พึ่งผ่านไป แต่ผลงานจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับแผนก Menswear ของห้องเสื้ออายุ 162 ปีแห่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหนและมีอะไรน่าสนใจบ้างตามไปดูกัน
ใกล้เปิดร้านอย่างเป็นทางการเข้าไปทุกที กับแบรนด์ Streetwear ที่พวกเราต้องบินไปซื้อถึง Hong Kong วันนี้ Off-White ใกล้จะเปิดร้านสาขา Bangkok เข้าไปทุกที โดยใน Official Instagram account (@off___white___bangkok) ได้โพสความคืบหน้าที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวันเปิดตัว Opening Day 22 กันยายน 2018 นี้ แค่นั่งรถไป Siam Paragon ชั้น M ก็จะพบกับ Flagship Store ที่ยั่วยวนให้รูดบัตรเครดิตแบบตรง Collection กับทั่วโลก แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่าไม่ใช่แค่นั้น เปิดร้านที่ Bangkok แหล่ง Street Style อีกแห่งใน Asia ทั้งที จะให้เปิดเงียบ ๆ คงไม่ดีแน่ Off-White จึงปล่อยภาพ Teaser โชว์เสื้อผ้าสุดพิเศษ Bangkok Exclusive Capsule Collection
ผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับงาน NBA Hall of Fame 2018 ซึ่งปีนี้มีอดีตผู้เล่นชื่อดังมากมายถูกรับเลือกให้เข้าสู่หอเกียรติยศ ไม่ว่าจะเป็นยอดการ์ดจ่ายอย่าง Steve Nash กับ Jason Kidd รวมไปถึงมือปืนระดับตำนานอย่าง Ray Allen ซึ่งดูจะพิเศษกว่าคนอื่นเมื่อได้เข้าทั้งหอเกียรติยศ แถมยังมีชุดของขวัญพิเศษหนึ่งเดียวจาก Air Jordan แบรนด์รองเท้าที่เขาใส่สมัยเป็นผู้เล่นให้อีกด้วย อดีตสตาร์ดังของวงการยัดห่วงจงรักภักดีต่อ Air Jordan เป็นอย่างมาก ไม่เคยเปลี่ยนยี่ห้อรองเท้าเลยตลอดระยะเวลาที่เล่นอยู่ในลีก โดยในยุคแรกเขาเป็น 1ใน 5 ผู้เล่นที่ถูก Michael Jordan เลือกให้ใส่รองเท้าของแบรนด์และประสบความสำเร็จมากมาย ได้แชมป์ NBA 2 สมัยปี 2008 และ 2013 ติดทีม All-Star 10 สมัย และทำลายสถิติการยิง 3 แต้มอีกมากมาย ซึ่งมันเป็นเหมือน Signature ส่วนตัวในสมัยโลดแล่นอยู่บนสนาม ทำให้ Air Jordan ตอบแทนความภักดีของเขาด้วยชุดรองเท้า
ถ้าพูดถึง New York Yankees ภาพแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวผู้ชายอย่างเราคงจะเป็นหมวกเบสบอลทรงกลมกับสัญลักษณ์ตัว NY วางเด่นไว้กลางหมวกมากกว่าจะพูดถึงทีมเบสบอล รวมถึงเสื้อผ้าแฟชั่นของเค้าก็ถือว่าเด็ดไม่แพ้ใคร วันนี้ Yankees Logo กำลังกลับมาอีกครั้งพร้อมการร่วมงานกับแบรนด์หรูอย่าง Gucci แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อะไรกันที่ทำให้โลโก้ตัวแทนทีมกีฬากลายมาเป็น Pop-culture ในยุคสมัยหนึ่ง แถมยังสอดแทรกอยู่ไลน์แฟชั่นตลอดมา เราจะเริ่มจาก Background ตรงนี้สักเล็กน้อย เพราะถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แรกเริ่มสัญลักษณ์ N และ Y ที่เราเห็นกันจนชินตาไม่ได้ถูกวางทับกันเอาไว้ แต่มันถูกวางแยกกัน โดยเดิมทีสัญลักษณ์ Yankees Logo ที่เราเห็นกันในปัจจุบันถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเหรียญเกียรติยศในช่วงปี 1877 ออกแบบโดยบริษัท Tiffany and Co ถูกเรียกในชื่อ The Medel of Valor เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ John McDowell NYPD ผู้โดนยิงในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ทำให้ชาวนิวยอร์กต่างสนใจและเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกคนคุ้นตากับสัญลักษณ์นี้ แต่ New York Yankees ก็ไม่ได้นำรูปแบบดังกล่าวมาเป็นตราสโมสรในทันทีจนเมื่อในปี 1909 Bill Devery เจ้าของทีมร่วมของ New York
“A collaboration without boundaries, welcome to the family @ChildishGambino” คือโพสต์อินสตาแกรมที่ Adidas ส่งถึง Childish Gambino ซึ่งถือเป็นเดินหน้าคว้าตัวคนดังมาร่วมงานอย่างต่อเนื่องสำหรับค่าย Threes Stripes หลังจากได้ปล่อยคลิปวิดีโอเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ล่าสุด ซึ่งเหมือนเป็นการร่วมทีมยอดมนุษย์ที่ทรงอิทธิพลของโลกอีกคนหลังจากก่อนที่มีทั้งศิลปินอย่าง Kanye West และ Pharrell Williams อยู่แล้ว Donald McKinley Glover Jr หรือที่เรารู้จักกันในนาม CHILDISH GAMBINO ศิลปินมากความสามารถสุดครีเอท ผู้เป็นทั้งนักแสดง, คอมเมเดียน, นักเขียนบท, ผู้กำกับ, แร็ปเปอร์ ไปจนถึงดีเจ ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนในบ้านเรารู้จักเขาแน่นอนว่าต้องเป็นเพลงกับมิวสิควิดีโอสุดเสียดสีอย่าง This Is America แต่ถ้าหากใครติดตามผลงานของเขามานาน หรือพูดถึงความสามารถเชิงประจักษ์ในสหรัฐอเมริกาแล้ว คงรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังก้าวขึ้นมาเป็นตัวพ่อประจำวงการ จากความทักษะอันครบเครื่องในทุกด้าน ทำให้กลายเป็นเรื่องน่าสนใจมากเมื่อเค้าเข้ามาข้องเกี่ยวกับวงการแฟชั่น Donald Glover ถูกรู้จักครั้งแรกในฐานะหนึ่งผู้สร้างและนักแสดงของคลิปไวรัลยอดฮิตบนอินเตอร์อย่าง Girl Are Not To Be Trusted กับกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกันใน New York
อีกไม่กี่วันก็จะถึงคิวฉายภาพยนตร์แฟรนไชส์เอเลี่ยนอมตะอย่าง The Predetor 2018 แล้วโดยนับตั้งแต่หนังภาคแรกเข้าฉายในปี 1987 แม้บทบาทของตัวละครจะเป็นนักฆ่าเลือดเย็นแต่หลายครั้งบุคลิกและความเท่แบบไม่มีบทพูด กลับส่งผลให้ตัวละครนี้ได้รับความนิยมไปโดยปริยาย แถมยังมีอิทธิพลถึงขนาดทำให้เกิดไอเทมที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นตามมามากมายอีกด้วย ล่าสุด Reebox ก็เอากับเขาด้วย โดยได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากนักล่าสายพันธุ์ต่างดาวลงในโมเดลรองเท้าอย่าง Reebox DMX Run 10 โดย DMX Run 10 เวอร์ชันนี้มาพร้อมส่วน Upper ลวดลาย Camouflage เลียนแบบมาจากชุดล่องหนเอกลักษณ์ของตัวละคร Predetor พร้อมส่วน Mid-Sole สีขาวดูเหมือนกำลังจะพรางตัวไปพร้อมส่วนบน ด้านข้างมีการตกแต่งด้วยพิกัดทางทหารสีแดงและด้านในลิ้นรองเท้าซึ่งเขียนด้วยภาษา Predetor แปลได้ว่า “ฉันอยู่ตรงนี้” และ “หันหลังมาสิ” ชวนให้นึกถึงฉากจู่โจมในขณะที่เหยื่อไม่รู้ตัวตามแบบฉบับหนัง แต่ส่วนที่บ่งบอกตัวตนได้ชัดเจนคงจะเป็นเครื่องรางรูปหัวกะโหลกและกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนความดิบเถื่อนของนักล่ารายนี้ได้ชัดเจนที่สุด ไม่เพียงแค่ตัวรองเท้าเท่านั้นที่ถูกออกแบบอย่างเอาใจใส่ ในส่วนของ Packaging ของ DMX Run 10 Predator เองก็สร้างความฮือฮาได้ไม่แพ้กล่องแสนอลังแบบของแบรนด์ Air Jordan ด้วยเพราะมักถูกตกแต่งด้วยลวดลายแบบ Infrared Vision รวมไปถึงกล่องชั้นในที่เหมือนรองเท้ากำลังโดนสแกนอยู่ให้ความรู้สึกว่ามันมีชีวิตด้วยโทนสีอุ่นเหมือนมีอุณหภูมิร่างกายคล้ายกับตอน Predator กำลังมองเหยื่อให้ความรู้สึกร่วมตั้งแต่แกะกล่องแน่นอน
ก่อน Blue Ribbon Sport จะกลายเป็นแฟรนไชส์ผู้ผลิตรองเท้าที่ประสบความสำเร็จ และผันตัวเองมาเป็น Nike จนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดในอันดับ 18 ของโลกในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับชายผู้ให้กำเนิดอย่าง Phil Knight ผู้ทุ่มเททั้งชีวิตลองผิดลองถูกผลิตรองเท้าแต่ละรุ่นออกมา ซึ่งหนึ่งในนั้นต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบการผลิตและพัฒนาพื้นรองเท้า (Out Sole) ซึ่งเรารู้จักในชื่อ Nike Waffle เรื่องราวเริ่มต้นจากฤดูร้อนในปี 1970 ยุคซึ่งถูกเรียกว่า Running Boom เมื่อ University of Oregon มีแผนจะพัฒนาลู่วิ่งของมหาวิทยาลัยจากพื้นดินแห้งกรอบเป็นยางสังเคราะห์ เพื่อให้นักกีฬาคุ้นชินกับสนามระดับมาตรฐาน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชายผู้มีบทบาทสำคัญอีกคนอย่าง Bill Bowerman โค้ชนักกรีฑาเบอร์ต้นของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาและก่อตั้ง Blue Ribbon Sport ได้รับการท้าทายเพื่อหารองเท้าที่เหมาะสมกับสนามแข่งขันใหม่ เพราะเมื่อมองดูในท้องตลาดแล้วไม่มีรองเท้าคู่ไหนที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้เลย ทำให้เวลาต่อมา Bill และ Phil ได้ร่วมมือกันพัฒนารองเท้าที่เหมาะสมกับต่อการวิ่ง รวมถึงสามารถใช้ได้กับพื้นผิวที่หลากหลายเป็นโจทย์หลัก เพราะเวลานั้นรองเท้าส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อรูปแบบของพื้นรองเท้าเท่าไหร่นัก ทั้งสองจึงมีความคิดว่าจะสร้างรองเท้าที่มีพื้นนู้นต่ำสลับกันตลอดแนวพื้นขึ้นมา เวลาผ่านไปไม่นาน Bill Bowerman ก็เดินเข้ามาในโรงงานผลิตรองเท้าพร้อมกับถาดเหล็กคล้ายกับที่ใช้ทำวาฟเฟิล ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อพิมพ์พื้นรองเท้าต้น โดยคู่แรกถูกสร้างด้วยมือตั้งแต่การวัดไซส์ตัด