Lamborghini Miura supercar แม่พิมพ์ที่สร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ รวมถึงจุดเริ่มต้นของสัญลักษณ์กระทิงดุ เป็นรถหายากที่ควรค่าแก่การสะสมอย่างไม่ต้องสงสัย ในตระกูล Miura เองก็มีหลายรุ่นที่พิเศษแยกย่อยออกไป ซึ่งเราเคยนำเสนอไว้แล้วในบทความนี้ “LAMBORGHINI MIURA กระทิงนักสู้ตัวสำคัญที่ยังรันวงการ SUPERCAR” แต่รุ่นที่หายากที่สุดของ Miura ทั้ง 700 คันที่ถูกผลิตออกมา พึ่งจะถูกนำออกมาเปิดประมูลให้นักสะสมขนหัวลุกกัน นั่นคือ Lamborghini Miura SVJ “The Corsican” supercar edition พิเศษที่มีเพียง 3 คันในโลก Miura SVJ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1970 เมื่อ Bob Wallace หัวหน้าฝ่ายทดสอบรถของ Lamborghini รู้สึกว่า Miura เวอร์ชั่นปกติยังมีศักยภาพอีกหลายจุดที่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้หากต้องการเป็นผู้ชนะในสนามแข่ง จึงลงมืออัพเกรด Miura ลดน้ำหนักตัวลงด้วยบอดี้ผลิตจาก aluminum-alloy อัพเกรดช่วงล่างสำหรับสนามแข่งและพัฒนา aerodynamic ด้วย aero kit ที่มีช่องดักลมแตกต่างจากรุ่นปกติ ปิดท้ายด้วยการจูนเครื่องยนต์ V12
BMW เสริมความสดใหม่ให้กับ mid-size SUV หรู ด้วย limited edition “Black Vermilion Edition” สำหรับ X5, X6 บนโมเดล xDrive40i รวมถึง X7 M50i ในโทนสีดำแดงพิเศษ ภายนอกโดดเด่นเตะตาด้วยกระจังไตคู่หน้าสีแดง ล้อ double-spoke ขนาด 22 นิ้วสี Orbit Grey และ brake calipers สีแดง เสริมความสปอร์ตทันสมัย ดุดันเข้ากับตัวถังสีดำ “BWM Individual Frozen Black Metallic” ไฟหน้า Adaptive Full LED Laserlight ชุดแต่ง M Sport รอบคัน กันชนหน้าหลัง รวมถึงท่อไอเสีย M Sport exhaust system สร้างความแตกต่างและย้ำภาพความสปอร์ตที่เหนือกว่าคู่แข่งบนท้องถนน
หลังการปลดระวาง 3 ทหารเสือ Elise, Exige, และ Evora ถ้าคุณต้องการเล่น Lotus นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้ครอบครองเครื่องยนต์เผาไหม้ในตัวถัง Mid-engined Supercar ก่อนที่จะเปลี่ยนถ่ายไปสู่ยุคขุมพลังไฟฟ้าที่จะเริ่มหลังจาก Emira เป็นรุ่นสุดท้าย นอกจากเป็นขุมพลังเผาไหม้รุ่นสุดท้าย Lotus Emira ยังถือเป็น Supercar ที่น่าสนใจมากในหลายด้าน โดยเฉพาะดีไซน์ที่เรียกว่ายกมาจากตัวท็อปสุดของค่าย Lotus Evija Hypercar และสัดส่วนที่สวยงามลงตัวพอดี ไม่มีอะไรมากหรือน้อยเกินไป ฐานล้อขนาด 2,575 มิลลิเมต ยาวยิ่งกว่า Porsche 911 ในน้ำหนักตัวเพียงแค่ 1,405 กิโลกรัม Lotus Emira มีขุมพลังให้สองทางเลือก เริ่มจากเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 จาก Toyota ซึ่งถูกใช้มาแล้วใน Exige และ Evora แต่ที่น่าสนใจคือเครื่อง M139 2.0 ลิตร turbo จาก AMG
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิค ชื่อของ Honda ‘Super Cub’ หรือที่เรียกกันอย่างติดปากว่า ‘รถ C’ ต้องมีติดอันดับต้น ๆ ในฐานะ Iconic ของวงการขึ้นมาอย่างแน่นอน วันนี้เราจะพาชาว UNLOCKMEN ไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมา ไล่เรียงไทม์ไลน์ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ของ “รถมอเตอร์ไซค์ที่มีสถิติการขายถล่มทลายกว่าทะลุ 100 ล้านคัน”และเหตุผลที่มันได้รับความนิยมมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้เรายังก็ไม่พลาดที่จะเอา ‘All New C125’ รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้ดูกันด้วยว่า มีฟังก์ชั่นใหม่ ๆ อะไรที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาให้แฟน ‘Super Cub’ ได้ตื่นตาตื่นใจกันบ้าง บอกเลยว่าเป็นพลาดไปไม่ได้จริง ๆ หลายคนรู้จักความยิ่งใหญ่ของรถจักรยานยนต์ Honda แต่ถ้าพูดเจาะลึกลงไปถึงที่มาที่ไปของซีรี่ส์รถในตำนาน ‘Super Cub’ เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ถึงต้นประวัติกำเนิดอย่างถ่องแท้ เรื่องราวของ Honda ‘Super Cub’ ย้อนกลับไปไกลกว่า 60 ปี ในขณะที่ Honda ก่อกำเนิดขึ้นในปี 1906 และเจริญเติบโตจนกลายเป็นบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นปี 1955
Jaguar E-Type ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่สวยที่สุด อย่างน้อยก็ในสายตาของ Enzo Ferrari แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญการ restore รถรุ่นนี้อย่าง E-Type UK ที่มีชื่อเสียงด้านการจัดทรงให้กลับมีสภาพสมบูรณ์มาช้านาน รู้สึกอยากสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับ E-Type ให้มีมากกว่าความสง่า จึงจัดการอัพเกรดโปรเจคสุดอลัง จูนขุมพลัง V12 ให้แรงกว่าเก่า พร้อมอัพเกรดรายละเอียดสำคัญให้คลาสสิคแต่ทันสมัยเข้าไปด้วย ผลงานชิ้นนี้เป็นโปรเจคแรกของ E-Type UK หลังเปิด sub-brand ใหม่ชื่อ Unleashed และวางตำแหน่งให้เป็นสำนักแต่งรถสไตล์ restomod เน้นแต่งรถ retro ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และเน้นให้ขับง่าย ใช้งานได้สะดวกสบายกว่ารถคลาสสิค Jaguar E-Type Series 3 by Unleashed ถูกนำมาเพิ่มความจุเครื่องยนต์ V12 จากเดิม 5.3 ลิตร เพิ่มเป็น 6.1 ลิตร เพิ่มพละกำลังจาก 272 ให้กลายเป็น 400 แรงม้า
หลังทำลายสถิติเวลาขึ้นเป็นรถ SUV ที่เร็วที่สุดในเส้น Nordschleife ระยะทาง 20.8 กิโลเมตรของ Nurburgring ด้วยเวลา 7:38:9 เขี่ย Audi RS Q8 ลงไปด้วยเวลาที่น้อยกว่า 3 วินาที Porsche ไม่รอช้า เปิดตัว 2022 Cayenne Turbo GT ออกมาฉลองทันทีทันควัน นี่คือ Cayenne ที่เร็วที่สุดในรุ่นสำหรับพ่อบ้านที่อยากได้ทั้งความแรงและความสะดวกสบายในการเดินทาง เครื่องยนต์ 4.0-liter twin-turbo V8 ปรับจูนทุกชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ตั้งแต่ crankshaft, pistons, turbo, ปรับระดับแรงฉีดเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ รวมถึงระบบไอดีไอเสีย จนได้พละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 631 แรงม้า และแรงบิดที่เพิ่มขึ้นเป็น 849 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 8-speed automatic ที่ผ่านการปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้ไวขึ้น ความเร็วสูงสุด 300 km/h ทำเวลา 0-100 km/h ได้ภายใน
เปิดตัวม้าผยองหัวใจ Hybrid ตัวใหม่กับรหัส 296 GTB Supercar เครื่องวางกลางที่มากับขุมพลัง Plug-in V6 ตัวใหม่ล่าสุด บอดี้ที่สั้นลงแต่เฉียบคมมากขึ้น เห็นตัวเลข V6 แล้วอย่าพึ่งคิดว่าเป็นน้องเล็กแรงม้าระดับ entry level เพราะมันมีแรงม้ามามากถึง 830 ตัว เครื่องยนต์รุ่นใหม่ของ Ferrari ความจุ 2,992 cc V6 hot-V twin-turbocharger layout ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดี่ยว พ่วงกับเกียร์ 8-speed dual clutch ส่งกำลังลงสู่ล้อหลัง ซึ่งเฉพาะเรี่ยวแรงจากเครื่องยนต์ V6 ตัวนี้ก็มีพละกำลังที่รีดออกมาได้เยอะมากถึง 664 แรงม้า ที่ 8000 rpm เรียกว่าเป็นเครื่องที่ออกแบบมาให้กดใช้งานแบบโหด ๆ เต็มรอบเครื่องยนต์มากกว่าขับแค่ตีนต้น เครื่องยนต์ผลิตจากวัสดุ aluminium alloy ที่รองรับการใช้งานหนัก ๆ และอัตราการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงระดับ 350-bar ได้สบาย ๆ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถสร้างแรงม้าได้อีก
เป็นรถ SUV ที่ใคร ๆ ก็รัก แม้ราคาในไทยจะแรงแสนแพงเกินงบใครหลายคนก็ตาม และเราก็เริ่มได้เห็น Edition พิเศษจากหลายสำนักแต่งบน Defender กันมากขึ้นเรื่อย ๆ และสำหรับสำนัก MANHART ชื่อที่หลายคนคุ้นเคยกับการปรับจูน BMW ให้แรงแซง Supercar เป็นว่าเล่น ได้เผยตัวแรงของรถลุยในรหัส MANHART New Land Rover Defender DP 500 ที่พัฒนามาจาก Land Rover Defender 110 P400 AWD ตัวถัง 5 ประตู เพิ่มพละกำลังเป็น 512 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง turbocharged สูสีกับตัวทอปเครื่อง 5 ลิตร V8 เลยทีเดียว นอกจากจูนเครื่องให้แรงขึ้น MANHART ยังอัพเกรดระบบท่อไอเสียทั้งเส้นด้วยวัสดุ
เสก Mercedes-AMG จากรถยนต์กลายเป็นจรวดทางเรียบมาแล้วเกือบทุกรุ่น กับรหัสที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง Brabus 800 ตัวเลขที่สื่อถึงพละกำลัง 800 แรงม้า แต่ผลงานล่าสุดถือว่าเป็นตัวท็อปรหัสแรงที่สุดของสำนัก กับการปรับจูนโมเดล SUV พิมพ์นิยม “Brabus 900 Rocket Edition Mercedes-AMG G63” เดิม ๆ ของ Mercedes-AMG G63 ก็แรงมากมายอยู่แล้ว เครื่องยนต์ 4.0 ลิตร twin-turbo V8 577 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร แต่ใน Rocket Edition Brabus ได้ทำการเพิ่มความจุเครื่องยนต์เป็น 4.5 ลิตร พร้อม remapped กล่องปรับอัตราฉีดน้ำมัน จุดระเบิด และเพิ่ม boost ให้แรงสะใจ กลายเป็นสมรรถนะระดับ 900 แรงมัา แรงบิด 1,049 นิวตันเมตร
ABT Sportsline สำนักแต่งรถที่สร้างผลงานระดับโลกกับรถ Audi ไว้มากมาย จากจุดเริ่มต้นในปี 1896 โดยชายที่ชื่อ Johann Abt ช่างตีเหล็กในยุคที่คนยังใช้รถม้าเป็นยานพาหนะ ใครจะไปรู้ว่าผ่านมา 125 ปี ชื่อ ABT จะผันตัวมาปรับแต่งจูนเพิ่มพลังให้ม้าเหล็กจากเยอรมัน สร้างชื่อเสียงในด้าน high-performance tuner ไปทั่วโลก และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 125 ปี ABT Sportsline ได้เปิดตัว ABT Audi RS6 Johann ABT Signature Edition ผลงานสุดพิเศษระดับ masterpiece เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง ด้วยรถยนต์ที่ถนัดที่สุด Audi RS6 Avant ปรับแต่งจนได้พละกำลัง 800 แรงม้า เพิ่มขึ้นจาก RS6 Avant ถึง 200 แรงม้า แรงบิด 980 นิวตันเมตร ทำเวลา 0-100km/h