คงไม่ผิดนักถ้าจะพูดว่าเครื่องแต่งกายอย่างกางเกงขาสั้น (Shorts) คือหนึ่งในไอเทมชิ้นสำคัญที่หนุ่มไทยนิยมสวมใส่ เพราะไอเทมชิ้นนี้สามารถตอบโจทย์การแต่งกายได้ในหลากหลายโอกาส แถมยังเหมาะกับสภาพอากาศร้อน ๆ ในบ้านเราได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ‘กางเกงขาสั้น’ กลับเป็นเครื่องแต่งกายที่ผู้ชายบางส่วนไม่ให้ความสำคัญมากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพและวิธีการสวมใส่ STYLE GUIDE วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาให้ความสำคัญกับเครื่องแต่งกายชิ้นนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะวิธีการเลือกซื้อหรือเทคนิคการใช้งานซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ จะประกอบไปด้วยเรื่องอะไรบ้าง? มาทำความรู้จักและเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลยครับ เลือกกางเกงขาสั้นให้เหมาะสม ต้องให้ความสำคัญกับอะไรบ้าง ? กางเกงขาสั้นที่ดีจะตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงจุด ไม่ว่าการสวมใส่ของคุณจะเน้นหนักไปในเรื่องของสไตล์หรือฟังก์ชันการใช้งาน ทั้งหมดทำให้ขั้นตอนการเลือกซื้อเป็นเรื่องที่เราต้องพิถีพิถันและจุดที่ทุกคนควรให้ความสำคัญมีดังต่อไปนี้ ความพอดีของรอบเอว กางเกงขาสั้นมีความสำคัญไม่ต่างจากเครื่องแต่งกายชิ้นอื่น ๆ ในตู้ของคุณ ไอเทมชิ้นนี้จะให้การสวมใส่ที่เหมาะสมได้ก็ต่อเมื่อ “เราสวมใส่ในขนาดที่ถูกต้อง” ลำดับแรกคือขนาดของรอบเอวที่ควรวัดให้พอดีก่อนซื้อ โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงบ่อย ในส่วนของรูปทรงการตัดเย็บแนะนำเป็นขากระบอกตรงหรือขากระบอกที่เข้ารูปเล็กน้อยและควรหลีกเลี่ยงกางเกงที่หลวมหรือรัดแนบเนื้อขาจนเกินความพอดี ความยาวของกางเกง เมื่อพูดถึงกางเกงขาสั้น “ความยาว” ของขากางเกงเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันมากที่สุด และตลอดหลายปีที่ผ่านมาเชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนมีโอกาสได้เห็นพัฒนาการของเทรนด์ความยาวที่หลากหลายและการ Mix and Match ในสไตล์ต่าง ๆ ของมัน อย่างไรก็ตามความยาวมาตรฐานสำหรับการเลือกซื้อกางเกงขาสั้นที่เราอยากแนะนำคือ ปลายกางเกงควรอยู่เหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยหรือประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่บริเวณต้นขา ซึ่งบางทรงอาจจะออกแบบมาให้พับปลายได้
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์เกิดมาพร้อมกับเส้นผมที่ไม่มีสี เป็นสีขาวเหมือนกันทั้งโลก แต่ปัจจัยที่ทำให้เส้นผมมีสีสันนั้น เกิดจากการทำงานของเซลล์รากผม (Melanocytes) ที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ออกมา สร้างสีสันที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเม็ดสีเมลานินที่ว่า ก็มีระยะเวลาที่จำนวนจะลดน้อยถอยลงตามวัยและกาลเวลาเมื่ออายุย่างเข้าเลข 30 หรือในบางคนอาจจะเจอได้เร็วกว่านั้นตามพันธุกรรม หรือที่เราเรียกว่า “ผมหงอกก่อนวัย (Premature graying)” ดังนั้นคำว่า “ผมขาว” หรือ “ผมหงอกก่อนวัย” จึงไม่ได้หมายความว่าเส้นผมของพวกเรามีสีขาวมาแทนที่สีดำ แต่เป็นการหมดไปของสีดำเนื่องจากเม็ดสีเมลานินมีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดไปกลายเป็นผมสีขาว ดังนั้นการถอนผมขาวแล้วหวังว่าจะงอกกลับมาดำ จึงเป็นความเชื่อผิด ๆ เพราะเมื่อเมลานินหมดไป ผมที่ขึ้นใหม่ก็จะไม่มีสีอยู่ดี ในอดีตจะมีเพียงวิธีการปกปิด โดยการทำสีผม แต่ปัจจุบันที่มีวิธีการป้องกันและฟื้นฟู เป็นเทคโนโลยีความล้ำหน้าในแชมพู MARO ซึ่งค้นพบเป็นครั้งแรกของโลกในประเทศญี่ปุ่น 1. ตามอายุขัย จากสถิติในหลายงานวิจัย พบว่าผู้ชายเอเชียอย่างเรา ๆ จะพบเห็นผมขาวได้ตั้งแต่อายุแตะเลข 30 ปีเป็นต้นไป เพราะเซลล์รากผมที่เริ่มโรยรา ไม่สามารถผลิตเม็ดสีเมลานินได้มากเหมือนแต่ก่อน เมื่อเม็ดสีดำเมลนินมีจำนวนน้อยลง ผมที่เคยดำก็ค่อย ๆ สีจางลงกลายเป็นสีขาวล้วนในที่สุด ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดจนสังเกตได้ง่าย โดยมีวิธีคำนวณที่นิยมใช้กันว่า ผมจะเริ่มขาวในวัย
‘กางเกงยีนส์’ คือไอเทมแฟชั่นสุดคลาสสิค ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ไม่มีวันตกเทรนด์ แถมบนหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นของโลกเผยให้เห็นวิวัฒนาการของยีนส์ที่ยกระดับขึ้นในทุก ๆ ปี รวมถึงปีนี้ที่กางเกงยีนส์ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่โลดแล่นอยู่ในเทรนด์เสมอ UNLOCKMEN ได้รวบรวมกางเกงยีนส์ 4 แบบ 4 สไตล์ ของ Uniqlo ที่เหมาะกับแฟชั่นสไตล์ต่าง ๆ เพื่อให้เหล่าสุภาพบุรุษได้มิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ เซตสูทเข้าชุดทั้งเสื้อ กางเกง เนกไท เข็มขัด รองเท้าหนังเงาวับ อาจดูเป็นทางการมากเกินไปหน่อยในการนัดพบลูกค้าบางกรณี บางครั้งบางคราวแฟชั่นกึ่งทางการก็เป็นกุญแจสำคัญที่สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับคู่สนทนา ลองปลดเนกไทหรือหูกระต่ายเก็บไว้ในลิ้นชัก เปลี่ยนจากเสื้อเชิ้ตติดกระดุมถึงเม็ดบนเป็นเสื้อยืด เปลี่ยนกางเกงสแลคเป็นยีนส์สักตัว พร้อมกับพกความมั่นใจไว้ไม่ให้ห่างกาย ทั้งหมดจะส่งให้เราโดดเด่นและมีมาด แถมยังเป็นตัวของตัวเองแบบไม่เกร็งหรือดูทางการเกินไปต่อหน้าลูกค้าก็น่าสนใจไม่น้อย กางเกงยีนส์กับแฟชั่นวันกึ่งทางการที่ UNLOCKMEN อยากแนะนำคือ กางเกงยีนส์รุ่น Ultra Stretch Skinny Fit สกินนี่ยืดหยุ่นพิเศษและสวมใส่สบายที่ทาง Uniqlo พัฒนาร่วมกับ ISKO บริษัทผลิตยีนส์ชั้นนำ ทำให้ Ultra Stretch Skinny Fit เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นเป็นพิเศษด้วยอัตรายืดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และคืนสภาพได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์
‘ความคล่องตัว’ คือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนล้วนตามหา โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง เส้นแบ่งเวลาทํางาน เวลาพักผ่อน และเวลาออกไปทํากิจกรรมสุดเหวี่ยงนั้นไม่เคยตายตัว การมีนาฬิกาที่ตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานทรงคุณภาพ และที่สำคัญคือต้องใช้งานได้จริง ถือเป็นหัวใจสําคัญสำหรับผู้ชาย Work Hard Play Hard อย่างเรา ๆ อย่างไรก็ตาม นาฬิกาที่ตอบโจทย์ฟังก์ชันลุย ๆ หรือเสริมความคล่องตัว อาจจะมีดีไซน์ไม่ค่อยจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องไปทํางาน หรือไม่สามารถแมทช์กับการแต่งตัวของ Urban men ได้เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาฬิกาที่ผู้ชายต้องสวมใส่ติดตัวทุกวัน เรื่องฟังก์ชันต้องตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด แต่ดีไซน์ก็ต้องเติมเต็มสไตล์ของ Urban Men จึงไม่ได้เจอที่ถูกใจกันง่าย ๆ แต่สำหรับ Tissot Seastar 1000 นี่คือนาฬิกาคุณภาพ Swiss ในราคาที่ครอบครองได้ง่าย และพร้อมใช้งานบนข้อมือของเราได้ในทุกสถานการณ์ทั้งในเมืองหรือในทะเล Tissot Seastar 1000 เรือนเวลาที่มีสุดยอดนวัตกรรมของนาฬิกาสปอร์ตในตัว ควบคู่กับดีไซน์โมเดิร์นร่วมสมัย สวมใส่ได้ทั้งในเมือง และพร้อมเติมเต็มความหลงใหลและกิจกรรมลุย ๆ ของผู้ชายได้ โดยเฉพาะผู้ชายที่หลงใหลการท่องเที่ยวทะเลหรือกีฬาทางนํ้า ชื่นชอบการเติมสีสันให้ชีวิตด้วยการโต้คลื่น เล่นเจทสกี ฟลายบอร์ด เวคบอร์ด เซิร์ฟ
รองเท้าคือหนึ่งในเครื่องแต่งกายที่ผู้ชายอย่างเราต่างให้ความสำคัญ การเลือกรองเท้าที่สวมใส่ให้เหมาะสมจะช่วยสร้างสไตล์ที่เนียนตา ไม่ว่าเราจะหยิบชุดไหนมาสวมใส่ออกจากบ้านก็ตาม โลฟเฟอร์ (Loafers) รองเท้าอีกหนึ่งชนิดที่หนุ่ม ๆ หลายคนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะนี่คือคลาสสิกไอเทมที่เหมาะสมกับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์และการลงทุนกับโลฟเฟอร์คุณภาพดี ๆ สักคู่จึงเป็นเรื่องที่เราอยากให้คนที่ยังไม่มีไอเทมชิ้นนี้ติดตู้ลองทบทวนกันดูอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ยังไม่มั่นใจว่าโลฟเฟอร์แบบจะเหมาะกับการตัวคุณ STYLE GUIDE วันจะขอพาหนุ่ม ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับรองเท้าชนิดนี้อีกครั้ง อย่ามัวเสียเวลาและมาทำความรู้จักไอเทมชิ้นนี้ไปพร้อมกันได้เลยครับ โลฟเฟอร์ (Loafers) คืออะไร ? โลฟเฟอร์คือชนิดรองเท้าที่ไม่มีเชือกผูกรองเท้าหรือเชือกผูกในส่วนต่าง ๆ โดยทั่วไปมักจะทำจากหนังหรือหนังกลับเรียกว่าเป็นโมเดล Slip-on ยุคแรกที่มอบทั้งสไตล์คลาสสิกและการสวมใส่ที่คล่องตัวจนทำให้หนุ่ม ๆ ทั่วโลกให้ความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน วัสดุของรองเท้าโลฟเฟอร์ สำหรับคนที่กำลังมองหาโลฟเฟอร์ รองเท้าชนิดนี้ส่วนใหญ่นิยมผลิตจากหนัง (Leather) หรือหนังกลับ (Suede) ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดมีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกันออกไป เริ่มจากโลฟเฟอร์หนัง โลฟเฟอร์ชนิดนี้จะให้ความรู้สึกเรียบหรูจากหนังมันวาวซึ่งเหมาะกับสวมใส่กับชุดที่เป็นทางการรวมถึง Smart Casual ที่ดูคล่องตัว อย่างไรก็ตามโลฟเฟอร์ชนิดนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับขั้นตอนการเก็บรักษา การขัดเงาซึ่งจะช่วยรักษาอายุการใช้งานให้คงอยู่นานหลายปี ขณะที่โลฟเฟอร์หนังกลับเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับสวมใส่กับชุดที่เป็นทางการกว่า ละเอียดอ่อนกว่า เช่น Dress Pants หรือสวมใส่คู่กับสูทและชุดเป็นทางการที่เน้นความหรูหรามากกว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันการสวมใส่โลฟเฟอร์หนังกลับคู่กับชุดสไตล์อื่นก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ชนิดของโลฟเฟอร์ Penny Loafers: เริ่มต้นคู่แรกกับ
บอกตรง ๆ ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก Swatch เรือนเวลาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่เปรียบเสมือนมหานครแห่งโลกนาฬิกา แต่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าสวิตเซอร์แลนด์เคยเกือบเสียตำแหน่งเบอร์หนึ่งแห่งอุตสาหกรรมเครื่องบอกเวลาไปกับวิกฤตการณ์ Quartz ในช่วงยุค 70 – 80 จนกระทั่งในปี 1983 เหล่าผู้ประกอบการธุรกิจนาฬิกาสวิสได้ปรึกษาหารือแล้วว่าจะไม่ทนอีกต่อไป จึงได้ร่วมมือกันกอบกู้สถานการณ์ ด้วยการพัฒนานาฬิกาพลาสติกระบบ Quartz ตัวเรือนบางเฉียบ ดีไซน์เรียบง่ายทันสมัย สีสันหลากหลายราคาไม่แพง ออกมาแลกหมัดกับนาฬิกา Quartz จากแดนปลาดิบให้รู้ดำรู้แดงกันไป ผลสุดท้าย ด้วยคุณภาพอันเป็นที่ร่ำลือของนาฬิกา Swiss Made ที่จับต้องได้ในราคาเป็นมิตร ทำให้นาฬิกากู้ชาติของสวิสเรือนนี้ได้รับความนิยมถล่มทลายไปทั่วโลก ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจส่งออกนาฬิกาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง และเจ้านาฬิกาพลาสติกเรือนที่ว่าก็คือนาฬิกา Swatch ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก และน่าจะเคยครอบครองมาแล้วอย่างน้อยคนละเรือนสองเรือน จากการ Debut สู่สายตา และข้อมือชาวโลกในฐานะนาฬิกาพลาสติก ราคาประหยัด สีสันสดใส ทำให้ใคร ๆ ต่างก็มีภาพจำกับความเป็นนาฬิกาพลาสติกของ Swatch แต่จริง ๆ แล้วตลอด 37 ปีที่ผ่านมา Swatch ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาหลากรูปแบบ หลายฟังก์ชัน
โลกของแฟชั่นกับการเมือง เป็นสองสิ่งที่อยู่คู่ขนานและเกี่ยวข้องกันมาโดยตลอด เสื้อผ้าแฟชั่นมักจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือแสดงด้านมุมมองทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการ Direct message อย่างข้อความบนเสื้อ แต่สำหรับกางเกงของ Patagonia แบรนด์ที่มีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม ก็เลือกที่จะแสดงออกแบบ easter egg แต่ก็ไม่พลาดสายตาประชาชนไปได้ ด้วยการสกรีนข้อความ “Vote the Assholes Out” ก่อนหน้ามีชาว Tweeter โพสต์รูปว่าป้าย label ของกางเกง Patagonia พร้อมข้อความที่ระบุชัดเจนอย่างตั้งใจว่า “Vote the Assholes Out” ซึ่งทางแบรนด์ได้ออกมายืนยันว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจโจมตีนักการเมืองของ Donal Trumps ที่ไม่สนใจปัญหา Climate Change และมีแต่นโยบายทำลายธรรมชาติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น Brad Wieners, Patagonia director of copy, ออกมายืนยันว่าป้ายและข้อความนั้นจะมีอยู่ในกางเกงรุ่น Regenerative Organic Stand-Up Shorts ทุกตัว ซึ่งเป็นกางเกงรุ่นคลาสสิคที่ผลิตตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและสัญลักษณ์ที่แบรนด์ก่อตั้งเพื่อช่วยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคำว่า “Vote
เฟอร์นิเจอไม้ดีไซน์สวยๆ จะช่วยให้บรรยากาศในบ้านคุณดูดี น่าอยู่ขึ้นมากเลยทีเดียว
หากเอ่ยถึงชื่อแบรนด์ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ขึ้นมา สาวกเรือนเวลาน่าจะรู้กันดีถึงกิตติศัพท์ด้านการจับเวลาที่เที่ยงตรงแม่นยำของจักรกลบอกเวลา ที่มีต้นกำเนิดจากหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งใน Saint-Imier (แซงต์ อิมิเยร์) ตั้งอยู่ใกล้เทือกเขา Jura (ชูรา) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งก่อตั้งโดยนาย Leon Breitling ช่างทำนาฬิกาที่ริเริ่มประดิษฐ์นาฬิกาจับเวลาในปี 1884 ด้วยชื่อเสียงเรื่องความแม่นยำทำให้จักรกลจับเวลาภายใต้ชื่อแบรนด์ Breitling ถูกนำไปใช้งานสำหรับภารกิจเหินเวหาอย่างมากมาย จนได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนานาฬิกาข้อมือแบบจับเวลาซึ่งได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในช่วงเวลาสำคัญในการพิชิตเวหาของมวลมนุษยชาติ จวบจนปัจจุบัน Breitling ยังเดินหน้าพัฒนานาฬิกาคุณภาพสูงขึ้นมาด้วยเป้าหมายเดียวกันกับวันแรกที่ Leon Breitling ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้เริ่มประดิษฐ์นาฬิกาจับเวลาขึ้นมา นั่นก็คือการสร้างสรรค์นาฬิกาจับเวลาที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมระดับโลก และยังคงผลิตกลไกเองแบบ In-House ซึ่งนาฬิกาทุกเรือนของ Breitling นั้นผ่านการผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับรองคุณภาพตามมาตรฐาน Chronometer จากสถาบัน COSC และเมื่อได้พูดคุยถึงเรื่องราวของ Breitling สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือ Chronomat (โครโนแมท) เรือนเวลาที่เปรียบเสมือนคอลเลคชันสําคัญในประวัติศาสตร์ของ Breitling ที่เปิดตัวมาในปี 1984 ซึ่งเป็นยุคที่นาฬิกา Quartz เรือนบางเฉียบจากญี่ปุ่นกําลังเป็นที่นิยมจนสามารถครองตลาดมาตั้งแต่ช่วงยุค 70s สวนทางกับนาฬิกาจักรกลสวิสเมดที่ความนิยมหดหายจนแทบเข้าขั้นวิกฤติ แต่ถึงกระนั้น
สำหรับผู้ชายอย่างเรา เสื้อเชิ้ต (Shirt) ถือเป็นเครื่องแต่งกายอีกหนึ่งชิ้นสำคัญที่เลือกสวมใส่ได้เกือบทุกโอกาส ในเวลาเดียวกันรูปแบบและงานดีไซน์ของเสื้อเชิ้ตก็ถูกพัฒนารวมถึงดัดแปลงจนทำให้ชนิดของเสื้อเชิ้ตผสมปนเปกันไป ปัจจุบันแม้จะมีเสื้อเชิ้ตหลากหลายรูปแบบถูกส่งออกมาสู่ตลาด แต่ความนิยมของเสื้อเชิ้ตดีไซน์คลาสสิกก็ยังคงเป็นสไตล์ที่ผู้ชายทั่วโลกนิยมสวมใส่ ซึ่งวันนี้ STYLE GUIDE ของเราได้หยิบยกเสื้อเชิ้ตทั้งหมด 6 ชนิดมาแนะนำให้หนุ่ม ๆ ทุกคนได้ทำความรู้จัก ซึ่งเสื้อเชิ้ตแต่ละสไตล์จะมีความโดดเด่นและเหมาะกับการใช้งานในโอกาสใดบ้าง มารู้จักไปพร้อมกันได้เลย OCBD Shirt เสื้อเชิ้ต OCBD หรือชื่อเต็มคือ Oxford-Cloth Button Down คือเสื้อเชิ้ตตัวแรกที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ข้อดีของเสื้อเชิ้ต OCBD คือสไตล์ตัดเย็บและเนื้อผ้าที่เหมาะกับการสวมใส่ทั้งลุค Casual และ Smart ในตัวเดียว จุดเด่นของ Oxford-Cloth Button Down คือกระดุมตรงปกคอเสื้อซึ่งมีไว้สำหรับติดยึดปกเสื้อ รวมถึงเนื้อผ้า Oxford ที่มีลักษณะเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวันสบาย ๆ กับเพื่อนที่เน้นการเคลื่อนไหวหรือวันเดทกับสาว เสื้อเชิ้ต OCBD คือหนึ่งในเสื้อเชิ้ตที่ตอบโจทย์การแต่งกายของคุณได้อย่างแน่นอน Camp Collar Short-Sleeve Shirt Camp Collar Short-Sleeve Shirt