ปีเก่ากำลังผ่านไป ปีใหม่กำลังจะผ่านเข้ามา ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ทั้งอารมณ์ อากาศ และบรรยากาศ มันเหมือนเป็นช่วงโค้งสุดท้ายในการรีบเคลียร์งาน รีบปาร์ตี้ รีบเล่นเกมปราบบอสเคลียร์เลเวลให้เทพกว่าใคร รีบไปฉลองและเก็บทุกกิจกรรมมันส์ ๆ ช่วงส่งท้ายปีที่มีวันหยุดเยอะแยะเหลือเกิน อะไรที่เคยคิดหรือแพลนว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ ผู้ชายหลายคนน่าจะเลือกใช้โอกาสนี้เก็บแต้มให้ครบจบปีสวยงาม แต่แม้กายจะพร้อม ใจจะพร้อม วันหยุดพร้อม ผิวหน้าของพวกเราอาจจะไม่พร้อมรับกิจวัตรสุดหักโหมในช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ ส่งผลให้ช่วงปลายปีเป็นช่วงที่ผู้ชายเราหน้าโทรมหมองคล้ำรับปีใหม่กันเสมอ ซึ่งครั้นจะไปรอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ไขก็ดูจะไม่ใช่สไตล์ผู้ชายหน้าหล่อ ทางที่ดีเราควรลุกขึ้นมาจัดเต็มพร้อมดูแลบำรุงผิวหน้าให้มีพลัง สดใสพร้อมลุยทุกกิจกรรม ปาร์ตี้หนัก ทำงานจัดเต็ม ใช้ชีวิตสุดขนาดนี้ อาจจะมีอาการหน้าโทรมเป็นซอมบี้ปรากฏขึ้นมาบนหน้าได้ ผู้ชายเราจึงไม่ควรมองข้ามการดูแลผิวหน้า ทำความสะอาดและบำรุงรักษาให้ผิวหน้าสดใสมีออร่าแบบผู้ชาย เป็นการให้รางวัลตัวเองที่ดีในการเริ่มปีใหม่แบบหล่อ ๆ ของพวกเราทุกคนใน The Men Expert Bible #5 by L’Oreal Men Expert ไบเบิลเสริมหล่อ Ep 5 ที่จะมาปิดท้ายหลักสูตรดูแลผิวหน้าผู้ชายที่กำลังเข้าสู่ช่วงกิจกรรมหนัก ๆ แบบช่วงสิ้นปีหรือจะเป็นช่วงหยุดยาวไหน ๆ หรือช่วงหักโหมเมื่อไหร่ ก็สามารถนำวิธีดูแลผิวหน้าสดชื่นกระจ่างใสที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก พร้อมรับวันใหม่แบบเร่งด่วนนี้ไปใช้ได้เช่นกัน สำหรับการปลุกพลังผิวหน้าให้สดชื่นกระจ่างใสในขั้นตอนเบื้องต้น สามารถย้อนไปดูได้จาก The Men Expert
แม้จะถูกแซะอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็นรองเท้ารูปทรงขัดตาขัดใจ แต่ตอนนี้กลายเป็นแรร์ไอเทมไปแล้วสำหรับ Post Malone x Crocs ล่าสุดพวกเขากำลังเตรียมตัวปล่อยรองเท้าในดรอปที่สองตามออกมา หลังจากรองเท้ารุ่นแรกได้รับความนิยมจากแฟน ๆ อย่างท่วมท้น ถึงขนาดราคา Resell ใน eBay พุ่งทะยานเกิน 10 เท่าของราคาป้ายไปแล้ว Post Malone x Crocs คู่แรกถูกปล่อยออกมาแบบเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเลือกถ่ายทอดผลงานลงบนรองเท้า Iconic ของค่ายซึ่งทุกคนคุ้นตากันดีอย่าง Classic Clog ซึ่งการทำออกมาครั้งนั้นเหมือนเป็นการโยนหินถามทางมากกว่าถ้าดูจากจำนวนที่ผลิตออกมา แต่ทว่ามันกลับสร้างปรากฏการณ์ด้านยอดขายฟ้าถล่มดินทลาย รวมไปถึงเสียงตอบรับด้านบวกเป็นวงกว้าง ทำเอาคนที่เคยด่า Crocs ต้องกลืนน้ำลายตัวเองกันหลายอึก ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดการปล่อยรองเท้ารุ่นที่สองตามออกมาในที่สุด Post Malone x Crocs ดรอปที่สองมากับรองเท้าในโมเดลเดียวกันกับคู่แรก แต่เปลี่ยนมาใช้โทนสีเหลืองสดเป็นหลัก ตัวรองเท้ามาพร้อมกราฟิกลายลวดหนามซึ่งถือเป็นลายที่ Post Malone หลงใหลเป็นพิเศษ ตกแต่งด้วยเข็มกลัดจาก Jibbitz ไม่ว่าจะเป็นรูปงู, หัวกะโหลก รวมถึงโลโก้ PM-2 ตัดด้วย In-Sole สีดำสนิทสร้างมิติที่แปลกใหม่ โดยมีแผนจะวางขายสู่ตลาดในวันที่
Patek Philippe แบรนด์นาฬิกาสุดหรูที่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี ใครได้ยินก็ต้องรู้จักและอยากมีเก็บไว้เป็นของตัวเองซักเรือน ซึ่งการรักษาคุณภาพและชื่อเสียงของแบรนด์ให้อยู่มาอย่างยาวนานได้ขนาดนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย UNLOCKMEN พร้อมไขคำตอบว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ Patek Philippe สามารถคงความหรูหราและมูลค่ามีระดับมาได้จนถึงปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของแบรนด์นาฬิกาชื่อก้องโลกเริ่มต้นขึ้นใน ค.ศ.1839 อังตวน นอร์เบิร์ด เดอ ปาเต็ก ดีไซน์เนอร์ยอดฝีมือกับเพื่อนของเขา ฟรองซัวส์ ซีซาเปค ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทนาฬิกาขึ้นในเมืองเจนีวา โดยใช้ชื่อว่า Patek, Czapek & Cie ผลิตนาฬิกาคุณภาพยอดเยี่ยมเป็นเวลากว่า 6 ปี จนกระทั่ง ซีซาเปค ได้แยกตัวออกมา ทำให้ปาเต็กได้คุมบังเหียนของบริษัท ต่อมาในช่วงเวลาใกล้กันใน ค.ศ. 1844 ช่างทำนาฬิกานามว่า ฌอง เอเดรียน ฟิลิป ก็ได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาจากการบุกเบิกเทคโนโลยีนาฬิการะบบกลไกแบบไม่ต้องใช้กุญแจ หรือ Keyless stem-winding system ได้สำเร็จ เพราะแต่เดิมการตั้งเวลาจะต้องใช้กุญแจเพื่อแกะด้านหลังของนาฬิกา ทำให้ฝุ่นหรือไอน้ำเข้าตัวนาฬิกาอยู่บ่อยครั้ง แถมในบางทีก็ทำกุญแจหายอีก สิ่งที่ฟิลิปคิดค้นขึ้นนั้นสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมา ด้วยสิ่งที่เรียกว่า เม็ดมะยม ที่ตั้งเวลาได้โดยไม่ต้องมานั่งแกะตัวเรือนให้เสี่ยงต่อความชื้นและฝุ่นละออง และในรายละเอียดเล็ก ๆ นี้เองที่ส่งผลในเรื่องของความสะดวกสบายอย่างเหลือเชื่อ ทำให้ผลงานของฟิลิปได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวที Products
ถ้าจะให้บอกว่าประเทศไทยเข้าสู่ช่วงอากาศหนาวแล้วก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก แต่ลมเย็น ๆ ที่พัดมาโดนตัวก็ถือเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอ เพราะนอกจากจะสบายตัวแบบนานทีปีหน ยังเป็นช่วงโอกาสที่เราจะได้แต่งตัวหล่อ ๆ แบบหลาย Layers และวันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำ 5 ไอเท็มเด็ดสุดเท่รับลมเย็นที่สวมใส่ได้จริง และไม่เวอร์จนคนต้องเหลียวหลังว่าจะแต่งตัวไปเล่นหิมะที่ไหน 1.Denim Jacket เริ่มต้นกันด้วยสไตล์สุดคลาสสิคไม่มีวันตายอย่าง เดนิม หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ยีนส์ ถือเป็นความอิสระทางแฟชั่น เป็นเสื้อที่ไร้ชนชั้นเพราะไม่ว่าจะอากาศร้อนหนาวแค่ไหน หรือไม่ว่าจะเป็นเพศอะไร ลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงรุ่นคุณปู่ก็สามารถหยิบเดนิมมาสวมใส่ได้อย่างไม่เก้อเขิน และอย่าได้คิดว่ามันเป็นแค่แจ็คเก็ตตัวเดียว เดนิมนั้นสามารถสร้างลุคเท่หลากสไตล์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งในวันที่มีลมเย็น ๆ ด้วยแล้ว อย่าพลาดที่จะหยิบเดนิมตัวโปรดมาจับคู่กับรองเท้าหนังหรือแว่นกันแดดซักอัน หรือจะเลือกจับคู่กับเสื้อยืดเด็ด ๆ ประจำตัว ช่วยเติมเต็มชีวิตให้มีสีสัน เปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นวันที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ 2.Hoodie ไอเท็มยอดนิยมอีกหนึ่งชิ้นอย่างเสื้อฮู้ดขวัญใจวัยมันส์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะแนว Hip Hop, Rapper, Sporty หรือจะ Punk ก็นิยมหยิบจับมาสวมให้เห็นกันจนชินตา ไม่ว่าจะร้อนหรือจะหนาวก็ใส่กันบ่อยครั้งไม่มีเบื่อ และหมดกังวลกับเรื่องที่กลัวว่าใส่แล้วจะร้อนเกินไปได้เลย เพราะในเมืองไทยเรามี Hoodie ให้เลือกทั้งรูปแบบและความหนาบางได้ตามใจชอบ ดังนั้นลมเย็นรอบนี้ ลองจับเสื้อฮู้ดแบบไม่มีซิป หรือที่เรียกกันว่า Pull over
CARNIVAL ออกคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด “Senioritis” สำหรับซีซั่น Fall/Winter 2018 นี้ โดยคอลเลคชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ภาพยนตร์ และ Music Video ที่เล่าเรื่องถึงความคึกคะนอง ก๋ากั่น แสบซ่า ของวัยรุ่นในโรงเรียน High School ในยุค 90-95’s ที่ปัจจุบันก็ยังคงสามารถหาเปิดดูกันได้อยู่ ทั้งเสื้อผ้าที่วัยรุ่นชายหญิงเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกแต่วตัวกันมาอวดความเท่ ความ bold ในสไตล์ที่ชัดเจนของแต่ละกลุ่มแก๊งค์หลายคาแรคเตอร์ ทั้ง เด็กเนิร์ด เด็กหลังห้อง เด็กนักกีฬาทีมโรงเรียน เชียร์ลีดเดอร์ เด็กสเก็ตบอร์ดและดาวเดือนโรงเรียน ยังรวมไปถึง ช่วง Long Holiday Weekend ที่โรงเรียนหยุด เครื่องแต่งกายที่ต้องใส่ในวาระกิจกรรม Outdoor ต่าง ๆ ของพวกเขาอีกด้วย โดยคอลเลคชั่นนี้ยังคงเลือกใช้ เทคนิค และการวางคู่สีแบบ Color block แต่มีเทคนิคตัดต่อที่ยากขึ้น รวมถึงแมททีเรียลคุณภาพสูงจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เป็นต้น เพื่อเพิ่มความพิถีพิถันให้มากขึ้นในคอลเลคชั่นนี้ สำหรับ Items
เดินทางเข้าสู่ช่วงสิ้นปี ที่ปกติผู้ชายอย่างเราต้องก็มีค่าใช้จ่ายมากมายให้จัดการอยู่แล้ว แต่เหมือนบรรดาค่ายของเท้าต่าง ๆ จะอยากสร้างทางเลือกการใช้เงินให้เรามากขึ้น ด้วยการปล่อยรองเท้ารุ่นเด็ด ๆ ออกมาส่งท้ายปีโดยเฉพาะในคอลเลกชันของ Nike x Off-White ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาสำหรับรองเท้า 3 คู่สุดท้ายเสียทีตามข่าวลือของวงในที่ได้เปิดเผยมา NIKE และ OFF-WHITE™ ประกาศร่วมงานกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2017 ก่อนปล่อยคอลเลกชัน “THE TEN” ออกมาทักทายโลกสตรีทแฟชั่น ด้วยตารางการดรอปของแบบลากยาวตลอดทั้งปีกับรองเท้ากว่า 10 โมเดล ไม่ว่าจะเป็น Air Jordan 1, Blazer, Presto, Air Max 97, Air Max 90, Air Force 1, Air VaporMax และ Zoom Fly ซึ่งสร้างกระแสความนิยมได้มากน้อยแตกต่างกันไปแต่ไฮป์เป็นพลุแตกทุกคู่ และตอนนี้ก็ได้เวลาในการปล่อยของเดิมออกให้หมด เพื่อเตรียมตัวสำหรับผลงานชุดก็ไปในปี 2019 ล่าสุด Instagram ในชื่อ @dropinfos ได้เปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการว่า
หากพูดถึง Herschel Supply co หลายคนอาจติดภาพของแบรนด์ผู้ผลิตกระเป๋าแบ็คแพ็คและกระเป๋าเดินทางขวัญใจวัยรุ่นไปจนถึงคนทำงาน ซึ่งกำลังเติบโตและได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก แต่ที่จริงแล้วตลอดช่วงระยะเวลา 9 ปี นับตั้งแต่ Herschel ถูกก่อตั้งขึ้นพวกเขาก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับแค่เรื่องกระเป๋า แต่ยังพัฒนาตัวเองและกำลังขยาย Categories สินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมกับตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าอยู่เสมอ ถ้าสงสัยว่าอะไรที่เป็นพื้นฐานของการเติบโตอันรวดเร็วและแข็งแกร่งของพวกเขา วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ UNLOCKMEN ได้มาพูดคุยกับคุณ Lyndon Cormack (ลินดอน คอร์แม็ก) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Herschel Supply co. ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์เจ๋ง ๆ แบบ Exclusive รวมไปถึงบอกเล่าแนวทางและเบื้องหลังความสำเร็จของ Herschel ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงแผนอนาคต ใครเป็นแฟนกระเป๋าแบรนด์นี้ และอยากรู้ว่าชายผู้กุมบังเหียนแบรนด์ระดับโลกคนนี้ มีขั้นตอนการทำงานและพัฒนาตัวเองยังไงบ้าง บอกเลยว่าใครอยากสร้างแบรนด์แฟชั่นให้ไปไกลระดับโลกควรอ่านให้จบ รับรองเกิดประโยชน์แน่นอน ย้อนกลับไปในวันที่ก่อตั้ง Herschel อะไรคือแรงบันดาลใจการสร้างแบรนด์ขึ้นมา ? “ในทุกธุรกิจมักเริ่มจากปัญหาอยู่เสมอ แต่ก็โชคดีที่ปัญหาของเรานั้นง่าย เรื่องของเรื่องคือเราพบว่ารูปแบบของกระเป๋าสะพายมันดูธรรมดาและน่าเบื่อจนเกินไป เลยอยากสร้างกระเป๋าที่ถูกขับเคลื่อนด้วยสไตล์และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงใส่ใจในรายละเอียดการผลิต และนับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน Herschel ก็ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน” อะไรคืออุปสรรคสำคัญในเวลานั้น
ด้วยภาระหน้าที่มากมาย ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องเล่น เรื่องการใช้ชีวิต บ่อยครั้งที่ผู้ชายมักจะทุ่มพลังให้กับ ชีวิตทุกด้านอย่างเต็มที่ ลุยงานเครียดหามรุ่งหามค่ำ เชียร์บอลดึก ปาร์ตี้หนัก หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาเล่นเกมผ่อนคลายก็ยังอดไม่ได้ที่จะมีอาการหัวร้อนติดลมเล่นต่อจนสว่างคาตา ยิ่งปาร์ตี้หนัก ๆ ดูบอลดึก ๆ แล้วต้องตื่นเช้าไปทำงานทั้งที่หน้าโทรม ๆ แบบนี้ไม่เวิร์คแน่ ซึ่งการใช้พลังอย่างหนักหน่วงแบบนี้เป็นประจำ เป็นต้นตอของปัญหาใบหน้าเหนื่อยโทรม ดูอ่อนล้า หมองคล้ำ ขนาดส่องกระจกเห็นหน้าตัวเองยังหดหู่ใจ แล้วนับประสาอะไร เมื่อต้อง ออกไปพบเจอผู้คนก็คงไม่วายที่จะถูกมองเหมือนคนหมดสง่าราศี ไร้เสน่ห์ เสียบุคลิก ส่งผลต่อความมั่นใจเข้าอย่างจัง และหลายครั้งที่ใบหน้าโทรมเหมือนซอมบี้ ที่ดูเหนื่อยล้า หมองคล้ำ ยังอาจทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย และปัญหาที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่ไม่ควรปล่อยไว้ แต่จะให้ปรับพฤติกรรมเปลี่ยนวิถีชีวิตก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่ทำได้คือหาทางออกให้ผู้ชายอย่างเรา ๆ ยังคงสามารถใช้ไลฟ์สไตล์เต็มที่ โดยที่ยังมีใบหน้าดูดี เปล่งปลั่งกระจ่างใสเต็มไปด้วยพลัง พร้อมสแตนด์บายความหล่อรอรับโอกาสดี ๆ ที่มีเข้ามาในทุกสถานการณ์ The Men Expert Bible #4 by L’Oreal Men Expert ไบเบิลเสริมหล่อ Ep 4 ขอแนะนำขั้นตอนปลุกพลังฟื้นฟูผิวหน้าให้สดชื่นกระจ่างใส บอกลาหน้าโทรมเหนื่อยล้าไปได้เลย เริ่มต้นปลุกผิวด้วยการล้างหน้า:
Nike เตรียมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ Sneaker อีกครั้ง หลังมีข่าวออกมาว่าพวกเขาเตรียมแต่งตั้งประธานบริษัทของ AIR JORDAN คนใหม่แทนที่ Larry Miller ซึ่งจะขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งบอร์ดบริหารและที่ปรึกษาของแบรนด์แทน โดยการรับตำแหน่งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2019 ที่กำลังจะมาถึง และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญขึ้นในตลาดรองเท้า Sneakers ได้อย่างแน่นอน Nike ร่วงหล่นลงมาอยู่อันดับ 2 ในตลาดรองเท้าผ้าใบ โดยเสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Adidas ที่มีผลงานร้อนแรงตลอดทั้งปี ส่วน Air Jordan ก็มีส่วนแบ่งตลาดอยู่เพียง 9.5% ของตลาดทั้งหมดเท่านั้น ทำให้พวกเริ่มมองหาทางออกที่สามารถทำให้การตลาดของพวกเขาแข็งแรงมากขึ้น และหวยก็มาตกที่ Craig Williams นักธุรกิจมากประสบการณ์ ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย มารับไม้ต่อในการรีแบรนด์ให้สัญลักษณ์ Jump Man กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง Craig Williams มาพร้อมโปรไฟล์ยาวเป็นหางว่าว ก่อนหน้าในปี 2005 เขาเคยรับตำแหน่งรองประธานอาวุโสของ Coca Cola และตำแหน่งประธานของ McDonald’s รับผิดชอบดูแลการเติบโตของร้านมากกว่า 37,000 สาขาในกว่า 100 ประเทศ นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานนิวเคลียร์ของ
การร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงาน คือหนึ่งในรูปแบบการทำงานยอดนิยมของวงการแฟชั่นในปัจจุบัน เพราะนอกจากการย้ายค่ายสลับขั้วเพื่อสร้างผลงานร่วมกัน จะสามารถสร้างไอเดียดี ๆ และขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว หากมีจังหวะวางขายที่ดีพวกเขาอาจทำเงินมูลค่ามหาศาลได้ในเวลาไม่นาน เพราะมักจะเป็นผลงานแบบ Limited Edition เมื่อการคอลแลปส์เพื่อผลประโยชน์ยังดำเนินต่อไปเป็นเรื่องปกติของบริษัทแสวงหาผลกำไร แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังมีการร่วมงานกันเพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็ก ๆ ในสังคมที่รู้จักกันในชื่อ NIKE X DOERNBECHER FREESTYLE อยู่ด้วยเช่นกัน NIKE X DOERNBECHER FREESTYLE คือการร่วมมือกันระหว่าง Nike Inc. และ Doernbecher Children Hospital ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเด็กชั้นนำไม่กี่แห่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวโครงการเกิดขึ้นจากแนวคิดของ Michael Doherty ในเวลานั้นยังรั้งตำแหน่ง Creative Director ให้กับ Nike อยู่ โดยเขาได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของลูกชายที่ชื่อว่าคอนเนอร์ เกี่ยวกับการหาวิธีช่วยเหลือและสนับสนุนโรงพยาบาล ซึ่งคอนเนอร์ก็เสนอไอเดียอย่างน่าสนใจว่า อยากให้ผู้ป่วยเด็กได้มีส่วนร่วมกับการออกแบบรองเท้า Nike ของตัวเอง เพื่อนำไปประมูลและนำรายได้ทั้งหมดมอบเข้ามูลนิธิ 15 ปีที่ผ่านไป DOERNBECHER FREESTYLE สามารถหาเงินช่วยเหลือให้กับโรงพยาบาลได้ถึง 20 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ป่วยเด็กซึ่งกำลังรอความช่วยเหลืออีกจำนวนมาก และล่าสุดคอลเลกชัน NIKE X