จะเอาอะไรมาหยุดไหวกับงาน VESPAFESTA: WASP IN THE PARK ที่ปลุกเสียงดนตรีให้กระหึ่มติดเทรนด์ประกาศเดินหน้าวอร์มเครื่องชวนชาวเวสป้าออกมาร่วมคาราวานความสนุก แห่งปี พร้อมเปิดตัวเวสป้าพรีมาเวร่าสีใหม่ที่จะมาเป็นไฮไลท์เด็ด เหมือนที่ผ่านมาจะยังไม่สุด บริษัท วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสกู๊ตเตอร์พรีเมียมชั้นนำ และมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาเลียนระดับตำนานจากกลุ่ม Piaggio Group ได้แก่ เวสป้า พิอาจิโอ อาพริเลีย และโมโต กุซซี่ จึงขอลุยต่อด้วยการชวนเหล่าเวสป้าเลิฟเวอร์มาสนุกกันในงาน VESPAFESTA: WASP IN THE PARK เทศกาลดนตรีสไตล์ออริจินอลย้อนยุคกลางสวนดอกไม้ที่จะมีเหล่าเวสป้ามาบินว่อนเป็นแมลงแห่งความสนุกสร้างสีสันในงานระหว่างวันที่ 16 -17 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ที่ VOICE SPACE พร้อมขนทัพนักร้องอีกมากมายที่จะมาวาดลวดลายให้บรรยากาศความจอยกระหึ่มขึ้น ทั้ง บอย พีชเมกเกอร์ ส้ม มารี กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เดอะทอยส์ โบกี้ไลอ้อน อ๊อฟ ปองศักดิ์ ป๊อป ปองกูล และ โลโมโซนิก
ในตระกูล M3 โมเดลที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญมากที่สุดก็คือ E30 M3 ทั้งในด้านมูลค่าน่าสะสมและความสำเร็จในวงการ motorsport เป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ M3 ในปัจจุบัน และหนึ่งใน M3 ที่ติดอันดับหายากและน้อยคนจะรู้จักก็คือ E30 M3 Roberto Ravaglia Edition มีเพียง 25 คัน สร้างขึ้นเพื่อตลาด UK โดยเฉพาะ (ป้ายระบุจำนวนโชว์ 065/505 เพราะถูกนับรวมในรุ่น Cecotto Edition ที่แยก edition พิเศษในแต่ละประเทศ) E30 M3 Roberto Ravaglia Edition เป็นรุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองความสำเร็จให้กับ Roberto Ravaglia นักขับที่พา M3 คว้าชัยชนะ World Touring Car Championship ในปี 1987 และ European Touring Car Championship ในปี
ผลงานชิ้นใหม่ของ Toyota Gazoo Racing (GR) ที่น่าจะเป็นเป้าหมายของนักสะสมและแฟน Supra ทั่วโลก นี่คือ GR Supra GT4 “100 Edition” รุ่นพิเศษเพื่อฉลองส่งมอบ GR Supra GT4 ครบ 100 คัน โดยจะมีเพียงแค่ 3 คันโลก แบ่งเป็น 1 คันสำหรับตลาดยุโรป 1 คันสำหรับตลาดอเมริกา และ 1 คันสุดท้ายสำหรับตลาดเอเชีย เรียกว่าเป็นตัวบั๊กที่แรร์ยิ่งกว่าแรร์ ภายนอกของ GR Supra GT4 “100 Edition” มาในสีส้ม Plasma Orange ชุดแต่งรอบคันเข้มดุสมกับเป็นรถแข่งที่เกิดมาเพื่อวิ่งแบบ track-only ช่องดักอากาศขนาดใหญ่บนฝากระโปรง ชุดพาร์ทรอบคันที่เอาไว้สร้าง downforce มหาศาลเพื่อรองรับสมรรถนะ 440 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 3.0L six-cylinder turbocharged พร้อมระบบไอเสียใหม่ทั้งเส้น เป็นรถแข่งที่สร้างขึ้นมาสำหรับนักสะสมตัวจริงโดยเฉพาะ
Apple เปิดตัว iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่ได้รับการออกแบบมาด้วยไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศที่ทั้งแข็งแกร่งและเบา จนได้เป็นรุ่น Pro ของ Apple ที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดีไซน์ใหม่ดังกล่าวยังมาพร้อมขอบมนและปุ่มแอ็คชั่นที่ปรับแต่งได้ ผู้ใช้จึงปรับแต่งประสบการณ์ iPhone ได้ตรงความต้องการ การอัปเกรดกล้องที่ทรงพลังมอบคุณสมบัติเทียบเท่าเลนส์ระดับโปร 7 ตัว ที่ให้คุณภาพของภาพอันน่าทึ่ง รวมทั้งระบบกล้องหลัก 48MP ที่ล้ำยิ่งขึ้นไปอีกที่ตอนนี้รองรับค่าเริ่มต้นความละเอียดสูงเป็นพิเศษแบบใหม่ที่ 24MP และยังรองรับการถ่ายภาพบุคคลเจเนอเรชั่นถัดไปที่มีคุณสมบัติการควบคุมโฟกัสและระยะชัดลึก มีการปรับปรุงโหมดกลางคืนและ HDR อัจฉริยะ และยังมีกล้องเทเลโฟโต้ 5 เท่าแบบใหม่หมด พิเศษเฉพาะใน iPhone 15 Pro Max นอกจากนี้ชิป A17 Pro ยังปลดล็อคประสบการณ์การเล่นเกมและประสิทธิภาพระดับโปรให้เหนือไปอีกขั้น เช่นเดียวกับขั้วต่อ USB‑C ใหม่ที่เร็วสุดแรงด้วยความเร็วของ USB 3 ที่เร็วกว่า USB 2 สูงสุด 20 เท่า
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ที่มาพร้อมการชาร์จด้วย MagSafe (USB-C) ซึ่งทำให้หูฟังที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกดียิ่งขึ้นไปอีก AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ยังคงพัฒนาระบบการฟังเสียงส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง โดยถ่ายทอดคุณภาพเสียงที่น่าทึ่ง พร้อมการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึงสองเท่า โหมดฟังเสียงภายนอกสุดล้ำ ประสบการณ์ระบบเสียงตามตำแหน่งที่เต็มอิ่มสมจริงยิ่งขึ้น และจุกหูฟังหลายขนาดเพื่อให้สวมใส่ได้พอดียิ่งขึ้น AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ได้รับการอัปเกรดให้มีความสามารถในการชาร์จด้วย USB-C การทนฝุ่นเพิ่มเติม และเสียงแบบ Lossless บน Apple Vision Pro iOS 17 ยังช่วยยกระดับ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ทั้งหมด ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การฟังเสียงแบบใหม่ด้วยคุณสมบัติเสียงที่ปรับตามสภาพแวดล้อม และ Conversation Awareness1 ความสะดวกสบายและความทนทานที่เพิ่มขึ้น AirPods Pro รุ่นใหม่ได้รับการอัปเดตให้มีขั้วต่อ USB-C จึงสามารถชาร์จกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mac, iPad, AirPods และ iPhone 15 ได้อย่างง่ายดายโดยใช้สายเดียว
Apple Watch Ultra 2 พัฒนาไปอีกขั้นสำหรับสายลุย นำคุณสมบัติใหม่ๆ มาสู่สมาร์ทวอตช์ที่มากความสามารถและสมบุกสมบันที่สุดของ Apple อีกทั้งยังรุดหน้าในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม Apple Watch Ultra 2 มาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ ที่ผู้ใช้จะชื่นชอบในรุ่น Ultra รวมถึง SiP รุ่น S9 อันทรงพลังใหม่, คำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” อันน่าทึ่ง, จอภาพสว่างที่สุดของ Apple, ช่วงระดับความสูงที่เพิ่มขึ้น, Siri ในตัว, คุณสมบัติค้นหาตำแหน่งที่ตั้งจริงสำหรับ iPhone และความสามารถล้ำหน้าสำหรับการผจญภัยทางน้ำ Apple Watch Ultra 2 ใช้ watchOS 10 ที่มีแอปซึ่งได้รับการออกแบบใหม่, Smart Stack แบบใหม่ ประสบการณ์การปั่นจักรยานรูปแบบใหม่และคุณสมบัติที่จะช่วยในการสำรวจที่ต่างๆ และหน้าปัด Modular Ultra ใหม่ นอกเหนือจากคุณสมบัติล้ำหน้าต่างๆ แล้ว Apple Watch Ultra 2 ยังมีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า หลายคนมองหาทางชุบชีวิตไอคอนในอดีตขึ้นมาใหม่ด้วยการเปลี่ยนขุมพลัง EV ที่ทั้งแรง เสถียร และใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เช่นเดียวกับ EL1 คันนี้ที่สร้างบนพื้นฐานของตำนาน Audi Sport Quattro ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ ใส่วัสดุและ EV tech ที่แรงเทียบเท่า Supercar ภายใต้หน้าตาที่มีเสน่ห์ของ retro classic car โครงสร้างเดิมถูกนำมาใช้เป็นต้นแบบเพื่อสร้างขึ้นใหม่ด้วยวัสดุ carbon fiber และ aluminium subframes พร้อมออกแบบระบบส่งกำลังใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เหมาะสมกับขุมพลัง Dual electric motor และ 80kWh T-shaped battery pack ให้ outpur มากกว่า 800 แรงม้า สามารถทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 km/h ได้ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุดทะลุ 300 km/h โดย ELegend
หลายคนชอบในความคลาสสิคและอารมณ์ของรูปที่ได้จาก Polaroid แต่ของเดิมอาจจะใช้งานและดูแลรักษายาก ล่าสุด Polaroid ได้เพิ่มความทันสมัยให้กล้อง Analog Instant Camera ในรุ่น I-2 ใหม่ ที่ยังใส่ฟีเจอร์ทันสมัยให้ปรับตั้งค่าต่าง ๆ รวมถึง filter หลากหลายเพิ่มเข้ามาให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น Polaroid I-2 ใหม่มาพร้อม shooting mode ให้เลือกถึง 6 รูปแบบ (Manual, Automatic, Aperture Priority, Shutter Priority, Self-timer, Multiple Exposure) สามารถปรับค่า Shutter speed, Aperture และระบบ AutoFocus ที่ใช้ LIDAR ranging system ทั้งล้ำและแม่นยำเทียบเท่ากล้อง digital รุ่นใหม่ในปัจจุบัน ด้านบนมีจอ OLED display แสดงค่า setting และค่าแสงจาก built-in light
Vision Neue Klasse ใช้แนวทางการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เน้นความเป็นอนาคตที่ลดทอนเส้นสายความเป็นสปอร์ตลงซึ่งชาว bimmer หลายคนน่าจะไม่คุ้นตากันแน่นอน โดยเฉพาะไตคู่หน้าที่ยืดเต็มกระจังหน้าและมีเส้นไฟ LED แนวตั้งอยู่บริเวณมุม เป็นการตีความใหม่ของ 3-series ที่ชูความล้ำสมัยให้อารมณ์แบบ retro-modern แบบรถ EV เต็ม ๆ ซึ่งมีผลกับการออกแบบเช่นตัวถังซีดานทรง 3 กล่องที่ยืดระยะ overhang และฐานล้อหน้าและหลังได้เต็มที่เพราะไม่ต้องแชร์เผื่อระบบ ICE อีกต่อไป รวมถึงการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เช่นช่อง shark nose บนฝากระโปรงหน้า เส้นหลังคาที่เรียบ กระจกข้างถูกแทนที่ด้วยกล้อง รวมถึง diffuser รอบคันที่ดูเหมือนจะเป็น forged carbon เพื่อ aerodynamic ที่ดีขึ้น ในขณะที่ดีไซน์อาจยังไม่ถูกใจใครหลายคน แต่ด้านความเป็นรถ EV ถือว่าพัฒนาได้ดี BMW เคลมว่าดีไซน์ของ Vision Neue Klasse บวกกับแบตเตอรี่ และ eDrive geneeration ที่ 6 จะช่วยเพิ่มระยะทางในการขับไดัถึง
ก่อนจะหยุดสายการผลิตของ SLS AMG supercar ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Mercedes-Benz ตัดสินใจส่งท้ายด้วย Final Edition ซึ่งเป็น limited series มีเพียง 350 คัน แบ่งเป็น coupe 200 คัน และ roadster 150 คัน แม้แต่ตลาดใหญ่อย่างอเมริกายังได้โควต้าไปเพียงแค่ 10 คัน โดยมันถูกวางตำแหน่งให้เป็นรุ่นท็อปสุดรองจาก SLS AMG Black Series ความพิเศษของ SLS AMG GT Final Edition คือชุดแต่งที่จัดให้อย่างดุเดือดผลิตจาก carbon-fiber สีดำเริ่มตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าพร้อมช่องระบายอากาศ ช่องดักอากาศใต้กันชนหน้า และ rear wing ซึ่งอาจจะดูคล้าย SLS AMG Black Series พร้อมล้อ forged สีดำด้าน ภายในหุ้มหนังสีดำเกรดดีขึ้นจาก designo program