ในปัจจุบัน เราต่างใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบ ต้องพบเจอเรื่องราวมากมายที่พาพวกเราไหลผ่านกระแสเวลาไปข้างหน้าแทบไม่ได้หยุดพัก ทำให้บ่อยครั้งที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างโหยหาช่วงเวลาที่เรียบง่าย ช่วงเวลาที่ได้อยู่นิ่ง ๆ กับตัวเอง เพื่อเสพความงดงามของคืนวันที่ผันผ่าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือคำอธิบายที่ว่าทำไม แม้พวกเราจะดำรงอยู่ท่ามกลางความสะดวกสบายของเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย แต่ก็ไม่วายที่จะโหยหาบรรยากาศเก่า ๆ ข้าวของเครื่องใช้วินเทจ ที่ยังคงความคลาสสิกจากอดีตอยู่เสมอ และ RADO Captain Cook Automatic Limited Edition คืออีกหนึ่งความทรงจำอันหอมหวานจากอดีต ในรูปแบบของเรือนเวลาสุดคลาสสิก ที่หวนกลับมาสร้างความประทับใจให้เหล่านักสะสมนาฬิกา และผู้ที่หลงใหลในความวินเทจแบบเต็มเปี่ยม กับรุ่นพิเศษใหม่ล่าสุดในปี 2019 ซึ่งเก็บทุกรายละเอียดทางด้านรูปลักษณ์ของ Captain Cook รุ่นแรก ที่ผลิตขึ้นระหว่างปี 1962 และ 1968 เอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งขนาดที่เป็นเอกลักษณ์และคุณสมบัติที่โดดเด่นจากยุคเก่าผสานเข้ากับความโมเดิร์นด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งต้องบอกว่านี่เป็นงานถนัดของ RADO ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำจากสวิส ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้า ควบคู่ไปกับความสวยงามของดีไซน์ โดย RADO นั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ” ที่มีแนวทางการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม ด้วยการนำเอาไฮเทคเซรามิกที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ และมีสีสันสดใส รวมถึง Ceramos™ มาใช้ก่อนใครในวงการนาฬิกา ถือเป็นการผสมผสานประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ เข้ากับความโมเดิร์นสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เรือนเวลารุ่นเก๋าอย่าง
ในยุคที่แบรนด์นาฬิกาต่างผลิต Smartwatch ออกมามากมาย แต่แบรนด์นาฬิกาสัญชาติอเมริกาอย่าง Nixon เลือกที่จะผสมผสานของสไตล์วินเทจกับแฟชั่นสมัยใหม่อย่างปัจจุบันเข้าด้วยกัน จนทำให้เกิดนาฬิกาข้อมือสุดแหวกที่ส่งเสียงบอกเวลาด้วยปุ่มกดพิเศษชื่อว่า The Dork Too Nixon รุ่น The Dork Too อาจไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถพูดคุยหรือเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือคู่ใจได้เหมือนกับนาฬิกาอัจฉริยะโดยให้มาแค่ปุ่มกด 3 ปุ่มเท่านั้น ถึงจะเป็นนาฬิกาข้อมือวินเทจแต่ The Dork Too สามารถให้ความสนุกสนานด้วยเสียงแจ้งเตือนที่จะสร้างสีสันได้ตลอดทั้งวัน Nixon The Dork Too ตัวเรือนทำจากสเตนเลส พร้อมกับหน้าจอแสดงผล LCD แบบดิจิทัลทำให้เราสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยมีฟังก์ชั่นเด่น ๆ อย่างไฟพื้นหลังแบบ EL ที่จะเพิ่มแสงสว่างทั้งพื้นหลังและหน้าปัด การแจ้งเตือนวันที่ ถึงแม้จะมีดีไซน์วินเทจแต่ระบบแบตเตอรี่จะทันสมัยขึ้นด้วยช่อง micro-USB บริเวณด้านซ้ายของตัวเรือนสำหรับชาร์จแบตเตอรี่โดยไม่ต้องนำนาฬิกาไปเปลี่ยนถ่านที่ร้านให้เสียเวลา นอกจากการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย้อนยุคที่โดดเด่นแล้ว เสียงแจ้งเตือนคืออีกหนึ่งไฮไลต์ที่ Nixon ภูมิใจนำเสนอ เมื่อกดปุ่มตรงจอแสดงผลก็จะส่งเสียงบอกเวลาแปลก ๆ รวมถึงสีของตัวเรือนที่มีให้เลือกถึง 4 สี ทั้งสีเงิน สี rose gold
“Swiss made คือหนึ่งในความนิยมของนักเล่นนาฬิกาทั้งมือเก่ามือใหม่ แต่ SEIKO จะเป็นนาฬิกาเรือนแรก ๆ ที่คนไทยใส่” เรานั่งพูดคุยเรื่องความนิยมกับพี่น้องที่รักและหลงใหลเรื่องนาฬิกา ชื่นชอบเรื่องวัสดุการผลิตสายลึกจนจู่ ๆ ได้ยินประโยคนี้ขึ้นมาระหว่างการพูดคุย จริงหรือเปล่าที่ Seiko เป็นแบบนั้น แต่คงไม่ต้องมองไปไหนไกล เมื่อที่ข้อมือเราเองก็คาดไว้หนึ่งเรือน แม้จะไม่ใช่ Limited Edition ก็ตาม ก็น่าจะจริงอย่างเขาว่า ทำไมแบรนด์นี้ถึงเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่คนไทยคิดถึง และยังเป็นหนึ่งแบรนด์ในดวงใจของชายหญิงผู้มองหาเรือนเวลาสักเรือนมาสวมใส่และสะสม หรือกระทั่ง Brand Heritage เขามีความเป็นมาอย่างไรทำไมถึง survive ข้ามกาลเวลามานับ 100 ปีแล้วก็ยังไม่ตกชั้น UNLOCKMEN จะพาไปดูหลาย ๆ มุมมองเหล่านี้ไปพร้อมกัน THE BEGINNING OF SEIKO Kintaro Hattori คือผู้เขียนตำนานของ Seiko เขาเติบโตในครอบครัวที่ทำอาชีพขายของโบราณและได้รับ DNA เดียวกับพ่อมาเต็มเปี่ยมจึงใฝ่ฝันจะเป็นพ่อค้าตั้งแต่วัยสิบกว่าขวบ ก่อนเริ่มตัดสินใจว่าจะเป็นช่างทำนาฬิกาตั้งแต่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้นหลังไปที่ร้าน Kobayashi Clock Shop
มี 2 สิ่งในการแต่งตัวของผู้ชายที่ถือเป็นส่วนสำคัญถึงขั้นตัดสินภาพรวมของสไตล์ในแต่ละคนได้ นั่นคือรองเท้าหนังและนาฬิกาข้อมือ ที่บอกว่าสำคัญเพราะสองสิ่งนี้จำเป็นจะต้องมีรองรับให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ ไม่ใช่สิ่งที่จะมีเพียงชิ้นเดียวแล้วใส่ลุยได้ทุกงานอย่างที่หลายคนเข้าใจ ซึ่งถ้าให้เทียบความสำคัญกัน ต้องบอกว่านาฬิกาเป็นตัวเสริมความมั่นใจได้มากอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเราเลือกจับคู่ได้อย่างถูกต้อง สำหรับคนที่ไม่ใช่นักเล่นนาฬิการะดับมือโปร ว่ากันตามตรงก็ไม่จำเป็นจะต้องมีนาฬิกาในกล่องสะสมเป็นสิบ ๆ เรือน สำหรับสิบเทศกาลก็ได้นะครับ อันที่จริงการมีนาฬิกาเรือนเก่งที่รูปทรงคลาสสิก เป็นนาฬิกาที่ใส่ติดมือ ใส่แล้วมั่นใจ สามารถไปได้กับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์ของเรา ก็เป็นไอเดียการเลือกนาฬิกาที่ถูกต้องเช่นกัน และที่สำคัญราคาของนาฬิกาดี ๆ สักเรือนก็ไม่จำเป็นต้องไปแตะหลักแสนหลักล้านก็ได้ครับ เพราะสไตล์และความมั่นใจเกิดจากหัวใจและการเข้าใจสิ่งที่ตัวเองต้องการ ใน Watch Talk ครั้งนี้เราได้คัดเลือกนาฬิกา 7 เรือน ที่ออกแบบได้คลาสสิกสวยงามแบบ Vintage-look มั่นใจได้เลยว่าเลือกเรือนไหน ก็สามารถสวมใส่เข้าได้เกือบทุกสไตล์การแต่งตัวตั้งแต่ Casual ยัน Formal ในราคาไม่หนักหนาอย่างที่คิด อันที่จริงเรามีให้เลือกตั้งแต่ราคาสบายกระเป๋ามากไปจนถึงสมน้ำสมเนื้อกันเลยล่ะครับ HAMILTON Khaki Aviation X-Wind Day Date Auto นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1919 Hamilton เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับเลือกจากกรมไปรษณีย์กลางสหรัฐฯ ให้ใช้บนเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากวอชิงตันไปยังนิวยอร์ก รวมถึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ผลิตและส่งมอบนาฬิกาให้แก่กองทัพสหรัฐฯอย่างเป็นทางการนับแต่ปี 1914 อีกด้วย จึงนับได้ว่ามีชื่อเสียง
แน่นอนว่าในปัจจุบันการจะจบลุคการแต่งตัวให้ลงตัวนั้น สิ่งที่จำเป็นและจะขาดไม่ได้เลย คือเรือนเวลาคู่ใจ ซึ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเรือนเวลาแบบ Minimal Watch ที่ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่นิยมสำหรับคนสายงานครีเอทีฟ รวมถึงนักคิดทั้งหลาย ที่สะท้อนความเป็นตัวเองผ่านวิถี Minimal ใส่น้อยแต่ได้มาก เพื่อเซฟเวลาและพลังสมองเอาไปใช้กับเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่าแทน ซึ่งวันนี้ UNLOCKMEN มีไอเทมนาฬิกาดี ๆ มาแนะนำอีกเช่นเคย สำหรับประดับบนข้อมือของคุณผู้ชายทุกคนกับ ISSEY MIYAKE แบรนด์ดังระดับโลก ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ คาแร็กเตอร์เรียบหรู ดูแพง มาพร้อมพลังแห่งการสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจอันไม่สิ้นสุด อันเป็นคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจากทางแบรนด์ โดยความพิเศษสุด ๆ ของนาฬิกา Minimal คอลเลคชั่นใหม่นี้ คือการได้ดีไซน์เนอร์คู่บุญอย่าง อิชิโระ อิวาซากิ (Ichiro Iwasaki) ที่ผูกพันกับแบรนด์ โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองได้มีโอกาสออกแบบร่วมกันในคอลเลคชั่น “C” เพื่อมาเอาใจสายโครโนกราฟโดยเฉพาะ ด้วยความเหนือชั้นทางด้านงานดีไซน์บนวิถีแห่งความเรียบง่ายในแบบ Simple & Minimal ทำให้ อิชิโระ อิวาซากิ (Ichiro Iwasaki) เกิดแรงบันดาลใจ จนกลายมาเป็นผลงานศิลป์บนหน้าปัดเรือนเวลาให้กับ “เอฟ” คอลเลคชั่น
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันพฤติกรรมของหนุ่ม ๆ ที่เริ่มหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับเรือนเวลาบนข้อมือกันมากขึ้น โดยเฉพาะนาฬิกาข้อมือประเภท Smartwatch ที่เข้ามามีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตคนยุคใหม่ ซึ่งมีกิจกรรมแสนยุ่งเหยิงในแต่ละวัน มาลองดูกันว่าในวันนี้ UNLOCKMEN จะมีนาฬิกาอัจฉริยะอะไรเจ๋ง ๆ มาแนะนำกัน HUBLOT BIG BANG REFERENCE FIFA WORLD CUP RUSSIA เรือนเวลารุ่นล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวในงาน Basel World 2018 ซึ่งนับเป็นรุ่นที่สามเพื่อต้อนรับมหกรรมฟุตบอลโลกโดยเฉพาะ ความพิเศษของนาฬิกา HUBLOT BIG BANG REFERENCE FIFA WORLD CUP RUSSIA คือจำนวนจำกัดที่มีเพียง 2018 เรือนเท่านั้น แถมออกแบบหน้าปัดเพื่อเอาใจแฟนคลับ พร้อมกล่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละชาติที่ได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกอีกด้วย สำหรับตัวเรือนทำมาจากไทเทเนียมขนาด 49.0 มิลลิเมตร พร้อมระบบดิจิทัลด้วยจอภาพเทคโนโลยี AMOLED ความละเอียด 400 x 400 พิกเซล และระบบปฎิบัติการ OS จาก Google แถมการเปลี่ยนสายที่เด่นด้วยระบบ One
หากพูดถึงบทบาทของนาฬิกา Hamilton (แฮมิลตัน) ในแวดวงการบินก็คงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เมื่อมองย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1919 Hamilton เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับเลือกจากกรมไปรษณีย์กลางสหรัฐฯ ให้ใช้บนเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากวอชิงตันไปยังนิวยอร์ก รวมถึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ผลิตและส่งมอบนาฬิกาให้แก่กองทัพสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ นับแต่ปี 1914 อีกด้วย แบรนด์ Hamilton จึงนับได้ว่ามีชื่อเสียง และมรดกทางประวัติศาสตร์ด้านการบินมาอย่างโชกโชน ด้วยการทำงานร่วมกับฝูงบิน และนักบินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมามากมาย สู่การนำเสนอคอลเลคชั่นนาฬิกากลุ่ม Khaki Aviation สุดโดดเด่นจาก Hamilton มาในรูปลักษณ์สุดคลาสสิค พร้อมฟังก์ชันที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของนักบินได้อย่างลงตัว เรือนเวลาที่สะท้อนตัวตนแห่งการบินและเครื่องมือนำทางเชิงเทคนิค พร้อมความเที่ยงตรงในทุกรายละเอียด ทำให้นาฬิการุ่น Khaki X-Wind Auto Chrono เรือนใหญ่สุดห้าวหาญนี้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ข้อนี้แต่อย่างใด งานตกแต่งรายละเอียด และตัวเรือนเคลือบ PVD สีดำสุดดุดันของ Khaki X-Wind Auto Chrono ยิ่งตอกย้ำถึงรูปลักษณ์และชื่อเสียงของนาฬิกานักบินในซีรี่ส์นี้ทั้งในแง่ของความเที่ยงตรงและฟังก์ชั่นเชิงเทคนิคได้เป็นอย่างดี มาพร้อมสายหนังสีดำช่วยขับเน้นลุคเข้มขรึม ตัวเรือนขนาด 45 มม. สุดทนทาน พร้อมองค์ประกอบแห่งฟังก์ชั่น 5 คุณลักษณะรอบข้างตัวเรือนในรูปของตัว X ตามแบบฉบับเรือนเวลาซีรี่ยส์
แบรนด์นาฬิกาคลาสสิกที่สร้างชื่อเสียงจากการผลิตนาฬิกาชั้นนำมาตั้งแต่แรกเริ่มอย่าง ลองจินส์ (Longines) สำหรับหลายคนอาจยังไม่ทราบประวัติความเป็นมาของ แบรนด์นาฬิกาคลาสสิกนี้ ลองจินส์ (Longines) แบรนด์นาฬิการะดับโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นที่เมือง แซงต์ อิมิเยร์ เมื่อปีค.ศ. 1832 เชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาที่มีดีไซน์ สง่างาม เปี่ยมไปด้วยมาตรฐานด้านคุณภาพ และการทำงานทรงประสิทธิภาพ นับตั้งแต่อดีต ลองจินส์ได้รับเลือกให้เป็นผู้จับเวลาการแข่งขันกีฬาระดับโลกมากมาย รวมถึงเป็นพันธมิตรกับสมาพันธ์กีฬานานาชาติ ทำให้ชื่อของลองจินส์เป็นส่วนหนึ่งของโลกกีฬามาโดยตลอด นอกจากนี้ ลองจินส์ ยังเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท สวอทช์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำระดับโลก ที่โดดเด่นในด้านการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีความสง่างาม ดังตราสัญลักษณ์รูปนาฬิกาทรายพร้อมปีกสยายของแบรนด์ที่ยืนยงมานานกว่า 150 ปี และยังคงเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับความไว้วางใจและคงอยู่ในกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่อง Longines Master Collection คือภาพสะท้อนของความร่วมสมัยของแบรนด์ ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2005 ผสมผสานความสง่างามแบบคลาสสิกและความเป็นเลิศในการผลิต ซึ่งล่าสุดลองจินส์ได้นำเสนอ Longines Master Collection หน้าปัดเฉดสีใหม่เพิ่มเติม นั่นคือ เฉดสีน้ำเงิน เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่หลงใหลในนาฬิกาคุณภาพได้เลือกกัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2005 Longines Master Collection ก็กลายเป็นคอลเลกชั่นขายดีของแบรนด์ โดยประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายและครองความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการผลิตนาฬิกาคุณภาพของลองจินส์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาลองจินส์ได้เพิ่มตัวเรือนขนาดต่าง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า นอกจากเจนีวาแล้ว เมืองเบียล ก็เป็นอีกต้นกำเนิดแห่งวิถีประเพณีดั้งเดิมแห่งการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตเรือนเวลามาจนถึงทุกวันนี้ ก้าวแรกของแบรนด์นาฬิกาอิสระอย่าง Azimuth ก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่เช่นกัน ด้วยคอนเซ็ปต์ในการเป็นนาฬิการูปแบบเฉพาะตัวที่ผสานดีไซน์อันยอดเยี่ยม นวัตกรรมอันทันสมัย และประเพณีดั้งเดิมแห่งการประดิษฐ์เรือนเวลาของสวิส เข้าด้วยกันอย่างลงตัว สำหรับใครที่รู้สึกว่าชื่อแบรนด์ไม่ค่อยคุ้นหู ที่จริงแล้วเรือนเวลาแบรนด์นี้มีประวัติและเทคโนโลยีการผลิตที่ละเอียดอ่อนไม่แพ้แบรนด์ไหนในโลก แม้จะเป็นนาฬิกาสวิส แต่ผู้ให้กำเนิดแบรนด์และก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกา Azimuth ขึ้นที่เมือง เบียล ตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 เป็นต้นมานั้น ไม่ใช่ชาวสวิส แต่เป็นชายผู้หลงใหลในเครื่องบอกเวลาชาวเอเชีย 2 ท่าน Alvin Lye กับ Christopher Long ทั้งสองท่านนี้เป็นผู้คร่ำหวอดมากประสบการณ์ในวงการนาฬิกา ทั้งในแง่ของการสะสม และการเป็นผู้จำหน่าย ซึ่งไม่เพียงพอสนองความต้องการที่แท้จริงของเขาทั้งคู่ได้ เพราะทั้งสองต่างประสงค์ที่จะสร้างนาฬิกาในอุดมคติขึ้นมาเอง ด้วยความที่ไม่มีนาฬิกาแบรนด์ใดตอบโจทย์คุณสมบัติที่พวกเขาต้องการให้มีได้ โปรเจ็คต์การก่อตั้งแบรนด์และโรงงานนาฬิกาของพวกเขาจึงก่อกำเนิดขึ้นโดยเลือกคำว่า Azimuth ซึ่งเป็นชื่อเรียกระยะคำนวณของเส้นขอบฟ้าจากตำแหน่งใด ๆ บนโลก มาเป็นชื่อแบรนด์ ด้วยเป็นความหมายแห่งการแสวงหาความรู้ทางปัญญาของมนุษย์ อีกทั้งคำนี้ยังมาจากรากศัพท์ภาษาอารบิก ที่หมายถึงเส้นทางที่นักเดินทางข้ามผ่านซึ่งก็เป็นความหมายที่โดนใจพวกเขาเช่นกัน ส่วนโลโก้ของแบรนด์มาจากลักษณะของแฮร์สปริง ที่เปรียบได้กับการเต้นของหัวใจแห่งกลไกจักรกล ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในการผลิตแต่เพียงนาฬิกาจักรกลได้อย่างตรงประเด็นที่สุด ความต้องการสร้างสิ่งที่แตกต่างนั้น คือวัตถุประสงค์หลักในการสร้างนาฬิกา Azimuth ดังนั้นนาฬิกาจาก Azimuth จึงแตกต่างจากนาฬิกาที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไป พวกเขาให้อิสระกับทีมออกแบบ
สำหรับการเล่นกีฬา ‘เวลา’ คือองค์ประกอบที่สำคัญ ทุกเสี้ยวนาทีมีความหมายถึงแพ้หรือชนะ โดยเฉพาะกีฬาบาสเกตบอล กีฬายอดนิยมที่มีสาวกนับล้าน กีฬาที่แม้จะหมดเวลาไปแล้ว แต่ยังมีโอกาสพลิกกลับมาชนะถ้าลูกบอลถูกปล่อยออกจากมือก่อนนั้นเพียงเสี้ยววินาที เป็นกีฬาที่มีลุ้นตลอดตั้งแต่วินาทีแรก จนถึงวินาทีสุดท้าย การแข่งขันที่ต้องเอาชนะทีมคู่แข่งด้วยการโยนลูกบอลให้เข้าห่วงมากที่สุดภายในเวลา 4 ควอเตอร์ ซึ่งลีกการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกก็คือ บาสเกตบอล NBA ในทวีปอเมริกา ล่าสุดทางทิสโซต์ (Tissot) ผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันบาสเกตบอล NBA ได้เปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชั่นพิเศษ สำหรับการแข่งขันบาสเกตบอล NBA ซีซั่นนี้ ทิสโซต์ โครโน เอ็กซ์แอล เอ็นบีเอ ทีม (Tissot Chrono XL NBA Team) นาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อแฟนกีฬาบาสเกตบอล NBAโดยเฉพาะ ด้วยการนำโลโก้ของ 6 ทีมตัวท็อปของ NBA มาใส่บนตัวเรือน 6 สี 6 สไตล์ นาฬิกาคอลเลกชั่นทั้ง 6 แบบ ประกอบไปด้วยหน้าปัดสกรีนสัญลักษณ์ 6 ทีม NBA ยอดนิยม ซึ่งมี