ถ้าจะพูดว่าการออกกำลังกายกับผู้ชาย (บางคน) เป็นของคู่กันก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะในปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้ชายส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น และการออกกำลังกายก็ไม่เพียงช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง หากยังสร้างมัดกล้าม สร้างรูปร่างกำยำล่ำสัน และทำให้ผู้ชายหลายคนดูภูมิฐานขึ้นมาได้ แต่คงต้องบอกว่าสภาพแวดล้อมของฟิตเนสก็มีผลต่อการออกกำลังกายไม่น้อย เพราะฟิตเนสที่มีผู้คนพลุกพล่านและทัศนียภาพไม่เอื้ออำนวย อาจทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนไม่จดจ่อและจริงจังกับการออกกำลังมากเท่าที่ควร จะดีแค่ไหนถ้าพื้นที่ออกกำลังกายของหนุ่ม ๆ มีงานดีไซน์ที่ถูกยกระดับให้เอื้อประโยชน์แก่การออกกำลังกายและทำให้คุณจริงจังกับกิจกรรมเรียกเหงื่อมากยิ่งขึ้น VSHD Design นำสถาปัตยกรรมแนวบรูทัลลิสต์ (Brutalist) มาประยุกต์เข้ากับพื้นที่ออกกำลังกาย จนเกิดเป็น ‘WAREHOUSE GYM’ ฟิตเนสสุดคูลที่ใช้ดีไซน์เรขาคณิตเข้ามาเพิ่มความจริงจังให้กับการออกกำลังกายของหนุ่ม ๆ นี่เป็นฟิตเนสล่าสุดจากบริษัทฟิตเนสแวร์เฮ้าส์ยิม ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าในกรุงดูไบ การออกแบบภายในเน้นหนักรูปทรงเรขาคณิตและแพตเทิร์นเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาจากอิทธิพลของสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์ ไฮไลต์ของฟิตเนสแห่งนี้คือมีการจัดหาดีเจเข้ามาสปินแผ่นเพลงเจ๋ง ๆ พร้อมตกแต่งแสงไฟให้เหมือนไนต์คลับ เพื่อสร้างสิ่งแปลกใหม่ให้กับการออกกำลังกาย VSHD Design ตั้งใจจะสร้างพื้นที่ออกกำลังกายให้มีกลิ่นอายเหมือนอยู่ในห้องใต้ดิน มอบความสงบ เป็นส่วนตัว และใช้งานดีไซน์เคร่งขรึมช่วยกระตุ้นให้ผู้ชายจริงจังกับการออกกำลังมากขึ้น ภายในโดดเด่นด้วยคาน เสา และผนังคอนกรีต พร้อมนำพาร์ติชั่นมากั้นเพื่อแบ่งโซนการออกกำลังกายอย่างเป็นระบบ แทนที่จะใช้การดีไซน์เปิดโล่งเพื่อให้แสงสว่างลอดผ่านเข้ามา ทีมนักออกแบบกลับประดับประดาแสงไฟสปอตไลต์มุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์ออกกำลังกาย หวังปลุกเร้าอารมณ์และสะท้อนภาพลักษณ์ของฟิตเนสดั้งเดิม ทั้งยังติดตั้งกระจกทรงกลมเพื่อให้เกิดพื้นที่ต่อเนื่องแบบ open plan ช่วยให้ผู้ออกกำลังกายรู้สึกว่าฟิตเนสแห่งนี้กว้างขวางและไม่อึดอัดคับแคบ WAREHOUSE GYM ยังเลือกใช้วัสดุและของตกแต่งท้องถิ่นจากส่วนประกอบของธรรมชาติ
การใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทุ่มเททำงานและ hang out แต่ในเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันก็คงจะเบื่อ แบบนี้คงถึงเวลาลุยกันแล้ว หยิบ backpack ใบเก่ง ยัดของเข้าใส่เข้าไป เตรียมตัวเตรียมใจออกทริปแบบ backpacker กันดีกว่า ทว่าแค่ใจกับแผนเที่ยวที่วางไว้ก็คงยังไม่พอ จะให้มันส์สุดร่างกายก็ต้องพร้อมสุด ๆ เช่นกัน การเตรียมความแกร่งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ชายอย่างเรา สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว หรือผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ถ้าวางแผนจะออกทริปแบบขาลุยที่ต้องสะพายเป้เดินเท้าเป็นหลัก เราอยากให้โฟกัสกับการออกกำลังกายที่จะช่วยให้คุณมีพลังในการแบกสิ่งของต่าง ๆ เดินทางไกล รวมถึงช่วยป้องกันการบาดเจ็บด้วย ซึ่งการ workout ที่ว่านี้มุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อแขน ไหล่ บ่า และช่วงบนของร่างกาย ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของหัวเข่าคุณได้ถึง 25% เพียงแค่ฝึก 4 ท่าทางนี้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก่อนจะออกทริป 2 เดือน รับรองว่าคุณจะกลายเป็น backpacker ที่โคตรพลิ้ว Plank Push Ups ฝึก 8 ครั้ง (2 ข้างนับ 1) /
“เมื่อชีวิตมันดูเหมือนจะมีแต่เรื่องยุ่ง การจะเข้ายิมแต่ละทีมันช่างดูยาก สมัครสมาชิกรายปีไว้ก็แทบไม่ค่อยได้ใช้ กว่าจะเลิกงานก็ไร้พลังงานแล้ว ขอรีแลกซ์ก่อนนอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยฟิตก็ได้” เชื่อว่าชีวิตของหนุ่ม ๆ หลายคนเป็นแบบนี้ ที่จริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะขี้เกียจหรอก แต่ไลฟ์สไตล์มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ทำงานหนัก กิจกรรมอื่น ๆ เยอะ ขนาดไม่ได้ออกกำลังกายยังเหนื่อยขนาดนี้ ขอกลับไปพักผ่อนให้สบายดีกว่า (ฟังขึ้นเหมือนกันนะ) แต่พอเวลามันล่วงเลยก็พบว่าร่างกายเรามันโรยรา โหยหาพลังที่จะเอามาใช้ชีวิต แบบนี้ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อความฟิตแล้ว เอาเข้าจริงโปรแกรม workout ที่ใช้เวลาน้อย ๆ แถมไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรยกเว้นร่างกายของเรานั้นมีให้เราเสิร์ชหาดูมากมาย ซึ่งมันตอบโจทย์คนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปยิมได้ดี แต่ที่เราจะนำมาแชร์กันในตอนนี้เป็นโปรแกรม workout แบบใช้ตัวเราเข้าแลกความฟิตล้วน ๆ ภายในเวลาประมาณ 20 นาที ทำได้ทุกที่ทุกวัน ที่สำคัญเป็นโปรแกรมที่ Luke Zocchi ผู้ทำหน้าที่เทรนเนอร์ส่วนตัวของ Chris Hemsworth ดาราฮอลลีวูดมาดเท่เจ้าของบทบาทซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Thor แนะนำมา ซึ่ง Luke บอกไว้ว่า “โปรแกรมนี้คุณจะได้ออกกำลังกายทุกส่วนตั้งแต่ช่วงขาถึงช่วงแกนลำตัว รวมถึงแขนและไหล่ด้วย ถ้าคุณเป็นคนไม่มีเวลา นี่คือโปรแกรมที่เพอร์เฟคต์สำหรับเล่นก่อนหรือหลังเลิกงานก็ได้ บอกลายิมไปได้เลย!” ใช้เวลาเท่าไหร่ ? โปรแกรมนี้ใช้เวลาฝึกทั้งหมดแค่ 20 นาที แต่ละท่าใช้เวลาประมาณ 1 นาทีในการเล่น
แม้ว่าผู้ชายอย่างเราจะชอบออกกำลังกายแค่ไหน แต่มันก็มักจะเป็นเรื่องยากที่จะตื่นแต่เช้าเพื่อมา workout ก่อนทำอย่างอื่น เพราะว่ามันค่อนข้างฝืนเมื่อเทียบกับชีวิตประจำวันที่ทุ่มเทกับการทำงานจนถึงค่ำมืด จากนั้นก็แบ่งเวลาให้คนรอบข้าง กว่าจะกลับบ้านนอนก็ดึกดื่น แบบนี้ใครมันจะไปตื่นไหว !? แต่ถ้าปล่อยให้ชีวิตประจำวันเป็นเหตุผลในการไม่เริ่มต้นปฏิวัติตัวเองก็คงดูไม่เข้าที มาลุยกันสักตั้งดีกว่า พยายามเข้านอนก่อนห้าทุ่มให้ได้ จะได้ตื่นเช้า ๆ ราวหกเจ็ดโมง แล้วมาออกกำลังกายตามโปรแกรมนี้ที่ UNLOCKMEN แนะนำเลย ขอบอกว่าโปรแกรม workout ยามเช้าที่เอามาแชร์กันนี้ใช้เวลาไม่นาน ไม่ยาก และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดี ส่งผลให้พวกเรามีพลังทั้งวัน เอ้า เริ่มได้! โปรแกรมนี้แบ่งเป็น 5 ชุด ให้ไล่ลุยต่อเนื่องตามลิสต์นี้เลย เหนื่อยหน่อย แต่ถ้าตื่นเช้ามาทำได้บ่อย ๆ แล้วจะโคตรดี Workout 1 Jumping Jacks – 60 วินาที Body-Weight Squats – 30 วินาที Plank – 60 วินาที Mountain Climbers – 30 วินาที พัก 30 วินาที
เป็นเรื่องน่ายินดีที่การออกกำลังกายในทุกวันนี้ทั้งสนุกทั้งสะดวกกว่าเมื่อก่อนมาก มียิมเจ๋ง ๆ ผุดขึ้นมาเพียบ บางที่ก็เปิด 24 ชั่วโมงตอบสนองชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละคน แต่ละที่ก็แข่งกันทั้งเรื่องราคาและคุณภาพน่าดู ทำให้ประโยชน์ตกมายังผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ เต็ม ๆ เดินเข้าไปโซนออกกำลังกายก็จะเห็นอุปกรณ์มากมายทั้ง free weight และ machine ทั้ง barbell ยัน kettlebell เรียงรายเต็มไปหมด รองรับการสร้างความแข็งแกร่งตั้งแต่หัวจรดเท้าตามที่ใจต้องการ… …และเมื่อทุกอย่างมันครบ คำถามสุดคลาสสิคก็ตามมา “ระหว่างการเทรนด้วย free weight กับ machine อะไรดีกว่ากัน ?” ทีมงาน UNLOCKMEN ได้สอบถามจากเทรนเนอร์มืออาชีพ และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา และก็ได้คำตอบมาในแนวทางเดียวกันว่า ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการฝึก แม้ว่าทั้ง free weight และ machine จะช่วยให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นได้ แต่ทั้งสองอย่างมันก็มีความแตกต่างกันในตัว การเลือกใช้นั้นก็ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ สำหรับคุณผู้อ่านที่ยังลังเลว่าจะใช้อุปกรณ์อะไรในการ workout เรามีคำแนะนำจากมืออาชีพมาฝากกัน เพื่อสุขภาพและความแข็งแรง Free Weight ถ้าต้องการเวทเทรนนิ่งเพื่อรักษาสุขภาพโดยรวม และสร้างร่างกายที่แข็งแรง
ถ้าวันหนึ่งคุณตื่นมาแล้วรู้สึกไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง เสื้อผ้าที่เคยใส่ได้ก็คับรัดติ้วไปหมด แถมมีหลายคนทักว่าอ้วนขึ้นเยอะนะ จนรู้สึกขาดความมั่นใจ คงต้องถามตัวเองแล้วว่า “จะปล่อยตัวแบบนี้ต่อไปจริง ๆ เหรอ ? “ อันที่จริง เรื่องรูปร่าง สไตล์ และความความชอบมันเป็นเรื่องปัจเจก ความเจ้าเนื้อก็ไม่ได้หมายความว่าแย่ แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน แต่ถ้าทนตัวเองไม่ได้แล้ว ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เฟิร์มขึ้น แข็งแรงมากขึ้นก็ขอเชิญทางนี้เลย ทีมงาน UNLOCKMEN มีโปรแกรม workout ที่มุ่งเป้าเพื่อการลดน้ำหนักมาฝากกัน โดยสูตรฟิตร่างเพื่อความเฟิร์มนี้ได้มาจาก Kira Mahal เทรนเนอร์แห่ง MotivatePT ก่อนอื่นต้องบอกว่าการออกกำลังกายคือการหวังผลในระยะยาว น้ำหนักอาจไม่ได้ลงเร็วเท่าใจที่ร้อนรน แต่สิ่งที่คุณจะได้ควบคู่ไปด้วยก็คือน้ำหนักที่เหมาะสม ความแข็งแรงของร่างกาย และมวลกล้ามเนื้อที่มากขึ้น แม้ว่าสุดท้ายน้ำหนักอาจไม่ลงเลย แต่รับรองว่าคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวคุณ ปลดล็อกความมั่นใจภายใต้ความแกร่งของร่างกายออกมาได้เต็มเปี่ยม โดยโปรแกรม workout นี้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ และใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง เอ้า เริ่มได้! WARM-UP ก่อนจะเข้าโปรแกรมหนัก ก็ต้อง warm-up กันก่อน และมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด รับรองว่าเครื่องติดแน่ ๆ High knee
หนึ่งในมัดกล้ามเนื้อที่หนุ่ม ๆ อย่างเราอยากเสริมสร้างขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือกล้ามเนื้ออก (chest) ที่มันจะช่วยให้บุคลิกของเราดูดีขึ้น ใส่เสื้อก็ดูเท่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของชายหนุ่ม รวมถึงสร้างพลังในอิริยาบทประจำวันที่ต้องใช้การดัน หรือผลักออกไป ถามว่าอยากได้กล้ามอกต้องเล่นท่าอะไร ? หลายคนก็คงจะรู้แล้วว่าต้องวิดพื้น (Push Up) ไม่ก็ Chest Press และ Chest Fly แต่ถ้าสมมุติว่าเกิดไม่มีอุปกรณ์ ไม่ค่อยมีเวลาไปยิม หรือเกิดเบื่อท่าเดิม ๆ หละ เราจะยังเล่นกล้ามอกได้เต็มที่มั้ย ? แบบนี้ก็น่าคิด แต่ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ ทีมงาน UNLOCKMEN ขอแนะนำโปรแกรม workout ที่มุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างกล้ามเนื้ออก ที่ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แถมไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรก็ช่วยให้ฟิตกล้ามอกได้ดี *ฝึกแบบ Circuit Training ทำทุกท่า (ตามจำนวนที่กำหนด) ต่อเนื่องกันนับเป็น 1 เซ็ต พักระหว่างเซ็ต 1-2 นาที แล้วลุยต่ออีกเซ็ต สำคัญที่สุดต้องทำท่าทางให้ถูกต้อง ห้ามโกง พร้อมท่องในใจว่า
หลังจากที่ผู้เขียนได้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง Ant-Man and the Wasp มาแล้ว ก็เลยอยากจะมาสปอยล์แค่ว่า พี่ Paul Rudd นี่แกดูแลร่างกายได้ดีจริง ๆ เห็นแกโคตรฟิตมาตั้งแต่ภาคแรกอย่าง Ant-Man มาภาคนี้ก็ยังดูดีอยู่ แม้ว่าเจ้าของบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ที่ย่อ-ขยายส่วนได้นั้น จะอายุ 49 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังดูแกร่งและเท่ทั้งในชุดแดงสุดไฮเทค และในนาม Scott Lang “ผมเคยเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการเห็นผล แต่ไม่เคยทำมันเสียที” Rudd เล่าให้ Men’s Journal ฟังว่าเขาเองก็เคยขี้เกียจมาก่อน แต่พอรู้ว่าจะได้รับบทบาทเป็น Ant-Man และ Scott Lang เขาก็ทุ่มเทกับการ workout อย่างเต็มที่ ทั้งการดูแลโภชนาการที่เขาได้รับคำแนะนำจาก Carlon Colker และการฟิตร่างกายที่เขาได้ Richard Louis เทรนเนอร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก เจ้าของยิม FitSpaceNYC มาช่วยเคี่ยวเข็ญ ซึ่ง Louis เคยเปิดเผยตามตรงว่า “บอกตรง ๆ เลยว่าผมไม่รู้จัก Paul มาก่อน จนกระทั่งได้มาร่วมงานกัน เซสชั่นแรก ๆ ของการเทรนยอมรับว่ายากลำบาก แต่
หลังออกกำลังกายเสร็จหมาด ๆ จนเหงื่อโชก อะไรจะเรียกความสดชื่นของผู้ชายอย่างเราได้ดีกว่าเกลือแร่แช่เย็นเจี๊ยบดับกระหาย พวกเราคงเคยคิดแบบนี้ใช่ไหม แต่มันอาจเป็นเพราะบ้านเราไม่มีใครลองกินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์มากกว่า เพราะเมืองเบียร์เขาออกมายืนยันตอนช่วงโอลิมปิกหน้าหนาวว่า “กินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ คือที่สุดของการฟื้นฟูร่างกายนักกีฬาจริง ๆ ไม่ได้โม้” ไม่รู้ว่าเพราะเป็นประเทศที่กินเบียร์ต่างน้ำกันเป็นปกติหรือเปล่า ทำให้การสรรหาเครื่องดื่มให้นักกีฬาของชาตินี้ต่างจากชาติอื่น ถ้ายังจำกันได้โอลิมปิกที่จัดที่เมือง Pyeongchang ประเทศเกาหลีใต้ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ประเทศเยอรมนีใช้วิธีดูแลนักกีฬาด้วยเครื่องดื่มประจำชาติอย่าง “เบียร์” แต่เลือกที่เป็นแบบไร้แอลกอฮอล์มาให้ดื่มกันทั้งระหว่างการฝึกและหลังการแข่งสิ้นสุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้กลับมาน่าทึ่ง เนื่องจากประเทศเยอรมนีไม่เพียงได้ที่ 2 จากการกวาดคะแนนรวมการแข่งขัน ที่สำคัญยังได้รับเหรียญทองเทียบเท่ากับแชมป์อย่างนอร์เวย์ถึง 14 เหรียญทองเชียว Johannes Scherr แพทย์ประจำทีมสกีในโอลิมปิกนำวิธีนี้มาใช้โดยได้แรงบันดาลใจมาจากข้อมูลผลการศึกษาของบริษัทกลั่นเบียร์ที่จัดทำขึ้นเพื่อพิสูจน์ในรูปแบบ Double-blind หรือการพิสูจน์โดยไม่บอกผู้ทดลอง โดยนำเบียร์ให้นักวิ่งมาราธอนดื่มทุกวันต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ก่อนการแข่งและ 2 สัปดาห์หลังการแข่งขัน ผลปรากฎว่านักวิ่งที่ดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ มีอาการอักเสบน้อยกว่านักวิ่งที่ได้รับยาหลอก (ยาที่ทำจากแป้งแต่ไม่ได้มีสรรพคุณทางจริง คนนิยมใช้เพื่อทดสอบกระตุ้นให้ผู้กินรู้สึกว่าได้รับการรักษา) นอกจากผลการศึกษานี้แล้วยังมีผลวิจัยของ Chilean หนึ่งในนักวิจัยที่ศึกษาด้านโภชนาการช่วยการันตีถึงประโยชน์ของมัน เพราะเขาว่าการดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ ก่อนการออกกำลังกายช่วยให้นักกีฬาฟุตบอลช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายได้ด้วย ถอดรหัสทำไมในเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ถึงดีกับร่างกาย เมื่อติดตามผลกันให้ลึกซึ้งแล้วมันมีเหตุผลมากกว่าการสุ่มกินสุ่มทดสอบหรือหลักการตลาดที่เผยออกมาเพื่อเรียกแขกเท่านั้น เนื่องจากเบียร์ประกอบขึ้นจากวัตถุดิบสำคัญที่มีประโยชน์กับร่างกาย ตั้งแต่ Hops ดอกไม้ที่เป็นต้นทางของรสชาติขมที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรควิตกกังวล นอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้ชายอย่างเราหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น เรียกได้ว่ามียิมเป็นบ้านหลังที่ 3 ก็ว่าได้ แถมความรู้นี่แน่นราวกับกล้ามแขน ควรเทรนยังไง ควรทานยังไง วางโปรแกรม workout ประมาณไหน รู้หมด และถ้าจะให้ยิ่งชัวร์ เมื่อรู้ว่าอะไรควรแล้ว ก็ต้องรู้ว่าอะไรที่ไม่ควรทำทั้งก่อน และหลังเข้ายิม แน่นอนว่านอกจากการ warm up และยืดกล้ามเนื้อก่อนเทรน รวมถึง cool down และยืดกล้ามเนื้อหลังฝึกเสร็จแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งบางอย่าอาจเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไปก็ได้ ลองดูว่าเราเผลอทำสิ่งที่ว่านี้ในช่วงเวลาก่อนและหลังจัดหนักในยิมหรือไม่ ถ้าใช่ ก็ควรเลิกทำสิ่งเหล่านี้ จะได้ฟิตได้สุด ๆ แบบไม่มีอะไรมาฉุด ยืดกล้ามเนื้อมากเกินไป การยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายคือการเตรียมร่างกายให้พร้อมยืดเหยียดได้เต็มที่ และลดความเสี่ยงบาดเจ็บ แต่ก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย Michael Olajide Jr. อดีตนักมวยอาชีพ เทรนเนอร์ และผู้ร่วมก่อตั้ง Super-Gym Aerospace แนะนำว่า “จากประสบการณ์ของผม การยืดกล้ามเนื้อก่อนการวิ่ง, ต่อยมวย และปั่นจักรยาน อาจไม่ต้องยืดให้สุดมากก็ได้ เนื่องจากการออกกำลังกายเหล่านี้ใช้น้ำหนักตัวของคุณเอง และมีการเคลื่อนไหวของร่างกายแบบสุดเหยียดอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณออกกำลังกายแบบจำกัดการเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวทางเดียว อย่างเวทเทรนนิ่งกับแมชชีน เวทเทรนนิ่งหนัก