ถ้าจะพูดถึงซูเปอร์สตาร์ประจำ FIFA World Cup Russia 2018 และทุกทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ ‘CR7’ Cristiano Ronaldo สุดยอดกองหน้าทีมชาติโปรตุเกสจากสโมสร Real Madrid โคตรแข้งวัย 33 ปีรายนี้ไม่ได้แค่เรื่องฝีเท้าในสนามและความเนื้อหอมนอกสนามให้ฮือฮาเท่านั้น แต่ยังเป็นนักเตะที่ฟิตมาก ๆ ส่งผลต่อผลงานในสนามอย่างเห็นได้ชัด สามสิบกว่าแต่ยังขึ้นแท่นระดับโลกแบบแรงไม่ตก ความเร็วสูง คล่องตัวจัด ยิงโคตรแรง ร่างโคตรแกร่ง แถมยังดูแลตัวเองดีสุด ๆ ชายหลายคนอยากได้หุ่นแบบเขา ขณะที่สาวหลายคนก็อยาก…ให้แฟนตัวเองมีหุ่นแบบเขา (อย่าคิดลึก) โดย CR7 เคยได้รับคำชมจาก Arnold Schwarzenegger ดาราฮอลลีวู้ดรุ่นใหญ่ อดีตแชมป์เพาะกายโลก ว่า “เป็นนักกีฬาที่มีรูปร่างสุดยอด” แต่จะให้ผู้ชายอย่างเรามีหุ่นแบบกัปตันทีมโปรตุเกสแบบเป๊ะ ๆ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าได้ออกกำลังตามแนวทางของ Cristiano ก็จะช่วยให้เราแข็งแกร่ง และมีรูปร่างที่ดีขึ้นแน่นอน นี่คือโปรมแกรม workout ในแบบเขาที่เราเอามาฝากกัน MONDAY – Lower Body Circuit Barbell squat: 8
น่าดีใจที่ปัจจุบันผู้ชายอย่างเรารักสุขภาพมากขึ้น หลายคนหันมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง ในหนึ่งวันต้องมีกิจกรรมเสียเหงื่อ ไม่งั้นจะรู้สึกว่าเหมือนขาดหายอะไรไปบางอย่าง ตามยิม ตามสวนสาธารณะเราจะเห็นผู้คนฟิตกันเป็นธรรมดา แต่ก็เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ ก็เลยต้องนึกถึงผู้อื่นด้วยเช่นกัน ประเด็นที่ทีมงาน UNLOCKMEN จะพูดถึงนั้นได้มา Insight ที่ได้ไปพบเห็นมา และถามไถ่จากผู้ใช้บริการยิมชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีจำนวนสมาชิกมากมาย ที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ออกจะเป็นเรื่องเบา ๆ ทำนองจี้เส้นมากกว่า และไม่น่าถือสาอะไร แต่ก็พอจะทำให้มีคนแอบแซวลับหลังได้เช่นกัน ประมาณว่า “ไอ้คนนั้นอะ แม่ง….” เอาหละครับ ถ้ารู้สึกไม่สบายใจ กลัวว่าจะถูกแซวลบหลัง ก็ลองหลีกเลี่ยงพฤติกรรมขำ ๆ เหล่านี้ดูครับ *ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องผิดแต่อย่างใด เราไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิ แต่เป็นสิ่งที่อาจไม่ค่อยเหมาะสมในบางช่วงเวลาและสถานการณ์ในยิมเท่านั้น คนนั้นเหม็นชะมัด! การออกกำลังกายมันก็ต้องมีการเสียเหงื่อเป็นธรรมดา แต่ถ้าไม่ค่อยดูแลเรื่องกลิ่นกายก็อาจจะโดยแซวได้ ลองนึกดูว่าเวลาคุณเดินหรือวิ่งสวนใครสักคนแล้วได้กลิ่นการทำลายล้างความรู้สึกแบบเต็ม ๆ เข้มไปทั้งโพรงจมูก ก็คงจะอยากพูดในใจเหมือนกัน วิธีการป้องกันกลิ่นกรุ่นก็ง่ายนิดเดียว อาบน้ำ(เย็น)ก่อนออกมายังพื้นที่ออกกำลังกายก็ได้ ไม่ก็พกอุปกรณ์ระงับกลิ่นกายขนาดย่อม ๆ ติดกระเป๋าไปด้วย ดมตัวเองบ้าง จะได้รู้ว่าเลเวลไหนแล้ว แต่ไม่ต้องถึงขั้นฉีดน้ำหอมนะ อันนั้นเกินไป ไม่ได้ไปออกเดท อีกอย่างคือกลิ่นเท้า อันนี้ต้องดูแลดี ๆ เพราะมันจะติดตามพื้นห้องล็อกเกอร์กันเลยทีเดียว
ประชากรชายไทยโปรดทราบ UNLOCKMEN รู้ดีว่าตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมาจนถึงกลางปีนี้เราคงต้องเจออุปสรรคมากมายในชีวิตให้ข้ามผ่าน ตั้งแต่รถติด งานมีปัญหา แฟนงอน ชีวิตทุกอย่างมันประดังเข้ามาให้เกิดอาการ “หัวร้อน” แทบทุกวัน เห็นได้จากการจัดอันดับรายงานความสุขโลก ประจำปี 2018 หรือ World Hapiness Report ที่ UN เขาทำมาเป็นประจำทุกปีที่หนนี้ประเทศไทยโดดลงมาสู่อันดับต่ำกว่าเดิมถึง 14 อันดับ! เพื่อดับอาการหัวร้อนให้อยู่หมัดให้กลับไปใช้ชีวิตกันแบบ productive เราจึงอยากแนะนำวิธีช่วยสลายความหงุดหงิดให้ถูกวิธี เริ่มจากเรื่องแรกที่ผู้ชายส่วนใหญ่อาจกำลังเข้าใจผิดอยู่คือการใช้ตัวช่วยอย่าง “การออกกำลังกาย” ยิ่งโมโหยิ่งวิ่งเข้ายิม ใส่มันให้สุด หยุด! มันตั้งแต่ตอนนี้ เพราะผลวิจัยเขาออกมาเป็นทางการแล้วว่ามันเสี่ยงจะเสียชีวิตไม่รู้ตัว โดยผลของการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยได้สอบถามกับคนจำนวนกว่า 12,000 คน จาก 52 ประเทศทั่วโลก เป็นเพศชายถึง 75 % จากทั้งหมด เกี่ยวกับประสบการณ์หัวใจวายว่าตอนนั้นพวกเขาทำอะไรอยู่และมีอารมณ์ความรู้สึกแบบไหนในวันนั้น คำตอบน่าตกใจที่ออกมาคือ อาการหัวใจวายมันเกิดขึ้นกับคนที่กำลังออกกำลังกายมากกว่ากิจกรรมอื่นถึงสามเท่า และชั่วโมงหวิดดับนั้นพวกเขามักกำลังรู้สึกหัวเสียอยู่สักราว 1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้แล้ว EXERCISE PARADOX Dermot Phelan ผู้อำนวยการศูนย์โรคหัวใจกีฬาที่ Cleveland
หนึ่งในรูปแบบออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมของบรรดาผู้ชายคนเมือง และหนุ่มสไตล์ work hard – play hard ที่ทุกนาทีมีค่าก็คือ HIIT (High Intensity Interval Training) การออกกำลังกายความเข้มข้นสูง ที่เราต้องทำแบบเต็มในระยะเวลาสั้นจนแทบตาย ให้มีอัตราการเต้นหัวใจสูงถึง 85-90 เปอร์เซ็นต์ สลับกันกับการพักเพื่อลด heart rate ลงมา จนครบโปรแกรม แล้วมันดีอย่างไร ? ถ้าพูดถึงการตอบโจทย์ชีวิต แน่นอนว่าการฝึก HIIT นั้นใช้เวลาและพื้นที่น้อย ส่วนประสิทธิภาพของมันนั้น นักวิจัยจาก Human Performance Institute ใน Orlando เปิดเผยข้อมูลว่า แค่เราฝึก HIIT แค่ 7 นาที ก็ช่วยลดไขมันในร่างกายได้ และเกิดภาวะ “after burn” ได้นานสูงสุด 48 ชั่วโมง รวมถึงเพิ่มค่า VO2 Max ที่เป็นตัวชี้วัดความสามารถของร่างกาย ว่าสามารถนำออกซิเจนจากเลือดส่งไปที่กล้ามเนื้อเพื่อใช้เผาผลาญได้สูงสุดแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนน่าจะทราบข้อดีเหล่านี้แล้วครับ
เดี๋ยวนี้ทุกคนรู้ว่าการไม่ได้เป็นสมาชิกของยิม หรือไม่มีอุปกรณ์ นั้นไม่ใช่ข้ออ้างของการไม่ออกกำลังกายอีกต่อไป เพราะเราสามารถออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัว (Bodyweight Training) ได้ทุกที่ที่เหมาะสม ทุกเวลาที่ทำได้ ยิ่งในห้องนอนได้ยิ่งดี นั่นทำให้ใครหลายคนติดใจกับการการ workout แบบนี้ แต่สำหรับบางคนที่ฝึกท่าเดิม ๆ อย่าง burpees, squats และ jumping jacks มานานก็อาจจะรู้สึกเบื่อ สุดท้ายถ้าหาวิธีฟิตอื่น ๆ ไม่ได้ ก็อาจจะเลิกเทรนกลางทางไปเลย โชคดีที่เรามีความท่าทายใหม่ ๆ มาให้ออกแรงกัน นี่คือ 8 ท่า Bodyweight Training ที่เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เคยทำมาก่อน แต่รับรองว่าได้เกร็งกันกล้ามขึ้นทั่วร่างถ้าทำอย่างต่อเนื่อง แถมมีผลการวิจัยหลายฉบับที่ระบุชัดเจนว่าการทำอะไรที่ไม่ซ้ำซากกันในแต่ละวัน จะช่วยทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นอีกด้วย 1. Bear Pushups ที่ได้ชื่อว่า “Bear Pushups” ก็เพราะท่าทางที่ดูเหมือนหมีคลาน และมันคือท่าวิดพื้นประยุกต์ที่เฉียบสุด ๆ เป็นหนึ่งใน functional exercises ที่ดูเผิน ๆ ก็พื้น ๆ แต่ต้องลองทำดูแล้วจะรู้ว่าโคตรท้าทาย นักกีฬาหลายคนต่างยืนยันว่าหนักหน่วงอยู่ ท่านี้จะมอบความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อหลังแขน
“Time is the most valuable thing on earth” : “เวลา คือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดบนโลกใบนี้” คำกล่าวนี้โคตรจริงสุด ๆ ในชีวิตผู้ชายอย่างเราที่เต็มที่กับชีวิตทุกด้าน จนบางครั้งก็แทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง โดยเฉพาะวัยรุ่นชายตอนปลาย และชายวัยกลางคนที่กำลังอยู่ในช่วงทำงานอย่างติดลมบน จนไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ทำให้สุขภาพค่อย ๆ แย่ลงอย่างไม่รู้ตัว บางคนยังรู้สึกว่ายังพอเฟิร์มอยู่ แรงดีอยู่ หรือพอใจในรูปร่างของตัวเองก็ถือว่าสบายใจไป แต่ถ้าวันหนึ่ง คุณตื่นมา เข้าห้องน้ำไปปัสสาวะ แล้วปรากฏว่าคุณก้มหน้าลงแต่กลับมองไม่เห็น “น้องชาย” เพราะพุงของคุณบังอยู่แล้วหละก็ แบบนี้ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วหละครับ ถ้ารู้ตัวว่าอยากออกกำลังกายแต่ไม่มีเวลา ก็ไม่ควรไปสมัครสมาชิกยิมใด ๆ ให้เสียเงินเปล่า หรือควักเงินเป็นหมื่นเป็นแสนซื้อจักรยานเสือหมอบคันแรง สุดท้ายจอดโชว์นิ่ง ๆ ไม่มีโอกาสปั่น แต่เราอยากให้ปันเวลาแค่ 15 นาทีต่อวันจากเรื่องอื่น ๆ มาเวทเทรนนิ่งกันหน่อย ซึ่งมันทำได้ง่ายสุด ๆ ใช้พื้นที่น้อย จะทำที่บ้าน ที่คอนโด หรือสเปซไหนก็ได้ที่เหมาะสม ส่วนอุปกรณ์ก็แค่มีดัมบ์เบลล์ 1 คู่ หนักระหว่าง 25-40 ปอนด์ หรือประมาณ 11-18
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าภาพยนตร์แนว Superhero นั้นมาแรงกว่าแนวอื่น และเป็นหนึ่งในแนวหนังเบอร์ต้น ๆ ที่ผู้ชายอย่างเรามักจะเลือกดู คงเป็นเพราะความสนุกเหนือจินตนาการและเรื่องราวที่มันส์หลากหลายที่ค่ายใหญ่สามารถทำออกมาขายได้เรื่อย ๆ ตราบใดที่นักแสดงยังไม่เมื่อยเราก็คงจะได้ดูต่อไปอีกหลากภาค เรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงก็เช่นกัน… อีกเรื่องที่กำลังมาแรงก็คือภาคต่อของ Super (Anti) Hero ชุดแดงโคตรเก่งและเกรียนอย่าง Deadpool ที่นำแสดงโดยดาราหนุ่มเท่ ๆ Ryan Reynolds ซึ่งใน Deadpool 2 นี้ ฮีโร่แหวกแนวของเราต้องเจอกับภารกิจท้าทายยิ่งกว่า และต้องปลดล็อกความรู้สึกหลายอย่างออกมาเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้าย โดยเรื่องเริ่มจาก… พอแล้วครับ ทีมงาน UNLOCKMEN ไปดูมาแล้ว แต่ไม่อยากสปอยล์ บอกแค่ว่าคุณจะได้แง่คิดอะไรหลาย ๆ อย่างจากเรื่องนี้แน่นอน รวมถึงเรื่องสุขภาพด้วย!? แม้ว่า Wade Wilson พระเอกของเรื่องจะหน้าตาไม่ค่อยน่ามอง แต่ร่างกายของเขาก็ยังกำยำน่ามองอยู่ดี แถมฉากแอคชั่นแต่ละฉากนี่ดูจะต้องใช้ความแกร่งมากมายเยอะเหลือเกิน ตั้งแต่ไล่จัดการตัวร้าย จนถึงวิ่งหนีแก๊งโฉดที่ไล่ตามมาเป็นขบวน (อันนี้บอกได้ เพราะอยู่ใน trailer) โดย Reynolds ต้องฟิตร่างกายหนักขึ้นกว่าภาคแรก เพื่อความสมจริงสมกับความสามารถของ Deadpool ที่ดูเจ๋งขึ้นในภาคนี้ และมันก็ไม่ใช่ความลับที่หนุ่ม ๆ ทุกคนไม่มีสิทธิ์ฝึกตามแต่อย่างใด
เวลาที่เรารู้สึกซึมเศร้า ไม่ว่าจะเกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว หรือป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้ความรู้สึกดีขึ้นได้ ก็คือการโฟกัสกับการทำกิจกรรมที่มัน healthy กับชีวิต ง่าย ๆ ก็คือออกกำลังกายนี่แหละครับ ซึ่งไอ้การยืดเส้นยืดสายออกแรงเพื่อให้เสียเหงื่อเป็นหนึ่งในกิจกรรมรายวันที่ใช้บำบัดอาการซึมเศร้ามานาน แต่การออกกำลังกายแบบไหนที่เหมาะกับการคลายอาการดังกล่าวมากที่สุด ? สำหรับท่านที่มีอาการซึมเศร้า และไม่รู้ว่าจะเริ่มออกกำลังกายแบบไหนดี ผลการวิจัยล่าสุดระบุว่า Strength Training คือการเริ่มต้นที่ดีที่สุด การออกกำลังกายแบบนี้ก็คือการเล่นกล้าม มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มความแข็งแรงของมวลกล้ามเนื้อ ด้วยการยกเวทและวิธีอื่น ๆ แตกต่างจากการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobicexcercise) ที่เน้นออกแรงอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มสมรรถนะของระบบหัวใจหลอดเลือด เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬาต่าง ๆ จากข้อมูลจากล่าสุดที่ตีพิมพ์ลงใน JAMA Psychiatry ทำให้เรารู้ว่า การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (resistance exercise training หรือ RET) เช่น การยกเวท และ Strength Training ที่สามารถช่วยให้โครงสร้างร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น และทำให้สมองปลอดโปร่ง คิดอะไรคม ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ยังสามารถช่วยให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้าสามารถควบคุมภาวะอาการของตัวเองได้ดีขึ้นด้วย และสมควรได้รับบทบาทเป็นพระเอกเรื่องสุขภาพที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปราบอาการที่เป็นที่พูดถึงกันทั้งโลก ขณะที่ TIME ก็นำเสนอผลงานวิจัยของ Brett Gordon นักศึกษาจบใหม่ในสาขาพลศึกษาและวิทยาศาสตร์การกีฬาจาก Ireland’s University of
เข้าหน้าร้อนยังไม่ทันไรฝนมาอีกแล้ว แฟชั่นหนุ่ม ๆ ที่อาจจะเหมาะกับช่วงเวลานี้ที่ต้องตากแดดตากฝนปนอากาศอบอ้าวก็น่าจะเป็น T-Shirt หรือเสื้อยืดดี ๆ นี่แหละครับที่น่าจะได้ใช้แทบทุกงาน ทั้งงานเที่ยวยันชุดทำงานที่ดูเท่แบบภูมิฐานได้ เพียงแค่สวมแจ๊คเก็ตสูท, แจ๊คเก็ตเบลเซอร์ หรือสปอร์ตสูททับ แต่การที่จะใส่เสื้อยืดแล้วออกมาดูเท่ก็ต้องอาศัยไม้แขวนที่ดูดี ในฐานะที่เราคือไม้แขวนเสื้อที่มีชีวิตก็ต้องฟิตร่างกายกันหน่อย เวลาใส่ T-Shirt จะได้รู้สึกมั่นใจ ทีมงาน UNLOCKMEN มีท่าออกกำลังกายที่เน้นเฉพาะช่วงบนของร่างกายที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออก, บ่า, ไหล่ และแขนของเราให้ดูแข็งแรงสวยงาม และทำให้เราคนพบว่า เฮ้ย ที่จริงก็ไม่ต้องซื้อเสื้อแพงนี่หว่า แค่ตัวเรากับเสื้อยืดผ้าดี ๆ ราคาย่อมเยาก็โคตรคูลได้เหมือนกัน ดึงข้อซะ ถ้าอยากได้ร่างแบบ V-Shape “ดึงข้อ” คือท่าออกกำลังกายที่ผู้ชายทุกคนควรเซ็ตไว้ในโปรแกรม เพราะว่ามันเป็นการฝึกที่ครอบคลุมกล้ามเนื้อช่วงบนของร่างกายแทบทั้งหมด ได้ออกแรงดึงตัวเองที่น้ำหนักไม่เบาเลยต้านแรงโน้มถ่วงโลก พุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อหลังและ Biceps (หน้าแขน) และเหตุผลที่เราอยากให้ฝึกกันก็เพราะว่าการฝึกท่านี้เป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายของเรามีลักษณะ V-Shape ดั่งที่ชายหลายคนอยากได้ และมันจะดูดีมากเวลาสวมใส่เสื้อยืด ส่วนวิธีการนั้นไม่ยากแต่ก็หนักหน่อยนะสำหรับผู้เริ่มต้น ถ้าเป็นท่าดึงข้อมาตรฐานมือทั้ง 2 ข้างต้องค่อนข้างห่างกัน ดึงตัวขึ้นให้คางพ้นบาร์ พยายามควบคุมตัวให้ตรง แล้วค่อย ๆ ปล่อยตัวลงจนแขนเกือบตึง ก่อนดึงตัวขึ้นไปอีกครั้ง ฝึก
ถ้าจะให้ลิสต์รายชื่อภาพยนตร์กีฬาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ คงจะต้องจดชื่อ Rocky แล้วใส่ดอกจันไว้เลย เพราะเป็นหนังหมัดมวยที่โคตรมันส์ แถมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชายอย่างเราได้ฮึดสู้กับอุปสรรค ต้องขอบคุณ Sylvester Stallone จริง ๆ ที่เขียนบทเรื่องนี้ขึ้นมาทั้ง 6 ภาคแรก ไล่มาตั้งแต่ Rocky (1976) , Rocky II (1979) , Rocky III (1982) , Rocky IV (1985) , Rocky V (1990) และ Rocky Balboa (2006) รวมถึงใส่นวมกัดฟันยางแสดงเป็น Rocky Balboa นักมวยพันธุ์อึด ใจสู้ และไม่ยอมแพ้แม้ตาแตก เช่นเดียวกับหนังแนว action, sport หรือ superhero เรื่องอื่น ๆ หนึ่งในฉากที่เจ๋งที่สุดก็คือฉากตอนที่ตัวเอกกำลังฝึกหนักเพื่อกลายเป็นยอดมนุษย์ ราวกับเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของมนุษยชาติที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ โดยเฉพาะในเรื่อง Rocky ยิ่งเห็นได้ชัด ฉากซ้อมหนักจนคนดูยังเหนื่อยแทน (อาจเป็นเพราะสีหน้าของ Stallone ก็เป็นได้)