News | Video
UNLOCKMEN Logo
News | Video
Unlockmen Facebook Page Unlockmen Twitter Unlockmen YouTube channel
  • World
  • Entertainment
    :
    Films
    |
    Music
  • Guide
    :
    EVENT
    |
    MENU
    |
    TRAVEL
  • TECH
    :
    APPS
    |
    CARS
    |
    GADGETs
  • Style
    :
    DESIGN
    |
    FASHION
    |
    GROOMING
  • Business
  • Girls
  • Life
  • Work
  • Play
  • Survival
UNLOCKMEN Logo

News

World Entertainment Guide TECH Style Business Girls Life
Work Play Survival

Videos

Tag "world"

  • World
    By: Chaipohn July 24, 2019
    JOHN AARON ตัวละครลับและอัฉริยะผู้ช่วยชีวิตนักบินอวกาศ

    การสำรวจอวกาศไม่เคยเป็นเรื่องที่ง่ายดาย และความผิดพลาดก็พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในยุคการออกเดินทางไปดวงจันทร์ของโครงการอพอลโล ที่แม้ว่าภารกิจการลงดวงจันทร์ครั้งแรกจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในครั้งที่ตามมาอย่างอพอลโล 12 และ 13 ล้วนประสบปัญหาที่เสี่ยงต่อการยกเลิกภารกิจ และร้ายแรงที่สุดถึงขั้นที่อาจทำให้เสียชีวิตได้เลย ทว่าด้วยความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาดของทีมภาคพื้นดิน ก็ทำให้ภารกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างปลอดภัย และหนึ่งในนั้นก็คือ John Aaron ชายผู้เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยรักษาภารกิจและชีวิตของลูกเรือไว้ได้ John Aaron เข้าทำงานที่ NASA เมื่อปีค.ศ. 1964 จากคำแนะนำของเพื่อน และได้รับการฝึกให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ EECOM ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ควบคุมและดูแลระบบไฟฟ้า สภาพแวดล้อม และการสื่อสารกับโลกบนยานอวกาศ โดยภารกิจแรกที่เขาได้มานั่งในศูนย์ควบคุมนั้นก็คือภารกิจเจมิไน 2 ในปีค.ศ. 1965 ซึ่งในภารกิจนี้ยังไม่มีมนุษย์ออกเดินทางไปด้วย เรื่องราวมาเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1969 วันปล่อยยานอพอลโล 12 เพื่อออกเดินทางไปลงจอดบนดวงจันทร์เป็นภารกิจที่สอง ซึ่งก็ตรงกับกะของ Aaron ที่ต้องประจำอยู่ในศูนย์ควบคุมพอดี (มี EECOM ทำงานหลายคน และจะสลับกะกันเข้ามาทำงาน) การปล่อยยานนั้นเป็นไปตามปกติ จนกระทั่งวินาทีที่ 36 เมื่อยานถูกฟ้าผ่าเข้าอย่างจัง จนส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าบนยาน อุปกรณ์ต่างๆ เริ่มรวน

  • GADGETs
    By: unlockmen July 23, 2019
    ‘HASSELBLAD 907X SPECIAL EDITION’กล้องที่เคยลั่นชัตเตอร์บนดวงจันทร์เมื่อ 50 ปีก่อน

    เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมาถือเป็นอีกวันสำคัญของมนุษยชาติ เพราะมันคือวันครบรอบ 50 ปีที่ยานอวกาศ Apollo 11 ขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ และเป็นวันที่มนุษย์ได้ประทับรอยเท้าบนดาวเคราะห์ขรุขระดวงนี้เป็นครั้งแรก นอกจาก Neil Armstrong, Michael Collins, Buzz Aldrin และทีมนักอวกาศที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลก หนุ่ม ๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแบรนด์กล้องสุดหรูสัญชาติสวีเดนอย่าง HASSELBLAD ก็มีบทบาทไม่น้อยในภารกิจอันใหญ่หลวงนี้ กล้องที่เคยบันทึกภาพประวัติศาสตร์เมื่อ 50 ปีที่แล้ว หากเปิดบันทึกประวัติศาสตร์ย้อนไปเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน จะรู้ว่า HASSELBLAD ได้รับคัดเลือกจาก NASA ให้ผลิตและจัดหากล้องที่จะไปสำรวจดวงจันทร์พร้อมกับยาน Apollo 11 โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นกล้องที่แข็งแรงทนทาน สามารถยืนหยัดต่อสู้กับอุณหภูมิ -270 องศาเซลเซียสและภาวะขาดแรงโน้มถ่วงของอวกาศได้เป็นอย่างดี แบรนด์กล้องสวีเดนเจ้านี้จึงส่ง HASSELBLAD DATA CAMERA (HDC) สีเงิน พร้อมเลนส์ Zeiss Biogon 60 มม. ƒ/5.6 ให้ Neil Armstrong

  • TECH
    By: Chaipohn July 23, 2019
    PROJECT ARTEMIS อนาคตของการสำรวจดวงจันทร์ ที่ถูกเว้นว่างไว้นานกว่าครึ่งศตวรรษ

    NASA องค์การอวกาศของสหรัฐ ที่เป็นเจ้าของโครงการ Apollo ซึ่งพามนุษย์ไปลงจอดและเดินบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรกเมื่อ 50 ปีที่แล้ว และหลังจากภารกิจล่าสุดผ่านไป 47 ปีที่ไม่มีมนุษย์คนไหนได้เดินทางกลับไปเลย ในที่สุดรัฐบาลสหรัฐก็มีแผนที่จะส่งมนุษย์ออกเดินทางกลับไปอีกครั้งให้ได้ โดยครั้งนี้พวกเขามาในชื่อโครงการว่า Project Artemis ที่ตั้งตามชื่อเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ การออกล่า ป่า และเนินเขา ในเทพนิยายกรีกโบราณ ซึ่งเป็นธิดาของเทพ Zeus กับ Leto และเป็นพี่น้องกับเทพ Apollo ชื่อของโครงการแรกที่พามนุษย์ไปลงเดินบนดวงจันทร์ รัฐบาลของประธานาธิบดี Donald Trump ต้องการจะส่งมนุษย์กลับไปดวงจันทร์อีกครั้งอย่างเร็วที่สุด และในเดือนเมษายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา Mike Pence รองประธานาธิบดีของสหรัฐเองก็ได้ตั้งเป้าหมาย ให้ NASA พามนุษย์กลับไปลงเดินบนนั้นให้ได้ภายในปีค.ศ. 2024 หรือครบรอบ 55 ปีการลงดวงจันทร์ครั้งแรกนั่นเอง ซึ่งคล้ายคลึงกับตอนที่ John F. Kennedy อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศท้าทายและตั้งเป้าหมายการลงดวงจันทร์เอาไว้ในปีค.ศ. 1961 การกลับไปลงเดินบนดวงจันทร์ในรอบนี้นั้นแตกต่างไปจากเมื่อ 50 ปีที่แล้ว นั่นก็เพราะ เป้าหมายของโครงการ

  • World
    By: unlockmen July 21, 2019
    นิตติ้งขาร็อก! ครั้งแรกของโลกที่จับความคราฟต์และการว้ากนำมารวมไว้บนเวทีเดียวกัน

    ยกให้เป็นงานสุด weird ประเดิมครึ่งปีหลังที่ไม่รู้จะหาดูได้จากที่ไหนได้อีก คิดไม่ออกด้วยว่าเอามารวมกันได้ยังไง แต่บอกตรง ๆ ว่ามันช่างมันส์เกินบรรยายจริง ๆ! เข็มถักนิตติ้ง เส้นไหมจากขนสัตว์พลิ้วย้วย กับการโยก ๆ ขยับมือยิก ๆ สอดประสานตามจังหวะเสียงกลอง เสียงกีตาร์ และเสียงว้ากบนเวทีแบบนี้ เป็นภาพสุดแรร์หาดูไม่ได้จากที่ไหนเพราะมาจากเวทีประกวดถักนิตติ้งในประเทศฟินแลนด์ งานที่เพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ Heavy Metal Knitting World Championship! จนเกิดเป็นกระแสทั่วโลกออนไลน์และกลายเป็นหนึ่งในอีเวนต์ที่คนปักหมุดไว้ให้เป็น A MUST อีเวนต์สำหรับปีหน้า จุดเริ่มต้นเวทีคราฟต์ของชาวร็อก อย่างที่บอกว่างานนี้จัดขึ้นที่ฟินแลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาว Heavy Metal เพราะจิตวิญญาณเสรีของดนตรีแนว Heavy Metal มันกระจายอยู่ทุกที่ ถึงขนาดได้รับการขนานนามกันว่าถ้ามีคนฟินแลนด์สักแสนคน ก็ต้องมีวงดนตรีเฮวี่เมทัลสัก 50 วง แต่ขณะเดียวกันพลเมืองในฟินแลนด์ก็นิยมความนิ่งเรียบง่ายจากการเย็บปักถักร้อยด้วย ความสุขจากเสียงเพลงและความสุขจากงานฝีมือแม้จะดูต่างกันสิ้นดีแต่จุดหมายมันก็ไม่ต่างกัน เพราะทั้งสองสิ่งนี้ล้วนละเอียดและประณีตในตัวของมันเอง ดังนั้น เพื่อล้างทัศนคติลวงตาที่หลายคนเชื่อว่าคนทำงานคราฟต์ถักนิตติ้งต้องนั่งโยกตัวบนเก้าอี้โยกโง่ ๆ แก่ ๆ เฉิ่ม ๆ เขาจึงจัดงานประกวด

  • FASHION
    By: unlockmen July 20, 2019
    POP-UP STORE ของ ADIDAS x ARIZONA ICED TEA ถูกสั่งปิดเพราะคนแห่ซื้อเยอะเกิน!

    เรามักได้ยินปัญหาอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับการแคมป์เพื่อรอต่อแถวซื้อรองเท้าบางรุ่นที่คาดว่าผู้คนจะนิยม แต่ใครจะคิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นต้นเหตุความวุ่นวายถึงขั้นที่ตำรวจต้องมาปิด POP-UP STORE ก่อนไล่คนกลับบ้านแบบยกขบวน! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใจกลางนครนิวยอร์ก เมื่อ AdidasNYC เตรียมเปิด POP-UP ขายรองเท้าคอลเลกชัน Adidas Original x Arizona Iced Tea ซึ่งเป็นการร่วมงานกับเครื่องดื่มยอดนิยมที่มีฐานการผลิตอยู่ในนิวยอร์ก ประกอบด้วยรองเท้าสองรุ่นคือ Yung-1 และ Continental โดยแต่ละรุ่นทำออกมาเป็นสองสี ซึ่งเป็นสีของบริษัทเครื่องดื่มชื่อดัง โดยผู้ผลิตประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการวางขายรอบพิเศษระหว่างวันที่ 18 และ 19 เพียงสองวันเท่านั้น ความพิเศษของมันทำให้ผู้คนทั่วนิวยอร์กหลั่งไหลมาเพื่อรอซื้อรองเท้ารุ่นดังกล่าวถึงขั้นล้นออกมาบนถนน บางคนถึงขั้นมายืนรอตั้งแต่ช่วงตีสี่ แต่ดูเหมือนทีมงานจะไม่คาดคิดว่าจะมีคนมารอคิวซื้อมากขนาดนี้ทำให้การจัดระเบียบต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างเหมาะสมจนหลายคนเริ่มกังวลถึงความอันตรายหากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นจากฝูงชน อีกเหตุผลที่ทำให้ผู้คนแห่กันมารอซื้อเป็นจำนวนมาก เพราะราคาวางขายของ Adidas Original x Arizona Iced Tea รอบนี้ถือว่าถูกมาก แค่ซื้อเครื่องดื่ม AriZona Iced Tea แบบกระป๋องในราคา 99 เซ็นต์ก็จะได้บัตรซึ่งสามารถเลือกรองเท้า 1 ใน 4 คู่จากคอลเลกชันได้ ทันทีที่การขายเริ่มต้น ความวุ่นวายที่หลายคนกังวลก็เกิดขึ้นจริง

  • CARS
    By: unlockmen July 17, 2019
    MOTIVATHLETE : ‘CHARLES LECLERC’ผมฝันเป็นนักขับ FERRARI F1 TEAM เพื่อพ่อและพี่ชายผู้ล่วงลับ

    “แม้พวกเขาจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ผมเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาเสมอ ขอบคุณพ่อและจูลส์สำหรับทุกอย่าง ผมจะไม่มีวันลืมพวกคุณที่สนับสนุนและเชื่อในตัวผม” ประโยคข้างต้นคือคำกล่าวขอบคุณของชาร์ล เลอแคลร์ (Charles Leclerc) ถึงผู้เป็นพ่อและพี่ชายผู้ล่วงลับ ผู้ต่างเคยสนับสนุนและเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเขาฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ จนก้าวขึ้นมาเป็นนักแข่งรถสูตร 1 ของทีมเฟอร์รารี่ (Ferrari) ด้วยวัยเพียง 21 ปี ซึ่งทำให้เขาคนนี้กลายนักขับตัวจริงของทีมที่มีอายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1961 ถ้าพูดภาพจำของกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่าง Formula 1 เชื่อว่าหนึ่งในภาพแรกที่สอดแทรกเข้ามาในหัวของทุกคน คงต้องเป็นรถแข่งคันสีแดงของทีมเฟอร์รารี่ หนึ่งในทีมรถสูตรหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่เคยคว้าแชมป์โลกร่วมกับยอดนักขับมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิกิ เลาดา (Nikki Lauda), คิมิ ไรโคเนน (Kimi Räikkönen) และตำนานอย่างมิชาเอล ชูมัคเกอร์ (Michael Schumacher) ที่ผ่านมาแฟน ๆ ของยอดทีมจากอิตาลี ล้วนเคยชินกับการที่ทีมรักของพวกเขาพร้อมไปด้วยนักขับที่เต็มเปี่ยมทั้งด้านฝีมือและประสบการณ์ แต่ทว่าก่อนฤดูกาล 2018 จะจบ เฟอร์รารี่ก็ตัดสินใจทำสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด ด้วยการเซ็นสัญญากับนักขับหน้าใหม่ที่มีประสบการณ์ในการแข่งขัน Formula 1 เพียงแค่ปีเดียว นั่นคือวันที่หลายคนต่างตั้งคำถามว่า ไอ้หนูที่ชื่อชาร์ล เลอแคลร์ นี่มันใครกันวะ ?

  • CARS
    By: Chaipohn July 17, 2019
    KANJOZOKU UNDERGROUND STREET RACERS ผู้เสี่ยงชีวิตสืบทอดจิตวิญญาณแห่ง KANJO

    เมื่อพูดถึงเรื่องราวของ Kanjozoku นักซิ่งแห่งย่าน Osaka กลุ่มสมาชิกผู้คลั่งไคล้รถยนต์ Honda แต่งซิ่งสไตล์ Group A ราวกับหลุดออกมาจากยุค 80s หรือ 90s ผู้ออกมารวมตัวกันขับรถประชันความเร็วบน Hanshin Expressway ที่ตัดผ่านกลางเมือง Osaka ซึ่งคนที่นั่นเรียกขานกันว่า “Kanjo Loop” ในเวลาปกติ มันคือเส้นทางที่ผู้คนใช้สัญจรไปมา แต่ในยามค่ำคืน ชาว Kanjozoku จะเปลี่ยน Loop ให้กลายเป็นสนามแข่งที่มีเสียงท่อแต่งดังกระหึ่มไปทั่ว เหรียญมี 2 ด้านเสมอ ในมุมของนักแข่งรถและกลุ่มคน Underground ผู้รู้สึกเบื่อหน่ายและต้องการฉีกตัวออกจากความน่าอึดอัดของสังคมญี่ปุ่น Kanjozoku หรือ Kanjo Racers ดูจะเป็นวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของคน Osaka / Kansai ผู้เปลี่ยน Kanjo Loop ยามค่ำคืนให้มีสีสัน ซึ่งหลายคนก็ยังคงความเป็น Kanjozoku แม้เวลาจะผ่านไปมากกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม มันจึงเป็นอะไรที่มากกว่าแค่รถแต่งหรือการแข่งรถกวนเมือง สำหรับพวกเค้า Kanjozoku

  • TECH
    By: unlockmen July 11, 2019
    ยานสำรวจดาวอังคารลำใหม่ของ NASA จะมาพร้อมกับระบบ AUTOPILOT เพื่อภาพกิจที่ยากกว่าที่ผ่านมา

    ภารกิจอพอลโล 11 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ได้ไปลงจอดบนดวงจันทร์นั้น ประสบกับปัญหาหลายๆ อย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือสถานที่ลงจอดของยาน ซึ่งไม่ได้ราบเรียบเหมือนกับที่ทีมงานบนโลกได้คาดคิดเอาไว้ ทำให้นีล อาร์มสตรอง ผู้บัญชาการของภารกิจจึงต้องบังคับยานด้วยตัวเอง เพื่อให้ไปลงจอดในสถานที่ๆ ปลอดภัยและราบเรียบ ซึ่งในปัจจุบันจุดๆ นั้นเป็นที่รู้จักกันว่า ‘Tranquility Base’ สถานที่แห่งแรกที่มนุษย์ได้ลงเดินบนดาวต่างดวง แม้จริงอยู่ว่าการลงจอดบนดาวอังคารนั้นก็เคยมีการใช้กล้องที่ใต้ยานเพื่อเลือกตำแหน่งลงจอดที่เหมาะสมที่สุด ทว่าสำหรับภารกิจ Mars 2020 ที่มีกำหนดไปลงจอดบนดาวอังคารในปีค.ศ. 2021 ที่จะถึงนั้น มีอุปสรรคที่ทำให้ภารกิจนี้ยากกว่าทุกภารกิจที่ NASA และหน่วยงานอื่นๆ ได้เคยส่งยานไปมา นั่นก็คือสถานที่ลงจอดของยานนั่นเอง Mars 2020 ถูกเลือกให้ลงจอดที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเก่า ในหลุมอุกกาบาต Jezero ที่มีความกว้างกว่า 45 กิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขาสูงชัน สันทราย และรายล้อมไปด้วยหลุมอุกกาบาตขนาดย่อมๆ อยู่ภายใน ซึ่งถ้านั่นยังยากไม่พอ พวกเขาจะบรรทุกอุปกรณ์ไปมากกว่ายานพี่สาวอย่าง Curiosity ที่ไปลงจอดในหลุมอุกกาบาต Gale เมื่อ 7 ปีที่แล้ว และสภาพของพื้นที่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นหากภารกิจนี้จะต้องสำเร็จ พวกเขาจะต้องใช้สกิลของนีล อาร์มสตรอง แต่เป็นการลงจอดที่ดาวอังคารแทน ระบบ

  • World
    By: Chaipohn July 9, 2019
    เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ผู้คนคิดว่าอนาคตเป็นอย่างไร และปัจจุบันมันเป็นแบบนั้นหรือไม่

    อีก 100 ปีต่อจากนี้ โลกอนาคตจะเป็นอย่างไร ย่อมไม่มีใครรู้ได้แน่ชัด แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ผู้คนในสมัยนั้นคิดว่าโลกที่เราอาศัยกันอยู่ ณ ปัจจุบันจะเป็นอย่างไรกัน และสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันตรงกับที่พวกเขาได้วาดฝันกันไว้หรือไม่ ผลงานสิ่งที่ผู้คนในปีค.ศ. 1900 ทำนายอนาคตในอีก 100 ปีข้างหน้านี้ เกิดขึ้นโดยบริษัทช็อกโกแลตสัญชาติเยอรมัน Hildebrands ได้ไอเดียทำโปสต์การ์ดทำนายอนาคต จากผู้คนในสมัยวิคตอเรียน ว่าวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีได้หมุนโลกเราไปถึงไหนแล้วบ้าง มีทั้งที่สมจริง และบางไอเดียที่หลุดโลกไปในปัจจุบัน ซึ่งเราเดาว่าแม้แต่บริษัทเองก็คงไม่คาดฝันว่า Postcard วันนั้ย จะกลายเป็น Reference ในยุคก่อนได้แบบนี้ ดังนั้นไปดูกันเลยว่าพวกเขาทำนายอะไรกันไว้บ้าง และมันจะเป็นไปอย่างที่คนในยุค 1900 จินตนาการไว้หรือไม่ ทางเท้าเลื่อนได้ ทางเท้าที่สามารถเคลื่อนที่ได้ เพื่อร่นระยะทางและเวลาที่ผู้คนจะใช้ในการเดิน ซึ่งในปัจจุบันแม้เราจะยังไม่ถึงขั้นมีทางเท้าบนท้องถนนที่เคลื่อนที่ได้แบบนี้ แต่เราสามารถเห็นเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงสิ่งนี้ได้ในอาคารทั่วไป หรือที่เราเรียกมันว่า บันไดเลื่อน นั่นเอง   ตึกเคลื่อนที่ด้วยระบบราง 100 ปีก่อนมีคนจินตนาการว่าพวกเราน่าจะสามารถยกตึกทั้งตึกเดินทางไปกับเราได้ จากไอเดียของการใช้หัวรถจักรมาเคลื่อนอาคารไปตามราง ทว่าในปัจจุบันไอเดียนี้ก็ยังค่อนข้างห่างไกลจากความเป็นจริงไปนิด แต่ก็เคยมีการย้ายบ้านด้วยวิธีที่คล้ายคลึงกันมาแล้ว ตามในวีดีโอด้านล่างนี้   การถ่ายทอดภาพและเสียงจากโรงละคนสู่บ้านเรือน ไอเดียที่แม่นยำว่ามนุษย์ยุคเราจะทำได้ การแสดงในโรงละครที่สามารถถ่ายทอดออกไปได้ทั้งภาพและเสียง นี่คือสิ่งที่เราได้เห็นในชีวิตประจำวันของสมัยนี้ แต่สิ่งที่เหนือความความคิดของคนยุคก่อน คงไม่รู้ว่าปัจจุบันการ

  • Life
    By: unlockmen July 9, 2019
    ไปกับผมไม่หลงแน่! ผู้ชายเก่งแผนที่และชำนาญเส้นทางมากกว่าผู้หญิงจริงไหม?

    เคยไหมเวลาจะพาสาว ๆ ไปกินข้าวหรือพาไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ขณะเรากำลังขับรถก็ปล่อยให้เธอดูแผนที่ตามปกติ แต่แล้วเธอดันพาเราไปหลงได้บ่อยครั้ง แม้จะมีระบบนำทางอัจฉริยะอย่าง GPS ก็ดูจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ที่แย่ไปกว่านั้นคือประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องทะเลาะว่าใครถูกใครผิดและทำให้เราทั้งคู่เถียงกันไม่รู้จบ ต้องบอกว่าการดูแผนที่นอกจากจะต้องเข้าใจข้อมูลมิติเชิงพื้นที่แล้ว ยังต้องใช้จินตนาการคาดเดาเส้นทางว่าเลี้ยวซ้ายแยกนี้หรือเลี้ยวขวาแยกหน้า เพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างถูกต้อง ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะคิดว่าตนมีศักยภาพด้านแผนที่และชำนาญเส้นทางมากกว่าผู้หญิง แต่แท้ที่จริงแล้วหญิงหรือชายที่เก่งเรื่องนี้มากกว่ากัน? เพศสภาพและฮอร์โมน เพศสภาพที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดทำให้ผู้ชายและผู้หญิงต่างกันอย่างสิ้นเชิง มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งเผยว่าแม้เพศชายจะแข็งแรงทางกายภาพมากกว่า แต่ผู้หญิงนั้นมีวิธีจัดการกับอารมณ์ได้ดีกว่าผู้ชายเรา เนื่องจากผู้หญิงจะใช้สมองสองส่วนในการแก้ปัญหา คือส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุผลและส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ขณะที่ผู้ชายใช้สมองเพียงส่วนเดียว ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าฮอร์โมนเพศที่ต่างกันทำให้ความสามารถทางปัญญาของสองเพศไม่เหมือนกัน โครงสร้างสมองและการเชื่อมต่อของเส้นประสาท งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร National Academy of Sciences เผยว่าเหตุที่ผู้ชายชำนาญเรื่องแผนที่มากกว่าผู้หญิงเป็นเพราะโครงสร้างสมองและวิธีการเชื่อมต่อของเส้นประสาทในสมอง (hardwired) ต่างกัน สมองของผู้ชายเส้นประสาทจะเชื่อมต่อกันจำนวนมากบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของสมองซีกเดียวกัน  ใขณะที่ผู้หญิงนั้นการเชื่อมต่อส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา การเชื่อมต่อของเส้นประสาทที่ต่างกันทำให้ระบบการประมวลผลในสมองของชายและหญิงไม่เหมือนกัน ผู้หญิงจึงชำนาญเรื่องความคิดเชิงตรรกะ การจดจำ การรับรู้ ตลอดจนสัญชาตญาณ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือพวกเธอนั้นเชี่ยวชาญทางด้านวาจาและมีความฉลาดทางอารมณ์มากกว่าผู้ชายเรา แต่ถ้าเป็นงานเกี่ยวกับอวกาศ ทักษะยานยนต์ หรือการอ่านแผนที่ผู้ชายจะทำได้ดีกว่า เพราะผู้ชายมีจุดเด่นในการควบคุมกล้ามเนื้อและการอ่านข้อมูลมิติเชิงพื้นที่ ผู้ชายเก่งแผนที่มากกว่าผู้หญิง? นักประสาทวิทยาที่ The Norwegian University of Science and Technology ให้อาสาสมัครชาย

« Previous 1 … 29 30 31 32 33 … 102 Next »

HOT THIS WEEK

#7daysinarow

  • 1
    CARS
    JDM: CODE RARE – Skyline GT-R Autech Version 40th Anniversary (1998: BCNR33)
  • 2
    CARS
    Porsche 911 Carrera Coupe Reimagined by Singer แรงบันดาลใจจากตำนานสุดแรร์​ 911 SSE
  • 3
    Business
    Betterment Series: Hyperdrive Mind – อาการ ADHD มีดีมากกว่าแค่สมาธิสั้นถ้ารู้วิธีรับมือ
< Prev Next >

most popular video of the week

#7daysinarow

THE REAL EP 1 : Tamaryn Cooper
Unlockmen Channel
18,299

EVERYTHING GUYS NEED
TO UNLOCK YOUR TRUE
POTENTIAL EVERYDAY

Unlockmen

Subscribe now

Unlockmen
  • About Us
  • Our team
  • Jobs
  • Contact Us
  • Terms of Use
  • Privacy Policy
© 2016 whiteline thaithayan. All rights reserved.
Use of this site constitutes acceptance of our User Agreement (effective 1/4/2016) and Privacy Policy (effective 1/4/2016).The material on this site may not be reproduced,
distributed, transmitted, cached or otherwise used, except with prior written permission of thaitayan ltd.