ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องพูดกันอีกยาวสำหรับการใช้กัญญา ซึ่งปัจจุบันนอกจากทางการแพทย์ และใช้เพื่อผ่อนคลาย ยังมีการใช้ในระหว่างแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะในกีฬาประเภทศิลปะป้องกันตัวอย่าง Brazilian Jiu Jitsu ซึ่งถูกปรับกติกาให้ทันยุคสมัยสายเขียวครองโลก ด้วยการจัด HIGH ROLLERZ ทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน Brazilian Jiu Jitsu แบบพิเศษที่มีข้อกำหนดว่าผู้เข้าแข่งขันจะต้องจุดกัญชาดูดให้เต็มปอด high กันให้เรียบร้อย ก่อนลงทำการต่อสู้ และของรางวัลที่ได้สำหรับผู้ชนะก็คือ กัญชาคุณภาพดีห่อใหญ่ แหม่ อะไรจะชิวขนาดนั้น HIGH ROLLERZ ถูกจัดขึ้นโดย Lonn “Big Lonn” Howard และ Matt “Mighty Matt” สองคู่หูที่มีแนวคิดจะขับเคลื่อนให้การใช้กัญชาในกีฬาประเภทศิลปะป้องกันตัวเป็นที่ยอมรับ โดยร่วมมือกันกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบในกีฬา UFC รวมถึงนักกีฬาที่สนใจในการต่อสู้จำนวนหนึ่ง ซึ่ง HIGH ROLLERZ จะรับสมัครผู้เข้าแข่งขันจำนวน 60 คนมาจับคู่กัน เพื่อหาผู้ชนะคนสุดท้ายที่จะครองรางวัลใหญ่ประจำทัวร์นาเมนต์เป็นกัญชาชั้นดีจำนวน 1 ปอนด์ (ครึ่งกิโลกรัม) เอากลับบ้านไปล่องลอยกันต่อฟรี ๆ ที่บ้านท่าน อีกเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาจัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อสร้างความเข้าใจและแสดงให้เห็นว่าศิลปะป้องกันตัวแขนงนี้สามารถไปกันได้ดีกับกัญชา เพราะการเล่น Brazilian Jiu Jitsu ที่เป็นศิลปะป้องกันตัวสมัยใหม่
บางครั้งความบังเอิญก็นำเราไปพบกับสิ่งที่ดีเกินความคาดหมาย เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากยามดึกคืนหนึ่ง เรานอนไถโทรศัพท์ก่อนนอนอยู่บนเตียงเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดมุ่งหมายใด ๆ แต่ก่อนเราจะตัดสินใจล็อกหน้าจอและข่มตานอน สายตาแว่บหนึ่งของเราดันไปสะดุดกับคลิป ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเราแชร์ลงใน Feed Facebook เป็นคลิปเกี่ยวกับคอนเทนต์ลึกลับที่มีคำโปรยและหน้าปกค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ด้วยความที่เราชอบคอนเทนต์แนวนี้เป็นทุนอยู่แล้ว จึงลองกดเข้าไปดูแบบไม่คาดหวังใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากคอนเทนต์แนวนี้ของไทยส่วนใหญ่ที่เราดูมักจะเป็นการมานั่งอ่านข้อมูลใน Wikipedia ให้ฟัง ดังนั้นสำหรับช่อง ‘The Common Thread’ นี้ที่ดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย ยอด Subscribe ยอด View ก็น้อย จึงไม่แปลกที่เราจะไม่คาดหวัง แต่หลังจากที่ดูคลิปแรกจบ เราถึงกับอุทานในใจว่า ‘เหี้ย แม่งทำโคตรดีเลยว่ะ’ The Common Thread มีความแตกต่างจากช่องอื่น ๆ อย่างชัดเจน ด้วยการหาแหล่งข้อมูลนับสิบ ๆ แหล่ง ก่อนจะมานั่งเรียบเรียง ตัดอะไรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ออกไปทีละอย่างเพื่อมุ่งหาความจริงหรือสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เราสถาปนาตัวเองเป็นแฟนคลับช่องนี้ในทันที และด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ลังเลที่จะชวน ‘ฟาโรห์-เตชภณ คำสีแก้ว’ แห่ง The Common Thread มาพูดคุยเจาะลึกกันทันที ถึงเวลานัดสัมภาษณ์ ฟาโรห์มารอเราอยู่ก่อนแล้ว และด้วยความบังเอิญอีกอย่างคือการที่เรากับเขาเคยเรียนในคณะเดียวกัน การสร้างความคุ้นเคยก่อนการสัมภาษณ์จึงเป็นไปอย่างลื่นไหล
“พบกันน้อยนิด..จากกันเนิ่นนาน” วลีอมตะจากนวนิยายเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า หนึ่งในผลงานขึ้นหิ้งของ ‘กิมย้ง’ คงจะเข้ากับเหตุการณ์ตอนนี้ที่สุด เพราะเขาในวัย 94 ปี ก็ได้เริ่มต้นการจากกันเนิ่นนานกับยุทธภพแห่งนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม (พ.ศ. 2561) ที่ผ่านมา 94 ปีแห่งชีวิต 63 ปีแห่งการสร้างยุทธภพผ่านตัวอักษร ไม่ว่าจะสรรเสริญเท่าไรก็คงไม่เพียงพอกับความยิ่งใหญ่ของบุรุษผู้นี้ เขาคือหนึ่งในผู้บุกเบิกนิยายจีนกำลังภายใน เป็นอาจารย์ของนักเขียนรุ่นหลัง สร้างแรงบันดาลใจและความบันเทิงมากมายให้กับผู้เสพงานของเขา ดังนั้นถ้าใครติดตามนามปากกากิมย้งมาตลอดจะรู้ความจริงข้อนี้ดีอยู่แล้ว คอนเทนต์นี้เราจึงอยากแนะนำกิมย้งให้นักอ่านรุ่นใหม่รู้จักกันเสียมากกว่า หลายคนมักจะอคติกับนิยายชุดกำลังภายในว่าเน้นการบรรยายพรรณาเยิ่นเย้อ อ่านแล้วรู้สึกเบื่อ ซึ่งเราก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อก่อนเราก็เคยคิดเช่นนั้น จนกระทั่งได้ลองอ่านงานของกิมย้งอย่างจริงจัง พบว่าในสำนวนโวหารต่าง ๆ นั้นคือหมู่มวลแห่งความบันเทิงทั้งสิ้น และทุกประโยคสนทนาคือแง่คิดดี ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มอ่านจากเล่มไหนดี เราขอแนะนำผลงานอมตะ 5 เรื่องนี้ของกิมย้งที่รับรองว่าคุณจะสนุกไปกับมันได้อย่างแน่นอน มังกรหยก คงไม่ผิดนักถ้าจะพูดว่านี่คือผลงานที่โด่งดังที่สุดของกิมย้ง โด่งดังถึงขนาดที่ว่าต่อให้คุณไม่รู้จักกิมย้งแต่คุณต้องรู้จักมังกรหยกอย่างแน่นอน เพราะผลงานซีรีส์โทรทัศน์ที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้อยู่คู่กับจอแก้วบ้านเรามาตั้งแต่จำความได้ ในส่วนของเนื้อหา มังกรหยกแบ่งเรื่องราวทั้งหมดออกเป็น 3 ภาค โดยในภาคปฐมบทเล่าถึงแผ่นดินจีนที่กำลังเสื่อมโทรม ประชาราษฎร์ยากแค้น ขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง ก่อนการปรากฏตัวของ ‘ก๊วยเจ๋ง’ เด็กหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในดินแดนของมองโกลก่อนจะเดินทางกลับสู่ยุทธจักรจีน ก๊วยเจ๋งหมั่นฝึกฝนวิชามากมาย เป้าหมายคือขับไล่พวกมองโกลจากแผ่นดินจีน
RM Sotheby’s บริษัทจัดประมูลรถชื่อดังเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการประมูลรถอีกครั้ง หลังออกมาเปิดเผยว่าพวกเขาเตรียมนำรถแข่งโมเดลสุดคลาสสิกอย่าง FERRARI 290 MM รหัสเครื่อง 0628 1 ใน 4 คัน ออกประมูลในงาน The Petersen Automotive Museum Auction 2018 ในเดือนธันวาคมนี้ โดยคาดว่ามันจะกลายเป็นอีกไฮไลต์หนึ่งของการประมูลรถปีนี้ หลังจากเมื่อปี 2015 พี่น้องในรหัส 0626 เคยถูกนำออกประมูลจนราคากลายเป็นสถิติโลกมาแล้ว ความเป็นตำนานของ FERRARI 290 MM เริ่มต้นในปี 1956 ในโปรเจกต์พัฒนารถแข่งเพื่อเตรียมสำหรับการแข่งขัน World Sports Car Championship รวมถึงรายการ Mille Miglia จนเป็นที่มาของชื่อ MM ต่อท้าย ซึ่งในตอนนั้นพวกเขามี Mercedes-Benz หรือ Maserati เป็นคู่แข่งตัวฉกาจอยู่ในวงการ ในขณะที่ Enzo Ferrari เองก็ต้องการให้ความสำคัญกับการแข่งขันทุกประเภท ไม่ใช่เฉพาะการคว้าแชมป์โลกรถสูตร 1 เท่านั้น Ferrari จึงได้ผลิตรถ
ดูเหมือน London และ New York จะแคบเกินไปแล้วสำหรับ Palace Skateboards สตรีตแวร์ชื่อดังจากประเทศอังกฤษ เพราะตั้งแต่พวกเขามีหน้าร้านเป็นของตัวเองครั้งแรกในปี 2015 มาวันนี้พวกเขาเตรียมขยับขยายกิจการข้ามทวีปมาเปิดสาขา 3 เอาใจสายสตรีตไกลถึงโตเกียว แต่เวลาเดียวกันก็เป็นเรื่องดีสำหรับหนุ่มไทย เพราะร้านมันย้ายมาอยู่ใกล้กว่าเดิมเยอะมาก จะได้มีเหตุผลในการไปเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งข้อ ใครจะคิดว่าแบรนด์สเก็ตบอร์ดที่สร้างขึ้นมาจากความหลงใหลอย่าง PalaceSkateboards หรือ Palace จะกลายมาเป็นแบรนด์สตรีตแวร์ซึ่งปัจจุบันคงพูดได้ว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับแบรนด์ Supreme และ Stussy แบบไม่อายปาก พวกเขาเริ่มจากการไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเองโดยขายผ่าน Online Store เพียงช่องทางเดียวจากนั้นจึงเริ่มวางขายในร้านสเก็ตบอร์ดในตำนานของอังกฤษที่รู้จักกันอย่าง SLAM CITY SKATES ต่อมาไม่นานงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแบบแฟชั่นสเก็ตบอร์ดของอังกฤษยุค 90’s บวกกับการตลาดที่ไม่เหมือนใครก็ดึงดูดให้แบรนด์น้อยใหญ่สนใจพากันมาร่วม Collab ด้วยมากมายไม่ว่าจะเป็น Umbro, Reebox หรือว่า Adidas ทำให้พวกเขาถูกรู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้น ขณะเดียวกันเสื้อผ้าของ Palace ก็เป็นที่ต้องการของแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ในปี 2015 ชายผู้ก่อตั้งแบรนด์ Lev Tanju ก็ตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า The Palace ‘Pop-Off’ Shops ก่อนจะเปิดร้านสาขา 2 ขึ้นใน New
หลังห่างหายจากการส่งผลงานเข้าประกวดมา1 ปีเต็มๆ ลีโอเบอร์เนทท์ ประเทศไทย กลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง คว้ารางวัลเอเจนซี่ยอดเยี่ยมแห่งปี (Agency Of The Year) พร้อมรางวัลดิจิตอลเอเจนซี่ยอดเยี่ยม (Digital Agency of The Year) และอีก 39 รางวัลบนเวทีประกวดแอดแมน อวอร์ด ตอกย้ำภาพความสำเร็จจากโซลูชั่นธุรกิจที่ ‘สงกรานต์ เศรษฐสมภพ’ ประธานกรรมการบริหารเคยประกาศไว้เมื่อปี 2015 ว่าลีโอเบอร์เนทท์ คือ ‘นักแก้ปัญหาทางธุรกิจ’ หรือที่เรียกว่า Creativity for Business Solution นำเสนอพลังความคิดสร้างสรรค์จากคนคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกปัญหาธุรกิจลูกค้าอย่างครบวงจร นายสมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย (The Leo Burnett Group Thailand) เปิดใจถึงเบื้องหลังความสำเร็จจากงานประกวด แอดแมน อวอร์ด แอนด์ ซิมโปเซี่ยม 2018” (Adman Awards
ดูเหมือนว่าความรุ่งเรืองของอาณาจักร E-Sport และตลาดของนักเล่นเกมอาชีพจะยังมีอนาคตสดใสต่อเนื่อง และแบรนด์กีฬาอย่าง NIKE ก็ยังคงเดินหน้าเป็นกระบอกเสียงให้กลุ่มคนที่มีความสามารถต่อไป หลังจากที่แคมเปญ Colin Kaepernick ประสบความสำเร็จมากกว่าที่คิด เพราะล่าสุดพวกเขาตัดสินใจเบนเข็มเข้าหากีฬา E-sport ด้วยการคว้านักเล่นเกมจากจีนแผ่นดินใหญ่เจ้าของฉายา “UZI” มาร่วมโปรเจค “Dribble &” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ “Shut Up and Dribble” ของสตาร์วงการยัดห่วง LeBron James Jian Zi-Hao หรือ UZI โปรเกมเมอร์วัย 21 ปี ปัจจุบันเขาเป็นผู้เล่นสังกัดทีม Royal Never Give Up ในเกมแนว MOBA (multiplayer online battle arena) อย่าง LOL (League of Legends) Uzi เริ่มเทิร์นโปรแข่งขันเกมอาชีพครั้งแรกในปี 2012 แต่ด้วยสกิลเพลย์อันเฉียบขาดในการเล่น ความนิ่งที่เกินอายุทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นแนวหน้าของโลกภายในระยะเวลาสั้น ๆ ว่ากันว่าตอนนี้ Uzi ถูกยกย่องให้เป็นผู้เล่นในตำแหน่ง AD Carry ที่ดีที่สุดในโลกของเกม LOL (Carry
17 ตุลาคมที่ผ่านมารัฐบาลของ แคนาดา ได้ออกมาประกาศว่าอนุญาตให้การเสพและขายกัญชาเพื่อนันทนาการกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ทำให้พวกเขากลายเป็นประเทศอันดับ 2 ของโลกต่อจาก อุรุกวัย ที่ออกมาลงมือทำให้การกัญชากลายเป็นเรื่องเสรี โดยทั้งหมดเกิดขึ้นจากทั้งงานวิจัยและผ่านการโหวตจากคนส่วนมากของประเทศ จนนำมาสู่การออกกฎหมายในครั้งนี้ ผลประเมินจากการทดสอบขายโดยรัฐบาลในช่วงปี 2017 – 2018 ก่อนจะออกกฏหมาย พบว่ามีคนจำนวน 5.4 ล้านคนในแคนาดาซื้อกัญชาอย่างถูกกฎหมายคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ เพิ่มจากตัวเลขเดิม 4.9 ล้านคน ทำให้ปีที่ผ่านมาแคนาดากลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมูลค่าการใช้กัญชามากสุดในโลก โดยเป็นตัวเลขที่ใช้ทั้งเพื่อการแพทย์และนันทนาการรวมกัน คาดว่าในอนาคตเจ้าพืชชวนยิ้มชนิดนี้จะสามารถสร้างรายได้จากภาษีกว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงจะมีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ถึง 27,500 ล้านบาท/ปี เลยทีเดียว อายุที่สามารถใช้และครอบครองได้ ? คนที่มีสิทธิในการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการอย่างถูกกฎหมายในแคนาดาจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 19 ปี ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไปตามเขตปกครอง เช่นในรัฐ Alberta จะกำหนดไว้ที่อายุ 18 ปี หรือรัฐ Quebec จะอนุญาตตอนอายุ 21 ปี และระหว่างทำการซื้อจะต้องแสดงบัตรประจำตัวก่อนเสมอเพื่อป้องกันคนไม่บรรลุนิติภาวะมายุ่งเกี่ยวก่อนถึงวัยที่เหมาะสม พร้อมกับกำหนดอัตราโทษให้คนหรือร้านที่ขายกัญชาให้กับเด็กอายุยังไม่ถึงเกณฑ์โ ดยอาจต้องเข้าไปนอนในคุกยาวถึง 14 ปี เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ปลูกเอาไว้ใช้สำหรับนันทนาการได้ 4 ต้นต่อครัวเรือน ยกเว้นเมือง Quebec และ Manitoba ที่ยังไม่มีการอนุญาต
ดูเหมือนจะยังไม่เห็นทางออกสำหรับปัญหาลิขสิทธิ์ของ Supreme แบรนด์ชื่อดังจากนิวยอร์ก กับคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับเครื่องหมาย Supreme Logo box ของพวกเขาที่กำลังถูก Supreme Italia บริษัทผลิตเครื่องแต่งกายที่จดทะเบียนขึ้นใหม่เพื่อแอบอ้างและวางขายเป็นวงกว้างในทวีปยุโรป ไม่ว่าจะเป็นใน อิตาลี สเปน และล่าสุดในประเทศสวีเดนก็มี Supreme Fake Shop เกิดขึ้นแล้ว เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นในช่วงต้นปี Supreme New York ตรวจพบว่ามีแบรนด์ในประเทศอิตาลีใช้ชื่อจดทะเบียนทางการค้าว่า Supreme Italia มีเจ้าของคือ International Brand Firm (IBF) พวกเขาแอบอ้างและใช้โลโก้ของ Supreme มาผลิตเสื้อผ้าในรูปแบบที่คล้ายกันเพื่อวางขายหลายรายการ ซึ่งทาง Supreme New York ก็ไม่นิ่งนอนใจส่งเรื่องฟ้องศาลไปเรียบร้อย เป็นต้นเหตุให้ในเวลาต่อมามีเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวของกับการขายสินค้า 3 รายชื่อคือ supremeitalia.com, supremeitalia.it และ brandshopstore.com ถูกศาลใช้อำนาจระงับไปชั่วคราว แต่ต่อมากลับคำตัดสิน เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่จะทำให้บล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ต่อไปได้ ทั้งที่เมื่อเข้าไปดูแล้วจะเห็นได้ว่ามีสินค้าเลียนแบบชนิดต่าง ๆ ของ Supreme วางขายจริง แต่ถึงเรื่องครั้งนั้นจะเอาผิดไม่ได้ มันก็เป็นการกดดันให้ IBF ยุติ Supreme
ถ้าพูดถึงชื่อของ Michael Jordan ผู้ชายหลายคนรู้จักเขาในฐานะนักบาสเกตบอลในตำนาน อีกส่วนน่าจะรู้จักมาจากแบรนด์รองเท้าอย่าง AIR JORDAN ซึ่งความยิ่งใหญ่ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยฝีมือและฝีเท้าในสนามที่หาตัวเปรียบได้ยาก ถึงแม้ทุกวันนี้เขาจะวางมือไปนานแล้วก็ตามแต่เรื่องราวของเขาก็ยังถูกพูดถึงเสมอ ไม่ใช่แค่นั้นเพราะอะไรก็ตามที่ตัว MJ ได้สัมผัสก็จะคงมูลค่ามีราคาเสมอไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน นั่นก็คือรองเท้าที่ MJ เคยใส่ลงแข่งขันและถูกนำมาจัดประมูลให้ Sneakerhead ตัวจริงสะสมกัน มาดูกันว่าแต่ละคู่หน้าตาเป็นยังไงและราคาของมันไปไกลแค่ไหนกันแล้ว AIR JORDAN 12 “FLU GAME” รองเท้าจากแมตช์ที่ทำให้ Michael Jordan ดูเหมือนยอดมนุษย์ ย้อนกลับไปในการแข่งขัน NBA รอบ FINAL ปี 1997 เกม 5 ระหว่าง Chicago Bulls และ Utah Jazz ทั้งสองเสมอกันอยู่ 2 ต่อ 2 เกม ถ้าใครขึ้นนำเกมต่อไปก่อนจะมีโอกาสได้แชมป์สูงมาก ปรากฏว่าก่อนเริ่มเกมในวันนั้น Michael Jordan ดันไม่สบายขึ้นมากะทันหัน แต่ก็ยังฝืนลงทำการแข่งขันในสภาพอิดโรยตลอด 4 ควอเตอร์ ทำไป 38 แต้มพาบลูส์พลิกชนะด้วยสกอร์ 90-88 หลังเกมเค้ายื่นรองเท้า