Entertainment

THE PROFILES: TOM HARDY ชีวิตติดลบของชายติดยาเสพติดเรื้อรังสู่ผู้ได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์

By: TOIISAN November 23, 2018

Tom Hardy นักแสดงหนุ่มสัญชาติอังกฤษผู้มีผลงานการแสดงนับไม่ถ้วน อย่างภาพยนตร์เรื่อง Mad Max: Fury Road และ Venom ที่นอกจากจะฝากผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ ล่าสุดยังได้เข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น CBE หรือ Commander of the Most Excellent Order of the British Empire จากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ในตำแหน่งของบุคคลผู้สร้างชื่อระดับภูมิภาค แต่กว่าจะมาถึงวันนี้เขาคือชายผู้เคยติดสุราเรื้อรังและเล่นยามาตั้งแต่อายุ 11 ปี และนี่คือเรื่องราวที่จะหักล้างความคิดของหลายคนที่เข้าใจว่า เด็กที่เริ่มต้นไม่ดี อนาคตก็ต้องไม่ดีตามไปด้วย

ก่อนที่จะกลายเป็นบุคคลผู้สร้างชื่อเสียงให้กับอังกฤษ ชีวิตของทอม ฮาร์ดี้ ผ่านอะไรเจ็บ ๆ มาเยอะกว่าที่คิด เด็กหนุ่มชาวอังกฤษที่แม่เป็นศิลปินวาดภาพและพ่อเป็นนักเขียนชื่อดัง ทุกอย่างดูเพียบพร้อมจนฮาร์ดี้อายุ 11 ปี เขาเริ่มยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วยการดมกาว เมื่ออายุ 13 ก็เริ่ม Turn Pro เข้าสู่สายดาร์กแบบเต็มตัวด้วยการหันมาเสพโคเคนและติดเหล้า ซ้ำยังโดนไล่ออกจากโรงเรียนประจำมีชื่อเสียงของอังกฤษอย่าง Reed’s School ตอนอายุ 16 ปี เพราะขโมยของ ซึ่ง ณ วันนั้นหลายคนมีแต่ส่ายหัวให้กับอนาคตของเด็กชายตัวแสบคนนี้

วีรกรรมที่เสี่ยงเข้าไปนอนในเรือนจำที่สุดของฮาร์ดี้ คือการเคยขโมยรถของพ่อเพื่อนมาขับเล่นจนเกือบถูกส่งเข้าคุก เขาเป็นเด็กชายที่โดนตราหน้าว่าเป็นขี้ยา เป็นหัวขโมย แต่ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ Tom Hardy ทำตัวเองทั้งนั้น

soha

เส้นทางที่ฮาร์ดี้เลือกเดินเหมือนจะทำให้เค้ากลายเป็นวัยรุ่นอันธพาล แต่ด้วยความสามารถที่โดดเด่น และหน้าตาที่หล่อเหลา ฮาร์ดี้เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตอนอายุ 20 ปี จากการชนะเลิศการประกวดนายแบบรายการ Big Breakfast ทำให้เขามีผลงานการแสดงบ้างประปรายแต่ยังไม่ค่อยน่าพอใจนัก อีกทั้งอาการติดสุราและโคเคนของฮาร์ดี้ก็ยังไม่หายไปไหน

ช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาลเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 2003 ฮาร์ดี้ในวัย 26 ปี ตื่นมาท่ามกลางกองเลือดและอ้วกของตัวเอง เหตุเพราะเสพโคเคนเกินขนาดจนเกือบจะ OD เขาเริ่มรู้สึกตัวว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ถูกต้อง และตัดสินใจเข้ารับการบำบัดอย่างจริงจัง เริ่มออกกำลังกาย และช่วยเหลือสังคม รวมถึงเข้าร่วมงานการกุศลต่าง ๆ เช่น The Prince’s Trust ของเจ้าชายชาร์ลส์ และยังเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับกลุ่มปกป้องสิทธิสัตว์ PETA ซึ่งเขาช่วยรณรงค์เรื่องการรับเลี้ยงสุนัขไร้บ้าน

สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจในตัวเองมากคือเรื่องฝีมือการแสดง ด้วยความมุ่งมั่นในการกลับตัวกลับใจ ฮาร์ดี้รับงานแสดงอีกครั้งและได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ของ London Evening Standard จากผลงานละครเวทีเรื่อง In Arabia We’d All Be Kings และ Blood ทันที เหมือนเป็นการชี้ทางสว่างจากพระเจ้าที่ทำให้เจ้าตัวค้นพบทางเดินของตัวเองอย่างชัดเจน

เมื่อไหร่ก็ตามที่ทอม ฮาร์ดี้ รับแสดงหนัง เค้าจะมุ่งมั่นและทุ่มเทกับทุกคาแรคเตอร์ที่ได้รับอย่างเรื่อง Stuart: A Life Backwards เขาต้องลดน้ำหนักตัว 13 กิโลกรัม เพื่อรับบทบาทเป็นคนติดยาไร้บ้าน และได้เข้าชิงรางวัลสาขาการแสดงของ BAFTA หรือ British Academy of Film and Television Arts งานประกาศรางวัลภาพยนตร์โทรทัศน์ชื่อดังของอังกฤษ

imdb

หลังจากที่ได้ลองสวมคาแรคเตอร์เป็นหนุ่มผอมแห้งติดยาไปแล้ว คราวนี้จะต้องสวมบทบาทเป็นหนุ่มเจ้าเนื้อดูบ้างในปี 2008 กับภาพยนตร์เรื่อง Bronson เขาต้องเพิ่มน้ำหนักและกล้ามเนื้อกว่า 19 กิโลกรัม และคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก British Independent Film Award มาครอง

imdb

การก้าวเข้าสู่โลกของฮอลลีวูดของฮาร์ดี้เริ่มจากภาพยนตร์เรื่อง Inception ของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน รับบทเป็นนักมวยใน Warrior ไปจนถึงบทตัวร้ายสุดห้าวอย่าง Bane ในภาพยนตร์ Batman The Dark Knight Rises ของคริสโตเฟอร์ โนแลนเจ้าเก่า เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาถูกจับตามองจากผู้คนในวงการฮอลลีวูดแบบติดลมบนทันที

แต่บทบาทที่โดดเด่นและสร้างชื่อให้กับทอม ฮาร์ดี้ มากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาพยนตร์แอคชั่นตะลุยแดนเถื่อนที่ประสบความสำเร็จถล่มทลายทั้งด้านคำวิจารณ์และรายได้อย่าง Mad Max: Fury Road ที่เขาได้รับบทนำของเรื่อง และแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม

The Revenant สามารถพาฮาร์ดี้เข้าสู่เวทีออสการ์เป็นครั้งแรก ในการเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ที่ถึงแม้รางวัลในปีนั้นจะตกเป็นของ Mark Rylance จากเรื่อง Bridge of Spies แต่การเข้าชิงออสการ์ก็การันตีเรื่องฝีมือการแสดงของเขาได้เป็นอย่างดี

twitter

แม้เขาจะปรับปรุงตัวจากเด็กแสบในวันเก่า แต่ฮาร์ดี้ก็ยังไม่ทิ้งลายความแสบกวนในวัยเด็ก อย่างรอยสัก Leo Knows All ที่ได้มาจากการพนันกับลีโอนาโด ดิคาปริโอ ว่าเขาจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากเรื่อง The Revenant หรือไม่ ซึ่งรอยสัก “ลีโอรู้ทุกอย่าง” ที่อยู่ตรงท่อนแขน และรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมก็แสดงให้เห็นแล้วว่าฮาร์ดี้แพ้พนันอย่างราบคาบ

hdqwalls

ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เขาได้แสดงนำอย่าง Venom ก็ได้แสดงให้เห็นฝีมือที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง ในเรื่องนี้เขาต้องรับบทนักข่าวที่เป็นมะเร็ง เขาจึงนำประสบการณ์ที่เคยพลาดในวัยหนุ่มทั้งเรื่องติดสุราเรื้อรังและยาเสพติด รวมถึงความเครียดสะสมที่เคยพบเจอมาปรับใช้เพื่อให้เข้าถึงบทบาทมากที่สุดด้วย ผลลัพธ์คือภาพยนตร์ที่สร้างรายได้มหาศาลไม่แคร์เสียงวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ

bt

จากเด็กชายขี้ขโมย ติดยา สู่นักแสดงมากความสามารถที่วิ่งไล่ตามออสการ์ และผู้ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากราชวงศ์อังกฤษ ในปัจจุบันทอม ฮาร์ดี้ ช่วยเหลืองานการกุศลมากมายเพราะเขามองว่าทุกคนควรได้รับโอกาสที่สองเสมอ

“ผมอยากช่วยเหลือคนที่หลงทางให้กลับมามีสติอีกครั้ง ผมยินดีกับทุกเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต แต่จะไม่มีวันนี้เลยถ้าผมไม่เคยทำสิ่งที่ผิดพลาด โอกาสที่สองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้ได้แก้ไขสิ่งที่เคยผิดพลาด คุณจะไม่รู้ว่าชัยชนะเป็นอย่างไร ถ้าคุณไม่เคยสัมผัสถึงความพ่ายแพ้”

ชีวิตที่พลิกผันของ Tom Hardy จากที่เคยสบาย สู่จุดตกต่ำ แต่ก็สามารถพาตัวเองออกจากจุดนั้นได้ด้วยความตั้งใจ จนสามารถกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอันดับต้น ๆ ของวงการ คงไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญหรือแค่เพราะหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เป็นการทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถบนสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นอีกคน แค่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วทุ่มแรงกายแรงใจใส่มันให้เต็มที่

ดังนั้นใครคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในปัญหาที่ไม่เจอทางออก บางทีการตั้งใจทำอะไรตรงหน้าให้ถึงที่สุด ทำให้ดีที่สุด อาจจะเป็นประตูทางออกสู่ความสำเร็จที่ใกล้ตัวที่สุดแบบ Tom Hardy ก็ได้นะครับ

 

SOURCE1

SOURCE2

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line