น่าจะเป็น Jaguar E-Types ที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในปัจจุบันแล้ว เพราะนี่คือ 1965 Series 1 Roadster ที่ถูกนำมาชุบชีวิตขึ้นใหม่อีกครั้งนึงชนิดใหม่ยันหัวน็อตโดย Jaguar Classic นำออกมาขับโชว์ในขบวนฉลอง Queen of England’s Platinum Jubilee ที่ผ่านมา เป็น 1 ใน 26 คันของ Jaguar Land Rover ที่เตะตาเรามากที่สุด Jaguar Classic ใช้เวลาถึง 12 เดือนเต็มในการสร้าง Series 1 E-Type คันนี้ขึ้นมาใหม่แบบ one-off สำหรับลูกค้าคนพิเศษที่สั่งระบุว่าต้องการรถที่สร้างขึ้นตรงกับปีเกิดของเจ้าตัวด้วย ซึ่งเป็นการแสดงฝีมือการ restore รถเพื่อให้โลกได้เห็นในวันงานที่สำคัญที่สุดของคนอังกฤษ ภายนอกโดดเด่นแปลกตาด้วยตัวถังสี deep metallic blue และภายในสีแดง ได้แรงบันดาลใจมาจากสีบนธงชาติอังกฤษ ซึ่งกระบวนการหุ้มหนังทุกขั้นตอนใช้วิธีแบบดั้งเดิม เย็บและประกอบด้วยมือทั้งหมด มีการเพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ เข้าไปภายใต้รูปแบบดีไซน์ที่ยังคงความคลาสสิค ไม่ว่าจะเป็นจอ Infotainment
ย้อนไปในปี 2018 เมื่อ FIA เปิดโอกาสให้ค่ายรถสามารถส่ง Hypercar ของตัวเองลงแข่งในรายการ World Endurance Championship ได้ ทำให้หลายค่ายหันมาสนใจพัฒนารถที่เรียกว่า Le Mans Hypercar Category กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Aston Martin Valkyrie หรือ McLaren Senna ล่าสุดเป็นการเผยโฉม Hypercar ตัวแข่งสุดเซอร์ไพรส์จาก BMW กับรถแข่งที่ได้ชื่อรหัสอย่างเป็นทางการว่า “BMW M Hybrid V8 Hypercar” ซึ่งน่าลุ้นเหลือเกินว่าเราจะได้เห็น street-legal version ของรถแข่งคันนี้ในรูปแบบ street-legal ตามออกมาเพื่อรับมือกับ Mercedes-AMG One หรือไม่ ผลงานที่มาพร้อมดีไซน์ภายนอกสุดดุดันครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งการฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปี ของ BMW M Division หลังจากที่มีการเปิดตัว M3 และ M4 CSL
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นประกาศความร่วมมือกับ คริส แรมซีย์ นักผจญภัยชาวอังกฤษ ในภารกิจผจญภัยขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้เป็นครั้งแรกของโลก การเดินทางที่กล้าหาญในครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2023 แรมซีย์ และทีมจะออกเดินทางด้วย นิสสัน อริยะ (ARIYA) e-4ORCE เป็นระยะทางกว่า 27,000 กิโลเมตรผ่านหลายภูมิภาคและทวีปต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะมีช่วงอุณหภูมิที่แตกต่างกันตั้งแต่ -30 ถึง 30 องศาเซลเซียส แรมซีย์จะเป็นมนุษย์คนแรกที่ขับขี่รถยนต์จากขั้วโลกหนึ่งไปอีกขั้วโลกหนึ่ง เขาจะเดินทางจากอาร์กติกผ่านทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ก่อนที่จะข้ามไปยังทวีปแอนตาร์กติกา เส้นทางดังกล่าวมีความเป็นที่สุดในทุกๆด้าน ทั้งความทรหด ความรุนแรง ความยากลำบาก และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เริ่มจากภูมิประเทศที่มีน้ำแข็งปกคลุมไปจนถึงการข้ามผ่านเขาสูงชัน หรือลุยไปในเนินทรายอันกว้างใหญ่ ภารกิจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ หรือ Pole to Pole ที่ขับเคลื่อนโดยนิสสัน อริยะจะพาแฟน ๆ เดินทางผ่านเส้นทางที่น่าทึ่งและยังไม่ได้รับการบันทึกลงในแผนที่ฉบับไหน “นิสสันภูมิใจที่ประกาศความร่วมมือกับคริส แรมซีย์ และทีมสำรวจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ (Pole to
The Gumball 3000 Rally งาน Rally ที่มีการรวมตัวของ Supercar มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่ง จากมินิถือเป็นรถเปิดประทุนระดับพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในเซกเมนต์รถยนต์ขนาดเล็ก มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล Resolute Edition สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดดเด่นเหนือใครทั้งตัวถังภายนอก ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา การออกแบบภายในและชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดคาแร็คเตอร์ความเป็นมินิแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมให้อารมณ์ขับสนุกในสไตล์เปิดประทุนที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของมินิ สมรรถนะทรงพลังที่พร้อมเผชิญทุกเส้นทางท่ามกลางสายลมและแสงแดด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า เสริมด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.1 วินาที ให้อารมณ์ขับสนุกเหมือนโลดแล่นอยู่ในสนามแข่ง ภายนอกของมินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล Resolute Edition ตกแต่งด้วยลวดลายบนฝากระโปรงหน้าและที่กาบบันได ซึ่งมาในเส้นสายที่มีการไล่เฉดสีทองอ่อนไปจนถึงทองเข้มได้อย่างสวยงาม พร้อมสลักชื่อรุ่น “RESOLUTE” ไว้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากันได้ดีกับตัวถังภายนอกสีเขียว Rebel Green
มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition เป็นรถยนต์พรีเมียมคอมแพ็คที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแนวหลังคาที่ทอดยาวสะท้อนถึงความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ภายนอกโดดเด่นและสะกดทุกสายตาบนท้องถนนกับชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ในสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ สะท้อนภาพลักษณ์สุดโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบพละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ใน 7.2 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 228 กม./ชม. ภายนอกมาในสีเขียว Sage Green metallic พร้อมดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตกแต่งด้วยลวดลาย Untold Edition ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ารถจรดหลังคา ซุ้มล้อและสเกิร์ตด้านล่างรอบคันมาในสีเขียวเข้มเสริมความโดดเด่น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลาย Untold Spoke ในสีดำ Jet Black ตัดกับสี Refined Brass โดยสี Refined Brass
One of only two examples modified by the factory to LM specifications Equipped with unrestricted GTR racing engine and Extra-High Downforce Kit One of 64 road cars built; total of only 106 examples Ultra-rare McLaren F1 LM Specification สุดยอดความแรร์ 2 คันในโลก ที่มีมูลค่าประมูลในปี 2019 ราคา $19.8 ล้านเหรียญ หรือราว 682 ล้านบาท หากซื้อขายกันในปุจจุบันผ่านไป 3 ปี น่าจะยิ่งแพงกว่านี้อีก 30% หรือเกินกว่า
ถ้าให้คุณนึกถึงรถยนต์ที่โดดเด่นด้วยความเร็ว, ความแรง อีกทั้งยังโดดเด่นไปด้วยดีไซน์ที่โคตรเท่ สิ่งที่แล่นเข้าหัวของคุณอย่างรวดเร็วจะต้องนึกถึง Nissan Skyline GT-R อย่างแน่นอน แค่ได้เห็นชื่อก็รู้สึกได้ถึงความทรงพลังแล้ว มันคือรถยนต์ในตำนานที่ถูกกล่าวขานมาโดยตลอดเสมอ ซึ่งในปัจจุบันราคาของมันโดยเฉพาะรุ่นตั้งแต่ยุค 90’s ลงไปพุ่งทะยานขึ้นไปสูงหลักหลายล้านเลยทีเดียว Nissan Skyline มีคนที่หลงใหลอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่ถ้าหากพูดถึงในบ้านเราคงจะมีแค่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่อุทิศชีวิตให้รถยนต์รุ่นนี้ทุกลมหายใจ เขาเป็นคนที่สะสม Nissan Skyline GT-R ไว้มากที่สุดในประเทศไทย และเขามีนามว่า “รัฐชัย ธรรมารัตน์” หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในนาม “Heng’s Garage” ความชอบรถยนต์ตั้งแต่วัยเยาว์ เฮงเป็นคนที่ชื่นชอบรถยนต์มาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาให้ความสนใจทุกครั้งที่เห็นรถยนต์ในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน, ทีวี หรือนิตยสารต่าง ๆ เฮงได้เก็บความรู้สึกชอบเอาไว้จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงมัธยม เขาได้ไปเจอเพื่อน ๆ ในโรงเรียนเซนต์คาเบรียลที่เริ่มมีรถยนต์ขับกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เฮงได้มีรถคันแรกเป็นของตัวเอง “ตอนช่วงมัธยมเพื่อน ๆ ก็มีรถกันแล้วแต่เรายังไม่มี จนสุดท้ายผมก็ได้ซื้อรถคันแรกเป็นของตัวเองคือ Volvo 940 ซื้อมาปุ๊ปผมก็เอามาแต่งเลย ทำเฮดเดอร์, วางเทอร์โบ สุดท้ายมาจบที่ลงเครื่อง 2J ส่วนสาเหตุที่ซื้อเพราะผมมองเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
ในที่สุด BMW M4 CSL ก็มาถึงแล้ว ความแรงที่สัมผัสได้ตั้งแต่ดีไซน์ด้านนอก เป็นรถที่ทำเวลา Nurburgring’s Nordschleife circuit ได้เร็วที่สุดในตระกูล BMW เท่าที่เคยมีมา ด้วยสถิติใหม่ 7 นาที 15.677 วินาที BMW M4 CSL ใช้เครื่องยนต์ B58 twin-turbocharged 3.0-liter 543 hp, 649 Nm or torque ตั้งแต่ 2,750 rpm อัด boost pressure เพิ่มเป็น 30.5 psi ในตัวถังที่ลดน้ำหนักให้เบาลงกว่า M4 Competition ได้ถึง 109 กิโลกรัม ด้วยการรื้อเบาะหลังออกเปลี่ยนเป็นที่เก็บ helmet ใช้วัสดุ carbon-fiber-reinforced plastics (CFRP) ในหลายจุดของรถ ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์ M
แม้เศรษฐกิจใจโลกจะแย่แค่ไหน แต่สำหรับกลุ่มนักสะสมรถยนต์ระดับ Ultra-rich ก็ไม่มีคำว่าระคายผิว มูลค่ารถหายากที่ถูกนำมาประมูลยิ่งทำราคาได้สูงลิ่วขึ้นทุกปี และสำหรับรถที่เรียกว่าแพงยับระดับ Ultra-exclusive ที่พึ่งจะเคาะค้อนกันไปล่าสุด ต้องยกให้ที่สุดแห่งความหายาก Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut Coupe’ racing car ที่มีเพียง 2 คันในโลก โดยมีข่าวว่า 1 ในนั้นถูกประมูลไปด้วยราคาถึง $142 million USD หรือราว 5 พันล้านบาท จากแหล่งข่าวของวงการนักประมูลรถยนต์บอกว่า Mercedes-Benz ได้เชิญนักสะสมระดับ VVIP ให้เข้าไปเยี่ยมชมรถคันนี้ถึงที่ Mercedes-Benz Museum ใน Stuttgart ก่อนจะปิดการขายอภิมหาดีลครั้งนี้แบบสุด exclusive ซึ่งหากข่าวลือเกี่ยวกับ 1956 Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut Coupe “Silver Arrow” racing car เป็นจริง จะขึ้นแท่นรถที่แพงที่สุดในโลก แซงหน้า Ferrari 250
หากพูดถึงประเทศที่โดดเด่นด้านดีไซน์ การออกแบบ และงานศิลป์ คุณนึกถึงประเทศอะไร? แน่นอนว่าประเทศฝรั่งเศสต้องขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยจุดเริ่มต้นของงานอาร์ตจากภาพแกะสลักอันโด่งดังในถ้ำที่ Lascaux, France ซึ่งถือเป็นงานศิลป์ชิ้นแรก ๆ ในประวัติศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่ 17,300 ปีที่แล้ว หรือสถาบัน Fine art แห่งแรกในโลกชื่อ Academie Royale de Peinture et de Sculpture ก็ก่อตั้งในฝรั่งเศสครั้งแรกในปี 1648 ไม่ว่าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสจะผ่านอะไรมาบ้างตลอดระยะเวลาถึงปัจจุบัน ศิลปะและดีไซน์จะเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมชิ้นสำคัญที่สอดแทรกอยู่ด้วยเสมอ และมันถูกถ่ายทอดอยู่ใน DNA ของวิถีชีวิต ในสถาปัตยกรรม ข้าวของเครื่องใช้ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของผู้คน รวมไปถึงรถยนต์ รถยนต์ที่ผลิตในแต่ละประเทศจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป จุดเด่นของรถยนต์ PEUGEOT จากฝรั่งเศส นอกจากจะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกใบนี้ด้วยตำนานอันยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 212 ปี มีเทคโนโลยีและการผลิตรถยนต์ที่ล้ำหน้า ยังมีความโดดเด่นกว่าใครในด้านการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม มีเอกลักษณ์แตกต่างจากรถยนต์จากประเทศอื่น เป็นการดีไซน์ที่มีทั้ง Form จัดจ้าน แฝงไว้ด้วยอารมณ์ที่สะท้อนแนวคิด คอนเซ็ปต์ คาแรคเตอร์ของรถรุ่นนั้น ๆ จึงมักจะฉีกกรอบเดิม ๆ
Brabus ฉลองครบรอบ 45 ปี ด้วยการสร้างผลงานสุดบ้าระห่ำที่แตกต่างจากที่ผ่านมา นี่คือ Brabus 900 Crawler Supercar ในร่าง Four-seater Dune Racer ที่สร้างทุกรายละเอียดขึ้นมาใหม่เกือบทั้งหมดในจำนวนจำกัดเพียง 15 คันเท่านั้น นอกจากด้านหน้าจะดูคล้าย Mercedes-AMG G63 ส่วนที่เหลือของรถลุยทะเลทรายคันนี้แทบไม่มีอะไรเหมือน G63 เลย โครงสร้างเปลือยเสาแบบ exposed tubular chassis สไตล์ Dune Racer ผลิตจากเหล็กกล้ากำลังสูง (high-intensity steel) พ่นสีโทนแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของ Brabus ช่วงล่างยกตัวรถให้มี ground clearance สูงจากพื้นถึง 53 เซนติเมตร ทำให้มันสามารถลุยผ่านได้ทุกอุปสรรค และโช้คอัพยังมาพร้อม Height-adjustable damping แบบเลือกปรับความหนืดสปริงได้สูงสุดถึง 160 มิลลิเมตร เพื่อลดน้ำหนักให้รถเบาที่สุด Brabus เลือกใช้ล้อ Monoblock HD forged ขนาด 40