Survival

กินเหล้า อย่าให้เหล้ากินเรา !! เคล็ดวิธีดื่มแบบเก๋า ๆ เอาตัวรอดปลอดภัยในทุกปาร์ตี้

By: NTman January 8, 2018

ไม่ว่าจะปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ งานแต่ง งานบวช เลื่อนตำแหน่ง เลี้ยงอำลา หรือเทศกาลไหน ๆ ยังไงผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็หนีไม่พ้นปาร์ตี้กินดื่ม นี่ยังไม่นับงานสังสรรค์ยิบย่อย ที่แต่ละปีจะต้องมีเหตุให้ได้ออกไปทดสอบประสิทธิภาพตับกันอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดหย่อน

ที่เกริ่นมาแบบนี้ไม่ได้จะบอกว่าการออกไปปาร์ตี้บ่อย ๆ นั้นเป็นเรื่องเลวร้าย จนต้องหลีกเลี่ยงแบบเด็ดขาด แล้วหันมาปลีกวิเวก หลีกลี้หนีหน้าจากงานปาร์ตี้พบปะบรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหาย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายกับการสังสรรค์นั้นกลายเป็นเหมือนคู่ซี้ที่แยกจากกันลำบาก

แต่ไม่ว่าจะตะลุยปาร์ตี้ถี่แค่ไหน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือ ความรับผิดชอบที่ต้องมี ทั้งกับตัวเองและผู้อื่น จะดื่มทั้งทีก็ควรดื่มอย่างมีสติ เน้นเสริมสร้างบรรยากาศความสนุกสนานก็เพียงพอ แถมยังดูเป็นสุภาพบุรุษที่เก๋าเกมกว่าเยอะ เพราะถ้าลองคิดให้ดี การดื่มแบบเน้นเมาเอาโล่ จนอ้วกแตกเละเทะ ตื่นมาแฮงค์ยาวไปอีกทั้งวัน มันไม่ได้สร้างผลดีใด ๆ ให้กับชีวิตเลยแม้แต่นิดเดียว และ 5 ข้อด้านล่างนี้ คือเคล็ดวิธีการดื่มที่จะทำให้ชาว UNLOCKMEN ทุกท่านสังสรรค์ได้แบบรุ่นใหญ่ อยู่รอดปลอดภัยในทุกปาร์ตี้ ไม่เมาเละเทะ สติหลุดจนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดให้ต้องเสียฟอร์ม เสียสุขภาพ หรือแม้กระทั่งต้องเสียใจในภายหลัง

 

รู้เขารู้เรา

“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” กลยุทธ์ของซุนวู ที่ยังคงปรับใช้ได้ดีกับทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งการดื่ม เพราะก่อนที่จะลงมือยกกระดกแก้วนั้น ทางที่ดีควรจะรู้ข้อมูลของสิ่งที่เรากำลังจะกลืนลงคอไป ว่ามันคือน้ำเมาชนิดไหน และมีดีกรีระดับความแรงของแอลกอฮอล์เท่าไหร่ เพราะมันมีผลต่อการประเมินตัวเองเบื้องต้นให้พร้อมรับมือกับเครื่องดื่มที่อยู่ตรงหน้า และได้รู้ถึงระดับความแฮงค์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากดื่มเครื่องดื่มเหล่านั้นแบบไม่บันยะบันยัง ถ้าเป็นเบียร์หรือเหล้าอาจจะเช็คได้ไม่ยาก แค่ดูจำนวนเปอร์เช็นต์แอลกอฮอล์ข้างฉลากก็น่าจะพอรู้ว่าควรจะกรึ้บมันแบบระมัดระวังแค่ไหน เพราะสายดื่มจริงๆ น่าจะรู้กันดีว่า ตัวเลขระบุ 4% หรือ 8% ของเบียร์ที่ดูเหมือนจะต่างกันเล็กน้อย แต่ความมึนที่รู้สึกได้มันช่างต่างกันชัดเจนเสียเหลือเกิน ส่วนเครื่องดื่มที่ไม่มีฉลากระบุ เราแนะนำให้ถามไปเลยไม่ต้องเขิน ว่าตัวนี้มันแรงแค่ไหนกันเชียว

ดูความแตกต่างของเครื่อมดื่มแอลกอฮอล์เพื่อรับมืออาการแฮงค์เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

หิวไหม ทานอะไรมาหรือยัง ?

ก่อนออกไปปาร์ตี้ ควรเผื่อเวลาหาอะไรกินเสียก่อน ถึงแม้จะไม่หิวยังไงก็กินอะไรรองท้องไปสักหน่อยก็ยังดี เพราะคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนจากอาหารที่เรากินเข้าไปนั้น คือผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยชะลอกระบวนการการดูดซึมแอลกอฮอล์ของร่างกายให้ช้าลง ดีกว่ามุ่งหน้าตรงไปปาร์ตี้แล้วดื่มทันทีที่ยังท้องว่าง เพราะแอลกอฮอล์ที่ร่างกายรับเข้าไปนั้นพร้อมจะกระจายความเมาไปทั่วร่างได้แบบฉับพลัน

 

รักเดียวใจเดียว

ข้อนี้ไม่ใช่การห้ามไปเกเรออกลวดลายเจ้าชู้กับใคร เพราะสุภาพบุรุษอย่างเรา ๆ น่าจะรู้กฎข้อนี้ดี ว่าถ้าหากมีคู่แล้วก็ไม่ควรจะไปออกนอกลู่นอกทางที่ไหน (จริง ๆ นะ) แต่เรากำลังพูดถึงเรื่องของการเลือกเครื่องดื่มคู่ใจให้มันแน่นอนชัดเจนไปเลยตั้งแต่เริ่มดื่ม โปรดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าเรากำลังมาปาร์ตี้ กินดื่ม สังสรรค์ เพื่อความบันเทิง ไม่ได้มาเป็นนักชิมเครื่องดื่ม หรือมากอบโกยความเมาแบบเอาคุ้มแต่อย่างใด เพราะการที่เราเปิดด้วยเบียร์ แล้วข้ามสายไปจิบ ซิงเกิ้ลมอลต์ ก่อนที่จะมาจิบเตกีล่า หรือหาค็อกเทลมาดื่มเบา ๆ ขอบอกว่ามันไม่เบาอย่างที่คิด แต่รับรองว่าอาการเมาปลิ้นจะเกิดขึ้นแน่นอน ทั้งนี้เพราะส่วนประกอบของเครื่องดื่มแต่ละอย่างมีความแตกต่างกัน หากดื่มมั่วไปเจอตัวที่มีน้ำตาลผสมอยู่ จะยิ่งเร่งการดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือด จนเมาง่าย เมาไวขึ้น อาจถึงขึ้นภาพตัดได้รวดเร็วจนน่าตกใจ

 

ท่องไว้ว่าพี่ไม่รีบ

เมื่อเติบโตขึ้นมาระดับหนึ่ง ควรจะรู้ซึ้งว่ามันหมดยุคกระดกยกหมดแก้วรัว ๆ แล้วทำหูทวนลมเพื่อนผู้ไม่รู้จักโตจอมไซโคไปก่อน ซึ่งความถี่ที่ควรพยายามทำให้ได้คือการดื่ม 1 แก้วต่อหนึ่งชั่วโมง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถกำจัดแอลกอฮอล์ออกไปในระดับที่พร้อมลุยต่อ แม้อาจจะดูว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานไปหน่อย แต่จริง ๆ แล้วแค่จิบเบา ๆ พูดคุยกับเพื่อนฝูง ดื่มด่ำบรรยากาศในปาร์ตี้ไปเรื่อยเปื่อยโดยใจไม่ได้จดจ่ออยู่กับแก้วในมือมากมาย เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงนั้นแทบจะไม่ได้ยาวนานอะไรเลย ซึ่งมีการศึกษาเรื่องพฤติกรรมการดื่มของมนุษย์ที่ช่วยยืนยันว่า เรามักจะยกแก้วขึ้นมาดื่มบ่อยกว่าปกติ เพราะรู้สึกว่ามือว่าง จนทำให้รู้สึกกังวลเมื่อไม่ได้ยกแก้วดื่ม จึงมีทางออกง่าย ๆ คือหาแก้วน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์มาเตรียมไว้ข้างมือ เมื่อรู้สึกหงุดหงิดอยากยกแก้วก็สามารถดื่มน้ำไปพลาง ๆ นอกจากจะช่วยให้เราไม่ดื่มไวจนเกินไป น้ำเปล่ายังช่วยลดอาการขาดน้ำซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย

 

ไม่ไหวอย่าฝืน

การดื่มอย่างรับผิดชอบ ดื่มอย่างมีสติ แน่นอนว่านักดื่มอย่างเรา ๆ ควรจะต้องรู้ลิมิตของตัวเองด้วย ถ้ารู้สึกว่าเริ่มเมา หรือไม่เมาแต่ไม่เหมือนเดิม ก็ขอให้รู้จักบอกกับตัวเองว่าพอ และย้ำอีกครั้งว่าอย่าได้สนใจเสียงไซโค ไม่ต้องปล่อยให้ศักดิ์ศรีในวงเหล้ามาค้ำคอ เพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่ยอมดื่มต่อ มันยังดีกว่าโดนล้อเรื่องเมาเพี้ยน เละเทะหมดสภาพ ที่นอกจากเรื่องเล่า น่าจะมีภาพถ่ายสภาพเมา ๆ ของเราให้เผากันได้อีกนานยันลูกหลานบวช และที่สำคัญไปกว่ากับสิ่งที่ไม่ควรฝืนเป็นอย่างยิ่ง แม้จะปฏิบัติตัวตามเคล็ดลับการดื่มทุกข้อแบบเคร่งครัด มั่นใจว่าทรงดีไม่มีอาการเมาหนัก เอาตัวรอดได้ในทุกปาร์ตี้อย่างแน่นอน แต่ยังไงก็ไม่ควรฝืนขับรถกลับบ้านด้วยตัวเอง ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการดื่มอย่างรับผิดชอบโดยแท้จริง เพราะจากสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนน 7 วันอันตรายเมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา ยังคงตอกย้ำว่าการเมาแล้วขับยังเป็นสาเหตุหลักซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียตั้งแต่บาดเจ็บไปจนถึงเสียชีวิตด้วยตัวเลขสูงถึง 43.66%

จะเห็นได้ว่าการฝืนดื่มแล้วขับ นั้นเป็นอะไรที่ชุ่ยยิ่งกว่าชุ่ย และสร้างความสูญเสียได้เป็นวงกว้าง เพราะมันเป็นการกระทำที่ไม่ได้มีความรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้อื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หรือแม้กระทั่งชีวิตของตัวเองเสียด้วยซ้ำ เราจึงอยากตอกย้ำให้ผู้ชายสายปาร์ตี้ทุกคนตระหนักถึงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ เพื่อตอบโจทย์การดื่มอย่างรับผิดชอบได้สมบูรณ์แบบ รักษาเนื้อรักษาตัวเอง และเพื่อนร่วมท้องถนนให้มีชีวิตไปปาร์ตี้ได้อีกยาว

และเมื่อพูดถึงอุบัติเหตุทางท้องถนน เราคิดว่าทุกคนสามารถสร้างพฤติกรรมขับขี่อย่างรับผิดชอบนอกเหนือจากการดื่มไม่ขับได้อีกด้วย อย่างที่หลายคนคงเคยได้ยินชื่อโครงการถนนสีขาวจากโตโยต้า ที่รณรงค์กันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2531 และไม่ได้มีเพียงแค่จัดแคมเปญรณรงค์ขึ้นมาลอย ๆ แต่โครงการยังได้มีการอบรมแนวทางการขับขี่ปลอดภัย รวมถึงตอกย้ำจิตสำนึกในการขับขี่เพื่อเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนกันอย่างจริงจัง

 

โตโยต้า ถนนสีขาว เรียก ลด งด คาด

สำหรับแคมเปญล่าสุดของโครงการโตโยต้าถนนสีขาวในปีนี้ ได้มุ่งเน้นในการตอกย้ำถึงการสร้างพฤติกรรมการขับขี่ที่รับผิดชอบ ด้วยคีย์เวิร์ดง่าย ๆ แต่สามารถจดจำ และนำไปใช้ได้จริง เริ่มจากสิ่งแรกสุดที่เราเน้นย้ำไปในตอนแรกคือการดื่มอย่างรับผิดชอบ ที่สะท้อนออกมาผ่านคำว่า “เรียก” เรียกแท็กซี่โดยที่ไม่ว่าจะเมามาก เมาน้อย หรือคิดว่าตัวเองไม่เมา แต่ถ้าเลือกที่จะดื่มแล้วก็ควรที่จะรับผิดชอบต่อผู้ร่วมทางบนท้องถนนด้วยการเรียกแท็กซี่นั่งกลับบ้าน เพื่อความปลอดภัยวิน-วิน ทั้งผู้ดื่ม และผู้อื่น “ลด” ลดการใช้ความเร็วแบบบ้าระห่ำในการขับขี่ ขับช้าลงหน่อยยังไงก็ถึงที่หมายพร้อมกัน แต่ได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกเยอะ “งด” งดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะทุกวินาทีที่ละสายตาไปไถหน้าจออ่านฟีด หรือกดไลค์อินสตาแกรม มันอาจเป็นเสี้ยววินาทีชีวิต เสี้ยววินาทีแห่งความสูญเสียได้ทุกเมื่อ “คาด” คาดเข็มขัดนิรภัยความปลอดภัยพื้นฐานในการขับขี่ เพราะจริง ๆ แล้วก็มีตัวอย่างให้เห็นหลายเคส หลายกรณี ว่าแค่เข็มขัดนิรภัยเส้นเดียวที่คาดเอาไว้ กลับสามารถช่วยชีวิตผู้คน เปลี่ยนหนักเป็นเบามาแล้วหลายราย

นอกจากนี้โตโยต้ายังมี Online Film เรื่อง “ปีใหม่นี้…  หนูขอ” ที่ได้ดีเจอาร์ตมารับบทหัวหน้าแก๊งค์คนเมา ถ่ายทอดเนื้อหาอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องสนุก แต่มีจุดให้ฉุกคิดว่าวีรกรรมสุดประมาทของคนเมาเหล่านี้ หากเกิดขึ้นในชีวิตจริงมันไม่มีทางเป็นเรื่องสนุกอย่างที่เห็น ผลที่เกิดขึ้นคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความสูญเสีย และน้ำตา ถือเป็นอีกสื่อที่ช่วยกระตุ้นเตือน จิตสำนึกในการ “เรียก ลด งด คาด” โดยใช้โอกาสดี ๆ ช่วงเวลาดี ๆ อย่างปีใหม่ ให้ได้เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่เสียใหม่ให้มีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น

สุดท้ายนี้ขอย้ำไว้อีกที กับคีย์เวิร์ด 4 คำจำง่าย จากโครงการโตโยต้าถนนสีขาว เราอยากให้ทุกคนจดจำ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่เสียใหม่ รับรองว่าถนนสีขาวนั้นจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อโครงการ แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้จริง จากพฤติกรรมการขับขี่ที่รับผิดชอบของพวกเรา ให้ทุกการออกไปสัญจรบนท้องถนน ไม่ว่าจะไปเที่ยวเล่นปาร์ตี้ หรือออกไปทำงาน คุยธุรกิจ นั้นมีแต่ความปลอดภัย ไม่มีอะไรต้องกังวล เพียงแค่เริ่มจากวลีสั้น ๆ อย่าง “เรียก ลด งด คาด” เท่านั้น

ติดตามรายละเอียดกิจกรรมดี ๆ ส่งเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัย จากโครงการโตโยต้าถนนสีขาวเพิ่มเติมได้ที่ 
https://www.toyota.co.th/roadsafety/

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line