คงต้องยอมรับว่าว่าผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่นั้นให้ความสำคัญกับรูปแบบการใช้งานที่เน้นพกพาติดตัวไปในทุกที่ ทำให้นอกจากเรื่องของประสิทธิภาพที่ถูกจัดให้เป็นประเด็นหลักในการมองหาโน้ตบุ๊คคู่ใจ ยังมีอีกเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญไม่แพ้กันนั่นคืองานดีไซน์ที่เท่โดนใจ เปรียบเสมือนไอเทมสะท้อนตัวตนในทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใช้งาน และถ้าจะให้พูดถึงโน้ตบุ๊คที่โดดเด่นด้านดีไซน์ และมั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพ ณ ช่วงเวลานี้ บอกเลยว่ามองข้าม Porsche Design Acer Book RS ที่เพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบจากเวที Red Dot และ iF Design Award มาสด ๆ ร้อน ๆ ไปไม่ได้เด็ดขาด ซึ่ง Porsche Design Acer Book RS เจ้าของดีกรีรางวัลระดับโลกรุ่นนี้จะมีทีเด็ดทีขาดมัดใจใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่มากน้อยแค่ไหน เราขอเชิญชาว UNLOCKMEN ทุกท่านมาสัมผัสจุดเด่นของมันไปพร้อม ๆ กัน Porsche Design Acer Book RS ถือเป็นโน้ตบุ๊คที่ผสมผสานระหว่างงานออกแบบชั้นยอด และประสิทธิภาพชั้นนำเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ด้วยความโดดเด่นของวัสดุตัวเครื่องคุณภาพสูงอย่าง Aluminum alloy 6063 ที่ให้ทั้งความแข็งแรงทาน และน้ำหนักตัวเครื่องที่เบาเพียง 1.2 กิโลกรัม พร้อมขั้นการผลิตสุดประณีตระดับงาน Craft
หลายคนคงรู้จักผู้ชายคนนี้ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง และร่วมปลุกปั้นร้าน CARNIVAL® จากร้านรองเท้าเล็ก ๆ ในสยาม ที่วางขายรองเท้าเพียงแบรนด์เดียว จนกลายมาเป็นร้าน Multi-Fashion แถวหน้าของเอเชียในปัจจุบัน ที่ไม่เพียงแค่ได้สิทธิ์ขายสินค้ารุ่นเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ระดับโลกมากมาย เพราะกลยุทธ์การสร้างแบรนด์อย่างมีชั้นเชิงนั้นทำให้คอลเลกชันเสื้อผ้าและสินค้าอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ CARNIVAL® เองก็ได้รับความนิยมถล่มทลายไม่แพ้กัน แต่เชื่อว่าน้อยคนนัก ที่จะได้สัมผัสแง่มุมอีกด้านของตัวพ่อแห่งวงการสตรีทแฟชั่นอย่าง ‘ปิ๊น-อนุพงศ์ คุตติกุล’ หรือ ‘ปิ๊น CARNIVAL®’ ที่หันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะประเด็นของภาวะโลกร้อน ประเด็นที่ทุกวันนี้หลายคนอาจยังมองเป็นเรื่องไกลตัว และต้องบอกว่านี่เป็นโอกาสดีที่เราได้มาพูดคุยกับผู้ชายคนนี้ จึงพลาดไม่ได้ที่จะให้คุณปิ๊นเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นแนวคิดการสร้างแบรนด์ CARNIVAL® ให้ผงาดขึ้นมายืนอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ รวมถึงเรื่องราวจุด ‘เปลี่ยน’ ที่ทำให้เขาหันมาตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อน จนลุกขึ้นมา ‘เปลี่ยน’ วิธีคิด ‘ปรับ’ รูปแบบการใช้ชีวิตส่วนตัวซึ่งถูกสะท้อนออกมาผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ Sustainable ของแบรนด์ CARNIVAL® ไปพร้อมกัน “มันเริ่มต้นมาจากการที่ผมได้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษนะครับ คือจากที่เราอยู่เมืองไทยมาตลอดก็มีไปต่างประเทศ มีไปเที่ยวบ้าง ไม่ได้ไปแบบจริงจัง แต่พอได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตที่นั่น เราก็เจออะไรที่มันแปลกใหม่ เหมือนเปิดโลกใหม่ กลายเป็นว่าเราสนใจเรื่องแฟชั่น เรื่องรองเท้า จริง ๆ รองเท้าเป็นไอเทมที่เด็กผู้ชายวัยรุ่นชอบอยู่แล้ว ใคร
นับตั้งแต่การรุกรานของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่นำพาพวกเราทุกคนเข้าสู่วิถีชีวิตแบบ New Normal มาร่วมปี เชื่อว่าหลายคนคงจะเห็นพ้องต้องกันกับเราว่า คงไม่มีเทรนด์ไหนในยุคโควิดที่ฮิตไปกว่าเทรนด์คนติดบ้าน ไม่ว่าจะทำงาน ช้อปปิ้ง ทานอาหารมื้อโปรด แทบทุกสิ่งล้วนถูกเปลี่ยนให้ทำได้จากที่บ้านทั้งนั้น แม้กระทั่งการออกกำลังกายดูแลรักษาสุขภาพ ในวันที่ยิมปิด ฟิตเนสงดให้บริการ สุดท้ายบ้านที่มีการออกแบบพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง และยืดหยุ่นพร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง ก็พร้อมจะเปลี่ยนเป็น Home Gym ให้ทุกคนสร้างความฟิตได้จากแทบทุกพื้นที่การอยู่อาศัย และในวันนี้เราจะขออาสาพาไปเปิดไอเดียใหม่ ๆ ว่าพื้นที่ไหนของบ้านที่สามารถเนรมิตเป็นจุดออกกำลังกายได้บ้าง เพื่อเป็นแนวทางไปปรับใช้หาพื้นที่ทำ Home Gym กันที่บ้านของคุณเอง ห้องนอนด้านล่าง ชั้นล่างของบ้านใครมีพื้นที่ห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องนอนรับแขก ในวันที่ไม่ได้มีใครใช้งานพักอาศัย บอกเลยว่าพื้นที่นี้ถือเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับดัดแปลงเป็น Home Gym ได้ดี เพราะห้องนี้มักจะอยู่ในจุดที่แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในห้อง ให้ความสดชื่น และเป็นส่วนตัวขณะออกกำลังกายได้อย่างดี โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับพื้นที่นี้นั้นเป็นได้ทั้งกีฬาเรียกเหงื่อแบบ High Intensity เช่นการปั่นจักรยานแบบสปินนิ่ง ที่เดี๋ยวนี้มีบริการให้เช่า พร้อมคอร์สเรียนออนไลน์ หรือ จะเป็นแบบ Low Intensity สำหรับสาว ๆ อย่างการออกกำลังพิลาทิส เช่น เครื่อง
ข้อความด้านบนนี้ อาจเป็นความหมายของ ‘HERO’ ภายใต้การรับรู้ของคนทั่วไป เพราะฮีโร่มักจะถูกแทนค่าด้วยความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์มนา เป็นผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่เหนือกว่ามนุษย์คนใดในโลกหล้า แต่ถ้าหากลองย้อนมองวิกฤติ COVID-19 ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าทุกคนต่างเคยได้สัมผัสกับ ‘ฮีโร่’ ในชีวิตจริง ที่อาจไม่จำเป็นต้องมีพลังอำนาจใด ๆ ยิ่งใหญ่ล้นฟ้ามาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ‘ฮีโร่’ เดินดิน ที่มีวิถีชีวิตคนเมืองร่วมกันกับพวกเรา หรือเหล่า ‘ฮีโร่’ ที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน เจ็บปวดกับปัญหาร้อยแปดพันประการโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่เล็ก ๆ ของตัวเองในทุกวันด้วยความตั้งใจ ซึ่ง ‘ฮีโร่’ เหล่านั้นอาจเป็นได้ทั้งคนในครอบครัว, ลุงร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าคอนโด, พนักงานร้านสะดวกซื้อ, กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์, ไรเดอร์ส่งของ, รุ่นน้องที่ทำงาน หรืออาจเป็นคนเดียวกันกับที่เรามองเห็นตอนส่องกระจกทุกเช้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเหนือจินตนาการแต่อย่างใด เพราะในความเป็นจริงที่ผ่านมาพวกเราทุกคนคือ ‘HERO’ ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือใครก็ตามที่ยังมุ่งมั่นฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยหัวใจของนักสู้ที่เข้มแข็ง ที่ปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้ในทุกเช้า เพื่อไปต่อ! ลุยต่อ! สู้ต่อ! ยืนหยัดทำหน้าที่และร่วมรับผิดชอบต่อสังคมเมืองเป็นอย่างดีในทุก ๆ วัน และประเด็นเรื่องพลังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าฮีโร่คนเมือง ฮีโร่เดินถนนคนธรรมดาอย่างพวกเราทั้งหลาย ที่ยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และเพื่อให้สังคมได้ขับเคลื่อนไปต่อ นั้นเป็นสิ่งที่
สาวกเรือนเวลาทั้งหลายคงรู้กันดีว่าชื่อชั้นด้านการบอกเวลาที่แม่นยำ รวมถึงการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่ประณีตงดงาม ที่ทำให้ Seiko (ไซโก) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาตัวแทนความภูมิใจของชาวเอเชียนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่าย ๆ ในระยะเวลาอันสั้น แต่มันเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 140 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ Seiko ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 โดย Kintaro Hattori (คินทาโร ฮัตโตริ) ชายหนุ่มวัย 21 ปี ที่นำเอาความตั้งใจ ความรักและความหลงใหลในกลไกบอกเวลามาใช้เป็นแรงผลักดันในการรังสรรค์นาฬิกาคุณภาพสูงจนก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทนาฬิกาชั้นนำ ซึ่งความสำเร็จเหล่านั้นคือสิ่งที่ต่อยอดมาจากวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวที่ชายผู้นี้ยึดมั่น นั่นคือ “One step ahead of the rest” หรือ “การที่ต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่ 1 ก้าวเสมอ” โดยคำกล่าวของ Kintaro Hattori นั้นได้ฝังรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของแบรนด์ และยังคงสะท้อนกึกก้อง เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของ Seiko มาจนถึงปัจจุบัน และในวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปีของ Seiko จึงถือเป็นโอกาสดีที่วิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งอย่าง Kintaro จะถูกนำกลับมาถ่ายทอดโดยสะท้อนผ่านผลงานนาฬิกา 4 รุ่นพิเศษที่ผลิตในแบบจำนวนจำกัด
หลังการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ดูเหมือนเชื้อไวรัสจะร้ายกาจกว่าที่เคย ทำเอาอุปกรณ์วัดออกซิเจนแบบพกพาเพื่อเช็คปอดเช็คความปกติของระบบหายใจนั้นเป็นที่ต้องการอย่างเหลือล้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่มีการเปิดตัว HUAWEI Band 6 สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ใส่ฟังก์ชันการวัด SpO2 มาให้ พร้อมฟีเจอร์อื่น ๆ มากมาย ในราคาค่าตัวไม่ถึง 2 พันบาท ซึ่งแน่นอนว่าเปิดตัวมาถูกจังหวะแถมราคาก็ดี ทำให้ความสนใจในสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ล้นหลามจนทำยอดจองถล่มทลาย แต่สำหรับใครที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ ไม่แน่ใจว่าจะใช้งานได้คุ้มหรือเปล่า งานนี้ไม่ต้องห่วง เพราะ Toys For Boys UNBOX ขอรับอาสาแกะกล่อง และพรีวิวความสามารถเด่น ๆ ของ HUAWEI Band 6 ให้ชาว UNLOCKMEN ทั้งหลาย เก็บไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ว่าแล้วจะช้าอยู่ไยไปอ่านพร้อมกันได้เลย UNBOX ตามธรรมเนียมของ Toys For Boys UNBOX เราจึงต้องทำการแกะกล่องเพื่อดูอุปกรณ์ที่จัดมาให้ในชุดขายของ HUAWEI Band 6 ว่าจะมีอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องมีคือตัวเครื่อง HUAWEI
แม้ท้องฟ้า และผืนน้ำไม่อาจมาบรรจบ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือสองสิ่งที่อยู่เคียงคู่กันตลอดมา เปรียบเสมือนนาฬิกานักบิน และ นาฬิกาดำน้ำ เรือนเวลายอดนิยมที่เรามักจะพบเห็นอยู่บนข้อมือของเหล่าสุภาพบุรุษทั้งหลาย ซึ่งหนุ่ม ๆ ผู้หลงใหลในเสน่ห์ของเครื่องบอกเวลาแทบทุกคน เป็นต้องมีนาฬิกาทั้ง 2 ประเภทเก็บเอาไว้ในคอลเลกชัน เพื่อเป็นไอเทมสำหรับสวมใส่เพิ่มความมั่นใจให้กับ Everyday Look รวมไปถึงโอกาสพิเศษต่าง ๆ และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ภาพของท้องนภา และห้วงมหาสมุทรซึ่งยังคงอยู่เคียงคู่ ณ เส้นขอบฟ้า จะมีโอกาสมาประดับบนข้อมือของสาวกเรือนเวลาอีกครั้ง กับ Avigation BigEye และ Legend Diver Watch คู่หูเรือนเวลาตัวแทนแห่งแผ่นฟ้า และ ผืนน้ำจาก Longines (ลองจินส์) แบรนด์เก่าแก่ระดับโลก อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของนวัตกรรมเวลาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยืนหยัดมายาวนานกว่า 189 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ริเริ่มผลิตนาฬิกาในปี 1832 ที่เมือง Saint-Imier โดยนาฬิกาข้อมือ The Longines Avigation BigEye และ The Longines Legend Diver Watch รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวออกมา บอกเลยว่าแต่ละเรือนนอกจากจะคงความคลาสสิก
ปัจจัยในการเฟ้นหารถยนต์คู่ใจคันใหม่ของคุณคืออะไร? เชื่อว่าคำตอบร้อยทั้งร้อยจากคำถามนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบโจทย์, งานออกแบบทั้งภายนอกและภายในที่โดนใจ รวมไปถึงระบบอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และขาดไม่ได้กับสิ่งสำคัญอย่างเรื่องของระบบความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในทุกเส้นทาง และในวันนี้หลังจากที่มีโอกาสได้สัมผัส NEW MG HS PHEV รถยนต์ SUV ที่มาพร้อมแนวคิด “REFINEMENT” ซึ่งได้รับการปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดความโดดเด่นจาก MG HS ในหลายด้าน ทั้งเรื่องของสมรรถนะจากเทคโนโลยีขั้นสูงของระบบ Plug-in Hybrid ที่ผสานงานออกแบบที่สวยงาม รวมถึงระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว เราจึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ “REFINEMENT” ในแง่มุมต่าง ๆ ที่น่าสนใจของ NEW MG HS PHEV สำหรับชาว UNLOCKMEN ที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่ได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ สิ่งแรกที่ถือเป็นการ “REFINEMENT” หลัก ๆ ของ NEW MG HS PHEV คือความน่าสนใจของการขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ที่มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5
ด้วยความรุดหน้าของเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผลบางเฉียบ ที่สามารถพับ บิด งอ ได้อิสระ ทำให้ในปัจจุบันพวกเราต่างได้เห็นอุปกรณ์ Smart Device ที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตา และฟังก์ชันการใช้งานใหม่ ๆ มากมาย หลายสิ่งที่เคยคิดว่าจะเป็นเรื่องของโลกอนาคตอีกยาวไกล ก็มีมาให้ได้เห็น ได้ใช้กัน ณ ปัจจุบันแล้วมากมาย อย่างที่หลายคนน่าจะได้ผ่านตากันมาบ้างแล้วกับสมาร์ทโฟนจอพับได้จากหลากหลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy Z Fold2, Huawei Mate X, Motorola Razr ฯลฯ ไหนจะมีที่ล้ำไปอีกขั้นอย่าง OPPO X 2021 ต้นแบบมือถือจอม้วนสามารถยืดหดเพื่อขยายขนาดหน้าจอได้ดั่งใจ และต้องบอกเลยว่าความสนุกของเทคโนโลยีสุดล้ำนั้นยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะล่าสุดในงานเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ของเบอร์ต้น ๆ ในวงการจอทีวีที่กำลังสยายปีกมาบุกตลาดมือถืออย่าง TCL เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีการเผยโฉม Concept Phone อย่าง TCL Fold n’ Roll สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมคุณสมบัติหน้าจอพับได้ และม้วนได้ในเครื่องเดียว โดย TCL
ในยุค COVID-19 แบบนี้ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปได้ส่งผลต่ออะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่เว้นแม้แต่รูปแบบการเสพความบันเทิงจากโรงหนังที่ซบเซาเงียบเหงาลงไปตั้งแต่ช่วง Lockdown ทำให้ทางเลือกความบันเทิงที่ยังให้กลิ่นอายความเป็นโรงหนังอย่างการรับชมภาพยนตร์ และซีรีส์ต่าง ๆ ด้วยการฉายผ่านทางโปรเจคเตอร์ในห้องแสงไฟสลัว ๆ ภายในบ้านนั้นได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างท่วมท้น อีกทั้งเทรนด์การท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแคมป์ผจญภัย ลงทะเล ขึ้นดอย เข้าป่า ซึ่งยังคงฮอตฮิตอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้อุปกรณ์โปรเจคเตอร์แบบพกพา นั้นได้รับความสนใจถูกเลือกให้เป็นไอเทมความบันเทิงหลัก ๆ ที่คนยุคนี้มีไว้ติดบ้าน รวมไปถึงพกติดกระเป๋าออกทริปเป็น Pocket Cinema พร้อมเสิร์ฟความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา และสำหรับใครที่จด ๆ จ้อง ๆ กำลังมองหาโปรเจคเตอร์พกพาเอาไว้ใช้งานกันสักตัว Toys For Boys – UNBOX คราวนี้ เรามีของดีที่อยากแนะนำอย่าง XGIMI MOGO ซึ่งเป็น Android TV โปรเจคเตอร์ขนาดกะทัดรัด ที่อัดแน่นความสามารถมามากมายในราคาประมาณหมื่นต้น ๆ (ราคาในเว็บช้อปปิ้งออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 12,990 ~ 13,99o บาท) ไม่โหดร้ายต่อเงินในกระเป๋าสักเท่าไหร่ งานนี้ฟีเจอร์ที่มีจะเด็ดแค่ไหน