ในวันที่ไลฟ์สไตล์ของผู้ชายอย่างเราเริ่มกลายเป็นธุระสำหรับคนใกล้ชิดที่ต้องออกมาแสดงความเป็นห่วงและบีบบังคับกลาย ๆ ให้ทำโน่นนี่และตราหน้าเราว่าขี้เกียจ แน่นอนว่าพวกเรารู้ดีว่ามันไม่ใช่แบบที่เขาบอกสักกะนิด แต่บอกยังไงเขาก็ยังไม่เชื่อสักที เพื่อยืนยันว่าจริง ๆ พวกเราไม่ได้ขี้เกียจ UNLOCKMEN จึงได้รวบรวมข้อมูลผลวิจัยที่ว่าด้วย 5 พฤติกรรมที่คนทั่วไปมองว่า “ขี้เกียจ” แต่มันคือสิ่งที่บอกว่าเราฉลาดล้วน ๆ ลองมาเช็กดูกันอีกทีว่าเราเป็นแบบนี้ไหม ถ้าใช่…ยินดีด้วย คุณไม่ใช่คนขี้เกียจ 1. ไม่ได้อยากโซเชียลตลอดเวลา สาว ๆ และเพื่อนฝูงโปรดเข้าใจ เวลาเราเห็นกรุ๊ปแชทเด้งตลอดเวลาแต่ไม่ได้เข้าไปอ่านหรือไม่ตอบแค่กด ๆ ให้มันขึ้น read ให้จบ ๆ ไปโดยไม่สนใจจะตอบ หรือช่วงปาร์ตี้หลังเลิกงานเราก็แอบลี้หนีนัดตลอด มันไม่ได้แปลว่าเราไม่โปรดักทีฟเท่าคนอื่น ๆ หรือไม่ใส่ใจโลก เพราะมีผลวิจัยของนักจิตวิทยาจาก London School of Economics and Singapore Management University ที่ออกมายืนยันว่าคนฉลาดกว่าหรือคนที่ IQ สูงทั้งหลายเขาไม่ได้ชอบสังสรรค์กับเพื่อนฝูงสักเท่าไหร่ตรงกับความเห็นของ Washington post ที่เคยรายงานไว้ในเรื่องเดียวกันว่า คนเราถ้ายิ่งโซเชียลกับคนใกล้ชิดยิ่งกระตุ้นความสุขส่วนตัวให้เพิ่มขึ้น ยกเว้น “คนฉลาด” 2. ชอบชิลจับแมวนั่งตักมากกว่าพาหมาวิ่ง
“แค่คิดว่าอยากแก้ จะรื้อแล้วให้ผมเสกขึ้นมามันทำไม่ได้หรอกนะ” “ช้าที่พี่แล้วมาบีบเวลาผมตอนท้ายให้งานมันเสร็จ มันไม่ได้นะพี่” “ก็พี่บรีฟไว้อย่างนี้ ทำไปจนเสร็จแล้วโละ บอกไม่ใช่ที่อยากได้ได้ไง” เราเชื่อว่าใครที่ต้องทำงานกับคนหลายคน หรือทำงานที่ควบคุมให้จบในตัวไม่ได้ คงต้องเคยพูดประโยคด้านบนกันสักหนสองหนหรือมากกว่านั้น เผลอ ๆ ระหว่างพูดคงมีเงื้อหมัด พูดสบถระบายอารมณ์กันบ้าง การทำงานที่เฟืองทุกชิ้นของระบบไม่ได้ทำงานเต็มร้อยพร้อมกัน หรือต่อให้ทำงานได้เต็มที่สุดฝีตีนแต่ผลสุดท้ายก็ยังพังไม่เป็นท่าเพราะลูกค้าปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า “เห็นภาพงานไม่ตรงกัน” ส่วนมากมักเกิดจากจุดอ่อนของกระบวนการทำงานแบบดั้งเดิมที่แต่ละงานทุกคนจะส่งต่องานกันแบบไม้ผลัดซึ่งคนในวงการ IT นิยามการทำงานแบบนี้ว่า Waterfall Waterfall คือระบบการทำงานแบบส่งต่อไม้ผลัด ลองคิดภาพตามว่าถ้าเราลงวิ่งผลัดในสนามที่ทีมเรามีสมาชิกวิ่งอยู่ 4 คน คนแรกออกวิ่งส่งต่อให้คนที่สอง คนแรกก็จะไม่รู้เรื่องของคนอื่นนอกจากคนที่สองที่ตัวเองต้องส่งไม้ให้ หรือถ้ามีปัญหาระหว่างทาง กว่าจะไปถึงคนที่ 4 ที่เป็นไม้สุดท้าย ทุกอย่างก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเพราะมันมาถึงจุดที่หวนกลับไปแก้ไม่ได้อีก สุดท้ายจึงต้องลงเอยด้วยการกลับไปนับหนึ่งอีกครั้ง ถ้านั่นเป็นวิถีการทำงานที่ผู้ชายอย่างเราทำอยู่ UNLOCKMEN อยากพาทุกคนไปรู้จักกับแนวทางการทำงานแบบใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่าง “Agile” เทคนิกการทำงานที่ทำให้เราไหวตัวทันต่อทุกปัญหาและแก้ไขได้เสมอซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่บริษัทใหญ่ยักษ์แบบ Google หรือ Facebook ใช้งานจริง AGILE คืออะไร คำว่า “Agile” มีต้นกำเนิดจากสายพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ปี 2001 โดยเกิดขึ้นจากจุดประสงค์ที่กลุ่มคน
สำหรับผู้ชายอย่างเรา เมื่อพูดถึงคอมพิวเตอร์ส่วนมากมักคิดถึงสเปคเครื่องแรง ๆ ซอฟต์แวร์เจ๋ง ๆ ที่ใช้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องงานและการเล่น มีน้อยคนนักที่จะคิดถึงเรื่องกรอบนอกอย่างการทำเคสคลุมฮาร์ดแวร์หรือที่เรารู้จักกันในนามของวงการ Mod แหล่งชุมนุมของเหล่า The Modder นักสร้างสรรค์เคส PC ที่เปลี่ยนกรอบเหล็กสี่เหลี่ยมธรรมดาให้ออกมาหน้าตาหล่อเหลาเกินคาด ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า Modder เจ๋ง ๆ ในไทยมันมีอยู่จริงเหรอวะ ? UNLOCKMEN อยากพาผู้ชายอย่างเราไปเปิดโลกพูดคุยกับเขาคนนี้ ปาล์ม -จักรพรรดิ์ ทองเหลือ หนุ่มวิศวกรวัย 24 ผู้เปลี่ยนมอเตอร์ไซค์สองล้อระดับ 800+ CC ในฝันอย่าง DUCATI ให้กลายเป็นเคส PC โฉบเฉี่ยวจนคนสนใจเป็นเจ้าของ สั่งผลิตข้ามโลก งานนี้บอกเลยว่าแม้แต่พวกเราชาว UNLOCKMEN เองก็ยังตาลุกวาว จากการเล่นเกมสู่การเล่นกรอบ “ตอนเป็น Gamer ก็เป็น Gamer เกรียน ๆ กาก ๆ เลย (หัวเราะ) ไม่ได้เก่งอะไร ก็เล่นไปวัน ๆ นึง เฮฮาไป
กี่ Powerbank ก็ไม่เคยพอสำหรับหนุ่ม ๆ อย่างเรา พอกันทีกับเรื่องวนชาร์จแบตเตอรี่ เพราะหนนี้ UNLOCKMEN ขอชวนคุณเดินดิ่งมาตรงนี้เพื่ออัปเดต gadget เฉียบที่ชื่อว่า “Battery Free Phone” โทรศัพท์โคตรมินิมอลสุดกระทัดรัดไว้ใช้ยามจำเป็นแบบไม่ต้องมีเรื่องแบตฯ มาป่วนความสุข เพราะมันทำงานได้โดยไม่ต้องใช้แบตแม้แต่นิดเดียว ความมินิมอลของมันช่างเป็นอะไรที่ได้ใจเราสุด ๆ ตั้งแต่ไซส์ที่แบนกว่าแผ่นขนมปัง หน้าตาเหมือนแกะเอามาเฉพาะแผงเมนบอร์ดเขียว ๆ ติดปุ่มตัวเลขไว้สักหน่อยเผื่อจิ้มและเพิ่มพอร์ตสำหรับหูฟังไว้ให้เสียบด้วยระหว่างคุย บอกตรง ๆ ว่าครั้งแรกที่เห็นข่าวเรายังคิดว่าอาจจะเป็น meme ใหม่ในโลกออนไลน์หรือเปล่า แต่พอสืบไปเรื่อย ๆ ก็เจอว่ามันเป็นเรื่องจริง แถมทีม designer ที่คิดยังเป็นเพียงนักศึกษาอีกด้วย เดี๋ยวนี้ความคิดเด็กรุ่นใหม่ดี ๆ มีให้เห็นเพียบ น่าชื่นชมจริง ๆ ถึงเวลามาไขข้อข้องใจว่า เฮ้ย ไม่มีแบตแล้วจะใช้งานได้อย่างไร เหล่านักประดิษฐ์เขาให้คำตอบว่าแค่ถอดฟังก์ชันอื่นออกให้เรียบ ยกเว้นเรื่องการโทรที่จำเป็น แล้วใช้ประโยชน์จากแสงที่อยู่รอบข้างกับการดึงคลื่นวิทยุที่อยู่ในอากาศมาช่วยในการสื่อสาร แค่นี้ก็เอาอยู่แล้ว วิธีการใช้งานแค่กดปุ่มโทรไม่ต่างจากมือถือทั่วไปที่กดแป้นตัวเลข จากนั้นมันจะส่งต่อไปใช้ Skype เป็นสื่อในการโทรติดต่อโทรศัพท์เครื่องอื่น ๆ อย่างไรก็ตามถึงมันจะดูใช้ง่ายแค่ไหน แต่ด้วยความบางและมินิมอลของมันมีจุดสะดุดเล็กน้อย เพราะเวลาเราจะใช้ไมโครโฟนต้องขอให้กดปุ่มไมค์ค้างไว้หน่อยเพื่อทำงาน (คล้ายพวกวิทยุสื่อสาร) ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันขนทีมกันไปวิจัยเรื่องการใช้เทคโนโลยี gold
โลกของการทำงานที่พวกเราต้องเจอคนร้อยพ่อพันแม่ คงต้องมีสักครั้งที่เราเจอกับ “บุคคลมลพิษ” อุดมเรื่องแย่ ทั้งความเห็นแก่ตัว โม้เก่ง หลงตัวเอง ใช้ทุกวิถีทางเหยียบหัวคนอื่นให้ตัวเองดูดี โกงแค่ไหนก็ชิลได้เหลือเชื่อ เรื่องผิดจรรยาบรรณมันก็ทำได้สบาย แต่ตลกร้ายคือเจ้านายชอบโปรโมตคนพวกนี้เสียเหลือเกิน เพื่อคลายความสงสัยว่าทำไมเจ้านายดันไร้วิจารณญาณมองไม่เห็นด้านลบเหล่านี้ วันนี้เราจึงล้วงคำตอบจากการวิจัยมาบอก รับรองเลยว่าคุณจะเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังได้วิธีเอาชนะ จนเจ้านายมองเห็นค่าของตัวเราด้วย ไขความลับคนลบ ๆ ทำไมเจิดจ้าในสายตาเจ้านาย ผลวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน Personality and Individual Differences ที่ Klaus J Templer วิจัย ชี้ให้เห็นว่าทักษะด้านการเมืองมีอิทธิพลกับการเติบโตในหน้าที่การงาน ใครที่คิดภาพไม่ออกว่าทักษะพวกนี้มันหน้าตาเป็นอย่างไรก็ให้คิดถึงนักการเมืองสักคนเวลาทำงาน เขาจะมีคลังคำพูดจูงใจดี ๆ ขนมาใช้ มีความเป็นนักไกล่เกลี่ย ประนีประนอม และเก่งเรื่องแสดงความจริงใจในใบหน้าให้อีกฝ่ายเห็น ฟังดูทักษะการเมืองมันก็มีแต่ทักษะดี ๆ ใช่ไหมล่ะ? แต่เรื่องแปลกคือมันมักอยู่ในคนที่ไม่ดีซะงั้น ซึ่งเรื่องนี้เขาก็ไม่ได้พูดปรักปรำแบบส่ง ๆ แต่ใช้วิธีสุ่มสำรวจจากกลุ่มพนักงานจำนวน 110 คนให้ประเมินสกิลด้านการเมืองกันสักหน่อยว่าตัวเองมีมากน้อยแค่ไหน จากนั้นค่อยนำคนเหล่านี้ไปทำแบบสำรวจเช็กบุคลิกภาพจากหนังสือ H-factor of personality หนังสือที่ว่าด้วยหกมิติพื้นฐานของบุคลิกภาพมนุษย์ ใครที่ได้คะแนนสูงจัดว่าเป็นคนซื่อสัตย์อ่อนน้อม ส่วนคนไหนคะแนนปิ๋วค่อนไปทางต่ำก็แน่นอนว่าเป็นไปในทางตรงข้าม จากนั้นเอามาเทียบกันแล้วเอาไปสอบถามความเห็นจากหัวหน้าอีกที
เมื่อพลาสติกเป็นวาระแห่งชาติและหลอดกลายเป็นอาวุธทิ่มแทงสัตว์ทะเลให้เจ็บปวด ร้านกาแฟขวัญใจคอคาเฟอีนเจ้าใหญ่อย่างสตาร์บัคส์เลยขอออกโรงรักษ์โลก เลิกผลิต เลิกใช้หลอดเขียวที่เป็นสี CI ให้เกลี้ยงภายใน พ.ศ. 2563 เพราะถ้าทำได้จริง ปริมาณหลอดจะหายจากระบบไปถึง 1,000 ล้านหลอดต่อปี แม้สำหรับเราก็แค่ไม่รับหลอด มันคงไม่ยากอะไร แต่สตาร์บัคส์ก็ยังอยากตอบโจทย์คนติดหลอดด้วยการดีไซน์ฝาแก้วพลาสติกให้พอดีกับรูปปากไว้แทนที่หลอด และเรียกเจ้าแก้วรูปแบบใหม่นี้ว่า “Sippy cup” ซึ่งแม้ฝาที่ทำออกมาเป็นพลาสติก แต่ก็ถือเป็นสัญญาณดี ๆ ที่องค์กรสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเห็นด้วย เนื่องจากปกติฝาแก้วที่เราใช้ต้องเจาะด้านบนสำหรับใส่หลอดทำให้มีเศษแผ่นพลาสติกทิ้งอยู่แล้ว แถมใช้หลอดด้วยก็เท่ากับมีขยะเพิ่มสองเท่า การเปลี่ยนมาลดบางส่วนจึงถือว่าดีกว่าไม่ลดเลย ปัจจุบันสตาร์บัคส์เริ่มนโยบายนี้ไป 8,000 สาขาจาก 28,000 สาขาทั่วโลก หลอดสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์คงค่อย ๆ หายไป แล้วแทนที่ด้วยสิ่งนี้แทน ตามที่ประกาศไว้ ฝาแก้วรูปแบบใหม่ แม้ตอนนี้ยังไม่มีในเมืองไทยแต่พวกเราก็ไม่ต้องรอให้ถึงตอนนั้น หนุ่ม ๆ คนไหนที่กินสตาร์บัคส์บ่อย ๆ ลงทุนเปลี่ยนมาเป็นผู้นำซื้อแก้วแบบรีฟีลงดใช้ทั้งหลอดและแก้วพลาสติกไปเลยจะคูลกว่า SOURCE
นาฬิกาก็ทำหน้าที่ของมันตามเดิม แต่ทำไมเข็มนาฬิกาแต่ละวันกลับเดินไม่ตรงกับใจพวกเราเอาเสียเลย 8 ชั่วโมงของการทำงานจันทร์ถึงศุกร์ที่เราทุ่มเทให้มัน ชาว UNLOCKMEN คงต้องเคยเจอช่วงว่าง ๆ เพราะความ Productive ของตัวเองที่ทำงานเร็วจนไม่เหลืออะไรให้ทำ หรืองานที่เคยโดน Assign มาช่วงนี้มันหดหายไปจนทำให้รู้สึกเบื่อกับการนับถอยหลังให้ถึงเวลาเลิกงานใช่ไหม ? เพื่อให้เวลามันกลับไปไวตามใจเหมือนเดิม ลองมาหากิจกรรมยามว่างที่มีค่ามากกว่าการหายใจทิ้งหรือขยับดู Netflix ไปเรื่อย ๆ แบบที่ทำประจำดีกว่า เราอยากแนะนำ 5 วิธีนี้ให้ไปทำกันดู รับรองว่ากว่าจะรู้ตัวอีกทีพระอาทิตย์ก็เตรียมลับขอบฟ้าแล้ว แถมเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าด้วย ปลุกพลังจากความชอบมาคิดโปรเจ็กต์ใหม่ โปรเจ็กต์เดิมเสร็จแล้ว โปรเจ็กต์ใหม่เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นจงใช้เวลาว่าง ๆ นี้ไล่กวดความคิดความชื่นชอบอีกด้านของคุณเสีย ถ้าชอบวาดรูปก็ลองจับปากกาขึ้นวาดดู หรือถ้าชอบมาร์เก็ตติ้งก็ตามข่าวที่มีอยู่เต็มโลกออนไลน์ในด้านนั้นเสีย ไม่แน่ว่าระหว่างการไล่ล่าความฝันมันอาจปลุกพลังมาสร้างไอเดียไว้ต่อยอดเป็นโปรเจ็กต์ใหม่ในออฟฟิศที่ทำให้ KPI ปลายปีล้นช่องออกมาได้ก็ได้ ที่สำคัญยังเป็นการคิดไอเดียใหม่ ๆ ที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อีกด้วย เปิด Podcast หรือฟังไฟล์ Audio ทั้งหลาย ถ้าวันนี้มีงาน Routine ง่าย ๆ มา แต่ไม่ต้องใช้สมาธิมากนักทำให้รู้สึกอยากฆ่าเวลา การฟังเสียงโดยไม่ต้องสนใจมองนาฬิกาข้างฝาหรือด้านล่างจอคอมฯ จะช่วยสร้างความบันเทิงให้เราลืมความเบื่อได้ เดี๋ยวนี้มี
หลังออกกำลังกายเสร็จหมาด ๆ จนเหงื่อโชก อะไรจะเรียกความสดชื่นของผู้ชายอย่างเราได้ดีกว่าเกลือแร่แช่เย็นเจี๊ยบดับกระหาย พวกเราคงเคยคิดแบบนี้ใช่ไหม แต่มันอาจเป็นเพราะบ้านเราไม่มีใครลองกินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์มากกว่า เพราะเมืองเบียร์เขาออกมายืนยันตอนช่วงโอลิมปิกหน้าหนาวว่า “กินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ คือที่สุดของการฟื้นฟูร่างกายนักกีฬาจริง ๆ ไม่ได้โม้” ไม่รู้ว่าเพราะเป็นประเทศที่กินเบียร์ต่างน้ำกันเป็นปกติหรือเปล่า ทำให้การสรรหาเครื่องดื่มให้นักกีฬาของชาตินี้ต่างจากชาติอื่น ถ้ายังจำกันได้โอลิมปิกที่จัดที่เมือง Pyeongchang ประเทศเกาหลีใต้ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ประเทศเยอรมนีใช้วิธีดูแลนักกีฬาด้วยเครื่องดื่มประจำชาติอย่าง “เบียร์” แต่เลือกที่เป็นแบบไร้แอลกอฮอล์มาให้ดื่มกันทั้งระหว่างการฝึกและหลังการแข่งสิ้นสุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้กลับมาน่าทึ่ง เนื่องจากประเทศเยอรมนีไม่เพียงได้ที่ 2 จากการกวาดคะแนนรวมการแข่งขัน ที่สำคัญยังได้รับเหรียญทองเทียบเท่ากับแชมป์อย่างนอร์เวย์ถึง 14 เหรียญทองเชียว Johannes Scherr แพทย์ประจำทีมสกีในโอลิมปิกนำวิธีนี้มาใช้โดยได้แรงบันดาลใจมาจากข้อมูลผลการศึกษาของบริษัทกลั่นเบียร์ที่จัดทำขึ้นเพื่อพิสูจน์ในรูปแบบ Double-blind หรือการพิสูจน์โดยไม่บอกผู้ทดลอง โดยนำเบียร์ให้นักวิ่งมาราธอนดื่มทุกวันต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ก่อนการแข่งและ 2 สัปดาห์หลังการแข่งขัน ผลปรากฎว่านักวิ่งที่ดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ มีอาการอักเสบน้อยกว่านักวิ่งที่ได้รับยาหลอก (ยาที่ทำจากแป้งแต่ไม่ได้มีสรรพคุณทางจริง คนนิยมใช้เพื่อทดสอบกระตุ้นให้ผู้กินรู้สึกว่าได้รับการรักษา) นอกจากผลการศึกษานี้แล้วยังมีผลวิจัยของ Chilean หนึ่งในนักวิจัยที่ศึกษาด้านโภชนาการช่วยการันตีถึงประโยชน์ของมัน เพราะเขาว่าการดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ ก่อนการออกกำลังกายช่วยให้นักกีฬาฟุตบอลช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายได้ด้วย ถอดรหัสทำไมในเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ถึงดีกับร่างกาย เมื่อติดตามผลกันให้ลึกซึ้งแล้วมันมีเหตุผลมากกว่าการสุ่มกินสุ่มทดสอบหรือหลักการตลาดที่เผยออกมาเพื่อเรียกแขกเท่านั้น เนื่องจากเบียร์ประกอบขึ้นจากวัตถุดิบสำคัญที่มีประโยชน์กับร่างกาย ตั้งแต่ Hops ดอกไม้ที่เป็นต้นทางของรสชาติขมที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรควิตกกังวล นอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย
ทุกเช้าระหว่างเดินทาง ขณะที่นิ้วเราขยับปัด feed ยิก ๆ บนสมาร์ตโฟน เชื่อว่าสุภาพบุรุษในมหานครใหญ่อย่างเราคงต้องเหลือมืออีกข้างเอาไว้รับหนังสือพิมพ์ฉบับฟรีก๊อปปี้ที่มีคนยืนแจกตามรถไฟฟ้าหรือสะพานลอยเพื่ออ่านรับข้อมูลเพิ่มอย่างแน่นอน แต่รู้หรือเปล่าว่าแต่ละฉบับที่เราหยิบติดมือมานั้นมีใครบ้างอยู่เบื้องหลัง ? หรือนำเสนอเรื่องราวแนวไหนกันบ้าง ? ทำไมบางทีวันนี้เดินมาแล้วเจอแต่บางครั้งกลับไม่เจอซะอย่างนั้น ในฐานะที่ UNLOCKMEN เป็น Online Publisher ที่สนใจติดตามการนำเสนอข้อมูลดี ๆ เหมือนกัน เราจึงอยากส่งต่อเรื่องเล่าของ Publisher แขนงอื่นกันบ้าง และวันนี้ขอเริ่มที่ TABLOID ที่ใกล้ชิดกันผู้ชายอย่างเรากันก่อน WHAT’S TABLIOD ? ฟรีก๊อปปี้อาจจะมีมากมายหลายฉบับ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะใช้คำว่า “แท็บลอยด์” หนุ่ม ๆ อย่าเผลอไปเรียกรวมกัน เพราะคำว่าแท็บลอยด์เขาเอาไว้ใช้เรียกหนังสือพิมพ์ขนาดย่อมที่มีจำนวนหน้าน้อยกว่าหนังสือพิมพ์ปกติทั่วไป หากเราลองสังเกตให้ดีจะเห็นว่าจุดแตกต่างระหว่างแท็บลอยด์กับฟรีก๊อปปี้ประเภทอื่นมีอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่การนำเสนอเนื้อหาที่เป็นเรื่องข่าวมากกว่าไลฟ์สไตล์ ความถี่ของการออกแต่ละฉบับที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับฟรีก๊อปปี้ประเภทอื่น (ถ้าไม่นับโปรโมชั่น) ที่สำคัญคือช่วงเวลาแจกมักแจกช่วงเช้า ดังนั้น อย่าไปหวังเห็นมันตอนเย็นเพราะเขาไม่แจกกันช่วงนั้น อ่านแท็บลอยด์ฉบับไหนดี ? ในขณะที่นิตยสารเริ่มล้มหายตายจากไปจากแผง แต่สำหรับปีนี้ถือว่าแท็บลอยด์สวนกระแสมีมากขึ้น เพราะจากที่เราพบตอนนี้มีถึง 3 หัวหลัก ๆ ที่ออกมาแจกให้เห็นเป็นประจำ ลองมาเช็กกันดูว่าคุณได้มันครบถ้วนทุกฉบับไหม M2F ฉบับนี้พวกเราน่าจะได้เห็นถี่ที่สุดเมื่อเทียบกับทุกฉบับเพราะแจกฟรีแบบ
ทุกวันนี้พวกเราเลิกเดินทางไปซื้อของนอกบ้านแทบถาวรเพราะการไปผจญภัยข้างนอกแลกกับการต้องเผชิญรถติดบนถนนมันไม่คุ้ม สู้เอาเวลาที่รถแช่นิ่งไปทำอย่างอื่นแล้วสั่งซื้อของที่ชอบทางออนไลน์มันชัวร์กว่า (ถ้าเลือกจากร้านที่น่าเชื่อถือก็การันตีความสะดวกกับของดี ๆ ได้แล้ว) วันนี้ UNLOCKMEN จึงขอนำเสนอเรื่องการส่งของหรือระบบ LOGISTIC ในไทยว่าวันนี้มันก้าวกระโดดมาถึงไหนแล้ว หนหน้าเวลาที่เราต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการส่งหรือเลือกบริการจัดส่งจะได้เทียบและเลือกให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง ตัดสายสะดือบริษัทจัดส่งในประเทศไทย ปูพื้นฐานกันก่อนเรื่องการก่อตั้งของแต่ละบริษัทที่ให้บริการด้านการจัดส่ง ถึงแม้ว่า seniority จะไม่ใช่เครื่องหมายที่สามารถการันตีคุณภาพได้ 100 % แต่ Brand Heritage อาจจะสามารถเอามาใช้ตัดสินใจก่อนเลือกส่งได้ เราขอคัดเลือกแบรนด์ที่น่าจับตามองปี 2561 สรุปสั้น ๆ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ไปรษณีย์ไทย อายุ 135 ขวบ แบรนด์เก่าแก่คู่ประเทศ เกิดมาตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 5 ใน พ.ศ. 2426 โดยใช้ชื่อว่ากรมไปรษณีย์โทรเลข จากนั้นได้ปรับการดำเนินกิจการโยกย้ายและโอนอำนาจไปมาร่วมกับหน่วยงานอื่น และเปลี่ยนฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจในปี พ.ศ. 2519 ภายหลังจึงแยกตัวเป็นเอกเทศใน พ.ศ. 2546 และใช้ชื่อว่า “บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด” จากนั้นเป็นต้นมา Kerry Logistics Express 12 ขวบ บริษัทสัญชาติฮ่องกงที่อยู่ในเครือ Kerry