เดือนพฤษภาคมถือเป็นอีกเดือนที่อุดมไปด้วย “วันหยุด” ที่เราจะได้หยุดงานนอนตีพุงหรือไปเที่ยวไหนต่อไหนให้ชุ่มปอด แต่ COVID-19 ก็ทำให้โลกทัศน์วันหยุดเราต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง วันหยุดจำนวนมากแต่ไม่อาจออกไปไหนได้ (เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและผู้อื่น) รวมถึงสถานที่หลายแห่งที่ยังต้องปิดตามมาตรการของรัฐและเคอร์ฟิว ทำให้วันหยุด (และวันธรรมดา) ของเดือนพฤษภาคม 2020 นี้ มีแต่บ้าน บ้าน บ้าน และบ้านเท่านั้น โชคดีที่เราอยู่ในโลกยุคที่บ้านยังมีทีวี อินเทอร์เน็ต และสตรีมมิงให้ได้ท่องเที่ยว เดินทางไปกับหนัง ซีรีส์ สารคดี ฯลฯ การอยู่บ้านจึงน่าเบื่อน้อยลง ดังนั้นพฤษภาคมนี้ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วันหยุดไปกับอะไร เราแวะเอาคอนเทนต์จาก NETFLIX มาให้เลือกสรร The Godfather ความดีงามของระบบสตรีมมิงคือการที่เราจะดูเมื่อใด หยุดเมื่อใดก็ได้ หนังทั้งเรื่องเป็นของเรา การได้ดูที่มีหลาย ๆ ภาคในวันหยุดยาวแบบฉ่ำใจจึงเหมือนเป็นการได้เสพของอร่อยเต็มอิ่มของคอหนัง โดยเฉพาะเมื่อหนังเรื่องนั้นเป็นหนังระดับตำนาน จะมีอะไรดีกว่านี้อีก? The Godfather คงไม่ใช่หนังใหม่อะไร (แต่เราเชื่อว่าหลายคนก็อาจยังไม่เคยดู) ใครที่เคยดูแล้วก็ถือเป็นโอกาสอันดีในช่วงเดือนที่วันหยุดเยอะได้ย้อนกลับมาดูหนังแก๊งสเตอร์ระดับตำนานเรื่องนี้อีกหน The Godfather เรื่องราวว่าด้วยครอบครัวมาเฟียที่ไม่ได้มุ่งไปที่อาชญากรรมโดยตรง แต่ให้ฟีลรุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง โคตรมาเฟียที่ไม่ต้องข้องแวะกับความเป็นอันธพาล แต่อหังการตราตรึงใจนักวิจารณ์และคนดูแม้เวลาผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วก็ตาม ความดีงามคือมาครบทั้ง
แม้จะกักตัวอยู่บ้านมานานนับเดือน แต่ฟิตเนสสาขาประจำก็ยังไม่มีวี่แววจะเปิดให้บริการ ทำให้หนุ่มที่ชอบการออกกำลังหลายคนกระสันอยากรีดเหงื่อออกจากร่างกายกันไม่น้อย และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แบบนี้อุปกรณ์อย่าง Forme Mirror Fitness คือสิ่งตอบโจทย์การออกกำลังอยู่บ้านได้อย่างถูกจุดแน่นอน ช่วงเวลานี้หนุ่ม ๆ หลายคนคงกำลังมองหาวิธีออกกำลังกายที่บ้านที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจมีขีดจำกัดทั้งเรื่องความหลากหลายของอุปกรณ์และพื้นที่ภายในบ้าน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย Forme Smart Mirror กระจกที่มาพร้อมฟังกัชันออกกำลังกายที่ครบครัน Forme Smart Mirror เป็นกระจกออกกำลังแบบ All-in-One ผลงานดีไซน์โดย Yves Behar นักออกแบบชาวสวิตเซอร์แลนด์เจ้าของ Fuseproject บริษัทไลฟ์สไตล์ดีไซน์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 เขาตั้งใจดีไซน์ให้ Forme ออกมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างงานดีไซน์และนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยต้องการคิดค้นอุปกรณ์ออกกำลังในบ้านที่ประหยัดพื้นที่ใช้สอย แถมยังสนับสนุนการออกกำลังได้หลากหลายรูปแบบในเครื่องเดียว Forme เป็นกระจกความยาว 6 ฟุตทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลที่สามารถแสดงโปรแกรมออกกำลังหรือภาพยนตร์เพื่อให้ผู้ฝึกสามารถดูตัวอย่างและฝึกฝนไปพร้อมกัน ขณะเดียวก็มีอุปกรณ์ออกกำลังติดมากับเครื่องเป็นสาย Aluminum Arms สำหรับดึงซึ่งสามารถฝึกฝนร่วมกับโปรแกรมภายในเครื่องได้เช่นกัน ความเจ๋งอีกอย่างของ Forme คือโปรแกรมการออกกำลังในเครื่องที่มีรองรับตั้งแต่ การยืด-คลายกล้ามเนื้อ, บอดี้เวท, โยคะและชกมวยที่อัดแน่นมาเพื่อเพิ่มหลากหลายในการออกกำลังให้สำหรับผู้ใช้งาน ปัจจุบันทาง Fuseproject กำลังเปิดให้ชาวสหรัฐอเมริกาสั่งซื้อ Forme Smart Mirror
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกทำให้เรามีโอกาสเห็นภาพถ่ายของเมืองต่าง ๆ ที่เคยวุ่นวายได้กลับกลายเป็นเมืองที่เงียบร้างเพราะการกักตัวอยู่ในบ้านของผู้คน แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดเผยชุดภาพถ่ายที่บันทึกมุมเมืองอันเงียบสงบของเมืองฮานอยเอาไว้ และที่น่าสนใจก็คือผลงานเหล่านี้ถูกถ่ายเอาไว้ก่อนการระบาดจะเริ่มขึ้นเสียอีก ภาพถ่ายอันเงียบสงบของเมืองฮานอยถูกเผยแพร่โดย Vice เผยให้เห็นถนนหนทางและบ้านเรือนที่เงียบสงบของเมืองที่เคยพลุกพล่านไปด้วยผู้คน อย่างไรก็ตามภาพทั้งหมดไม่ได้ถูกถ่ายในช่วงที่เกิดการระบาด แต่ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายขึ้นมาในช่วงเวลาที่สถานการณ์ต่าง ๆ ยังคงปกติ โดยฝีมือของชายที่ชื่อ Wouter Vanhees Wouter Vanhees เป็นช่างภาพชาวเบลเยียมที่เดินทางมาอาศัยอยู่ในเมืองฮานอยตั้งแต่ปี 2018 โดยเขาตั้งใจจะเก็บบันทึกภาพในเวลาค่ำคืนที่สวยงามของกรุงฮานอยให้เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งก่อสร้างใหม่ที่กำลังเข้ามาและของเก่าที่ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มออกเดินทางไปรอบเมือง ๆ ตัวเขายังได้พบมุมที่สงบนิ่งของเมืองแห่งนี้ การเก็บภาพของเขาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องทุกค่ำคืนจนในที่สุด Emptiness หรือความว่างเปล่า ก็กลายมาเป็นธีมหลักของการบันทึกภาพเมืองหลวงของเวียดนามของเขา แต่หลังจากที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นที่เวียดนามในปลายเดือนมกราคม ความว่างเปล่าในฮานอยก็เกิดขึ้นจริงจากการประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาล โดยไม่ต้องไปหามุมสงบเพื่อเก็บภาพฮานอยในค่ำคืนที่อ้างว้างแต่อย่างใด เมื่อท้องถนนมีแต่ความว่างเปล่า Wouter Vanhees ก็ออกเดินทางถ่ายภาพบนท้องถนนอีกครั้ง ซึ่งภาพถ่ายชุดต่อมาเป็นการบันทึกละแวกที่อยู่ของเขาในระหว่างที่อาศัยอยู่ในฮานอย Wouter พูดถึงเมืองแห่งนี้ก่อนจะต้องย้ายออกมาว่า “ฮานอยเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของผม และจะเป็นสถานที่แห่งนี้จะพิเศษสำหรับเขาเสมอ ชมผลงานภาพถ่าย Wouter Vanhees เพิ่มเติมต่อด้านล่าง Source: 1
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเวลานี้อาจส่งกระทบต่อหนุ่ม ๆ หลายคนและ UNLOCKMEN ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ยืนเคียงข้างให้ทุกคนกลับมามีพลังฮึดสู้อีกครั้งในวันที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ วันนี้คอลัมน์ MOTIVATHLETE จึงอยากเพิ่มแรงกระตุ้นให้ทุกท่านด้วยมุมมองความคิดที่น่าสนใจของยอดนักกีฬาอย่างไมเคิล จอร์แดน ผ่านเรื่องราวในสารคดีที่ชื่อ THE LAST DANCE THE LAST DANCE เป็นสารคดีกีฬาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทีมบาสเกตบอลอย่างชิคาโก้ บูลล์ในปี 1997-98 ฤดูกาลที่พวกเขาคว้า Three-Peat หรือคว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 2 แต่หลังฉากความสำเร็จที่ถูกเผยแพร่ออกมากลับมีสิ่งที่หลายคนไม่เคยรับรู้มาก่อนซ่อนอยู่ โดยเรื่องราวถูกเล่าผ่านตำนานผู้เล่นในทีม ไม่ว่าจะเป็นไมเคิล จอร์แดน, สก็อตตี้ พิพเพ่น, และเฮดโค้ชอย่างฟิล แจ๊คสัน รวมถึงคนดังที่มีส่วนร่วมทั้งในและนอกวงการ พร้อมกับฟุตเทจบางส่วนที่ทีมงานของ ESPN ถ่ายทำเก็บไว้นานกว่า 20 ปี ปัจจุบัน (27 เมษายน 2563) สารคดีออกอาการไปแล้ว 4 ตอน จากทั้งหมด 10 ตอน ส่วนเนื้อหาที่เราหยิบยกมาพูดถึงจะมาจาก 2 ตอนแรกเท่านั้น และแนวคิดของยอดนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างไมเคิล จอร์แดนที่เราได้เรียนรู้ผ่าน
ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ จะเป็นแบบเดียวกับเราไหม แต่เราแบ่งประเภทของการดูหนังตามอารมณ์ ถ้าชีวิตขมอยากเติมความหวานหน่อยจะเลือกดูคอมเมดี้ ใส ๆ หน่อย ถ้า หรือเมื่อรู้สึกวุ่นวายใจหนักจะเลือกแนวดาร์ก ๆ หรือสยองขวัญจะกลายเป็นความบันเทิงเพื่อเยียวยา เพราะวิถีของฆาตกรหรือเรื่องแนวดาร์กนั้นเยือกเย็น การไต่ความรู้สึกตามตัวละครเอก เห็นฉากสยองช่วยดึงสติเราให้ผ่อนคลายและนิ่งสงบลง ไตร่ตรองสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้นและรอบคอบขึ้น UNLOCKMEN จึงขอชวนคุณเปิดโหมดดาร์ก มาเบรกลมหายใจเป็นห้วง ๆ จากความดุเดือด 5 เรื่องในใจเรา แม้ทั้งหมดจะไม่ใช่เรื่องใหม่เพิ่งปล่อย แต่เป็นเรื่องเก่าขึ้นหิ้งระดับตำนานของใครหลายคน Higurashi no Naku Koro Ni ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง เปิดตัวด้วยเรื่องนี้ ตำนานแม่สาวปังตอหน้าตาอาโนเนะที่ไม่มีใครไม่พูดถึง เรื่องนี้จัดว่าค่อนข้างดึกดำบรรพ์ประมาณหนึ่ง เพราะตอนที่เราดูยังอยู่ในช่วงสมัยหาซับดูยาก ๆ ต้องโหลดบิท เรื่องนี้เป็นหนึ่งที่เรื่องที่อยู่ในคลังสต็อกโหลดของเรา และจนทุกวันนี้ถ้าพูดถึงการ์ตูนดาร์ก ๆ แนวจิตวิทยาก็ยังให้เรื่องนี้เป็นเบอร์หนึ่งในใจ Higurashi no Naku Koro Ni หรือชื่อไทยที่หลายคนรู้จักแบบไม่ official อย่าง “แว่วเสียงเรไร” กับชื่อ official ที่เรียกว่า “ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง” คือเรื่องเดียวกัน
ชีวิตก็มีเรื่องต้องคิดและห่วงมากพออยู่แล้ว แต่ปัญหาโลกแตกว่า “วันนี้กินอะไรกันดี?” ก็ยังตามมาหลอกหลอนเราได้ไม่ว่าจะในช่วงเวลาปกติหรือเวลาวิกฤต ยิ่งต้องทำงานอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ไม่เห็นร้านอาหารอะไรผ่านหูผ่านตา การคิดว่ามื้อต่อไปกินอะไรยิ่งยากและชวนขี้เกียจขึ้นเป็นสองเท่า เพราะเข้าใจปัญหานี้ดี รวมถึงอยากบอกต่อร้านอาหารคุณภาพดี แถมอร่อยไว้ให้เป็นตัวเลือกแรก ๆ ในใจยามคิดอะไรไม่ออก เราจึงรวบรวม 5 ร้านอร่อยเด็ดจาก UNLOCKMEN MARKET OFFICIAL พื้นที่ที่อัดแน่นด้วยมิตรภาพและคุณภาพ! ที่เปิดโอกาสให้คนขายมาฝากสินค้าดีมีคุณภาพแบบฟรี ๆ และผู้ซื้อจะได้ของถูกใจโดยไม่ต้องออกไปหาซื้อไกล ๆ เพื่อเพิ่มความเสี่ยง ลองสั่ง 5 เมนูจาก 5 ร้านที่เราเลือกมา แล้วแวะเข้าไปดูสินค้าอย่างอื่น เผื่อถูกใจ หรือจะฝากขายอะไรก็เต็มที่ เพราะ UNLOCKMEN MARKET PICKS ครั้งหน้า อาจมีร้านของคุณอยู่ใน LIST ของเราก็เป็นได้ Zab Kak – แซ่บคัก ถ้าอยู่บ้านนานไปแล้วรู้สึกเหี่ยวเฉาลงไปทุกที ๆ อยากเพิ่มรสชาตจัดจ้านให้ชีวิต รับรองว่า “Zab Kak – แซ่บคัก” จะไม่ทำให้วันของคุณผิดหวัง แซ่บคักคือร้านอาหารอีสานพื้นถิ่นที่มาพร้อมไอเดีย
ผู้ชายอาจจะหลงใหลผู้หญิงแตกต่างกันไป แต่จะมีผู้หญิงที่ผู้ชายพร้อมใจละลายได้ นั่นคือผู้หญิงที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งทักษะการทำงาน ทัศนคติที่ดี และมีความเป็นตัวเองอันโดดเด่นจนผู้ชายอย่างเราต้องยอมให้ “สู่ขวัญ บูลกุล” คือหนึ่งในผู้หญิงมากความสามารถที่เรายกให้เป็นหนึ่งใน Hero ตัวจริง พวกเราจดจำเธอในหลายบทบาท ทั้งผู้ประกาศข่าวฝีมือเยี่ยม พิธีกรมากความสามารถ รวมถึงนักแสดงเจ้าบทบาท และหลายคนคงรู้จักเธอในฐานะ Celebrity Blogger ที่รสนิยมเรียบง่ายแต่หรูหรา และน่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะนัดพูดคุยกับคุณสู่ขวัญได้ ต้องขอขอบคุณโอกาสดี ๆ ครั้งนี้จาก BMW Thailand ภายใต้แคมเปญ “EXPERIENCE THE 7 : THE 7 STORIES” ที่ช่วยให้เราได้สนทนากับเธอภายใต้นิยามคำว่า ” THE LUXURY ” อย่างใกล้ชิด ไปค้นหาตัวตนของเธอพร้อมกันกับเรา แล้วคุณจะหลงรักเธอมากกว่าที่ผ่านมา นิยามคำว่า The Luxury ของ สู่ขวัญ บูลกุล คืออะไร ? “ถ้าตามความหมายของคำนี้ The Luxury หมายถึงความหรูหรา สวยงาม
เคยรู้สึกไหมว่าบ้านเป็นที่ ๆ ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย ในชีวิตจริงเรามองเห็นหน้าต่างบ้านฝั่งตรงข้าม ไฟเปิดปิดสลับไปมาวันแล้ววันเล่า แต่ไม่มีโอกาสเห็นการใช้ชีวิตข้างใน ส่วนโลกโซเชียลในมือ ต่อให้ไม่ต้องแม้แต่เคาะประตูบ้าน ก็มีคนเปิดให้รู้เรื่องราวชีวิตทุกอย่างช่วงกักกัน ส่วนใหญ่ก็โชว์แต่โลกที่น่าอิจฉาด้วยกันทั้งนั้น จนเจอสเตตัสหนึ่งในเฟสบุ๊กของเพื่อนที่พูดว่า “บ้านไม่ใช่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” มันเล่าว่าบ้านสำหรับเด็กบางคนน่าเจ็บปวด เป็นฝันร้าย ประสบการณ์ที่หลายคนแชร์ผ่านทวิตเตอร์บอกให้รู้ว่าคนร่วมบ้านอาจไม่ใช่คนที่มอบความสุขให้ได้ แสงสว่างของบางคนคือการออกไปอยู่นอกบ้าน ไปโรงเรียน ไปเจอเพื่อนและใช้เวลาอยู่ในบ้านให้น้อยที่สุด การอยู่แต่บ้านเวลานี้ต่างหากที่เป็นวิกฤต จากสเตตัสที่สะกิดใจ เราตัดสินใจไปลองหาข้อมูลอีกด้านที่ไม่ค่อยมีคนพูดแทน “หยุดเชื้อเพื่อชาติ ที่ทำให้หลายคนต้องทรมาน” มันจะลึกหรือจะแย่สักแค่ไหนกัน แล้วยังจะพอมีทางออกหรือทางเลือกเหลือไว้สำหรับสถานการณ์นี้บ้างไหม ABUSE บ้านคือพื้นที่ความรุนแรง ข้อมูลจากองค์การ UNICEF เผยสถิติการก่อเหตุความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าเฉพาะในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ เป็นแห่งแรก ได้รับร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากจีนแล้วอีกหลายประเทศล้วนได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน Rola Dashti เลขาธิการคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมเอเชียตะวันตกแห่งสหประชาชาติ (ESCWA) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า เหตุผลของความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากมาตรการกักกันที่บีบบังคับให้คนอยู่ร่วมกันท่ามกลางเศรษฐกิจที่แย่ เริ่มจากความเครียด ความกังวล ขาดหนทางเข้าถึงอาหาร ทำให้จิตใจคนเริ่มบิดเบี้ยวตาม แต่ผลกระทบส่วนใหญ่ระบุว่ามักจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่า เพราะผู้หญิงทำหน้าที่ดูแลบ้านและงานในครอบครัว พอแนวโน้มอาหารไม่พอ ความเครียดสะสม เธอจะเกิดความอ่อนล้าทั้งกายและใจจนเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรคมากขึ้น HOME =
เชื่อว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้คงทำให้หลายคนพบเจอกับหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป บางคนต้องทำงานและใช้ชีวิตต่างไปจากเดิมซึ่งมีผลกระทบน้อยมากแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับคนที่ยังสู้และรอโอกาสเริ่มต้นใหม่ วันนี้ UNLOCKMEN มีเรื่องราวและมุมมองดี ๆ จากชายที่ต้องหยุดพักการเดินทางรอบโลกซึ่งใช้เวลากว่า 6 ปีลง เพราะไม่สามารถเดินทางต่อได้ในระหว่างที่หลายประเทศเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอยู่ ซึ่งอาจส่งผลให้การเดินทางทั้งหมดต้องถูกยกเลิกไป ทั้ง ๆ ที่เหลือจุดหมายอีกแค่ 9 ประเทศจากทั้งหมด 203 ประเทศเท่านั้น ในเวลาที่เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตจำเป็นต้องหยุดพักลง ตัวเขาจะมีวิธีจัดการกับมันอย่างไร เราอยากพาทุกท่านไปทำความรู้จักและหาคำตอบไปพร้อมกัน โทล์บยอน ปีเตอร์เซน (Torbjorn C Pedersen) คือชื่อของชายวัย 42 ปี เจ้าของทริปเดินทางรอบโลก 203 ประเทศโดยไม่ใช้เครื่องบิน ที่ตั้งชื่อว่า Once Upon a Saga โดยตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ตัวเขาเดินทางไปเยือนมาแล้วถึง 194 ประเทศและเหลือเพียง 9 ประเทศเท่านั้น แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างตัวเขาสักเท่าไหร่ เพราะในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ระหว่างนั่งเรือไปยังประเทศฮ่องกงเพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังจุดหมายในช่วงท้าย กลับกลายเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้การเดินทางที่ต่อเนื่องยาวนานต้องหยุดลงเป็นครั้งแรก และจวบจนถึงตอนนี้ตัวเขาได้ติดแหง่กอยู่ในฮ่องกงมาแล้วกว่า 80
ถ้าพูดถึงนาฬิกาที่แข็งแรงทนทานและมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายสิบปี คงจะลืมชื่อ ‘G-SHOCK’ ของ Casio ไปไม่ได้เลย นอกจาก G-SHOCK จะเป็นแบรนด์นาฬิกาจากแดนอาทิตย์อุทัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว รูปลักษณ์ มาตรฐานการผลิต ตลอดจนงานดีไซน์เฉพาะตัวของแต่ละเรือนยังถูกใจหนุ่ม ๆ สายสตรีตอย่างเราเป็นที่สุด เมื่อปี 1995 แบรนด์นี้เคยเปิดตัวนาฬิการุ่น ‘DW-6900’ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วและถือเป็นหนึ่งในนาฬิการุ่นไอคอนิกของแบรนด์ไปโดยปริยาย เรือนนี้ได้รับฉายาว่า “triple graph dial” หรือที่เรียกติดปากกันในประเทศไทยว่า “ไอ้สามตา” บ่งบอกถึงประสิทธิภาพและรูปแบบจอแสดงผลทรงกลมสามชุดบนหน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์ของเรือน แถมรุ่น DW-6900 ยังถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานการสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนอื่น ๆ ร่วมกับแบรนด์แฟชั่นอีกมากมาย ในปี 2020 นี้ บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) เพิ่งเปิดตัวซีรีส์เรือนเวลา “Metal Face GM6900” จากตระกูลนาฬิกาต้านแรงกระทบกระเทือน (G-SHOCK) เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของนาฬิการุ่น DW-6900 โดยนำโมเดลรุ่นเก๋ามาปรับโฉมใหม่ ดีไซน์วงกรอบตัวเรือนด้วยสเตนเลสสตีลขัดเงา ใช้หน้าปัดกระจกสุดแกร่ง และถอดแบบหน้าปัดทรงกลมสามชุดของรุ่น ‘DW-6900’ ในตำนานออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน นาฬิกาในซีรีส์นี้ถือเป็นสามรุ่นแรกที่ G-SHOCK นำวงกรอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลมาประดับตกแต่ง