เราอาจจะเคยชินกับการดูหนังฮอลลีวูดที่เป็นกระแสหลักของวงการภาพยนตร์ จนอาจจะมองข้ามวงการภาพยนตร์ของฝั่งเอเชียไป แถมยังออกจะเบ้ปากมองบนไปหน่อยถ้าหากพูดถึงหนังของประเทศเกาหลี ที่เรามักจะวาดภาพไว้ว่ามันหวานแหวว หิมะโปรย จูบกันใต้แสงโคมไฟริมทาง นางเอกเปิ่น ๆ พระเอกมาดเข้ม ลืมภาพเหล่านั้นไปได้เลย UNLOCKMEN จะมาแนะนำ 5 หนังสัญชาติเกาหลีเจ๋ง ๆ หลากหลายแนว ที่ผู้ชายอย่างเราพลาดไม่ได้ Oldboy (2003) Director : Chan-wook Park หนังเกาหลีขึ้นหิ้งที่ไม่อยากให้พลาด ด้วยพล็อตเรื่องชวนให้ขนลุก เมื่อหนุ่มคนหนึ่งถูกกักขังเอาไว้ในห้องถึง 15 ปี มันนานเกินกว่าจะเป็นการเรียกค่าไถ่ นานเกินกว่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง เขาขบคิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำไมถึงเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นกับเขา ระยะเวลาที่นานเกินกว่าใครจะคิด มันเลยทำให้สภาพจิตใจของเขาขาด ๆ แหว่ง ๆ ไป จนเมื่อเขาได้รับอิสรภาพแบบงง ๆ และได้เจอกับสาวน้อยคนหนึ่งที่มาช่วยเขาเริ่มต้นหาคำตอบของเรื่องพิศวงในชีวิต และเริ่มการแก้แค้นที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปเลย ด้วยเนื้อหาหนังที่ว่าซีเรียสแล้ว บรรยากาศของหนังยิ่งส่งเสริมให้มันเครียดเข้าไปใหญ่ แต่ก็ถือว่าเหมาะกับเนื้อหาจนทำให้ภาพรวมของหนังออกมาสุดยอดระเบิดระเบ้อ โดยเฉพาะเมื่อคลายปมทั้งหมดของเรื่อง The Handmaiden (2016) Director : Chan-wook Park ผู้กำกับคนเดียวกันกับ Oldboy แค่นี้ก็รับประกันความเฉียบคมของเนื้อเรื่องแล้ว
เวลาดูหนังหรือซีรี่ส์สืบสวนสอบสวน เรามักจะเห็นว่าการจับผิดคนทางภาษากายมันทำได้จริง จากการสังเกตเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราแสดงออกมาอย่างไม่รู้ตัว เช่น จังหวะการกระพริบตา หลบตา การกอดอก เม้มปาก และอีกสารพัดอย่างที่เราเผลอทำออกมาในเวลาที่เราตื่นเต้น หวาดกลัว หรือกำลังโกหก นอกจากความรู้สึกเหล่านั้นที่ผลักดันให้เราทำอะไรแปลก ๆ ไม่เป็นตัวเองออกมาแล้ว “ความสงสัย” ก็เป็นอีกอาการที่มักจะทำให้เราเผลอ “เกาหัว” ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล จนเหมือนการเกาหัวเป็น Symbol ของความครุ่นคิด สงสัย ไปแล้ว โดยเฉพาะในละครทีวี ภาพยนตร์ ที่มักจะใส่อวัจนภาษาเข้าไปเพื่อแทนที่ไดอะล็อกที่ไม่จำเป็น UNLOCKMEN จะพามาหาคำตอบ ว่าทำไมความคันมันถึงมาเยือนเราเมื่อกำลังใช้สมองครุ่นคิดอะไรบางอย่างแบบอัตโนมัติ เกาทำไม ทำไมต้องเกา ? Matthew Alice คอลัมนิสต์ของ San Diego Reader ได้อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า “คำอธิบายยอดฮิตของการเกาหัวเวลาสงสัยเนี่ย มันเป็นอาการปกติเวลามนุษย์ถูกความหงุดหงิดคุกคาม ซึ่งตรงกับธรรมชาติของเราเมื่อครั้งบรรพบุรุษ ที่มักจะขว้างก้อนหินเมื่ออะไรไม่ได้ดั่งใจ” Alice พยายามหาเหตุผลทางมานุษยวิทยามาอธิบายเรื่องนี้ “เมื่อเราต้องสู้กับปัญหาสุดยุ่งเหยิง จากประสบการณ์ของคนเรา พอเจอกับเรื่องชวนปวดหัวแบบนี้แล้ว บางคนอาจจะหงุดหงิด โมโห และยกมือขึ้นก่อนที่เราจะรู้ตัวซะอีก
หลายเพลงที่เราฟังในเวอร์ชั่นต้นฉบับอาจจะฟังกันวน ๆ มาเป็นร้อยรอบแล้ว ยิ่งเป็นเพลงโปรดยิ่งนับจำนวนกันไม่ถ้วน ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศฟังเวอร์ชั่น Cover กันบ้าง อาจจะได้เวอร์ชั่นใหม่ที่ถูกใจมากกว่าเดิม หรือได้เพลงโปรดเพิ่มเป็นสองเพลงทั้งเวอร์ชั่นเก่าและใหม่เลยก็ได้ Boyce Avenue – Torn แม้ต้นฉบับจะเป็นเสียงผู้หญิง แต่เขาก็ถ่ายทอดออกมาในแบบ Acoustic ได้ลื่นไหล สมกับที่เป็นวง Cover ที่มียอดวิวอันดับต้น ๆ บน YouTube Iron and Wine – Such Great Heights เป็นอีกเพลงที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ ว่านี่ไม่ใช่ Original จาก Iron and Wine ในอัลบั้ม Ariund The Well ปี 2009 จริง ๆ แล้วเพลงนี้ต้นฉบับเป็นของวง The Postal Service อัลบั้ม Give Up ที่ออกมาเมื่อปี 2003 และเพลงเป็นคนละมู้ดกับเวอร์ชั่น Iron and
หลายครั้งที่เราต้องให้ชีวิตเดินไปข้างหน้าให้ทันตามเวลา ด้วยหน้าที่และภาระที่ยังคอบบีบบังคับให้เราไม่มีแม้แต่เวลากลับมาถามตัวเองว่า “เหนื่อยเกินไปมั้ย ?” “ได้ยิ้มหัวเราะอย่างเต็มที่ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ?” หากชีวิตมันวุ่นวายขนาดนั้น อย่าปล่อยให้ตัวเองตึงมากเกินไปนัก หายใจเข้าลึก ๆ UNLOCKMEN จะแนะนำวิธีเติมความสุขให้ชีวิตที่แสนจะวุ่นวาย กลับมามีชีวาอีกครั้ง ง่าย ๆ เพียงวันละ 5 นาทีเท่านั้น อย่าบอกนะว่าไม่มีเวลา! หมดไฟเมื่อไหร่ ให้คุยกับตัวเอง การสื่อสาร ความสัมพันธ์ มันฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องของคนสองหรือมากกว่านั้น เราแคร์เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับคนรอบข้างมากเสียจน เราหลงลืมที่จะสื่อสารกับตัวเองไปบ้างหรือเปล่า ? อย่าเพิ่งมองว่าการคุยกับตัวเองมันเหมือนคนบ้าหรือเปล่า ? จริง ๆ มันเป็นสิ่งที่จะเป็นเวลาเรารู้สึกเคว้งคว้างหลงทางขึ้นมา ลองกลับมาฟังเสียงตัวเองดูบ้างว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราพอใจในชีวิตของเราแค่ไหน เราอาจจะเหนื่อยแล้วมีความสุขในตอนท้ายที่ได้ทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ก็ได้ หรือความสุขอาจจะกำลังเลือนหายไปแบบไม่รู้ตัว บางครั้งเราเองนี่แหละคือเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง คนที่รับรู้เรื่องราวมาตลอด คนที่รู้ว่าข้างในลึก ๆ เราต้องการอะไร ลองหยุดสิ่งวุ่นวายทั้งหมด แล้วมาถามไถ่เรื่องราวของเพื่อนคนนี้กันบ้าง อย่าปล่อยให้สังคมรอบข้างกลืนกินเราไปจนหมดสิ้นจนเพื่อนคนนี้ไม่มีชีวิตชีวาอีกต่อไป เจอเรื่องแย่ ๆ เหรอ เขียนมันลงไปสิ! ไม่ใช่ว่าทุกครั้งเราจะมีที่ปรึกษาที่พูดได้ทุกเรื่อง ต่อให้มีก็ตามใช่ว่าเราจะพูดทุกอย่างที่เราคิดออกไปได้หมดเปลือก ในวันที่ชีวิตดำมืดไม่รู้จะเดินไปทิศไหน อย่าเพิ่งคลำทาง คลำหาดินสอและกระดาษ มาเขียนเรื่องราวแย่ ๆ ที่ทำให้เรา
หากพูดถึงชื่อผู้กำกับในดวงใจ เชื่อว่าชื่อของ J.J. Abrams จะขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคอหนัง Sci-Fi อย่างแน่นอน นอกจากจะเป็นผู้กำกับในดวงใจแล้ว ตอนนี้อาจจะเป็นเจ้าของค่ายเพลงในดวงใจอีกต่างหาก เพราะเขากำลังจะเปิดค่ายเพลงอินดี้ มาดูกันว่าผู้กำกับคนเก่งคนนี้ทำไมถึงหันมาเปิดค่ายเพลงกัน About J.J. Abrams เราอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของ J.J. Abrams ในฐานะผู้กำกับมือฉมังชาวอเมริกัน ที่ฝากผลงานเอาไว้ให้เราได้จดจำมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากผลงานกำกับแล้ว เขาไม่หยุดตัวเองไว้แค่นั้น ทั้งงานเขียนบท Producer โดยผลงานที่สร้างชื่อให้เขามักจะเป็นภาพยนตร์แนว Sci-Fi อย่าง Armageddon, Cloverfield, Star Trek, Star Wars: The Force Awakens ความอัจฉริยะของเขานั้นถูกส่งต่อจากคุณพ่อของเขา Gerald W. Abrams ก็เป็นผู้กำกับละครทีวีเช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ ในตอนแรกเขาตัดสินใจอยากจะเข้าโรงเรียนศิลปะแบบเฉพาะทาง แต่สุดท้ายเขาก็เข้ามหาวิทยาลัยตามคำแนะนำของพ่อเขา เขาฉายแววความสามารถในวงการจอเงินตั้งแต่อายุ 15 เขาเริ่มทำเพลงให้กับภาพยนตร์ของ Don Dohler และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มจับงาน Producer จนมาถึงภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาเขียนบทอย่าง Taking Care
หลายคนบ่นกันเหลือเกินว่า 24 ชั่วโมงมันไม่พอ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์เคลียร์ Duty ทั้งหลายไม่ค่อยลงเท่าไหร่ หัวฟูตั้งแต่ต้นสัปดาห์ยันวันหยุด ลองมาเปลี่ยนตัวเองให้ใช้เวลากันแบบชาญฉลาดดีกว่า UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคบริหารเวลาที่มีแบบเจ๋ง ๆ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมาจัดการตัวเองแบบมีสติ จะได้มีเวลาเหลือ ๆ นอนชิลกันบ้าง เพื่อให้ทุกวันจันทร์ของเราไม่เป็นวันที่แสนน่าเบื่ออย่างที่คนอื่นเขามีกัน แถมยังเป็นวันที่เราอยากให้มาถึง เพื่อที่จะได้ปล่อยพลังของเราให้เต็มที่ และใช้ชีวิตในวันหยุดแบบสุดเหวี่ยงได้แบบไม่มีภาระมาเกาะหลัง ปรับนิสัย รู้ว่านิสัยไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ แต่เคยลงมือหรือยังว่าตัวเองจะเปลี่ยนได้มากน้อยแค่ไหน การทำอะไรซ้ำ ๆ กัน 21 วัน หรือ 30 วัน ถูกยืนยันมาแล้วว่าช่วยให้เปลี่ยนพฤติกรรมของเราได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเคยมีนิสัยแบบไหนมาก่อน ดูอย่างเวลาเข้างาน ไม่ว่าเราเคยตื่นสายตอนมหาวิทยาลัยแค่ไหน แต่พอมาทำงาน เราก็ต้องปรับตัวเองไปเรื่อย ๆ แม้ว่าช่วงแรกมันจะรู้สึกยากแค่ไหน แต่ถ้าหากความจำเป็นมันบังคับ เราจะค่อย ๆ หาทางให้ตัวเองทำมันได้ในที่สุดเอง ปรับพลัง แพลนก็ก็อปเพื่อนมาเลยนี่หว่า ทำไมของเรายังไม่ลงตัวซะที จริง ๆ แล้วแพลนที่เรามีมันอาจจะลงตัวแล้วก็ได้ แต่เราอาจจะทำมันด้วยพลังที่ไม่มากพอ ลองเติม Energy เข้าไปให้ตัวเองมากขึ้นมากกว่านี้
ภาพยนตร์ Begin Again เคยบอกไว้ว่า เราสามารถดูได้ว่าเขาเป็นคนยังไงได้จาก Playlist ที่เขาฟัง นั่นคงเป็นเพราะเรามักจะมองหาคนที่เข้าขาถูกคอกันบนจุดร่วมอะไรสักอย่าง อย่างเรื่องเพลงที่ฟังเหมือนกันก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย แล้วเพลงประเภทไหนใน Playlist กันล่ะ ถึงจะถูกใจสาว ดึงดูดเพศตรงข้ามให้เข้ามาสปาร์คกัน ได้สานสัมพันธ์ต่อ UNLOCKMEN จะพามาดูกันว่าหนุ่มคอเพลงแนวไหนที่มีโอกาสได้คู่เดตมากกว่าคนอื่น มันไม่แปลกเท่าไหร่นักหรอกที่คนรสนิยมเดียวกันจะดึงดูดเข้าหากัน คนเดียวกันก็มักจะคุยกันไหลลื่นเป็นสายน้ำอยู่แล้ว และเชื่อเถอะว่าเรามักจะแอบบวกคะแนนให้อยู่ในใจสำหรับคนที่รสนิยมใกล้เคียงกับเรา แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่ามีคนฟังเพลงประเภทไหนที่จะมาถูกใจเราบ้าง ตอนนี้ขอแจ้งข่าวดีกับหนุ่มที่ฟังเพลงคันทรี่ และสาวที่ฟังเพลงร็อกแอนด์โรล มีโอกาสได้คู่เดตมากกว่าคนที่ฟังแนวเพลงประเภทอื่น ผู้ให้บริการ Online Dating ที่มีโปรไฟล์ของหนุ่มสาวโสดกว่า 9 ล้านคน เลือกที่จะให้ใส่ประเภทของดนตรีที่ให้ความสนใจลงไปในโปรไฟล์ด้วย จากการศึกษาพบว่า ผู้ชายที่ฟังเพลงคันทรี่ และระบุมันลงในโปรไฟล์หาคู่เนี่ย ได้รับความสนใจจากคู่เดตมากถึง 32% ส่วนสาว ๆ ที่ฟังเพลงร็อกอย่าง Led Zeppelin, Queen และ The Rolling Stones ได้รับความสนใจล้นหลามไปถึง 68% มาดูกันที่หนุ่มคันทรี่ของเรากันบ้าง นอกจากจะได้รับความสนใจมากกว่าแล้ว ในบรรดาสาว ๆ ที่ให้ความสนใจ พวกเขายังมีโอกาส Match
หลายคนใช้เสียงเพลงเป็นสื่อบันเทิง ให้ความเพลิดเพลินไปกับเนื้อร้อง ทำนองที่ผ่อนคลาย หรือหนักหน่วง เร้าใจ ที่เราเลือกมาแล้วใน Playlist หลายคนใช้เป็นหนทางหลีกหนีไปสู่อีกโลกหนึ่งทุกครั้งที่กดปุ่ม Play ไปสู่โลกที่เราไม่ต้องคิดอะไร ไม่ว่าเราจะเลือกใช้มันเป็นอะไรก็ตาม พวกเขา “STOIC” เลือกที่จะใช้เสียงเพลงบอกเล่าเรื่องราวที่พวกเขาเจอมาในชีวิตในรูปแบบที่สื่อถึงตัวตนของพวกเขาที่สุด ใช้เพลงสื่อสารกับคนฟังอย่างเรา ๆ ให้รับรู้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเนื้อเพลงและทุกตัวโน้ตที่พวกเขาตั้งใจเรียบเรียงขึ้นมา สำหรับคอเพลงอินดี้อาจจะคุ้นเคยกับเพลงของพวกเขาอย่าง เพลง “วิวรณ์” และเพลงล่าสุดอย่างเพลง “วัฎจักร” ที่เพิ่งปล่อย Official MV ไปเมื่อหลายวันก่อน UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับวง STOIC ถึงเรื่องราวของวงและผลงานที่ใคร ๆ ต่างก็รู้สึกถึง Touching กับทุกเพลงของพวกเขา โดยวง STOIC ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน คือ แพ็ค (กีต้าร์-ร้องนำ), หนึ่ง (กีต้าร์), ยู (เบส), เปรียว (กลอง), ฟลุ๊ค (เชลโล) ซึ่งตอนนี้ทางวงยังไม่อยู่ในสังกัดของค่ายไหน กว่าจะรวมตัวเป็น STOIC แพ็ค : ประมาณสองปีที่แล้วครับ
ในช่วงกระแส Netflix มาแรงอย่างนี้ หลายคนคงได้ใช้เวลาไปกับมันแทบจะทั้งวันหยุด ลามไปถึงเวลาว่างในวันธรรมดา จนสามารถรีวิวได้ทั้งเว็บแล้วว่าซีรี่ส์เรื่องไหนดีเรื่องไหนเด็ด หรือบางคนอาจดูเอาเป็นเอาตายตั้งแต่ก่อน Netflix จะบูมในไทยแล้ว การันตีช่วงโมงนอนอันน้อยนิดของพวกเขาได้เลย ว่าจะต้องแปรผกผันกับความสนุกของซีรี่ส์อย่างแน่นอน แต่ดูมาเยอะขนาดนี้แล้ว อาจจะรู้สึกเบื่อ ๆ กับซีรี่ส์บ้างแล้ว ลองขยับมาเป็น Non-Fiction อย่างสารคดีกันดูบ้างดีกว่า UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 สารคดีดูง่าย ได้สาระ ที่สามารถหาดูได้บน Netflix สำหรับหนุ่ม ๆ ที่อยากจะเพิ่มความประเทืองปัญญาให้ตัวเอง Explained เป็นสารคดีที่อยากแนะนำมาก ๆ เพราะเหมาะสำหรับคนเวลาน้อย ตอนละไม่ถึงชั่วโมง แถมยังอธิบายง่าย ๆ ไม่ใช้คำพูดในหนังสือหรือคำพูดที่ดูจะวกไปวนมาจนชวนเวียนหัว แถมเสียงบรรยายยังฟังง่ายจนอาจจะเปิดทิ้งไว้ไปด้วย ทำอย่างอื่นไปด้วยแบบได้สาระ เอาจริง ๆ มันเหมือนการมาเล่าอะไรสักอย่างในรูปแบบที่ย่อยมาแล้ว ให้มันออกมาง่าย สำเร็จรูปทั้งเนื้อหาและเวลา (แถมยังสนุกด้วย) เนื้อหาของมันมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ กีฬา กัญชา รอยสัก อาหาร DNA และอีกสารพัดอย่างที่จะมาเสิร์ฟสาระดี ๆ ให้เราในทุกสัปดาห์ ใครที่อยากเติมความรู้ง่าย ๆ รอบตัวสามารถติดตามรายการนี้ได้เลย
เวลาคือสิ่งที่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวินาทีที่เรากำลังอ่านข้อความนี้อยู่ก็ตาม เราถือว่ามันเป็นอีกสิ่งที่มีค่าจนเราต้องใช้ชีวิตบนกลไกของมัน ทุกเช้าที่ต้องวิ่งขึ้นรถให้เข้างานได้ทันเวลา ทุกวันที่ต้องเร่งสปีดตัวเองให้ทำงานได้ทันเวลา ทุกวันที่ต้องรีบกลับให้ไว เพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนที่มากขึ้นอีกสักสิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมงก็ยังดี ความสงสัยใคร่รู้ที่ดูจะยุกยิกอยู่ในตัวมนุษย์เรามาแสนนาน ทำให้เรามีเครื่องจับเวลา เพราะอยากเก็บสถิติที่แม่นยำมากกว่าการนับในใจ เราคงคุ้นเคยกับเครื่องจับเวลาทั้งในโทรศัพท์ วงการกีฬา หรือแม้แต่การทำอาหาร ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของการใช้งาน แต่สำหรับการนั่งทำงานออฟฟิศแม้จะดูเหมือนไม่ต้องแข่งกับเวลา แต่ถ้าหากเราอยากจะ Improve ตัวเองล่ะ UNLOCKMEN ขอแนะนำของเล่นเจ๋ง ๆ อย่าง Tiller ที่จะมาช่วยเก็บสถิติแบบมีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะ Keep Time To Tracking ในแต่ละวันที่ทำงาน ลองมาจับเวลากันหน่อยมั้ยว่าใช้เวลาไปกับมันเท่าไหร่สำหรับงานแต่ละชิ้น วันนี้อาจจะช้ากว่าเมื่อวาน หรือพรุ่งนี้อาจจะไวกว่าวันนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ลองเก็บสถิติแล้วนำมันไปพัฒนาตัวเองหรือใช้ประโยชน์จากมันก็ยังได้ Tiller มันคือ Time Tracker นั่นแหละ แต่ความเจ๋งคือ เราสามารถ Customize ได้ตามเราต้องการ เก็บสถิติของรายการนี้ในแต่ละวัน มีกราฟเปรียบเทียบให้ดู การใช้งานก็แสนง่าย จะ Split แต่ละครั้งก็เคาะมันเบา ๆ เหมือนเวลาเราเคาะแป้นคีย์บอร์ดนั่นแหละ โดยผู้ออกแบบแนะนำให้วางใกล้ ๆ เมาส์ และเคาะมันทุกครั้งที่งานเสร็จ