ความจำเจของ SEX คงเป็นปัญหาของหลายคู่ ที่ไม่อยากจะทำอะไรเดิม ๆ เหมือนกันทุกครั้ง เพราะมันจะชินและชวนให้เหี่ยวแห้งกันได้ง่าย ๆ เลยพยายามหาอะไรมาเพิ่มสีสันให้ SEX LIFE ของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นชุดนอนไม่ได้นอน ที่ชวนให้ผู้ชายอย่างเราลุกขึ้นชี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น ของเล่นสุดหรรษา ที่เข้ามาเป็นเหมือนบุคคลที่สาม คอยเพิ่มสีสันให้ทั้งคนทำและคนถูกกระทำ หรือจะเป็นสถานที่ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปรอบบ้าน OUTDOOR บ้าง ในรถบ้าง แล้วตอนอาบน้ำพร้อมกันล่ะ ลองหรือยัง ? UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ สะกิดสาว มาเปลี่ยนบรรยากาศ ย้ายไปบรรเลงเพลงรักใต้ฝักบัวกันบ้าง กับ 5 ท่าดี ๆ ที่เราอยากแนะนำ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า การจ้ำจี้กันในห้องน้ำต้องเตรียมความพร้อมให้ดีกันซะก่อน ต้องระวังพื้นลื่นจนพากันล้มแล้วเจ็บตัวทั้งคู่ ระวังเรื่องเสียงด้วย เพราะในห้องน้ำยังไงเสียงต้องก้อง หากอยู่บ้านที่มีคนอื่นอยู่ด้วยขอให้หลีกเลี่ยงไว้ก่อน แต่ถ้าหากอยู่กันสองคน เชิญโหมกระหน่ำเพลงรักกันเต็มที่ Rear Entry Standing ทั้งคู่อยู่ในท่ายืน ผู้ชายอยู่ด้านหลังแล้วจัดการโจมตีจากด้านหลัง โดยที่ผู้ชายยืนตรงปกติ ดึงแขนของสาวเอาไว้ไม่ให้เธอล้ม ส่วนผู้หญิงให้ก้มลงตามถนัด ความเจ๋งมันอยู่ตรงที่ท่านี้น้องหนูของเราจะเข้าไปทักทาย G-Spot ของสาวได้แบบใกล้ชิดอีกด้วย สำหรับท่านี้
กลายเป็นว่าทีมเต็งต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านก่อนใครในฟุตบอลโลก 2018 สำหรับขุนพลอินทรีเหล็กเยอรมัน หลังจากกิมจิติดคอพ่ายให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ 2-0 หยุดเส้นทางไว้แค่รอบแบ่งกลุ่มโดยจบอันดับสุดท้าย แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมดีกรีแชมป์เก่าพลิกล็อกตกรอบแบ่งกลุ่ม เพราะเหตุการณ์เช่นนี้มีให้เห็นบ่อย ๆ โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 5 ครั้งหลัง ทีมแชมป์เก่าตกรอบแบ่งกลุ่มถึง 4 ครั้งด้วยกัน นี่จึงเปรียบเสมือนอาถรรพ์หนึ่งในฟุตบอลโลก วันนี้ UNLOCKMEN จึงขอพาไปย้อนรอยตั้งแต่ปี 2002 ว่ามีทีมแชมป์เก่าทีมไหนตกรอบแรกบ้าง และมันคืออาถรรพ์จริง ๆ หรือเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ทีมชาติฝรั่งเศส – ฟุตบอลโลก 2002 หลังจากคว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้สำเร็จเมื่อฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ 4 ปีต่อมาฟุตบอลโลก 2002 ที่ประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม ทีมตราไก่ฝรั่งเศสกลับมาอีกครั้งพร้อมขุมกำลังนักเตะระดับโลกเต็มทีม สื่อหลายแห่งยกให้เป็นถึงเต็ง 2 เป็นรองแค่ทีมชาติบราซิลเท่านั้น แต่แค่นัดเปิดสนามเรื่องช็อกโลกก็เกิดขึ้น เมื่อทีมแชมป์เก่าพ่ายแพ้ต่อทีมชาติเซเนกัลซึ่งในขณะนั้นเป็นแค่ชาติโนเนม ได้สิทธิ์มาแข่งฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกไป 1-0 และวิบากกรรมของทีมตราไก่ยังไม่จบลงเท่านี้เพราะอีก 2 นัดต่อมาพวกเขาก็ทำได้เพียงเสมอกับทีมชาติอุรุกวัย 0-0 จากนั้นก็ส่งท้ายด้วยการแพ้ทีมชาติเดนมาร์ก 2-0 รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ตกรอบไปแบบไม่มีใครคาดคิด ที่สำคัญคือยิงประตูไม่ได้เลยสักประตูเดียว มันเกิดอะไรขึ้น? ถ้าตัดเรื่องความเชื่อหรืออาถรรพ์ออกไป หนึ่งสาเหตุที่พอจะเข้าเค้าคือนักเตะตัวหลักของทีมชุดนี้อายุเยอะเกินไป
เชื่อว่าหนุ่มชาว UNLOCKMEN หลายคนคงต้องเคยมีประสบการณ์ Party pool หรือการดื่มเล่นสุดเหวี่ยงริมสระน้ำกันสักครั้งในชีวิต หากการ PLAY ของเรากลับมีจุดสะดุดตรงที่ เวลาดื่มแต่ละทีเราทำได้แค่นั่งริมขอบสระเอาเท้าแช่น้ำทุกครั้งไป หรืออย่างดีถ้าเอาตัวลงไปในสระก็ต้องคอยระวังไม่ให้เครื่องดื่มกระฉอกลงน้ำ ครั้นถ้าแก้ปัญหาให้ไปโดดขึ้นห่วงยางสีหวานที่สาว ๆ เอาไว้ใช้เซลฟี่ พวกเราน่าจะคิดเหมือนกันว่า ‘ไม่ไหว มันไม่คูล’ แล้วกลับไปใช้วิถีเดิมดีกว่า “ถ้ามีอุปกรณ์สักอันที่ทำให้เราตีขาในน้ำตัวลอย มือว่าง ๆ ชนแก้วหรือกดสมาร์ทโฟนได้คงดี” กำลังรำพันแบบนี้อยู่ จู่ ๆ ก็เจอ GADGET เตะตาชิ้นนี้เข้า มันชื่อว่า Floating pant หรือการเกงลอยน้ำเข้า วิถีการลอยของมันจะเป็นแบบเดียวกับชูชีพ แต่ใส่ไว้ที่ท่อนล่าง ติดด้วยแป๊กแน่นหนาแบบเดียวกันรับรองได้ว่าไม่หลุดไปไหน คำถามคือถ้ามันยกตัวเราลอยขึ้นแบบชูชีพ แล้วทำไมเราถึงไม่คว่ำ เหตุผลหลักมันอยู่ที่ดีไซน์ที่เขาออกแบบให้มีด้านหน้าสั้นกว่าด้านหลัง เพื่อให้ด้านหลังสามารถพยุงหลังเราไว้ให้รู้สึกสบาย ด้วยศูนย์ถ่วงที่วางไว้เลยทำให้การลอยนั้นพยุงครึ่งบนของเราให้ลอยได้สบาย ๆ ขณะที่ด้านล่างยังคงสามารถเป็นอิสระตีขา และมือเราก็พร้อมจะถืออะไรก็ได้ Floating pant ผลิตจากไนลอนกันน้ำรั่วซึมได้ดี ด้านในมีสัมผัสนุ่มสบายก้นไม่รู้สึกรำคาญ มีให้เลือกถึง 7 แบบตามความชอบด้านล่าง แต่ถ้าอยากได้มู้ดแมน ๆ กวนใช่ย่อย 3 ลายที่แนะนำด้านล่างกำลังดี เหมาะกับหนุ่ม
ความซวยเวลามันพุ่งเข้ามาหา มันจะวิ่งเข้ามาแบบถี่ ๆ แต่สำหรับปีหมาปีนี้ ถือว่าเป็นปีมหาโหด “หมาดุไล่กัดนางเงือก” เพราะร้านเจ้าดังอย่างสตาร์บัคที่มีลูกค้าทั่วโลก เจอตบหน้าขวาซ้ายด้วยข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ด้วยสารพัดเรื่องใหญ่หลายประเด็น จนต้องเร่งออกมาแก้ปัญหา เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาชนิดมือเป็นระวิง และเพื่อให้การจิบกาแฟของหนุ่ม ๆ เข้มข้นขึ้นกว่าที่เคย เราขอ RECAP เรื่องชง ๆ ขม ๆ ที่สาวก Starbucks ต้องรู้กันดังต่อไปนี้ เดือน 3 เป็นมะเร็ง เดือน 4 เหยียดผิว เดือน 6 หุ้นดิ่ง MARCH : STARBUCK VS CANCER สตาร์บัคเริ่มต้นปีชงล็อตใหญ่ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา เพราะจู่ ๆ สภาศึกษาและวิจัยสารพิษ (CERT) ก็ลุกมาฟ้องศาลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ แจ้งข้อหาเรื่องการแปะฉลากเตือนโรคมะเร็ง ถ้าคิดไม่ออกให้คิดว่าเป็นแบบไหนให้คิดถึงซองบุหรี่ที่มีภาพชวนเศร้าทั้งหลาย แต่อันนี้พี่จะให้แปะไว้บนแก้วกาแฟที่ลูกค้ากิน ความกระอักกระอ่วนที่จะต้องบอกใครว่าตัวเองเป็นผู้ร้ายสร้างมะเร็งว่าหนักแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่แย่เท่ากับค่าปรับมหาโหดที่โดนฟ้อง 2,500 ดอลลาร์
การ์ตูนมักถูกมองว่าเป็นสื่อให้ความบันเทิงสำหรับเด็กมาโดยตลอด แต่จริง ๆ แล้วนั่นคือความเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะการ์ตูนหลายเรื่องมีเนื้อเรื่องเข้มข้น จริงจัง มืดมนยิ่งกว่าภาพยนตร์รางวัลแนวดราม่าเสียอีก และมีการ์ตูนจำนวนไม่น้อยที่แฝงเรื่องการเมืองเอาไว้ โดยเฉพาะการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ ที่อ่านแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้เขียนได้มาเก็บข้อมูลจากโลกนอกการ์ตูนแน่นอน ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN นำเอา 5 การ์ตูนเกี่ยวกับเผด็จการเรื่องเยี่ยมที่อยากให้ทุกคนรีบไปหาอ่านกัน ก่อนที่อาจจะหาอ่านไม่ได้ในอนาคต One Piece Written by Eiichiro Oda เนื้อเรื่องหลักอาจจะดูเหมือนการ์ตูนแอ็กชั่นพลังมิตรภาพตามสไตล์โชเน็นทั่วไป ว่าด้วยการเดินทางผจญภัยในท้องทะเลของโจรสลัดหมวกฟาง มังกี้ ดี ลูฟี่ และผองเพื่อนโดยมีเป้าหมายคือการเป็นจ้าวแห่งโจรสลัด แต่แท้จริงแล้ว One Piece เป็นการ์ตูนที่แฝงเรื่องการเมืองไว้เยอะมาก ชัดเจนที่สุดเลยคือประเด็นเรื่อง ‘เผ่ามังกรฟ้า’ เผ่ามังกรฟ้าคือมนุษย์ชนชั้นสูงที่สุดในโลก One Piece ลักษณะเด่นของเผ่านี้คือจะสวมหน้ากากใส ๆ เอาไว้ตลอดเวลาเพราะไม่อยากหายใจร่วมกับมนุษย์ที่ต่ำต้อยกว่า มีสัตว์เลี้ยงเป็นมนุษย์ด้วยกัน ฆ่ามนุษย์ชั้นต่ำเหมือนมดปลวกโดยไม่มีความผิด ส่วนสถานที่อยู่อาศัยของพวกเขาก็อยู่บนนครศักดิ์สิทธิ์ลอยฟ้านามว่า ‘แมรี่จัวร์’ ไม่ได้อาศัยร่วมกับมนุษย์ธรรมดาบนพื้นโลก สาเหตุที่เผ่ามังกรฟ้าสามารถทำได้ขนาดนี้เนื่องจากมีรัฐบาลโลกซึ่งควบคุมกำลังรบ คอยให้การสนับสนุนอยู่ พวกเขาสามารถสั่งการรัฐบาลโลกให้หันซ้ายหันขวาได้ตามใจ เรียกว่าควบคุมโลกทั้งใบไว้ในกำมือก็ว่าได้ ต่อให้เป็นโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขนาดไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าเผ่ามังกรฟ้าก็ยังต้องยอมสยบ ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ลูฟี่พระเอกของเรานี่เอง ที่ครั้งหนึ่งเคยโชว์วีรกรรมสุดห้าวปล่อยหมัดซัดใส่เผ่ามังกรฟ้าเต็มหน้าจนกระเด็นไปไกล สร้างชื่อให้โจรสลัดหมวกฟางเลื่องลือถึงรัฐบาลโลก
คิดว่าการสปอยล์หนังเป็นเรื่องเล็ก? ลองจินตนาการตามนี้ สมมติเราอยากจะดูหนังเรื่องโปรดที่เฝ้าติดตามข่าวตั้งแต่วันเปิดกล้อง รอคอยผ่านไปสามสี่ปี ถึงวันฤกษ์งามยามดีที่หนังเข้าโรง ระหว่างที่เราทำงานรอให้ถึงเวลาฉายในรอบหนังที่เราจองเอาไว้ อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เราคิดไปพร้อมใช้นิ้วเลื่อน Facebook ไปพลาง “ฉิบหาย เผลออ่านสปอยล์ไปเต็ม ๆ” ใช่ครับ เราเผลออ่านเนื้อหา จุด Climax และตอนจบอันหักมุมของหนังเข้าให้ซะแล้ว ความรู้สึกเหมือนโดนตีแสกหน้าด้วยสปอยล์จากผู้หวังดีเข้าอย่างจัง ทำให้อารมณ์ดูหนังหายเกลี้ยง หมดกันเวลาสามสี่ปีที่สูญเปล่า ดังนั้นสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การสปอยล์หนังจึงถือว่าเสียมารยาทและผิดจรรยาบรรณเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่การโพสโอ้อวดใน Social Media ในชีวิตจริงเราเองก็คงไม่อยากฟังสปอยล์จากปากเพื่อนในออฟฟิศ หรือคนที่เดินสวนกันในห้องน้ำโรงหนังก็ตาม แม้ชีวิตจริงเราจะปิดปากใครไม่ได้ แต่ใน FACEBOOK เราทำได้แล้ว ด้วย FEATURE ใหม่ที่จะช่วยให้ Newsfeed ของเราปลอดภัยจากนักสปอยล์ทั้งหลาย จะเป็นยังไงนั้น UNLOCKMEN จะมาเล่าให้ฟัง ช่วยด้วยครับ! โดนสปอยล์เต็ม ๆ ช่วงที่ Avengers: Infinity War เข้าฉายเพียงวันแรก (ไม่ต้องรอสัปดาห์แรกหรอก) ก็มีคนบางกลุ่มสปอยล์หนังกันแล้ว ซึ่งเป็นการสปอยล์เปิดเผยเนื้อหาสำคัญที่เล่นเอาหมดสนุกไปเลย ทั้งแบบข้อความและแบบรูปภาพ มันน่าโมโหตรงที่คนที่ยังไม่ได้ดูก็ต้องมาเจอสปอยล์แบบที่ไม่มี Spoil Alert ตามมารยาทที่ควรจะเป็น Facebook คงจะเล็งเห็นปัญหานี้นี่แหละ จึงได้เล่นใหญ่
หลายคนอาจมองว่า “ความตาย” คือปลายทางของชีวิต จนไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้หากมันจะมาถึงเร็วกว่า “ปลายทาง” เนื้อเพลงจาก Blink 182 “Life is too short too last long.” ดูเป็นประโยคที่ไม่เกินจริงสักเท่าไหร่ เมื่อเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า สิ่งที่แน่นอนอย่าง “ความตาย” จะมาเยี่ยมเยียนเราเมื่อไหร่ ถ้าหากมันมาแล้วมันมาถึงแล้ว เราไม่มีโอกาสที่สอง อาจไม่มีแม้โอกาสได้บอกลาใครเลยด้วยซ้ำ เอาเป็นว่า UNLOCKMEN ไม่ได้ชวนมาปลงสังขาร หรือนั่งเฝ้ารอความตายกันอย่างใจจดจ่อ แต่จะชวนมาดู 5 หนังเกี่ยวกับชีวิตและความตาย ดูจบก็อยากให้ผู้ชายอย่างเรากลับไปทนทวนเรื่องราวชีวิตตัวเอง เราคัดมาให้หลากหลายแนว หลายรสชาติ เพื่อตอบสนองรสนิยมการดูหนังของหนุ่ม ๆ ที่แตกต่างกันไป เลือกสักเรื่องที่ตรงใจแล้วไปทบทวนชีวิตพร้อม ๆ กัน 21 Grams (2003) Director : Alejandro G. Iñárritu หนังเล่าเรื่องราวของความตายหลากหลายรูปแบบผ่านตัวละคร 3 คน ตัวละครที่เป็นกุญแจสำคัญอย่าง Paul Rivers (Sean Penn) ประสบอุบัติเหตุและต้องการหัวใจใหม่ มองดูเป็นความหวังที่ริบหรี่เอามาก
“สำหรับประชาชนทุกคนที่ถูกรัฐบาลรังควาน ผมว่า เฮ้ย! คุณต้องสู้ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณกลัว เขาจะยิ่งไล่ต้อนคุณไปเรื่อย ๆ ” ประโยคนี้จาก Headache Stencil ทำให้เรานิ่งคิด ถ้าเราเป็นประชาชนแต่ถูกรัฐบาลรังควานไม่ว่าจะในรูปแบบของการมาข่มขู่ตรง ๆ หรือภายใต้รูปแบบการบริหารงานที่ตรวจสอบไม่ได้ ทำไมเราต้องนิ่งเฉยล่ะ ? ทำไมเราต้องปล่อยให้เขาทำอะไรกับประเทศเราก็ได้ล่ะ ? แน่นอนว่ามีคนที่เลือกนิ่งเฉย แต่ก็แน่นอนว่ามีคนที่ไม่กลัว มีคนที่ไม่ยอมถูกไล่ต้อนและลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม หนึ่งในคนที่กล้าลุกมาปะทะกับรัฐบาลทหารคราวนี้ต้องมีชื่อของ Headache Stencil อยู่ด้วยแน่นอน Headache Stencil อาจเป็นชื่อที่บางคนรู้จักเป็นอย่างดี แต่ก็อาจเป็นชื่อที่บางคนเกาหัวแกรก ๆ แล้วถามว่า “ใครวะ?” แต่ถ้า UNLOCKMEN แปะผลงาน Political Art ฝีมือเขาให้ดู เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะผลงานเขาที่แผลงฤทธิ์ด้วยการตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์สังคมการเมืองได้แบบดุเดือดชนิดที่เป็นคนไม่สนใจการเมืองก็ต้องเคยเห็นเพื่อนแชร์งานเขาผ่านตามาแน่ ๆ ถ้าจะให้พูดแบบสั้น ๆ Headache Stencil คือศิลปินสตรีทอาร์ตที่ทำงาน Political Art เพื่อตั้งคำถามกับความไม่ปกติในสังคม แต่ถ้าจะเอาฉบับจุใจ เราก็ชวนคุณมาเสพความคิดของเขาผ่านการพูดคุยครั้งนี้ไปด้วยกัน แต่ถ้าอ่านจบแล้วมันปลุกพลังบางอย่างในตัวคุณให้เดือดพล่านจนดับไม่ลง วันเสาร์นี้ (30 มิถุนายน
ผู้ชายอย่างเราจะดื่มจะกินทั้งทีมันต้องมีชั้นเชิง จึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้พวกเรา UNLOCKMEN ไม่หยุดค้นหาร้านที่ให้บรรยากาศแปลกใหม่และสร้างความสนุกกับการกินแบบเหนือกว่า โดยคราวนี้เรามาหยุดกันที่ร้านอำพรางสุดเนียนที่หลอกตาเราเสียสนิทแต่ไม่อาจหลอกลิ้นของเราได้ หนุ่มคนไหนที่อยากดื่มกินความคราฟต์ของเหล้าแรง ๆ ในคราบการจำแลงกายในรูปแบบใหม่ ๆ เย็นเจี๊ยบชนิดเป็นน้ำแข็งเนื้อนวล ไม่เน้นความเมา แต่เน้นการ enjoy เราขอชวนคุณและเผื่อที่ให้สาว ๆ ข้างกายของคุณมานั่งข้าง ๆ กันที่ “RYN cafe” ร้านไอศกรีมสไตล์ Speakeasy bar แห่งนี้ What is “Speakeasy” ? สำหรับคนที่สงสัยว่าคำว่า Speakeasy คืออะไร ก่อนเข้าร้านเรามาเตรียมตัวกันหน่อย เวลาใครถามจะได้บอกต่อได้ว่าที่มาของคำ ๆ นี้เกิดขึ้นช่วงปี 1920-1933 ขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในยุคที่เรียกได้ว่าเป็น Dark age ของแอลกอฮอล์อย่างแท้จริง ด้วยเหตุผลทางการเมือง สงคราม และศาสนา ทำให้การมีเครื่องดื่มสายมึนไว้ในครอบครองถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้สิงห์น้ำเมาผู้รักการชนสะดุ้งสะเทือน แต่กลับยิ่งก่อกำเนิดบาร์ลับตามจุดต่าง ๆ เพื่อแสดงการขบถไปทั่วเมือง โดยใช้ชื่อเรียกบาร์เหล่านี้ว่า “Speakeasy” Speakeasy จะหาเจอได้อย่างไร บอกได้เลยว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ แต่เป็นวิธีการส่งต่อเรื่องราวแบบ Word
จากเหตุการณ์ทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต ติดอยู่ในถ้ำหลวงฯ จังหวัดเชียงราย ทำให้เราได้เห็นบทบาทของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งปกติเราแทบจะไม่รู้จักพวกเขาเลย อาจจะเคยได้ยินแค่ชื่อผ่าน ๆ เท่านั้น นั่นก็คือหน่วย Seal หรือ มนุษย์กบนั่นเอง ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์สุดโหดภายในถ้ำหลวง ภารกิจให้ความช่วยเหลือนี้จึงเป็นหน้าที่ของมืออาชีพอย่างหน่วย Seal เท่านั้น และจริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นใคร ผ่านการฝึกมหาโหดขนาดไหนจึงสามารถปฏิบัติภารกิจแสนทรหดขนาดนี้ได้ ? ตัวตนและหน้าที่ หน่วย Seal หรือชื่อเป็นทางการในประเทศไทยคือหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) เป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่สังกัดอยู่ในกองทัพเรือ ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อทำภารกิจสุดโหดที่เหนือกว่าทหารเรือทั่วไป โดยภารกิจหลัก ๆ ของพวกเขาคือการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ดำเนินการทางด้านข่าวกรองลับ การก่อวินาศกรรมเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ทำลายวัตถุระเบิด การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล คุ้มครองบุคคลสำคัญ และปฏิบัติภารกิจพิเศษอื่นๆ โดยมีคติสำคัญคือ ‘กำลังรบขนาดเล็ก ปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ และไม่ให้ข้าศึกรู้ตัว’ เนื่องจากแต่ละภารกิจที่ได้รับมอบหมายนั้นทั้งโหด ทั้งหิน จำเป็นต้องใช้ความสามารถทั้งทางกายทางใจสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป จึงต้องได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี โปรแกรมฝึกเหนือมนุษย์และสัปดาห์นรก 3 สัปดาห์แรกจะเป็นการฝึกที่เน้นกำลังกายเป็นหลัก เช่นการวิ่ง แบกซุง พายเรือยาง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่กดดันเข้มงวดจากครูฝึก และจะเพิ่มดีกรีความโหดของโปรแกรมการฝึกขึ้นไปอีกเป็น Stage ที่ 2 ซึ่งจะกินเวลาอีก