How to การจีบสาว, How to การแต่งตัวไปเดต, How to เรื่องบนเตียง เชื่อว่าหัวข้อบทความเหล่านี้ชาว UNLOCKMEN คงเคยเห็นผ่านตากันมาแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าเคล็ดลับที่ UNLOCKMEN จะนำเสนอวันนี้คุณต้องไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนหรือไกลตัว ตรงกันข้ามมันกลับใกล้ตัวคุณมาก ๆ เลยล่ะ เพราะมันคือเรื่องเกี่ยวกับการ ‘ช่วยตัวเอง’ ที่เชื่อเลยว่าทั้งคุณและผมต่างทำเป็นประจำอยู่แทบทุกวันอยู่แล้ว ใครจะคิดว่ากิจกรรมเพื่อการผ่อนคลายคลายเครียดที่ต้องทำแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ นี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณเมื่อคุณต้องไปออกเดตหรือปาร์ตี้ได้ “ควรจะช่วยตัวเองก่อนออกเดตหรือปาร์ตี้นะ” อาจจะฟังดูตลก แต่มันคือเรื่องจริงและมีประโยชน์จริง ๆ ถ้าไม่เชื่อ เลื่อนลงไปอ่านกันได้เลย ช่วยลดความตึงเครียด การช่วยตัวเองนั้นฟินขนาดไหนทุกคนคงรู้อยู่แล้ว แต่ประโยชน์อีกอย่างนอกจากความฟินที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือการช่วยตัวเองนั้นช่วยให้สมองของคุณผ่อนคลายลงอย่างมาก เนื่องจากช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endophins) ซึ่งเป็นสารสร้างความสุข ความตึงเครียดในสมองของคุณจึงลดลงไปด้วย ก่อนสถานการณ์ที่คุณกำลังจะออกไปเดต โดยเฉพาะเดตแรก แน่นอนว่าต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นลองสละเวลาสักครึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัดมาช่วยตัวเองสัก 1 ยก แล้วคุณจะออกไปเดตด้วยความมั่นใจกว่าเดิมแน่นอน UNLOCKMEN คอนเฟิร์ม คุณจะเป็นสุภาพบุรุษขึ้น นอกจากจะผ่อนคลายลดความตึงเครียดแล้ว แน่นอนว่าการช่วยตัวเองย่อมลดความต้องการทางเพศในขณะนั้นลงด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นข้อดี เพราะลองคิดภาพคุณไปออกเดตด้วยอารมณ์ทางเพศเต็มเปี่ยมดั่งม้าพยศ และเมื่อเจอคู่เดตก็คงเป็นเรื่องยากที่จะหักห้ามใจไม่ให้สัมผัสเรือนร่างของเธอในสถานการณ์ที่อาจไม่เหมาะสม
แด่ปีหมา 2018 ปีที่ใคร ๆ ก็จะมาแย่งงานกู เด็กจบใหม่เจ๋ง ๆ ว่าเยอะแล้ว AI ก็ยังเก่งกว่ากูด้วย ชาว UNLOCKMEN ทั้งหลายถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะลุกขึ้นสู้เพื่อคว้างานที่ใช่มาให้ได้ หรือถ้ายังทำงานที่เดิมไม่ย้ายไปไหนพวกเราก็ยังต้องสู้ต่อไปอีกเพราะปัญหามันจะดาหน้าเข้ามาอีกเพียบ ทว่าก่อนจะสู้ ขุดความสามารถมาใช้ให้หมดแม็กซ์ เราต้องรู้ด้วยว่าศึกหางานครั้งนี้อะไรบ้างที่เราต้องเผชิญ จะได้รับมือได้ไหว และนี่คือ 5 ศัตรูของพวกเรา บอกเลยว่ามีมากกว่าไอ้หนุ่มหน้าใสที่นั่งข้าง ๆ รอสัมภาษณ์แน่นอน ทัศนคติขี้แพ้ต่องานไม่ตรงสาย ความคิดลบเกิดได้เสมอ โดยเฉพาะกับเรื่องงาน หลายครั้งที่เรามองว่ากูมันธรรมดา คนอื่นเก่งกว่าเยอะ และเมื่อเจอ job description ไหนที่ไม่เหมือนกับงานที่เคยทำ เราจะรีบบอกตัวเองทันทีว่ากูไม่เหมาะกับงานนี้ ท้ังที่ความเป็นจริงโอกาสมันอยู่ตรงหน้าถ้าเรารู้จักวิธีประยุกต์ เราก็มีโอกาสจะข้ามสายงานไปทำอาชีพอื่นได้ Rudeth Shaughnessy Sr. Editor จาก Copy My Resume ให้ความเห็นว่าเวลาเราหางานเรามักจะดิ่งไปหางานที่มันตรงกับความสามารถที่เรามีเท่านั้น และกลัวเกินกว่าจะส่งเรซูเม่ไปให้ที่ใหม่ที่อยากทำเพราะคิดว่าประสบการณ์จากงานเดิมที่เคยทำมันไม่ใกล้เคียงเอาเสียเลย ดังนั้น เมื่อเจอศัตรูเรื่องนี้สิ่งที่เราต้องทำคือการเผชิญหน้ากับมันตามที่ Rudeth บอกว่า “Candidates shouldn’t be afraid to apply for
เคยไหม เวลาที่พวกเราเห็นคนเจ๋ง ๆ เฉียบ ๆ ในฟีดโซเชียลทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าตามคลิปวิดีโอ แล้วเราเกิดความสงสัย ตั้งคำถามว่า “เฮ้ย! คนพวกนี้วัน ๆ เขาทำอะไรกันวะ?” แต่แล้วเราก็ปล่อยให้ความสงสัยเลยผ่านไปโดยไม่ได้ไปค้นหาคำตอบ ทว่าพอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใหม่ คำถามนี้มันก็วนกลับมาซ้ำอีกหน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เดจาวูมันเกิดแบบไม่รู้จบโดยไม่มีคำตอบ UNLOCKMEN ได้ไปเสาะหาข้อมูลมาคลายข้อสงสัยแล้ว สิ่งหนึ่งที่เรารู้คือทั้งคุณ เรา และ “พวกเขา” บรรดาเหล่าคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายต่างมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน หากสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้นามสกุลห้อยท้ายด้วยคำว่า “ประสบความสำเร็จ” มันเกิดจากการบริหารเวลาที่ไม่เหมือนกัน หนนี้เราขอโฟกัสเสี้ยวหนึ่งของเวลาที่พวกเรามองข้ามอย่างเวลาช่วงเช้าก่อนไปทำงาน ว่าพวกเขาจัดการมันอย่างไร ขณะที่ผู้ชายอย่างเราแค่จะแคะตัวเองออกมาจากเตียงก็ยากเย็นเหลือเกินแล้ว กินอาหารเช้า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งหมด แต่ทุกวันนี้หลายคนก็ยังคงพูดว่าไม่มีเวลากินข้าวและประทังสมองที่ต้องใช้ทั้งวันด้วยกาแฟเพียงแก้วเดียว ย้อนดูกันให้ดีนักธุรกิจหรือครีเอทีฟคนดังที่เวลาเป็นเงินเป็นทอง เขายังสามารถนั่งกินเข้าเช้าหรือหาข้าวเช้ากินกันได้ตลอด ดังนั้น ถ้าเราอยาก productive เหนือคนอื่นแบบเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จก่อนตอกบัตรอย่าลืมหาข้าวกินกันด้วยล่ะ หรือถ้าบริษัทไหนใจดีให้กินได้ในเวลางาน จะเตรียมมาจากบ้านแล้วสลับมาตอกบัตรก่อนเปิดกล่องข้าวกินที่โต๊ะช่วงเช้าก็ได้ไม่ว่ากัน ขยับกายเพื่อออกกำลังใจและสมอง เพื่อสร้างพลังให้กับวันทั้งวัน ตอนเช้าพวกเขาจะลุกขึ้นมาดูแลความรู้สึกทั้งกายและใจของตัวเองให้มีพลังก่อนไปทำอย่างอื่น หลายคนที่ประสบความสำเร็จเลยเลือกที่จะออกกำลังกายมันตั้งแต่ตอนเช้า พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น หรือขี่จักรยานโฉบไปมาสักหน่อย ซึ่งพวกเขาไม่ได้แค่ทำมันเอาเท่หรือเรียกเหงื่อแบบบ้าพลังเฉย ๆ แต่ทำเอาฉลาดด้วย! ซึ่งเรื่องนี้ออกมายืนยันแล้วว่าจริงไม่มีมั่วเพราะผลวิจัยของ Department of Exercise
สัญชาตญาณที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างกายของผู้ชายทุกคนมักตะโกนบอกให้เราบุกตะลุยไปสัมผัสสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้ได้สักครั้งในหนึ่งชีวิต ไม่ว่าจะบุกปาฝ่าดงเพื่อไปดูวิวที่สวยที่สุดในโลกก่อนตาย ไม่ว่าจะทุ่มเททำงานแบบ Work Hard Play Hard เพื่อสัมผัสขีดจำกัดของความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะพยายามปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ด้วยการใช้ชีวิตแบบสุดขั้ว ฯลฯ แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายสุดขีดในแบบไหน UNLOCKMEN ก็ขอกระซิบบอกว่าในหนึ่งชีวิตสุดขีดจำกัดนี้ คุณควรพาตัวเองไปสัมผัสวัฒนธรรมมการดูโชว์ที่อัดแน่นไปด้วยการแสดง เนื้อหา และแสงสีเสียง ดังนั้นคุณจึงไม่ควรพลาดการดูโชว์สร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกเพื่อปลดล็อกความท้าทายใหม่ ๆ ให้ตัวเองให้ได้ก่อนตาย ถ้าจะพูดถึงโชว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลกที่ผู้ชายทุกคนควรสัมผัสเพื่อเข้าถึงวัฒนธรรมแห่งการดูโชว์ UNLOCKMEN มั่นใจว่า CIRQUE DU SOLEIL (เซิร์ค ดู โซเลย์) คือชื่อที่โดดเด่นขึ้นมาและเราไม่ควรพลาดที่จะทำความรู้จักกับพวกเขาด้วยประการทั้งปวง CIRQUE DU SOLEIL : ความยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ผู้ชายทุกคนต้องสัมผัส จุดเริ่มต้นการแสดงของ CIRQUE DU SOLEIL คือคนทำงานเพียง 73 คนในปี 1984 แต่ด้วยการฟันฝ่าและพิสูจน์ความสามารถแห่งความสร้างสรรค์อย่างล้นเหลือ ปัจจุบัน CIRQUE DU SOLEIL จ้างพนักงานทั่วโลกถึง 4,000 คน โดยการสื่อสารผ่านการแสดงของ CIRQUE DU SOLEIL เต็มไปด้วยความหลากหลายเพราะพนักงานและศิลปินขององค์กรมีมากกว่า 50 สัญชาติและใช้ภาษาแตกต่างกันถึง 25
เข้ายิมทีไรเป็นต้องได้ฟังแต่เพลงไม่ถูกใจชาวหูเหล็กอย่างเราทุกที ฟังเป็นครั้งคราวก็พอได้ แต่ให้ฟังตลอดก็คงไม่ไหว เลยต้องหยิบหูฟังขึ้นมาเปิดหาเพลงชวนโยกหัวเอาเองแทบทุกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องไล่เปิดฟังเพลงให้เมื่อยนิ้ว UNLOCKMEN ขอเอาใจชาวเมทัลด้วย 20 เพลงที่เราคัดมาแบบเน้น ๆ หนักบ้าง เบาบ้าง ลดหลั่นกันไปแบบมีไดนามิก กระตุ้นอะดรีนาลีนให้ตัวเอง ยกแล้วยกอีก เซ็ตแล้วเซ็ตเล่า ไม่มีเหนื่อย จนแทบอยากจะชวนคนในยิมมา Mosh Pit ด้วยกันซะเลย ใครที่สะดวกฟังใน Spotify สามารถกด Follow กันได้เหมือนเดิม ที่นี่ A Day To Remember – I’m Made of Wax, Larry, What Are You Made Of? มาเริ่มกันด้วยเพลงจังหวะสนุก ๆ จาก A Day To Remember ที่สุดมันส์กันทั้งเพลงและ MV Avenged Sevenfold – Danger Line
แม้จะอยู่ในประเทศที่การพนันไม่ใช่สิ่งถูกกฎหมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความหอมหวานของการพนันมันช่างเย้ายวนใจเราซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นวงไพ่เล็ก ๆ ยามรวมตัวกับเพื่อน หรือจะบ่อนคาสิโนใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ ล้วนแต่กระตุ้นอะดรีนาลีน กระตุ้นต่อมกล้าได้กล้าเสียของผู้ชายอย่างเราให้พุ่งพล่าน แม้ชีวิตจริงจะไม่มีโอกาสใส่ทักซิโด้เดินเข้าคาสิโนแบบในหนังสุดเท่ UNLOCKMEN เลยชวนมาดู 10 หนังการพนันกันไปพลาง ๆ ระหว่างรอให้ประเทศนี้มีคาสิโนแบบถูกกฎหมายเสียที 21 (2008) Director : Robert Luketic การพนันกับการโกงเป็นอะไรที่ตีคู่กันมาแต่ไกล มีหนังการพนันที่ไหน ก็ต้องมีการโกงที่นั่น เรื่องนี้ก็เช่นกัน เมื่อมิคกี้ โรซา อาจารย์คณิตศาสตร์ ตั้งแก๊งนักศึกษาหัวใสมารวมตัวกัน และไปเล่นแบล็กแจ็กแบบดัดหลังคาสิโนกันทุกสัปดาห์ด้วยกลโกงการนับไพ่ นำทีมโดย เบน แคมป์เบล นักศึกษาหนุ่มที่มีมันสมองเป็นกรด ที่เป็นเหมือนหัวหน้าทีม และมีอาจารย์คอยเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง พวกเขากอบโกยเงินมาได้แบบนับไม่ถ้วน แต่มีหรือจะรอดพ้นสายตาของเจ้ามือไปได้ และนั่นก็เป็นอีกความสนุกที่เราต้องคอยลุ้นให้พวกเขารอดจากเงื้อมือเจ้ามือไปให้ได้ ความสนุกคือ แม้มันจะดูเป็นแค่เกมโกงไพ่ธรรมดา แต่มันมีการชิงไหวชิงพริบ มีแรงจูงใจให้ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด ทำให้ตัวละครมีมิติมากกว่าเป็นนักศึกษาที่อยากได้เงินมาปรนเปรอตัวเอง ถ้าใครชอบหนังหักมุมก็ขอแนะนำเรื่องนี้ไว้อีกเรื่อง Focus (2015) Directors : Glenn Ficarra, John Requa หนังของคนรักการต้มตุ๋นแบบเวอร์ ๆ
น่าดีใจที่ปัจจุบันผู้ชายอย่างเรารักสุขภาพมากขึ้น หลายคนหันมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง ในหนึ่งวันต้องมีกิจกรรมเสียเหงื่อ ไม่งั้นจะรู้สึกว่าเหมือนขาดหายอะไรไปบางอย่าง ตามยิม ตามสวนสาธารณะเราจะเห็นผู้คนฟิตกันเป็นธรรมดา แต่ก็เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ ก็เลยต้องนึกถึงผู้อื่นด้วยเช่นกัน ประเด็นที่ทีมงาน UNLOCKMEN จะพูดถึงนั้นได้มา Insight ที่ได้ไปพบเห็นมา และถามไถ่จากผู้ใช้บริการยิมชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีจำนวนสมาชิกมากมาย ที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ออกจะเป็นเรื่องเบา ๆ ทำนองจี้เส้นมากกว่า และไม่น่าถือสาอะไร แต่ก็พอจะทำให้มีคนแอบแซวลับหลังได้เช่นกัน ประมาณว่า “ไอ้คนนั้นอะ แม่ง….” เอาหละครับ ถ้ารู้สึกไม่สบายใจ กลัวว่าจะถูกแซวลบหลัง ก็ลองหลีกเลี่ยงพฤติกรรมขำ ๆ เหล่านี้ดูครับ *ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องผิดแต่อย่างใด เราไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิ แต่เป็นสิ่งที่อาจไม่ค่อยเหมาะสมในบางช่วงเวลาและสถานการณ์ในยิมเท่านั้น คนนั้นเหม็นชะมัด! การออกกำลังกายมันก็ต้องมีการเสียเหงื่อเป็นธรรมดา แต่ถ้าไม่ค่อยดูแลเรื่องกลิ่นกายก็อาจจะโดยแซวได้ ลองนึกดูว่าเวลาคุณเดินหรือวิ่งสวนใครสักคนแล้วได้กลิ่นการทำลายล้างความรู้สึกแบบเต็ม ๆ เข้มไปทั้งโพรงจมูก ก็คงจะอยากพูดในใจเหมือนกัน วิธีการป้องกันกลิ่นกรุ่นก็ง่ายนิดเดียว อาบน้ำ(เย็น)ก่อนออกมายังพื้นที่ออกกำลังกายก็ได้ ไม่ก็พกอุปกรณ์ระงับกลิ่นกายขนาดย่อม ๆ ติดกระเป๋าไปด้วย ดมตัวเองบ้าง จะได้รู้ว่าเลเวลไหนแล้ว แต่ไม่ต้องถึงขั้นฉีดน้ำหอมนะ อันนั้นเกินไป ไม่ได้ไปออกเดท อีกอย่างคือกลิ่นเท้า อันนี้ต้องดูแลดี ๆ เพราะมันจะติดตามพื้นห้องล็อกเกอร์กันเลยทีเดียว
สูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้ว กับวลีที่ว่า “อีกแก้วเดียวกลับ” สุดท้ายแทบหลับคาโต๊ะ แก้วเดียวอะใช่ แต่เติมหลายครั้งเหลือเกิน คืนก่อน หนึ่งในทีมงาน UNLOCKMEN ได้มีโอกาสไปพบปะเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอกันนาน ก็เลยดื่มกันจนสะใจ สุดท้ายก็เมาหนักสิครับ (แต่ไม่ได้ขับรถไปนะ เมาไม่ขับแน่นอน) กลับถึงบ้าน ตั้งนาฬิกาปลุก ล้มตัวนอนบนเตียง โลกนี่หมุนคว้างเลย นอนไม่หลับอีก สักพักภาพก็ตัดไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงตั้งปลุกโคตรรำคาญ แถมรู้สึกว่าสังขารไม่ให้ เพราะว่าโคตรแฮ้ง นอนเปื่อยโทษตัวเองอยู่พักนึง เมื่อคืนนี้ไม่น่าหนักเลย แต่ในเมื่อไลฟ์สไตล์ของผู้ชายอย่างเราที่ทุ่มสุดทุกทาง ทั้งเรื่องงาน สังคม คนรอบข้าง และการใช้ชีวิต จะให้มาลดละเลิกกิจกรรมที่สร้างความสุขลงไปก็คงจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ในเมื่อความเมามันบังเกิด เราก็ต้องหาวิธีทำให้มันสร่าง จะได้พร้อมสู้งานในวันนี้ แน่นอนว่าไม่มียาวิเศษตัวไหนที่จะแก้แฮ้งได้อย่างทันตาเห็น แต่สิ่งที่ช่วยได้คือวิธีการแก้เมาค้างง่าย ๆ เหล่านี้ ที่พวกเราบางคนอาจจะมองข้ามมันไป ดื่มน้ำให้มากที่สุด จัดหนักเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาทั้งคืน พอจะนอนก็ทิ้งตัวไปเลย ไม่มีอะไรลงไปเจือจาง รับรองว่าพรุ่งนี้ตื่นมาแฮ้งหมดเรี่ยวแรง วิธีนี้ง่ายมาก แต่มักไม่ค่อยทำกัน ไม่ว่าจะดื่มหนัก หรือดื่มเบา ก็ควรจะดื่มน้ำเยอะ ๆ หลังจากจบงานจนถึงก่อนนอน เพราะว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราเกิดภาวะขาดน้ำ สังเกตดู เวลาเราเมา
“เพราะเป็น Tech จึงเจ็บปวด” ท่ามกลางการโหมกระพือว่า เฮ้ย! ยุคนี้มัน Golden Age ของเด็กสาย Tech จบมายังไงก็ได้งาน มีแต่คนแย่งตัว คนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยรู้ว่าสายอาชีพอย่างเราพอจบมามักเจอมรสุม “งานไม่ตรงปก” กับเขาเหมือนกัน ถ้าไม่จั่วหัวว่าเป็นบริษัท TECH ตรงสายแท้ ๆ แม้หน้า JD (job description) ใส่รายละเอียดล้ำแค่ไหน แต่ชีวิตจริงอาจจะต้องไปเป็น “เด่นชัย” ในแฟนเดย์หนัง GTH แก้ปัญหาแบบคนซ่อมคอมในบริษัท ไม่เท่ ไม่คูล และที่สำคัญคือ Tools ไม่ถึง เรียกได้ว่าดับไฟของเด็กจบใหม่เสียเหี้ยนเตียน “ไปธนาคารดิ” อยู่ ๆ คำ ๆ นี้มันก็ผุดขึ้นมา ทั้งที่มันไม่เคยเป็น Key message ในใจ แต่จะด้วยอาการอยาก To be Continue จากคราวที่แล้วที่ UNLOCKMEN ได้ไปเปิดโลกเรื่อง Cashless Society หรือถ้าจะเรียกให้ถูกว่าอยากลองของอีกทีก็ไม่ผิดนัก
“If you can’t be better than your competition, just dress better.” – Anna Wintour ประโยคสุดคลาสสิกของอดีตบก.นิตยสารแฟชั่นระดับโลกอย่าง Vogue มันคือความจริงที่สุด เพราะรูปร่างหน้าตาเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงได้แล้วก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องยากอยู่ดี ที่สำคัญต้องเจ็บตัวอีกต่างหาก แต่การแต่งตัวให้ดีเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากมาย และเชื่อสิว่าชีวิตจะดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอน UNLOCKMEN อยากให้หนุ่ม ๆ ทุกคนแต่งตัวดี วันนี้จึงมีเคล็ดลับง่าย ๆ มานำเสนอกับ 10 นิสัยที่มีติดตัวเอาไว้รับรองว่าคุณจะกลายเป็นคนแต่งตัวดีแน่นอน จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย! ยึดมั่นในสไตล์ตนเอง แน่นอนว่าในโลกนี้มีสไตล์การแต่งตัวมากมายหลากหลายแบบด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องหาสไตล์ที่ใช่กับตัวคุณให้เจอและยึดมั่นกับสไตล์นั้น อาจจะเป็นสไตล์หล่อเนี้ยบด้วยเสื้อเชื้ต Oxford หรือสไตล์สตรีทก็แล้วแต่ความชอบ เพราะถ้าคุณหาสไตล์ของตัวเองไม่เจอแล้วล่ะก็ คุณจะต้องเสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับเสื้อผ้าที่ไม่ใช่สไตล์ของคุณจริง ๆ ตามการสำรวจที่พบว่าผู้ชายอังกฤษจะสวมใส่เสื้อผ้าจำนวน 13% ของทั้งหมดที่มีอยู่ในตู้เสื้อผ้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นรีบหาสไตล์ของตัวเองให้เจอเถอะ ก่อนที่เงินในกระเป๋าคุณจะหมดเสียก่อน! ออกไปช็อปด้วยตัวเองบ้าง เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในโลกของเรามากขึ้นทุกวัน รวมถึงเรื่องการช็อปปิ้งด้วย ทุกวันนี้แค่คุณอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนก็สามารถช็อปปิ้งเสื้อผ้าหลากหลายแบรนด์จากทั่วทุกมุมโลกมาส่งถึงหน้าบ้านได้แล้ว แต่เชื่อเถอะว่ายังไงเสียการออกไปช็อปปิ้งที่ร้านเสื้อผ้าด้วยตัวเองก็เป็นสิ่งที่ดีกว่า นอกจากคุณจะลองหน้ากระจกว่าเสื้อผ้าตัวนั้นเหมาะกับคุณจริงหรือไม่ ใส่ได้พอดีหรือเปล่า บางทีคุณอาจจะได้รับคำแนะนำดี