บุกตะลุยสู้กับงานอย่างดุเดือดกันมาทั้งสัปดาห์ คงเหนื่อยเป็นธรรมดา อยากจะหาอะไรรีแลกซ์ทำกับเขาบ้าง ช่วงนี้ใคร ๆ ก็ฮิตดูซีรีส์ Streaming ใน Netflix กันแทบทุกคน แต่ดูแนวสืบสวน แนว Gangster เท่ ๆ มันก็ไม่รีแลกซ์ตามจุดประสงค์ของผู้ชายที่ลุยงานมาอย่างหนักแล้วอยากพักผ่อนสักเท่าไหร่ งั้นลองนี่หน่อยไหม ? UNLOCKMEN ขอแนะนำ 7 ซีรีส์สุดฮา ที่จะช่วยให้หนุ่ม ๆ คลายเครียดและขำจนกรามค้างไปพร้อมกัน ขอเสริมหน่อยว่า นี่ไม่ใช่การจัดอันดับหนังดี ซีรีส์ในดวงใจ ไม่ต้องน้อยใจไปถ้าซีรีส์หรือหนังในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ เพราะทั้งหมดนี้คือการแนะนำเหมือนเพื่อนชวนกันดูแค่นั้นเอง Brooklyn Nine-Nine ซิตคอมฮา ๆ จากช่อง FOX เรื่องราวของสถานีตำรวจ NYPD สุดวายป่วง ที่รวมเอานักสืบที่แต่ละคนต่างก็ขาด ๆ เกิน ๆ มารวมกัน กว่าจะสืบได้แต่ละคดีนั้นทั้งลำบาก ทั้งฮา ออกมารวม ๆ แล้วทั้งหมด 5 ซีซั่น ให้เราได้ขำกันแบบจุใจ ความสนุกมันอยู่ตรงที่ตัวละครแต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์ของตัวเองแบบสุดทาง อย่างพระเอกของเรื่อง Jake Peralta
คงไม่ผิดอะไร ถ้าเราจะบอกว่าโลกธุรกิจทุกวันนี้ “แค่รีรอก็สายไป” เพราะมันก้าวกระโดดมาไกลจากยุคที่เริ่มด้วยเลข 1.0 จน พ.ศ. นี้ “4.0” กลายเป็นตัวเลขตัดเกรดว่าเราจะอยู่รอดหรือหายไป เนื่องจากโลกเดิมที่คาดเดาได้แปลงโฉมใหม่เป็นโลกที่อัดแน่นด้วยข้อมูล เรื่องราว กับความเปลี่ยนแปลงระดับวินาที! เจอคู่แข่งเดิมประเภทธุรกิจเดียวกันจ่อติดไม่พอ ดันไปเจอธุรกิจหน้าใหม่ที่ไม่คาดคิด cross สายมาแย่งลูกค้าหน้าตาเฉย พอสนามการค้าเลิกติดกรอบ นวัตกรรมล้ำหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เกินกว่าจะใช้วิธีเก่า ๆ เอาชนะได้ คำถามที่ทุกคนสงสัยรวมถึงเราเองก็ด้วยคือ “ต้องทำยังไงเราถึงจะก้าวไป ON TOP เหนือตารางให้โลกจำจนคนพูดถึงแบบดาวค้างฟ้า ท่ามกลางการจุดพลุทางธุรกิจที่สว่างชั่วพริบตาก่อนดับไปอย่างรวดเร็วในยุคนี้ ?” UNLOCKMEN มีโอกาสไปเคาะประตูศูนย์บ่มผู้นำระดับสูงที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกในไทยและเอเชีย หรือ SEAC (South East Asia Center) ซึ่งปูพรมแดงไว้รอท่าพร้อมหลักสูตรใหม่สกัดความเป๊ะให้ทุกองค์กรสามารถไต่บันไดไปเทียบชั้น Google หรือ Amazon ได้แบบไม่ฝันไป เพียงใช้คีย์ไขความสำเร็จจากศูนย์กลางกระจายอำนาจเพียงหนึ่งเดียวปรับให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ “หมากธุรกิจมันเปลี่ยนแล้ว เมื่อเฟืองทุกตัวต้องเดิน ผู้นำก็ต้องเดิน!” MINDSET to be TOP OF MIND สิ่งที่น่าสนใจและสะกดใจเราระหว่างฟังคำบอกเล่าของ คุณอริญญา
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายสายไฮเปอร์พูดน้ำไหลไฟดับ หรือเป็นผู้ชายช็อต ๆ พูดอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนเพิ่งตื่นนอนตลอดเวลา ปัญหาที่เหมือนกันก็คือพูดอะไรไปก็ไม่เคยมีใครเข้าใจนอกจากตัวคุณเอง มันอาจดูเป็นเรื่องตลกให้เพื่อนฮากระจายในความพูดไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อชีวิตถึงจุดจริงจังอย่างการสัมภาษณ์งาน การนำเสนองาน คงไม่มีใครมานั่งตลกกับคุณได้แน่ ๆ หรือแม้แต่บางครั้งมีไอเดียระดับมหากาฬแต่อธิบายออกมาเหลือแค่โครงงานเด็กปอสี่ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ UNLOCKMEN จะมาแก้ปัญหานี้ไปพร้อมกันเพื่อไม่ให้แก๊งค์เพื่อนต้องหัวเราะใส่ หรือเจ้านายต้องไล่ไปทำงานใหม่ ทั้ง ๆ ที่เราก็โคตรจะตั้งใจพูดเลย! เตรียมประเด็นสำคัญไว้เป็นข้อ ๆ เรื่องมีอยู่สิบเล่าไปร้อย แต่ก็ยังไม่เข้าประเด็นสักที เพราะอุปสรรคของการสื่อสารสำหรับคนพูดไม่รู้เรื่องส่วนมากคือการพูดไม่เข้าประเด็น แม้ว่าบางคนพูดลื่นไหลเป็นสายน้ำ แต่กลายเป็นจับใจความอะไรไม่ได้เลย หากคุณจัดอยู่ในคนประเภทนั้น ลองกำหนดใจความสำคัญที่คุณอยากสื่อสารเอาไว้ในใจ “เป็นข้อ ๆ” เอาแต่ใจความเนื้อ ๆ เน้น ๆ โดยอาจจะเป็นประโยคสั้น ๆ ไม่ต้องบรรยายเป็นพารากราฟให้ปวดหัวทั้งคนฟังคนพูดอีกต่อไป มันจะช่วยประหยัดเวลามากกว่าการอธิบายอะไรยืดยาว ที่อธิบายไปคุณก็เข้าใจอยู่คนเดียว เรียงลำดับให้ดี ตอนเปิดอ่านหนังสือสักเล่ม เรามักจะเจอกับคำนำ สารบัญ เนื้อเรื่อง และข้อคิดปิดท้ายใช่มั้ย ? การพูดอธิบายอะไรสักอย่างมันก็ควรมีลำดับของมันเหมือนกัน หากคุณเป็นประเภทนึกอะไรออกก็พูด ขอให้ลองหันมาใช้เทคนิคนี้กันดู ค่อย ๆ คิดว่าอะไรมันมาก่อนมาหลัง ถ้าลำดับเองมันยากนัก เราขอแนะนำลำดับง่าย ๆ
เทรนด์ดีไซน์ก็ไม่ต่างอะไรกับเพลงและแฟชั่นที่ทุกอย่างมันจะวนกลับมาฮิตใหม่อยู่เสมอ ของสุดเชยในวันนั้นคือของโคตรเจ๋งในวันนี้ ผู้ชายอย่างเราเลยไม่อาจตัดสไตล์ไหนทิ้งได้เลยและยังจำเป็นต้องอัปเดตเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้งานของเราออกมาเกาะกระแสและขายได้นั่นเอง UNLOCKMEN จะพามาเกาะกระแสเทรนด์ดีไซน์ปี 2018 มาดูกันว่าผ่านมาหนึ่งไตรมาสของปีแล้วมีเทรนด์อะไรเข้ามาบ้างและอะไรที่จะยังคงอยู่ยาว ๆ ไปทั้งปี Gradient จริง ๆ เคยพูดถึงเทรนด์นี้ไปแล้วใน ทำความรู้จักกับ “Gradients” เทรนด์ดีไซน์มาแรงแห่งปี ละเลงสีแบบไม่ซ้ำใคร แต่จะมาอัปเดตภาพรวมให้ฟังเพราะเทรนด์นี้มันช่างมาแรงแบบหยุดไม่อยู่จริง ๆ แบรนด์ใหญ่หลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มเอาเทคนิคนี้มาใช้กับ Artwork ของตัวเอง อย่าง iPhone X ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจนที่หันมาจับเทคนิคนี้มาใช้และออกมาสวยสะดุดตาไม่ใช่น้อย จุดเด่นของมันก็คงจะเป็นการจับคู่สีได้ตามใจชอบ ไม่จำเป็นต้องเลือกสีใดสีหนึ่ง หรือสีที่ใกล้เคียงกัน ก็สามารถทำให้งานออกมาสวยสะดุดตาได้ไม่แพ้กัน และก็สามารถแทรกมันเป็นสีของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น พื้นหลัง ส่วนประกอบ หรือแม้แต่ตัวหนังสือก็ทำได้ การพัฒนาของ LOGO โลโก้มักจะเป็นที่จดจำของผู้บริโภคเสมอ ความเป็นเอกลักษณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญของแบรนด์ที่ต้องให้โลโก้ติดตาผู้บริโภคให้ได้ และนึกถึงแบรนด์นี้ทุกครั้งที่ต้องการสินค้า แต่เมื่อกระแสของงานดีไซน์เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โลโก้ที่แม้จะเคยเป็นที่ติดตาของคนรุ่นเก่ามานานก็ต้องเปลี่ยนไปเพื่อปรับตัวไปตามเทรนด์เพื่อกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น แม้ว่าโลโก้จะถูกลดทอนลง แต่สิ่งสำคัญคือมันเป็นที่จดจำง่ายขึ้น Flat ภาพจาก Page 1001 nights editions เมื่อความเรียบง่ายคือนิยามของ “น้อยแต่มาก” ภาพ Flat
หนุ่มคอเบียร์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนก็คงรู้สโลแกนการกินกันดีว่าถ้าอยากกระดกเครื่องดื่มยอดข้าวให้อร่อยมันต้อง “Love me, Love my foam” หรือกินเบียร์ต้องมีฟองขาวนุ่มประกบหน้าเครื่องดื่ม ถึงจะจุใจ ความครีมมี่ของฟองเบียร์ มันเป็นเสน่ห์รสชาติที่ลึกลับ นุ่มนวลและช่วยดึงรสชาติของเบียร์แก้วนั้นให้ออกมาโดดเด่น เพราะนอกจากฟองจะดึงกลิ่นออกมาให้สูดก่อนดื่มอย่างเต็มที่แล้ว สัมผัสของฟองที่เข้าริมฝีปากไปพร้อมกับเบียร์ยังเพิ่มความละมุนลื่นคอกว่าเดิมด้วย แต่ถ้าฟองแฟ่บหรือรินเท่าไหร่ก็ไม่ได้ฟองนุ่มละเอียดกระแทกคอล่ะจะทำไง ? เอาว่าแค่คนที่รินทิ้งไว้ยังไม่ได้กินทันทีอยากกลับมากินฟองเบียร์ใหม่ก็อดแล้ว Designer หัวใสเขาเลยหาทางคิด accessories เฉพาะสำหรับเสกฟองให้โปะนุ่มให้ฟินได้ไม่รู้จบกับนวัตกรรมนี้ที่เรียกว่า “Beer Foamer” Norm Architecture คือดีไซเนอร์ผู้ผลิต “Beer Foamer” นี้ขึ้น แม้งานหลักของที่นี่เป็นเรื่องการดีไซน์สถาปัตยกรรม แต่เบียร์มันเป็นเครื่องหมายสากลที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ พวกเขาก็เลยนึกสนุกคิดค้นมันขึ้นมา ดีไซน์มันเลยออกมาคูลไม่ไก่กา ใครถือไว้ใช้ก็น่าจะดูแมนดูเท่ วางในบ้านก็ยังดูเป็นของตกแต่งสุดล้ำดูไม่ขัดตา หลักการใช้ก็แค่แบ่งเบียร์ที่เรารินใส่แก้วเอามาใส่ Beer Foamer สักเล็กน้อยประมาณ 0.6 – 1.3 ซม. วัดจากฐานของเครื่อง (ไม่เยอะ ไม่เปลือง) แล้วค่อยเอาส่วนด้านบนที่เป็นเครื่องปั่นสีทองแดงสุดหรูมาปะกบปิดหมุนเกลียว จากนั้นกดปุ่มด้านบนให้เครื่องตีฟองอัตโนมัติมันทำงานสัก 20 วินาที เท่านั้นเราก็ได้ฟองโฟมรสเด็ดสุดนุ่มฟูสำหรับท็อปเบียร์จิบให้ชีวิตรีแล็กซ์ได้ทุกเวลา ไม่ใช่แค่รสเด็ดของฟองเบียร์ แต่ไอ้เครื่องนี้มันยังช่วยเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มแบบเดิม ๆ ให้สนุกขึ้นได้อีกด้วย
จบไปแล้วกับ 3 วันแห่งความสนุกของงานมันส์ ๆ เปียก ๆ Pepsi Present S20 Songkran Music Festival 2018 ที่ทำเอาผู้ชายอย่างเราสนุกและประทับใจกับเทศกาลดนตรีประเพณีประจำชาติ จนไม่อยากเก็บความเจ๋งไว้คนเดียวต้องมาบอกต่อกัน สำหรับคนที่พลาดโอกาสไปปีนี้ ขอบอกว่าครั้งต่อไปไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นับตั้งแต่ S2O ได้อุบัติขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2015 โดยงานครั้งนั้นประกอบไปด้วยไลน์อัพดีเจระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น DEAMAU5 , AFROJACK , KREWELLA เกิดกระแสตอบรับปลุกความคึกคักของงาน EDM เมืองไทยขึ้นแม้จะตะกุกตะกักไปบ้างแต่ด้วยผลตอบรับที่ดี ทำให้มีการเดินหน้าจัดงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แน่นอนว่าทุกครั้งก็มีการพัฒนาปรับปรุงตัวงานให้ดียิ่งขึ้นเสมอ จนหลายคนตั้งตารออยากให้ S20 วนกลับมาอีกครั้ง สำหรับ S20 Songkran Music Festival 2018 ถือเป็นครั้งที่ 4 และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สร้างความประทับใจให้เราอีกครั้ง ด้วยการพัฒนาแบบก้าวกระโดด จนรู้สึกว่าเมืองไทยสามารถจัดเทศกาลดนตรีเจ๋ง ๆ ระดับนานาชาติได้เหมือนกัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ควรพลาดกดบัตรงานของปีหน้ามาไว้ในครอบครอง Production ไลน์อัพสุดยิ่งใหญ่และอัดแน่นด้วยคุณภาพ เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปในพื้นที่มากกว่า
UNLOCKMEN ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดมามากมายในช่วงที่ผ่านมา จนหลายคนอาจจะคิดว่าทำไมถึงหยิบประเด็นสเก็ตบอร์ดซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไกลตัว ดูไม่ค่อยจะเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์คนไทยเสียเท่าไหร่ แต่วันนี้เรามีกลุ่มคนที่รวมตัวกันมากว่า 20 ปี เพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และเป็น passion ส่งต่อเรื่องราว พร้อมสร้างวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ด ใช้เวลาบ่มเพาะตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มแถวหน้า แถมยังคอยผลักดันวงการสเก็ตบอร์ดไทยให้ก้าวไปไกลถึงระดับโลก ด้วยผลงาน mixtape รวมถึงบริษัทของตัวเอง “Preduce Skateboards” Preduce คือกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อจุดมุ่งหมายหนึ่งเดียว นั่นคือหัวใจที่รักกีฬาสเก็ตบอร์ด ก่อนจะสร้างตัวจนกลายเป็น Pro Skate ทีมอันดับต้น ๆ ของประเทศ พวกเขาถือว่ามีส่วนสำคัญในการผลักดันวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดให้เปิดกว้าง และเป็นที่แพร่หลายสำหรับเด็กวัยรุ่นอีกด้วย แม้แต่คนที่อาจจะไม่เคยเล่นสเก็ตบอร์ดมาก่อน หากหลงใหลในวัฒนธรรมไลฟ์สไตล์กระดาน 4 ล้อ ชื่อ Preduce จะต้องเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างอย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จะขอนำทุกท่านไปรู้จักกับพวกเขา รวมถึงเบื้องหลังวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน หลังจากนัดคิวกันอยู่เนิ่นนาน เพราะสมาชิกแต่ละคนล้วนมีงานที่รัดตัว ต้องเดินไปทางไปโชว์ตามประเทศต่าง ๆ กว่าจะรวมตัวกันได้ครบจึงต้องใช้เวลาเกือบเดือน แต่หลังจากที่พวกเขาเคลียร์คิวได้ ก็รีบตอบตกลงคอนเฟิร์มนัดกับเรา ให้เดินทางไปพูดคุยกันที่ร้านสยามสแควร์ ก่อนที่จะชวนเราออกไปเล่นสเก็ตกันต่อยังสถานที่ประจำในช่วงบ่าย ทำให้บรรยากาศการพูดคุยในช่วงเช้าเป็นไปอย่างสบาย ก่อนที่จะเข้มข้นขึ้นพร้อมกับแสงแดดร้อน ๆ ในยามบ่ายวันนี้ ซึ่งคนที่ออกมาต้อนรับเราเป็นคนแรกพร้อมเปิดประตูร้านเชิญให้ทีมงานเข้ามานั่งระหว่างรอสมาชิกคนอื่น ๆ
หนึ่งในความสุขที่สุดของมวลมนุษยชาติและผู้ชายอย่างเราก็คือการพักผ่อนนอนหลับ และมันจะกลายเป็นความทุกข์ทันที่ถ้าเรามีปัญหากับมัน ผลการสำรวจจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มีจำนวนประชากรไทยที่มีปัญหานอนไม่หลับในช่วงกลางคืน หรือนอนหลับไม่เพียงพอถึงร้อยละ 30-40 และมีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรังประมาณร้อยละ 10 ซึ่งสาเหตุของการนอนไม่หลับของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไปสไตล์ใครสไตล์มัน บางคนก็ทำงานหนักเกิน บ้างเบื่อหน่าย ไม่ก็กังวล ส่วนปาร์ตี้ยันหว่างหรือดูซีรีส์ถึงเช้านั้นไม่นับ เอาเป็นว่าไม่ว่าสาเหตุของปัญหาการนอนหลับจะมาจากอะไร แต่ทั้งหมดมันก็ส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ โดยผลการวิจัยระบุไว้ว่า เวลาที่เรานอนหลับร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนที่มีผลต่ออารมณ์, พลังงาน, ความจำ และสมาธิออกมา เคยมีการทดสอบให้คนนอนน้อยลองขับรถในเครื่องจำลองการขับรถ ปรากฎว่าคนที่ผักผ่อนน้อยขับรถได้แย่พอ ๆ กับคนเมาเลยทีเดียว ส่วนผลกระทบอีกอย่างหนึ่งก็คือ คนที่นอนไม่พอมีอัตราเสี่ยงที่จะมีความดันเลือดสูง และเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย ในเมื่อปัญหาการนอนไม่เคยเป็นเรื่องเล็ก เราจึงต้องมาทำความเข้าใจกันหน่อย จะได้แก้ปัญหาบนเตียงเบื้องต้นได้ ความหลับสบายจะได้มาเยือนทุกคืน ไม่ต้องฝืนถ่างตาหลังอาหาร นอนไม่หลับ – ชอบตื่นมากลางดึก หลายคนเจอกับปัญหานี้ ทั้งหลับยาก ตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วหลับต่อไม่ได้ หรือตื่นเร็วเกิน แม้ว่าจากสถิติมักจะพบอาการนี้ในผู้หญิงและคนที่อายุมากกว่า 60 ก็ตาม แต่ผู้ชายอย่างเรา ๆ หลายคนก็เจอกับปัญหานี้เหมือนกัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เรานอนไม่หลับมักจะมาจากสิ่งกวนใจเหล่านี้ ได้ยินเสียงรบกวน ความเครียดจากการงาน การสูญเสียในครอบครัว และความกังวลจากหายนะต่าง ๆ อาการป่วยที่สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย
คนที่มีศิลปะในหัวใจ จะละเลงงานศิลป์จากปลายปากกาหรือปลายพู่กันมันก็ไม่ใช่ปัญหาตราบเท่าที่หัวใจยังคงเปี่ยมความเป็นศิลปิน เช่นเดียวกับ Bro รุ่นปู่จากแดนอาทิตย์อุทัยผมทรงโมฮอว์กคนนี้ที่กำหมัดจุ่มนวมในถังสี รัวใส่ผืนผ้าใบหรือกระดาษแบบไม่ยั้งจงกลายเป็นงานศิลปะที่ไปติดตามแกลอรี่ดังขึ้นชื่อมากมาย หลายคนสงสัยว่าชายชราฟิตปั๋งผมขาวคนนี้เป็นใคร นักมวยเก่าหรือไม่ ? เราตอบได้ตรงนี้เลยว่า “ไม่” เพราะปู่เขาขึ้นแค่สังเวียนผ้าใบเท่านั้นจนเกิดเป็น signature ประจำตัวของเขาที่ใครก็เรียกว่า “Boxing painting” วิญญาณศิลปินนักสู้ก่อนสวมนวม! Ushio Shinohara มีชื่อเล่นที่คนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า Gyu-chan เกิดที่โตเกียวในปี 1932 เรียนศิลปะในเมเจอร์จิตรกรรมสีน้ำมันที่ Tokyo Art University ก่อนจะออกมาเดินทางมุทะลุเสาะแสวงหาจิตวิญญาณและตั้งรกรากใหม่ทำมาหากินไกลบ้านจากแดนตะวันออกสู่ตะวันตกที่ “นิวยอร์ก” เมืองแห่งการเสาะหาอิสรภาพทางความคิดและชีวิต มาถึงตอนนี้ปู่ก็มีอายุยาวนานกว่า 8 ทศวรรษของการใช้ชีวิตแล้ว เพราะอายุ 85 ปีเข้าไปแล้ว ถือเป็นบิ๊กบอยรุ่นใหญ่ที่เก๋าเรื่องการใช้ชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าไฟฝันจากวันวานที่ยังลุกโชติช่วงถึงตอนนี้ที่ยังคงฟิตฟุตเวิร์กได้ย่อมทำให้ปู่เป็นหนึ่งในตำนานมีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการบุกเบิกทางศิลปะพอสมควร หนึ่งในความคูลของปู่ที่หลายคนอาจจะไม่รู้คือเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม Neo-Dada movement หรือกลุ่มการเคลื่อนไหวของศิลปะดาด้าใหม่ในช่วงปี 1960 แนวศิลปะที่ว่าด้วยจิตวิญญาณของกลุ่มศิลปินเลือดนักสู้ที่ต้องการต่อกรกับกลุ่มทุนนิยมแบบสันติ โชว์ความเป็นไปของยุคจากการหยิบวัสดุใกล้ตัวทั้งหลายมาสร้างเป็นงานประติมากรรม จนเป็นการก้าวสำคัญที่แปะป้าย “Junk art” หรือศิลปะขยะ ให้กับงานแขนงนี้ หรือจะเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของงานขึ้นมาเลยก็ว่าได้ ซึ่งงานที่ได้จากการกว้านวัสดุเหลือใช้มาสร้างตอนหลังเราจะเห็นได้ว่าเป็นแนวศิลปะที่มีให้เห็นบ่อยในนิทรรศการยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นพวกงาน installation หรืองานประติมากรรม สำหรับงาน
หายใจเฮือกเดียววันหยุดที่มีอยู่ในมือก็มลายหายไปอย่างรวดเร็ว นอนร้องไห้โอดครวญไม่อยากกลับไปทำงานแค่ไหนแต่ยังไงก็ต้องไปอยู่ดี! ระหว่างที่เศร้า ๆ กับการต้องกลับไปทำงานอยู่นี้เคยสงสัยไหมว่าวันหยุดประเทศไทยของเราเมื่อเทียบกับวันหยุดของประเทศอื่น ๆ แล้ว วันหยุดที่เรามีอยู่ในมือถือว่ามากหรือน้อยกันแน่ ? วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปดูวันหยุดของประเทศที่ขึ้นชื่อว่าหยุดเยอะที่สุดในโลกกัน เผื่อจะวางแผนย้ายงานย้ายประเทศในชาตินี้ หรือไว้วางแผนเผื่อเกิดชาติหน้าก็อาจจะพอไหว! (ไม่เอา ไม่ร้อง) ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าเราจะพูดถึงวันหยุด 2 ประเภทด้วยกันก็คือวันหยุดตามประเพณี(traditional holidays) และวันหยุดพักผ่อนประจำปี (annual vacation) วันหยุดตามประเพณีก็คือวันหยุดนักขัตฤกษ์ทั่ว ๆ ไปที่รัฐกำหนดให้เป็นวันหยุด ถ้าของไทยก็สงกรานต์เอย วันสำคัญทางศาสนาต่าง ๆ เอย ส่วนวันหยุดพักผ่อนประจำปีก็คือวันลาพักร้อนที่กฎหมายกำหนดว่านายจ้างต้องให้สิทธิเราลาพักผ่อนจากการงานอันหนักหน่วงนั่นเอง ถ้าพูดถึงประเทศไทยนั้นเราก็มีวันหยุดทั้งวันลาและวันหยุดนักขัตฤกษ์ซึ่งถ้าว่ากันตามกฎหมายแรงงาน ไทยเรามีวันลาพักร้อนไม่น้อยกว่า 6 วัน (แต่บางบริษัทก็ให้สิทธิพนักงานมากกว่านั้น) ส่วนวันหยุดตามประเพณีหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ต้องไม่น้อยกว่า 13 วันต่อปี ดังนั้นวันเวลาให้ผู้ชายอย่างเรานอนตีพุงอยู่บ้าน หรือจะไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนก็มีรวมทั้งหมด 19 วันต่อปี (อาจจะมากกว่านี้ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จ้าง แต่อย่างต่ำคือ 19 วันเต็ม ๆ นะพี่นะ) ดู ๆ แล้วก็แอบคิดว่า เออ อย่างน้อย 19