ปฎิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเรามีความหลงใหลให้กับสรรพสิ่งที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบเก็บสะสมรองเท้า บางคนทุ่มทั้งเงินและเวลากับการตามหาของที่ระลึกจากนักร้องไอดอลเสียเงินกันเป็นหลักแสนเพื่อรูปถ่ายใบเดียว หรือกับบางคนชอบเอาเงินที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรงไปลงกับพาหนะสี่ล้อ ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบส่วนบุคคล ไม่มีใครสามารถห้ามกันได้ แต่ทว่าเรามักได้ยินประโยคติดปากเวลาเจอคนซื้อของมีราคาค่างวดมา พร้อมเสียงแซะปนเหน็บแนมแบบติดตลกว่า “มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องโง่ด้วย” ซึ่งประโยคดังกล่าวเป็นอะไรที่เรามองว่ามันโคตรจะไม่เข้าท่า และอยากจะให้ทุกคนลองปรับทัศนคติความคิดในเรื่องนี้ใหม่ดู เนื่องจากมนุษย์ทุกคนล้วนมีความหลงใหลหรือที่เรียกว่า passion แตกต่างกันออกไป ไม่มีเรื่องใดเป็นสิ่งไร้สาระถ้าหากมันเกิดขึ้นจากความชอบ เราจะขอยกตัวอย่างสองเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอมาเล่าในอีกแง่หนึ่งสำหรับคนที่คิดลบเกี่ยวกับการซื้อของเก็บสะสมราคาแพงกันอยู่ เรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีชาวไทยคนหนึ่งโชคดี lucky draw ได้สิทธิ์ซื้อรองเท้า adidas NMD Hu “Powder Dye” ซึ่งเหตุการณ์ที่เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดานี้ได้เกิดขึ้น เพราะเจ้ารองเท้าคู่ดังกล่าวดันมีความผิดพลาดทาง QC ทำให้อักษรบนหน้ารองเท้าเหมือนกันอย่างผิดสเปค และเนื่องจากรองเท้าคู่นี้เป็น Limited Pair ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนคืนได้ เจ้าของรองเท้าคนดังกล่าวก็ต้องรับรองเท้าไปแบบเซ็ง ๆ หลังจากนั้นเขากลับมาบ้านและถ่ายภาพลงไปในกรุ๊ปรองเท้ากลุ่มหนึ่งเพื่อระบายความในใจกับเหตุการณ์นี้ ปรากฎว่ากลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เพราะความพิเศษที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้รองเท้าคู่ดังกล่าวกลายเป็นรองเท้าคู่เดียวในโลก จากนั้นก็เกิดการประมูล ทั้งชาวไทยและต่างประเทศแห่กันมา bid กันอย่างบ้าคลั่ง จนสุดท้าย adidas NMD Hu “Powder Dye” จบการประมูลที่ $40,000 หรือราว ๆ 1,000,000 บาท ชายคนดังกล่าวก็เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งไปโดยปริยาย
สิ่งที่เกลื่อนกลาดพอ ๆ กับขยะในบ้านเมืองของเราก็คงจะหนีไม่พ้นบรรดาข่าวปลอมที่ขยันสร้างออกมาเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่ที่ข่าวปลอมแพร่กระจายได้ไวยิ่งกว่าโรคพิษสุนัขบ้าที่กำลังระบาด แค่กดแชร์แบบไม่คิดเพียงคลิกเดียวจากปลายนิ้วก็สร้างแรงกระเพื่อมส่งต่อข่าวปลอมได้เป็นวงกว้างแล้ว ผู้ชายที่ภาพลักษณ์ดูน่าเชื่อถือขนาดไหน ถ้าหน้าเฟซบุ๊กเต็มไปด้วยการแชร์ข่าวปลอมมามั่ว ๆ ความน่าเชื่อถือก็คงพังทลายลงไปในทันใด เพื่อไม่ให้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมาแสนนาน UNLOCKMEN ขอเสนอเคล็ดวิธีสังเกตข่าวปลอมมาให้ จะได้ไม่ตกลงไปในหลุมดักขนาดใหญ่ที่เขาขุดไว้หลอกลวงอีก ที่มาสำคัญที่สุด ไม่ใช่ว่าเห็นพาดหัวโดนใจก็แชร์มาชื่นชม เห็นพาดหัวด่าคนที่เราเกลียดเหมือนกันแล้วแชร์มาด่า หรือเห็นพาดหัวเล่าเหตุการณ์สุดแปลกแล้วแชร์มาตื่นตะลึงทันที โลกนี้มันร้ายกับผู้ชายอย่างเรากว่านั้นเยอะ! ก่อนจะเชื่อให้เลื่อนสายตาดูหน่อยก็ยังดีว่าข่าวนี้มีที่มาจากเว็บไซต์อะไร? หรือเว็บไซต์อะไรที่เป็นคนเผยแพร่ข่าวที่ว่านี้ ถ้าชื่อเว็บไซต์ประเภทนัดยิ้มที่ริมดอย สาวน้อยซู่ซ้า ผู้กล้าออนไลน์ เว็บที่ชื่อก็ไม่น่าเชื่อถือแล้วหรือเด็กอนุบาลอ่านก็รู้ว่าอยากปั่นยอดไลก์หรือปั่นเพจวิว ก็อย่าไปไลก์ไปแชร์ให้เสียเวลา แถมกดรีพอร์ตสักหนึ่งทีเป็นของแถมได้เลย ชื่อคนเขียน ชื่อคนเขียนคอนเทนต์ก็สำคัญ ลองพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าชื่อคนเขียนคนนี้เราเคยเห็นเขาเขียนให้ที่ไหนอีกไหม หรือถ้าเป็นนามปากกาชื่อมันน่าเชื่อถือหรือเปล่า ตามดูบทความอื่น ๆ ที่เขาเขียนว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ มีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน หรือเว็บไซต์ที่คนคนนี้เขียนให้เว็บไซต์อื่น ๆ น่าไว้วางใจเพียงใด ถ้าไม่มีอะไรเลย เหมือนสร้างแอคเคาต์มาเขียนบทความนี้เพื่อปั่นกระแสอย่างเดียว ก็พอจะบอกได้เลยว่าน่ากลัวมากที่จะเป็นข่าวปลอม เช็คแหล่งข้อมูลอ้างอิงซิ บางทีหลาย ๆ คอนเทนต์บนโลกออนไลน์ก็เป็นข่าวที่แปลมา โดยเขาจะใส่แหล่งที่มาของข่าวที่แปลเอาไว้ เราก็อย่าแค่อ่าน ไลก์ แชร์แค่เพราะโดนใจ แล้วจบ สละเวลากดเข้าไปสักนิดว่าเว็บไซต์ต่างประเทศที่แปลมาน่าเชื่อถือหรือไม่ หรือก็เป็นเจ้าพ่อข่าวปลอมของต่างประเทศเช่นกัน พอ ๆ กับชื่อคนเขียนในเว็บไซต์ต่างประเทศนั้น บางคนก็เขียนข่าวปลอมเป็นหลักก็ให้ระวังไว้ให้ดี
ผู้ชายอย่างเรามักมีคำถามเล่น ๆ ถามกันเองว่าถ้าพรุ่งนี้ต้องตายจะทำอะไรเป็นอย่างสุดท้ายวะ? คำตอบที่ได้มักจะเป็นอะไรสุดโลดโผนหวือหวาที่ชีวิตไม่เคยได้ทำมันมาก่อน อาจจะอยากกระโดดบันจี้จัมพ์สักครั้งในชีวิต อยากมีเซ็กซ์แบบพิสดารสุดเหวี่ยงกับสาวเอ็กซ์ ๆ สักคน ฯลฯ นั่นคือสิ่งที่เราอยากทำ แล้วถ้าพูดถึงอะไรที่เราทำมันลงไปแล้ว แต่รู้สึกเสียใจที่ได้ทำแบบนั้นลงไป หรือคิดย้ำ ๆ ว่าทำไมเราไม่ทำอย่างอื่นแทนล่ะ? อะไรที่เราจะเสียใจในวันสุดท้ายของชีวิต? ถ้าวันนี้ยังนึกของตัวเองไม่ออก เราเอาของคนอื่นมาให้ดูว่าพวกเขาได้ทบทวนอะไรในวันก่อนที่จะจากโลกนี้ไป เผื่อจะได้กลับมาทบทวนชีวิตเราเองบ้าง นี่คือเรื่องราวของ Bronnie Ware พยาบาลชาวออสเตรเลียที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงเวลา 12 อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะจากโลกนี้ไปอย่างถาวร แต่ละวันที่เธอดูแลผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตเหล่านั้น เธอก็ได้พูดคุยกับเขาด้วย โดยเรื่องหนึ่งที่เธอพูดคุยก็คือเรื่องความเสียใจในชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขา ช่วงที่เธอพูดคุย เธอก็เขียนบล็อกของตัวเองเอาไว้ จนเรื่องราวที่เธอเขียนได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง กระทั่งเธอต้องเขียนหนังสือเรื่อง Top Five Regrets of the Dying ออกมา Bronnie Ware เขียนถึงวิสัยทัศน์สุดชัดเจนของคนที่กำลังจะตายว่าเมื่อวันท้าย ๆ ของชีวิตจะมาถึงพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและโลกอย่างไร และนี่คือ 5 ความเสียใจอันดับต้น ๆ ที่มนุษย์เสียใจมากที่สุดในวันที่กำลังจะตายจากโลกนี้ไป ฉันหวังว่าฉันจะหาญกล้าที่จะใช้ชีวิตอย่างที่ฉันได้เป็นฉัน มากกว่าใช้ชีวิตอย่างที่คนอื่นคาดหวัง นี่เป็นความผิดหวังเสียใจของคนใกล้ตายที่แทบทุกคนมีเหมือน ๆ กัน เมื่อทุกคนระลึกได้ว่าชีวิตของพวกเขากำลังจะจบลง
ชีวิตวัยทำงานอยู่ในลูปเดิม ๆ ตื่น ทำงาน กลับบ้าน นอน ฟังดูอาจจะน่าเบื่อแต่ถ้าหากเรามีความสุขกับงานที่ทำ สภาพแวดล้อมดี เพื่อนดี เจ้านายดี ถือว่าเราโชคดีไปที่ไม่มีอะไรมาทำให้ลูปเดิมที่ต้องเจอไปอีกแสนนานมันน่าเบื่อขึ้นมา แต่ความเป็นจริงทุกคนไม่ได้โชคดีแบบนั้น อาจเจอเพื่อนไม่ดีบ้าง เจ้านายไม่ดีบ้าง หรือแม้แต่งานที่ทำเองก็เถอะ จะพาให้หมดไฟ หมดใจ กันไปแบบง่าย ๆ ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในนั้น แต่ยังไม่อยากถอดใจ อยากหาทางออกให้ตัวเองแบบไม่กระทบคนอื่น วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคดี ๆ ให้เราเปลี่ยนโต๊ะทำงานให้เหมือนนั่งทำงานที่บ้าน ไหน ๆ ก็เปลี่ยนคนอื่นมันยากนัก จะเปลี่ยนตัวเองก็ยากกว่า เปลี่ยนโต๊ะแม่งนี่แหละ ง่ายสุด ไม่มีปากมีเสียงด้วย หามุมสีเขียวไว้พักสายตา มุมสีเขียวสักมุมให้เราได้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น จะได้หายใจหายคอได้แบบโล่งขึ้นมาหน่อย พักสายตาล้า ๆ จากจอคอมพ์ฯย้ายมาที่มุมผ่อนคลายของเรา จะได้เยียวยาทั้งสายตาทั้งอารมณ์ ถ้าหากการเอาต้นไม้จิ๋ว ๆ มาวางมันดูจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไป ขี้เกียจรดน้ำ ดินหก มดขึ้น เราขอแนะนำ สวนในโหลแก้ว ที่เดี๋ยวนี้มีชุด kit ให้เราได้ตกแต่งเองตามสไตล์แบบง่าย ๆ และ หญ้าเทียมสติกเกอร์ มีขายตามร้านเครื่องเขียน ที่เอาไว้ใช้ในงานโมเดลอาคาร
หนึ่งในเอกลักษณ์ของหนังแข่งรถชื่อดังอย่าง Fast & Furious นั้ นอกจากตัวเอกเช่น Dominic Toretto ที่รับบทโดย Vin Diesel แล้ว ยังมีตัวละครนำควบคู่กับ Toretto ด้วยอีกคนนั่นก็คือ Brian O’Connor ที่นำแสดงโดย Paul Walker ผู้ล่วงลับ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะจากไปแล้วก็ตาม แต่ทว่าเขายังได้ทิ้งผลงานการแสดงใน Fast & Furious ไว้และปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของเขายังเป็นอีกกำลังสำคัญที่ช่วยทำให้หนังโด่งดังได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจุดเด่นของตัวละครอย่าง Brian O’Connor นั้นก็มีความคล้ายคลึงกับ Toretto นั่นคือตัวเขาเองชื่นชอบในพาหนะสี่ล้อเหมือนกัน โดยเฉพาะรถนำเข้าญี่ปุ่นจากค่าย Nissan อย่าง Skyline GT-R ที่เป็นรถดีไซน์โฉบเฉี่ยวและเท่บาดใจอยู่เหนือกาลเวลา แถมสมรรถนะเครื่องยนต์จากโรงงานก็เอาเรื่องพอตัวจนทำให้ชื่อของ Skyline GT-R โด่งดังในวงการยานยนต์และนักแต่งรถ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปรู้จักกับ Skyline GT-R คู่ใจทั้ง 6 คัน ของ Brian O’Connor ที่ใช้ขับแข่งมาตลอดทั้งแฟรนด์ไชส์หนัง
“ไวน์คือบทกวีที่ถูกบรรจุลงสู่ขวด” เป็นคำที่นักเขียนชาวสก็อตติชอย่าง Robert Louis Stevenson เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่ง UNLOCKMEN ว่านี่ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินความจริงแต่อย่างใด เพราะไวน์เป็นเครื่องดื่มอันเต็มไปด้วยความซับซ้อนและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดชวนให้ผู้ชายอย่างเราเข้าไปสัมผัส นอกจากนั้นวัฒนธรรมแห่งการดื่มไวน์ได้กลายเป็นศิลปะการลองลิ้มชิมรสสุดคลาสสิกที่ผู้ชายคูล ๆ ทุกคนไม่ควรพลาด การรู้เรื่องไวน์ประดับตัวไว้จึงเป็นทั้งการยกความเท่ของผู้ชายอย่างเราให้สูงขึ้นไปอีกระดับ แถมยังช่วยให้เราเข้าสังคมแห่งการดื่มไวน์ได้อย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้น ผู้ชายแมน ๆ คนไหนที่เคยคิดไว้ว่าการดื่มไวน์นั้นยากแสนยาก วันนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ เพราะการได้รู้จักเครื่องดื่มแห่งความลุ่มลึกมีระดับอย่างไวน์จะทำให้เราติดใจจนบอกได้เลยว่ามันคุ้มค่าที่จะลิ้มลองบทกวีบรรจุขวดให้ลึกซึ้ง ถ้าพร้อมจะดำดิ่งไปกับความคลาสสิกในโลกของไวน์แล้ว UNLOCK WINE 101 ที่เก็บเรื่องไวน์พื้นฐานให้ครบถ้วนทุกเม็ดก็พร้อมจะปลดล็อกศักยภาพการสัมผัสไวน์ให้คุณถึงที่แล้วเช่นกัน สำหรับมือใหม่ที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ การเริ่มต้นนับหนึ่งในโลกของไวน์จะเป็นไปอย่างราบรื่น มีระดับและไม่ซับซ้อน ถ้าเราเริ่มจากพื้นฐานของไวน์กันก่อน โดยคำถามสุดเบสิคที่เราควรรู้ก็คือ “ไวน์คืออะไร?” นอกจากความงดงามคล้ายบทกวีแล้ว ไวน์คือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากการหมักของน้ำองุ่นที่ได้จากผลองุ่นสด ๆ นั่นเอง โดยแต่ละท้องที่ก็จะมีกระบวนการผลิตแตกต่างกันไปตามสไตล์ที่แต่ละท้องถิ่นกำหนดขึ้น ถ้าในหัวผู้ชายอย่างเรายังนึกออกแค่ไวน์แดงกับไวน์ขาวก็ไม่ต้องห่วงไป ครั้งนี้เราจะพามาทำความเข้าใจไวน์ 3 ประเภทที่แบ่งตามเทคนิคการผลิตให้เข้าใจแจ่มแจ้งกันไปเลย เริ่มต้นกันที่ Still Wine เป็นไวน์ที่ไม่มีฟอง หรือพูดง่าย ๆ คือไม่มีการอัดก๊าซ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 8-15% Still Wine แบ่งออกเป็นไวน์ได้อีก
เข็มขัด หนึ่งในเครื่องแต่งกายที่มักโดนมองข้ามเสมอ แม้จะเป็นสิ่งที่สำคัญด้านฟังก์ชั่นการใช้งานและประโยชน์ใช้สอย แถมยังเป็นตัวส่งเสริมลุคด้านแฟชั่นอีกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่าน่าเสียดายที่ผู้ชายหลายคนมักไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับ ไอเทมชนิดนี้เท่าใดนัก นอกเสียจากการเป็นเครื่องมือสำหรับรัดกระชับ กางเกงหลวม ๆ เท่านั้น เพื่อให้ชาว UNLOCKMEN ทำความรู้จักเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายชิ้นดียิ่งขึ้น เราจึงอยากมาแนะนำทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยว เข็มขัด ว่ามีกี่ประเภท ความเหมาะสมในการสวมใส่ใช้งาน รวมไปถึงวิธีการซื้อ จนเรียกได้ว่า เป็นคู่มือขนาดย่อม ๆ สำหรับผู้ต้องการศึกษาเรื่องราวเพื่อปลดล็อคความรู้รอบเอวของคุณโดยเฉพาะ What is a Belt เริ่มทำความรู้จักกันก่อน เข็มขัดคือเครื่องแต่งกายสำหรับดึงรัดเกงกางเข้ากับรอบเอวของคุณ เพื่อปรับหัวของกางเกงให้อยู่ในระดับเหมาะสม และมักใช้เมื่อพบเจอกันปัญหาขอบกางเกงมีขนาดไม่พอดีกับสัดส่วนร่างกาย ทั้งยังมีประโยชน์ในการใช้เหน็บหรือเกี่ยวกับสิ่งของ เหมือนกับ Batman หรือคุณตำรวจทำกัน อาจจะเป็นกระเป๋าแว่นตา ไปจนถึงทุกอย่างที่คุณต้องการเก็บไว้ใช้ได้อย่างถนัดมือ ส่วนใหญ่มักออกแบบให้มีผิวราบเรียบ เพื่อให้สะดวกต่อการสวมใส่และใช้งาน Anatomy of a Belt โดยทั่วไปเข็มขัด จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. หัวเข้มขัด ( Buckle ) และสายเข็มขัด ( Strap
สายชิลจิบเบียร์ยามเย็นจะเข้าใจดีว่าการนั่งเอื่อยจนกว่าดนตรีสดของร้านจะขึ้นมันคุ้มค่ากับการรอคอยแค่ไหน เพราะดนตรีสดช่วยขับบรรยากาศมันไปสุดทาง หรือคอเพลงบางคนก็ชอบที่จะฟัง Live Music มากกว่า Track จากอัลบั้ม เพราะชอบที่จะเสพความดิบ ความมีชีวิต มากกว่าความเพอร์เฟ็กต์ของ Track จากห้องอัด วันนี้ UNLOCKMEN มาเปิดวาร์ปแชแนลยูทูปที่อัดแน่นด้วย Live Session เจ๋ง ๆ ให้ได้ฟังกันได้ทุกที่ทุกเวลา เผื่อวันนี้อยากจะนอนอยู่บ้านจิบเบียร์หน้าทีวี หรือโดนเคอร์ฟิวจากแม่กวางน้อยไม่ให้ออกท่องราตรี ก็ยังสามารถเสพดนตรีสดได้เหมือนมีวงมาเล่นข้าง ๆ BBC Radio 1 เริ่มด้วยช่องจากสื่อยักษ์ใหญ่ที่เราคงคุ้นหูกันดีอย่าง BBC หันมาหยิบจับด้าน Entertainment แล้วศิลปินที่ไหนล่ะจะไม่สนใจ เราจึงได้ดู Live Session ดี ๆ ในชื่อ The Live Lounge จากศิลปินมากหน้าหลายตาแบบไม่ขาดสาย มีทั้งโชว์ของศิลปินนั้น ๆ ที่เป็นเพลงของพวกเขาเอง และยังมี Cover เพลงจากศิลปินอื่นอีกด้วย ที่ถือเป็นไฮไลต์ของช่องนี้ เพราะเหมือนได้ให้ศิลปินมาปล่อยของ เล่นเพลง Cover ที่แตกต่างจากต้นฉบับแบบโคตรเจ๋ง Triple J
นับตั้งแต่ Rene Lacoste ติดสินใจปฏิวัติเสื้อสำหรับกีฬาเทนนิสจาก Tennis White ( เสื้อเชิ้ตขาวทำจากผ้ากำมะหยี่แบบหลวม ) กลายเป็นเสื้อจากผ้าฝ้ายปิเก้น้ำหนักเบา มาพร้อมกระดุมและปกคอเสื้อแบนราบที่เราเรียกกันติดปากว่า เสื้อโปโล ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย เสื้อโปโลก็ลงยังคงรักษาเอกลักษณ์ความคลาสสิคของตัวเองไว้ได้เสมอมา จนกลายมาเป็นหนึ่งในรูปแบบการแต่งตัวของผู้ชายที่ได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบัน ด้วยเนื้อผ้าระบายอากาศได้ดีเหมาะกับอากาศร้อน ๆ ในบ้านเรา เสื้อโปโล จึงมักเป็นไอเทมที่ทุกคนมักมีติดตู้ไว้เสมอ วันนี้ UNLOCKMEN ได้หยิบยกเหตุผลรวมถึงวิธีสวมใส่ เครื่องแต่งกายชนิดนี้อย่างเหมาะสม สำหรับช่วยให้คุณเพิ่มความเข้าใจก่อนจะหยิบมันออกมาจากตู้ เพื่อสวมใส่เข้ากับทุกสถานการณ์ #3 เหตุผลที่ทำให้เสื้อโปโลคลาสสิคตลอดกาล 1. สวมใส่สบาย คำจำกัดความสั้น ๆ แต่สำคัญสำหรับการเลือกเสื้อผ้าเพื่อสวมใส่ เสื้อโปโลเองสามารถตอบโจทย์ด้านนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยวัสดุจากผ้าฝ้ายปิเก้ ที่ระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม สัดส่วนและการออกแบบมีจุดประสงค์ดังเดิมเพื่อใช้เล่นกีฬา ทำให้ไม่ว่าคุณจะนอนอ่านหนังสือ หรือ ใส่ล้างรถหน้าบ้าน เสื้อโปโลก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เสมอ 2. .ใคร ๆ ก็ใส่ได้ พื้นฐานสำคัญของเสื้อโปโลทุกยุคทุกสมัย คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนสนใจแฟชั่นหรือไม่ จะมีสัดส่วน สูง ยาว เข่า ดี หรือเตี้ย ล่ำ ดำ
การใช้ชีวิตบนโลกสุดท้าทายใบนี้ต้องใช้ ‘พลังงาน’ มากมายเป็นแรงขับเคลื่อน ต้องใช้ ‘passion’ แรงกล้าในการผลักดันตัวเอง ต้องใช้ ‘ความกล้า’ ขั้นสุดในการเผชิญทุกสิ่งที่ขวางหน้า และต้องมี ‘Positive thinking’ ที่จะช่วยเปลี่ยนพลังจากข้างในให้กลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับชายที่มีทุกข้อที่กล่าวมาอย่างเหลือล้น และได้สัมผัสตัวตนทางความคิดของเขาในแบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อน จนหายสงสัยไปเลยว่าทำไมชายที่ชื่อว่า ‘วู้ดดี้’ วุฒิธร มิลินทจินดา ถึงได้ทรงพลังขนาดนี้ ทรงพลังขนาดที่ว่า ทุกคนที่ได้อยู่รอบตัวของเค้า จะต้องซึมซับเอาพลังงานบวก เอาแรงบันดาลใจ เข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าถามว่าคุยกับใครแล้วถึงกับขนลุก พูดแบบไม่โอเวอร์เลยว่า การคุยกับคุณวู้ดดี้ ให้ความรู้สึกแบบนั้นได้จริง ๆ เรารู้จักคุณวู้ดดี้ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ‘Woody World’ เรียลลิตี้ทอล์กโชว์สุด exclusive ที่ออกอากาศทุกคืนวันอาทิตย์ เวลา 22.15 – 23.30 น. ทางช่อง Workpoint 23 รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Facebook และ YouTube นอกจากนี้ยังมีรายการสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นอย่าง ‘คนแปลงร่าง’ ส่วนงานนอกจอที่โดดเด่นก็คือการจัดเทศกาลดนตรี ‘S2O’ อีเว้นต์สุดมันส์วันสงกรานต์ที่ใครหลายคนเคยไป นั้นคือสิ่งที่ทุกคนมองเห็น แต่สิ่งที่เขาเป็นคืออะไร ? “ผมคือนักวิทยาศาสตร์” เรามาเยือนคุณวู้ดดี้ถึงโลกของเขา ที่ บริษัท วู้ดดี้เวิลด์ จำกัด อาณาจักรที่เขากับทีมงานสร้างสรรค์ผลงานออกสู่ภายนอก